สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 849 จดหมายจากครอบครัว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 849 จดหมายจากครอบครัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 849 จดหมายจากครอบครัว

บทที่ 849 จดหมายจากครอบครัว

เซี่ยเฉิงจิ่นยังต้องตรวจทานฎีกา ลู่จื่ออวิ๋นไม่อยากรบกวนเขานานเกินไปจึงออกมาก่อน

ติงเซียงเดินเข้ามาแล้วเอ่ยว่า “ฮองเฮา มีจดหมายส่งมาจากอาณาจักรฮุ่ยเพคะ ดูจากลายมือแล้ว น่าจะส่งมาจากฮูหยินเพคะ”

“รีบนำมาให้ข้า”

ติงเซียงยื่นจดหมายให้นาง

ลู่จื่ออวิ๋นอดใจรอแทบไม่ไหวจึงหาศาลาเงียบสงบแห่งหนึ่งเพื่อนั่งอ่านจดหมาย

นางอ่านไปได้พักก็หัวเราะออกมา

ติงเซียงและไป๋จื่อสนใจใคร่รู้ยิ่งนัก ทว่าลู่จื่ออวิ๋นไม่ได้กล่าวอะไร พวกนางซึ่งเป็นบ่าวรับใช้ย่อมไม่กล้าถาม

“แม่ข้าเป็นห่วงเรื่องพี่ชายข้ามากจริง ๆ”

“เรื่องการแต่งงานของใต้เท้าลู่น้อยหรือเพคะ?”

“นอกจากเรื่องนี้ พี่ชายข้าไม่มีเรื่องอะไรให้ท่านแม่ต้องเป็นห่วง” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “เสี่ยวชิงเอ๋อร์และฉาวจิ่งโตขึ้นมาก อีกทั้งยังรู้ความยิ่งนัก ท่านแม่ข้าเล่าเรื่องพวกเขาหลายอย่าง ในจดหมายยังบอกว่าท่านแม่ส่งของมาให้ด้วย ของอยู่ที่ใดเล่า?”

“ข้ารับใช้ในวังนำของไปไว้ที่พระตำหนักฮองเฮาแล้วเพคะ”

“เช่นนั้นพวกเรารีบกลับกันเถอะ!”

ของที่มู่ซืออวี่ส่งมาล้วนเป็นสิ่งที่ลู่จื่ออวิ๋นสนใจ อย่างเช่นผ้าชนิดใหม่ของอาณาจักรฮุ่ย อีกทั้งยังสั่งเมล็ดพันธุ์จากดินแดนอื่นมาด้วย เมล็ดพันธุ์เหล่านี้เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารจำนวนมาก บัดนี้จึงได้ส่งมาให้นางด้วยส่วนหนึ่ง

“ท่านแม่ช่วยข้าได้มากจริง ๆ” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “วัตถุดิบในอาณาจักรเฟิ่งหลินนั้นหาได้ยากยิ่งนัก ราษฎรมีอาหารไม่เพียงพอให้รับประทาน เมื่อเรามีเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ในมือ เราก็สามารถปลูกมันได้แล้ว”

“ฮูหยินคงต้องรู้สถานการณ์ในอาณาจักรเฟิ่งหลินเป็นแน่เพคะ นางจึงส่งสิ่งที่ฮองเฮาต้องการมา” ติงเซียงเอ่ย “ฮูหยินช่างน่าทึ่งจริง ๆ ใต้หล้าไม่มีเรื่องใดที่นางไม่รู้เลยนะเพคะ”

ลู่จื่ออวิ๋นเขียนจดหมายตอบกลับ แล้วให้คนส่งสินค้าพื้นเมืองหลายอย่างของอาณาจักรเฟิ่งหลินกลับไปให้มารดา

หลังจากนั้นลู่จื่ออวิ๋นก็มักจะวิ่งรอกอยู่ข้างนอก ช่วยเหลือราษฎรต้านภัยหนาวและความหิวโหย ทำให้ราษฎรมากมายรอดพ้นจากความตายมาได้ รักษาชีวิตแล้วชีวิตเล่าเอาไว้

“ฮองเฮา ท่านกลับวังหลวงเถิดนะเพคะ!” ไป๋จื่อเดินเข้ามา “เมื่อครู่นี้มีข่าวจากในวังหลวง กล่าวว่าเผ่าคงเจินส่งหญิงงามผู้หนึ่งมาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ พวกเขาเข้าพักในโรงเตี๊ยมแล้วเพคะ”

“เผ่าคงเจิน? ใช่ชนเผ่าที่เชี่ยวชาญการเลี้ยงม้าหรือไม่ อีกทั้งม้าของพวกเขายังเป็นม้าศึกที่ดีที่สุด เผ่านั้นน่ะหรือ?”

“ไม่ผิด เป็นพวกเขาเจ้าค่ะ”

“ในเมื่อมีแขกจากแดนไกล ข้าในฐานะเจ้าบ้านก็ควรไปต้อนรับจริง ๆ เพียงแต่ที่นี่ยังมีเรื่องต้องจัดการอีกเล็กน้อย รอข้าจัดการเสร็จแล้วค่อยกลับไปเถอะ!”

“ฮองเฮาช่างไม่กังวลเรื่องฝ่าบาทเลย”

“บุรุษไม่อาจผูกรั้งไว้ได้” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ย “หากในใจเขาไม่มีเจ้า ถึงแม้เจ้าจะคอยเฝ้าอยู่ทุกวัน เขาก็จะทำตามใจอยู่ดี ไยข้าต้องกังวล? เขาเหนื่อยข้าก็เหนื่อย”

กระทั่งฟ้ามืดลู่จื่ออวิ๋นจึงกลับไปยังวังหลวง

ยามนั้นประตูวังปิดแล้ว เมื่อทหารยามเห็นนางกลับมาจึงเปิดประตูวังทันที

ลู่จื่ออวิ๋นกลับเข้าไปในวัง ก่อนจะลงแช่ในน้ำร้อนที่ข้ารับใช้ได้เตรียมไว้ให้นานแล้ว ร่างกายผ่อนคลายอย่างเต็มที่

ร่างกายที่เจ็บปวดของนาง ในที่สุดก็อบอุ่นขึ้นมา หากยังอยู่ข้างนอกนานกว่านี้ เกรงว่านางจะไม่อาจควบคุมขาของตนได้แล้ว

อากาศในอาณาจักรเฟิ่งหลินหนาวเย็นกว่าที่คิด นางเพิ่งแต่งงานมาเมื่อปีที่แล้ว ทุกวันล้วนอยู่ในวังหลวงไม่ได้ออกไปข้างนอก ภายในวังมีเตาถ่านมากมายจึงไม่ได้รู้ซึ้งถึงความเลวร้ายของสภาพอากาศอย่างปีนี้

มือหนึ่งยื่นออกมาจากด้านหลังแล้วบีบนวดไหล่ให้ลู่จื่ออวิ๋น

“ไป๋จื่อ แรงขึ้นอีกหน่อย”

ลู่จื่ออวิ๋นนอนแช่อยู่ตรงนั้น เพลิดเพลินกับฝีมือการนวดของ ‘ไป๋จื่อ’

เหตุที่นางคาดเดาว่าเป็นไป๋จื่อ เพราะไป๋จื่อนั้นถนัดเรื่องดูแลร่างกาย ขณะที่ติงเซียงด้อยกว่านางเล็กน้อยในด้านนี้

โดยปกติแล้วหากนางเหนื่อยล้า ไป๋จื่อจะนวดผ่อนคลายให้

เพียงแต่วันนี้มือของไป๋จื่อกลับดูแข็งไปเล็กน้อย

ลู่จื่ออวิ๋นสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหตุใดมือนั้นถึงขยับต่ำลงเรื่อย ๆ เล่า…

นางลืมตาขึ้น เมื่อหันกลับไปมองจึงเห็นเซี่ยเฉิงจิ่นในชุดลำลอง

“ท่านมาได้อย่างไร?”

“ยากนักกว่าอวิ๋นเอ๋อร์จะกลับมาได้ แน่นอนว่าข้าย่อมต้องมาหาโดยเร็วที่สุด” เซี่ยเฉิงจิ่นถอดเสื้อคลุมของเขาออกแล้วลงไปแช่น้ำโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

“หม่อมฉันกำลังอาบน้ำ”

“ข้ารู้ เช่นนั้นก็… มาอาบด้วยกันเถิด”

ลู่จื่ออวิ๋นวางมือลงบนไหล่ของเซี่ยเฉิงจิ่น

เขาค้อมศีรษะลงมาจูบนาง

“ช้าก่อน…” ลู่จื่ออวิ๋นปิดปากเขาไว้ แล้วมองด้วยรอยยิ้ม “ได้ยินว่าเผ่าคงเจินส่งหญิงงามมาผู้หนึ่ง ท่านได้พบแล้วหรือยัง?”

เซี่ยเฉิงจิ่นรีบอธิบายทันควัน “ไม่ได้พบ ฮองเฮาไม่อยู่ในวัง ข้าจะพบสตรีอื่นเป็นการส่วนตัวได้อย่างไร? ข้าให้พวกเขากลับมาพรุ่งนี้ รอฮองเฮาไปพบพร้อมกัน”

“ได้ยินว่าเป็นหญิงที่งามล้ำผู้หนึ่ง”

“สตรีข้างนอกจะเทียบแม้เพียงปลายก้อยของอวิ๋นเอ๋อร์ได้อย่างไร?”

ลู่จื่ออวิ๋นเพียงแค่ต้องการเย้าแหย่ นางย่อมไม่สร้างความยุ่งยากให้เขามากเกินไป ทั้งสองคลอเคลียอยู่ในถังอาบน้ำพักหนึ่ง เมื่อน้ำเริ่มเย็นลงแล้ว เซี่ยเฉิงจิ่นจึงห่อลู่จื่ออวิ๋นด้วยผ้าปูที่นอนแล้วอุ้มนางไปที่เตียงทันที

หนาวเกินไปแล้ว!

พวกเขาจำต้องขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวเพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกาย ไม่เช่นนั้นค่ำคืนที่แสนยาวนานนี้คงลำบากไม่น้อย

ฮองเฮาและฝ่าบาทรักใคร่ลึกซึ้ง ปกติไม่ได้ให้ผู้อื่นคอยเฝ้า ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะหยอกล้อกันเพียงใดก็ไม่ได้มีขันทีประจำการอยู่จนทำให้หมดสนุก

วันต่อมา ลู่จื่ออวิ๋นไม่ออกจากวังอย่างหาได้ยาก ในทางกลับกันนางแต่งองค์ทรงเครื่อง รอทูตจากเผ่าคงเจินมาเข้าเฝ้า

เผ่าคงเจินอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเฟิ่งหลิน ชนเผ่านี้และเผ่าอวิ๋นอิง อีกทั้งเผ่าอื่น ๆ อีกมากมายล้วนอาศัยอยู่บนทุ่งหญ้า บนทุ่งหญ้ามีชนเผ่ามากมาย ทว่าการแบ่งแยกดินแดนทำให้ชนเผ่าใกล้เคียงกันไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรเดียวกัน แน่นอนว่าวิธีการปกครองย่อมแตกต่างกัน

ระยะนี้กำลังรบของเผ่าอวิ๋นอิงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชนเผ่าอื่น ๆ ล้วนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ การแบ่งแยกอำนาจบนทุ่งหญ้าได้เปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง หลายเผ่าจึงต้องมีแผนการรับมือเพื่อทำให้ชนเผ่าตนเองมีอำนาจมากขึ้น

เผ่าคงเจินนึกถึงฮ่องเต้พระองค์ใหม่ที่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ของอาณาจักรเฟิ่งหลินผู้นี้ขึ้นมา

ฮ่องเต้องค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองบัลลังก์ วังหลังย่อมว่างเปล่า ถึงเวลาที่พวกเขาต้องแสดงท่าที นอกจากนี้เผ่าคงเจินของพวกเขายังมีหญิงงามชวนตะลึง ผู้ที่เก่งกาจในการร้องเพลง เต้นรำ และควบคุมสัตว์ร้ายอยู่ผู้หนึ่ง บุรุษทั่วไปยามเห็นนางเป็นต้องเสียสติ พวกเขาไม่เชื่อว่าฮ่องเต้องค์ใหม่ของอาณาจักรเฟิ่งหลินจะรอดพ้นด่านหญิงงามไปได้จึงได้ส่งนางมา เปิดโอกาสให้ความงามของนางได้ทำหน้าทีอันใหญ่หลวงนี้

“องค์ชายอวิ๋นถ่าแห่งเผ่าคงเจิน และน้องสาว แม่นางถัวน่ามาเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

บุรุษสวมชุดต่างแดนผู้หนึ่งเดินนำหญิงสาวผู้สวมใส่ชุดเปิดสะดือเผยเอวคอดอย่างใจกล้าผู้หนึ่งเข้ามา

หญิงสาวผู้นั้นมีผ้าคลุมหน้าบาง ๆ กั้น ทว่าผ้าคลุมหน้านั้นช่างไร้ประโยชน์ ผู้อื่นสามารถมองเห็นรูปโฉมของนางได้อย่างชัดเจน เพียงแค่ปิดเพื่อสร้างความรู้สึกน่าค้นหาให้ผู้คนเท่านั้น

ผิวของนางขาวราวกับน้ำนม ไม่เหมือนองค์ชายผิวสีน้ำตาลเข้มข้าง ๆ แม้แต่น้อย นึกไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะเป็นพี่ชายน้องสาว ช่างทำให้ผู้คนประหลาดใจอยู่บ้างจริง ๆ

“อวิ๋นถ่า/ถัวน่า ถวายบังคมฝ่าบาทและพระนางฮองเฮา”

“ไม่จำเป็นต้องมากพิธี นั่งลงเถิด”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

ถัวน่าเงยหน้าขึ้นมาพบลู่จื่ออวิ๋น ดวงตาของนางฉายแววประหลาดใจ

“ว้าว ในโลกนี้มีผู้ที่งดงามเพียงนี้ด้วยหรือ” ถัวน่ากล่าวชื่นชม

อวิ๋นถ่าก็ตกตะลึงกับความงามของลู่จื่ออวิ๋นเช่นกัน เขาเหลือบมองน้องสาวตนอีกครั้ง และเริ่มลังเลขึ้นมาบ้าง

นึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้เฟิ่งหลินจะมีฮองเฮาที่งดงามเพียงนี้ หากน้องสาวของเขาเข้าวังไปจะได้รับความโปรดปรานจริง ๆ หรือ?

ทว่า น้องสาวของเขาก็ไม่ได้ด้อยเช่นกัน ได้ยินว่าสตรีจงหยวนงดงามยิ่ง ทว่าแต่ละคนล้วนคร่ำครึน่าเบื่อ น้องสาวของเขามีเสน่ห์เพียงนี้ น้อยนักที่บุรุษในใต้หล้าจะไม่ชมชอบนาง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด