สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 835 หัวใจพี่ชาย

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 835 หัวใจพี่ชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 835 หัวใจพี่ชาย

บทที่ 835 หัวใจพี่ชาย

ลู่ฉาวอวี่ให้คำแนะนำน้องสาว

บ่าวรับใช้หาเสื้อผ้ามาให้เขาเปลี่ยน แล้วบอกว่าน้ำร้อนในห้องอาบน้ำพร้อมแล้ว

ครอบครัวลู่ยังคงธรรมเนียมเดิม แต่ละเรือนมีห้องอาบน้ำแยกกัน ไม่จำเป็นต้องแบกถังน้ำเข้าไป ก็สามารถไปที่ห้องอาบน้ำแล้วอาบได้เลย

ลู่ฉาวอวี่กลับมาจากการอาบน้ำ ก่อนจะเห็นลู่จื่อชิงนอนหลับอยู่หน้าโต๊ะที่เขามักจะใช้อ่านหนังสือ

เขาเดินไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะ มีคำสองสามคำที่นางเขียนไว้

“ลายมือของคุณหนูรองพัฒนาขึ้นมาก ดูเหมือนว่าท่านใต้เท้าจะรู้วิธีสอนนาง หากท่านใต้เท้าให้คำแนะนำแก่คุณหนูรองบ่อย ๆ ข้าคิดว่านางคงจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว”

“ข้ามักจะยุ่งและไม่มีเวลาดูแลนาง แล้วนางก็เหมือนลิงป่า หากถูกขังอยู่ที่นี่ตลอดเวลา ข้าเกรงว่านางจะเบื่อ ภายในเวลาไม่กี่ชั่วยามชิงเอ๋อร์คงบ่นว่าข้ารังแกนางแล้ว”

“ท่านใต้เท้าก็รักคุณหนูรองมากเช่นกันแต่มักจะเข้มงวดเกินไป บางทีคุณหนูรองอาจกลัว”

“แม่นางน้อยคนนี้กล้าหาญ ไม่กลัวอะไรง่าย ๆ หากนางกลัวข้าจริงคงไม่ขอให้ข้าช่วยเก็บกวาดเรื่องยุ่ง ๆ อยู่เสมอหรอก”

ลู่ฉาวอวี่อุ้มลู่จื่อชิงขึ้นมา

“ท่านใต้เท้า ข้าจะส่งคนพาคุณหนูรองกลับไปเอง ท่านใต้เท้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ควรรีบพักผ่อนขอรับ!”

“ไม่ต้อง ข้าจะพานางกลับเอง”

ลู่ฉาวอวี่อุ้มลู่จื่อชิงกลับไปที่ห้องของนาง

“ส่งใครสักคนไปที่สำนักศึกษาหลวง ดูว่ามีใครสังเกตเห็นว่านางหายไปหรือไม่ หากพวกเขากำลังตามหาก็แค่บอกว่านางกลับจวนแล้ว”

“นายน้อย ท่านคิดว่าคุณหนูรองไม่ได้แจ้งให้สำนักศึกษาหลวงทราบถึงการกลับมาของนางหรือขอรับ?”

“สำนักศึกษาหลวงมีกฎเกณฑ์ นอกจากซื่อจื่อแห่งเซวียนอ๋อง ทุกคนต้องอาศัยอยู่ที่นั่น แม้ว่าชิงเอ๋อร์จะเป็นลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะให้ข้อยกเว้นแก่นาง ดังนั้นนางจึงทำได้แค่แอบออกมาเท่านั้น”

“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”

ณ จวนเหวิน รถม้าคันหนึ่งแล่นเข้าไปในจวนเหวิน

มู่ซืออวี่ลงจากรถม้า

พ่อบ้านรีบเข้ามาต้อนรับ “คำนับฮูหยิน”

“นายท่านของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน?” มู่ซืออวี่ถาม

“นายท่านกำลังพักผ่อนอยู่ข้างในขอรับ” พ่อบ้านพูดอย่างจริงจัง

มู่ซืออวี่ก้าวเข้าไปข้างใน รู้สึกเจ็บปวดในใจเมื่อเห็นเหวินอี้นอนนิ่งอยู่ที่นั่นราวกับกระดาษ

“ท่านมาแล้ว” เหวินอี้พูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ข้าขยับตัวไม่ได้ ก็เลยให้ของขวัญอะไรกับท่านไม่ได้แล้ว”

“ข้าจะจัดคนส่งเจ้าไปที่เมืองถงหยางทันที ที่นั่นเป็นที่ตั้งของหุบเขาเทพโอสถซึ่งมีหมอที่ดีที่สุดในโลก ข้าจะขอให้พวกเขาช่วยดูแลร่างกายเจ้า”

“ไม่มีประโยชน์” เหวินอี้กล่าว “ท่านก็รู้เรื่องสภาพร่างกายของข้าดี ข้าโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ ต้องขอบคุณโชคดีของข้าที่ทำให้ได้พบกับดาวนำโชคเช่นท่าน ข้าถึงมีชีวิตอยู่ต่อมาได้อีกหลายปี”

“เจ้ายังอายุน้อย ต้องสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกสิบหรือยี่สิบปีอย่างแน่นอน”

“ท่านเชื่อเรื่องนี้หรือไม่? ก่อนที่จะพบท่าน ข้าไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชีวิตที่ดีถึงเพียงนี้ได้ ข้าใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ข้าได้เห็นทิวทัศน์สวยงามหลายที่ ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมายกับท่าน” เหวินอี้กล่าว “สิ่งที่สำคัญที่สุด คือข้าสามารถมีชีวิตอยู่เพื่อดูหยวนซีขึ้นครองบัลลังก์ ได้เห็นเขามีทายาท เพื่อที่ข้าจะได้จากไปอย่างสบายใจ”

“นายท่าน ดูสิว่าใครมาแล้ว” พ่อบ้านเปิดประตูให้คนที่อยู่ข้างหลังเข้ามา

ฟ่านหยวนซีรีบเดินเข้ามาก่อน ตามมาด้วยซ่างกวนจิ่นซิ่ว

ซ่างกวนจิ่นซิ่วเห็นมู่ซืออวี่จึงพยักหน้าให้แล้วหยุดอยู่ข้างนาง

ฟ่านหยวนซีจับมือเหวินอี้ สองพี่น้องแสดงความห่วงใยซึ่งกันและกัน

“ฮูหยิน ร่างกายของเขา…”

ซ่างกวนจิ่นซิ่วเคยพบเหวินอี้และรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฟ่านหยวนซีกับเหวินอี้ ทว่าครั้งสุดท้ายที่นางเจอเขา เขาไม่ได้อ่อนแอและซีดเซียวเหมือนตอนนี้ นางแทบจำเขาไม่ได้เลย

“ตอนที่ข้ากลับมาจากเมืองถงหยาง ข้านำยามาให้เขามากมายเพื่อควบคุมอาการของเขา เขาต้องกินยาวันละหนึ่งเม็ดห้ามขาด แต่ร่างกายของเขาย่ำแย่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กแล้ว ทว่าเขาก็ยังสามารถยืนหยัดได้จนกระทั่งถึงตอนนี้…”

“ข้าเคยพูดไว้เมื่อหลายปีก่อนว่า บ้านของเจ้าดูรกร้างจนไม่รู้สึกเหมือนบ้าน ข้าขอให้เจ้าสร้างบ้านแต่เจ้ากลับไม่ยอมฟัง ตอนนี้ไม่รู้จะไปหาใครมาร่วมสร้างแล้ว” ฟ่านหยวนซีกล่าว

“หากไม่ขึ้นครองบัลลังก์ในฐานะฮ่องเต้ เจ้าจะแต่งงานหรือไม่?” เหวินอี้กล่าว “เจ้าคงจะไม่แต่งเช่นกันสินะ โชคดีที่เจ้าไม่เหมือนข้า ข้าเลยรู้สึกสบายใจมากขึ้น เพราะหลังจากที่ข้าจากไปจะยังมีคนคอยดูแลเจ้า”

หมอหลวงทุกคนจากราชสำนักถูกส่งมาดูแลเหวินอี้ให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง แต่เหวินอี้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปไอรีนโนเวล

ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ฟ่านหยวนซีตัดสินใจรับเลี้ยงฟ่านซู่ให้กับเหวินอี้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จวนเซวียนอ๋องก็หายไปจากอาณาจักรฮุ่ย ฟ่านซู่กลายเป็นผู้สืบทอดจวนอี้อ๋อง

ถูกต้อง ฟ่านหยวนซีไม่อยากให้ชื่อของเหวินอี้หายไปจากโลกนี้ จึงแต่งตั้งเหวินอี้เป็นอี้อ๋องและยกฟ่านซู่ให้เป็นลูกชายของเขา

คงจินตนาการได้ว่าเมื่อรู้เรื่องนี้ ฟ่านเหยี่ยนจะโกรธเพียงใด

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่มีโอรสเพิ่ม ฟ่านซู่เป็นลูกชายคนเดียวของเขา บัดนี้กลายเป็นลูกของคนอื่นไปแล้ว นี่ไม่ใช่แค่การตบหน้าฟ่านเหยี่ยนอีกต่อไป แต่เป็นการทิ่มแทงหัวใจกันต่างหาก

ขุนนางหลายคนในราชสำนักคัดค้านเรื่องนี้

ตัวตนของเหวินอี้ไม่ได้เป็นความลับ แม้ว่าจะไม่เปิดเผยอย่างโจ่งแจ้งแต่เขาก็ไม่ได้ปิดบังเช่นกัน มีหลายคนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของเหวินอี้

สำหรับเหล่าขุนนางแล้ว เหวินอี้เป็นเหมือนลูกนอกสมรสที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ทราบที่มา ต่างจากฟ่านหยวนซี เพราะฮ่องเต้องค์เก่ายอมรับการมีอยู่ของเขาตั้งแต่แรก สถานะของเขาจึงชัดเจนกว่า

ฟ่านหยวนซีไม่สนใจว่าพวกขุนนางเฒ่าเหล่านั้นจะพูดอะไร ในเวลานี้ นิสัยดื้อรั้นของเขากำเริบขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าไม่สามารถโน้มน้าวฮ่องเต้ได้ ขุนนางจึงต้องการให้ลู่อี้หยุดเรื่องนี้ ในความเห็นของพวกเขา เป็นเรื่องปกติที่ฟ่านหยวนซีจะแต่งตั้งเหวินอี้เป็นท่านอ๋อง เพราะอย่างไรเสีย เขาก็จะตายอยู่แล้วและอ๋องก็เป็นเพียงตำแหน่งเท่านั้น แต่จะยอมให้ฝ่าบาทรับฟ่านซู่มาเลี้ยงไม่ได้ มิเช่นนั้น หากฟ่านเหยี่ยนรู้เรื่องนี้ สงครามระหว่างอาณาจักรฮุ่ยและอาณาจักรเหลียงจะไม่เกิดขึ้นก่อนกำหนดหรือ?

ไม่กี่วันต่อมา พิธีก็ได้จัดขึ้นตามกำหนด

คราวนี้เหวินอี้ไม่ได้มาร่วมด้วยและจากไปในที่สุด

ณ วังหลวง ซ่างกวนจิ่นซิ่วเดินถือถ้วยยาต้มเข้ามา

ฟ่านหยวนซีนอนซึมอยู่บนเตียง

หลังจากที่ฝังศพเหวินอี้ ฟ่านหยวนซีก็ล้มป่วยและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย

“ฮองเฮา…” วังกงกงพูดกับซ่างกวนจิ่นซิ่ว “หมอหลวงบอกว่าฮ่องเต้เป็นโรคหัวใจ…”

“เขารับมือกับมันได้” ซ่างกวนจิ่นซิ่วนั่งลงข้างเตียง จับมือฟ่านหยวนซีแล้วพูดว่า “ข้าเชื่อในตัวเขา”

ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่มีชีวิตอยู่ได้เพราะความหวังของคนอื่น ชีวิตของเขาคือความหวังของราษฎร ดังนั้นเขาจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ”

“พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ” ซ่างกวนจิ่นซิ่วพูด “ตอนนี้ฝ่าบาทไม่ต้องการเจอคนเยอะ”

หลังจากที่บ่าวรับใช้ในวังออกไปแล้ว ซ่างกวนจิ่นซิ่วก็ตักยา แล้วป้อนเข้าไปในปากของฟ่านหยวนซี

“หากท่านล้มลง พวกข้าที่เป็นเด็กกำพร้าและเป็นม่ายจะต้องถูกรังแกอย่างแน่นอน ท่านสูญเสียน้องชายไป แล้วตอนนี้ท่านไม่ต้องการแม้แต่ฮองเฮาและโอรสแล้วหรือ? ฝ่าบาท ท่านไม่ใช่คนอ่อนแอถึงเพียงนั้น ใช่หรือไม่?”

ซ่างกวนจิ่นซิ่วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับยาที่เปื้อนปากอีกฝ่าย

ขณะนั้นเอง เด็กชายตัวน้อยจ้ำม่ำเดินเข้ามาจากด้านนอก “เสด็จแม่ เสด็จพ่อ ข้ามาแล้ว…”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด