สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 890 เหยื่อกินเบ็ดแล้ว

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 890 เหยื่อกินเบ็ดแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 890 เหยื่อกินเบ็ดแล้ว

บทที่ 890 เหยื่อกินเบ็ดแล้ว

มู่ซืออวี่กินองุ่น พลางฟังสิ่งที่ลู่จื่ออวิ๋นเล่า

“เจ้าจงใจทำเช่นนี้หรือ? จงใจย่างแม่ของเจ้าบนกองไฟ จากนั้นก็หา ‘หัวขโมย’ ที่คิดจะขโมยเนื้อออกมา”

“ท่านแม่…” ลู่จื่ออวิ๋นกอดไหล่ของมู่ซืออวี่ “ท่านเก่งที่สุด โปรดสละตนเองเพื่อข้าด้วยเถิด ขอร้องล่ะนะเจ้าคะ”

“อีกฝ่ายต้องการทำลายชื่อเสียงของเจ้า คงจะต้องปลุกเร้าความโกรธของราษฎรในอาณาจักรเฟิ่งหลิน เพื่อทำให้เจ้าที่เป็นฮองเฮาตกเป็นเป้าหมาย ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากฝูงชน หากลูกเขยไม่กลับมา ตำแหน่งของเจ้าไม่มั่นคง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็จะมีอำนาจในการตัดสินใจ” มู่ซืออวี่เอ่ย “ข้ากำลังเกียจคร้านและเบื่อหน่ายอยู่พอดี เช่นนั้น ให้ข้าช่วยเจ้าจัดการเศรษฐกิจของอาณาจักรเฟิ่งหลินเถอะ! เรื่องอื่นข้าไม่เก่งกาจ แต่เรื่องนี้ยังพอได้อยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาส ข้าจะถือโอกาสนี้ลองสวมบทบาท ‘นางปีศาจผู้แปลกประหลาด’ ดูก็แล้วกัน”

“ท่านแม่มาหาข้าจากแดนไกล ข้ากลับปล่อยให้ท่านถูกสับเละเทะเป็นชิ้น ๆ”

“เด็กโง่ แม่ทุกคนล้วนทำทุกอย่างได้เพื่อลูก เจ้าใช้ข้าได้ แสดงว่าข้ายังมีประโยชน์ เช่นนี้ แม่จึงรู้สึกมีความสุขมาก”

ลู่จื่ออวิ๋นวาดแขนรอบคอมู่ซืออวี่ “ท่านแม่ข้าดีที่สุด มีเพียงยามท่านแม่อยู่เคียงข้างข้าเท่านั้น ข้าจึงจะไม่ใช่ฮองเฮา ไม่ใช่มารดาของเซี่ยเฉิงอี๋ และเป็นเพียงลูกท่านแม่ ข้ายังสามารถพึ่งพาท่าน ออดอ้อนท่านได้”

มู่ซืออวี่ลูบผมลู่จื่ออวิ๋น

“เจ้าคงมีแผนอื่นแล้วกระมัง? ต่อจากนี้จะทำอย่างไร?”

“สกุลอวี้” ลู่จื่ออวิ๋นเอ่ยขึ้น “ข่าวลือว่านางปีศาจจากข้างนอกกำลังควบคุมอาณาจักรเหล่านั้นแพร่มาจากสกุลอวี้ ข้าคิดจะนำทั้งสกุลอวี้ไปขังคุกให้เป็นไปตามแผนของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง”

มู่ซืออวี่ขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มการค้า

เมื่อก่อนในเมืองหลวงไม่มีกลุ่มการค้า บัดนี้มีการจัดตั้งกลุ่มการค้าขึ้นแล้ว มิหนำซ้ำหัวหน้ากลุ่มการค้ายังมาจากอาณาจักรฮุ่ย ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าทั้งสองฝ่ายมีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กัน ทว่านี่เป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับผู้ทำการค้าอาณาจักรเฟิ่งหลิน

สกุลลู่มีกิจการในอาณาจักรเฟิ่งหลิน การที่มู่ซืออวี่จะมาเป็นหัวหน้ากลุ่มการค้าที่นี่ นอกจากสายเลือดคนต่างอาณาจักรที่ไม่เหมาะสมของนางแล้วก็ไม่มีอะไรผิด ในยามปกติผู้ทำการค้าในเมืองหลวงเหล่านี้ย่อมไม่กล้าล่วงเกินมารดาของฮองเฮาองค์ปัจจุบันอย่างพระชายาผู้สำเร็จราชการแทนอาณาจักรฮุ่ยอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม คราวนี้พวกเขากลับดูเหมือนมีความเกลียดชัง พากันต่อต้านมู่ซืออวี่ผู้ทำการค้าจากอาณาจักรฮุ่ยอย่างเป็นเอกฉันท์ ไม่มีผู้ใดให้ความร่วมมือกับการก่อตั้งกลุ่มการค้าซึ่งเป็นเรื่องใหญ่แม้เพียงผู้เดียว

ณ เรือนหมิงเซียง ผู้ทำการค้าหลากอายุหลายสิบคนนั่งคุยกันอย่างรื่นเริง บรรยากาศกลมเกลียวยิ่ง

“เถ้าแก่ซู เราไม่ไปดูที่กลุ่มการค้าจริง ๆ หรือ? วันนี้เป็นวันที่กลุ่มการค้าแห่งเมืองหลวงเราก่อตั้งเชียวนะ! พระชายาลู่ผู้นั้น ข้าเคยได้ยินว่าหลายปีที่ผ่านมานี้นางเดินทางไปทั่วอาณาจักร เป็นผู้ที่มีความสามารถร้ายกาจผู้หนึ่ง มิหนำซ้ำ นางยังเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดฮองเฮาองค์ปัจจุบัน หากเราไม่ไว้หน้าเช่นนี้ นางจะไม่ทำอะไรพวกเราหรือ?”

“เถ้าแก่ทัง พวกเราเป็นผู้ทำการค้า แต่ละคนล้วนเป็นผู้รู้หนังสือ ผู้ใดจะไม่รู้ว่ามีมิตรเพิ่มหนึ่งคนย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มหนึ่งคน อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ตรงหน้าเรา หากเราไปย่อมมีคนไม่พอใจ ไม่ช้าก็เร็วพระชายาลู่ผู้นั้นก็ต้องกลับอาณาจักรฮุ่ย ฮองเฮาประทับอยู่ในวังมานานเพียงนั้น ไม่ได้สนใจเรื่องภายนอก แต่คนผู้นั้นกลับต่างออกไป อำนาจในมือเขา ไม่ใช่สิ่งที่เราจะล่วงเกินได้!”

“ใช่แล้ว ผู้ใดอยากจะล่วงเกินคนเล่า ฮองเฮาไม่อาจล่วงเกินได้ พระชายาลู่ไม่อาจล่วงเกินได้ คนผู้นั้นยิ่งไม่อาจล่วงเกินได้!”

“ฝ่าบาทจากไปนานยิ่งนัก หากรอเขากลับมา เกรงว่าบ้านจะถูกขโมยไปแล้ว”

“ใช่แล้ว อำนาจของคนผู้นั้นเริ่มใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ เท่าที่ข้ารู้ มีคนในราชสำนัก…”

ไม่เพียงแต่ในราชสำนักเท่านั้น ทว่ายังรวมไปถึงในกองทัพด้วย ได้ยินว่ามีคนสนิทที่คนผู้นั้นจัดวางไว้ ถึงแม้ฮ่องเต้พระองค์ใหม่จะนำชัยชนะกลับมา ก็เกรงว่าอาจไม่ได้กลับมาอย่างปลอดภัย ท้ายที่สุด การหลบลูกธนูจากที่แจ้งนั้นง่าย แต่การหลบลูกธนูในที่ลับนั้นยาก!

ผู้ทำการค้าพูดคุยกันอย่างออกรสมากขึ้นเรื่อย ๆ

วันนี้เป็นวันจัดตั้งกลุ่มการค้า ทว่าพวกเขาซึ่งเป็นผู้ทำการค้าที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรกลับมารวมตัวกันที่นี่เป็นการส่วนตัว ไม่ได้แสดงน้ำใจมิตรไมตรีต่อหัวหน้ากลุ่มการค้าที่เพิ่งแต่งตั้งใหม่แม้แต่น้อย

“นายท่าน…” คนงานคนหนึ่งวิ่งเข้ามา

เถ้าแก่แซ่หวังเอ่ยด้วยความโมโห “เจ้าทำหน้าราวกับเห็นคนตายให้ผู้ใดกัน? นายท่านบ้านเจ้าอยู่ที่นี่ สบายดี ไม่ได้ป่วยหรือมีปัญหา ร้องห่มร้องไห้อะไร?”

“สินค้าของเราถูกเผาแล้วขอรับ”

“ว่าอย่างไรนะ?”

“ชุดสินค้าที่จะจัดส่งเร็ว ๆ นี้ ถูกเผาทั้งหมดแล้วขอรับ”

เถ้าแก่หวังจับเก้าอี้ข้าง ๆ ตนเองไว้แล้วพึมพำ “จบสิ้นแล้ว จบสิ้นแล้ว นั่นเป็นเงินสามพันตำลึงเชียวนะ!”

เมื่อไม่ได้จัดส่งสินค้า จะต้องจ่ายเงินเป็นสองเท่า นี่ไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย

ผู้ทำการค้าคนอื่น ๆ รีบปลอบใจ

อย่างไรก็ตาม ในแวดวงค้าขาย ปลอบก็คือปลอบ หากแต่ไม่มีผู้ใดเห็นใจเขาแม้แต่น้อย ในฐานะผู้ทำการค้าจะปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดเช่นนี้ได้อย่างไร? ดูเหมือนเถ้าแก่หวังจะไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอีกต่อไปแล้ว

“นายท่าน นายท่าน…” คนงานอีกคนวิ่งเข้ามา “ม้าทุกตัวในสนามม้าของเราหนีไปแล้วขอรับ”

“ว่าอย่างไรนะ?”

“เมื่อครู่นี้พวกม้าราวกับบ้าคลั่งขึ้นมา ทั้งยังวิ่งหนีไปแล้ว ไม่ว่าข้าจะไล่ตามพวกมันเพียงใดก็ตามกลับมาไม่ได้ขอรับ”

“ทาสม้าอยู่ที่ใดเล่า? ปกติมีทาสม้าที่คอยดูแลม้าเหล่านั้นไม่ใช่หรือ ให้เขาไปนำม้าเหล่านั้นกลับมา!”

ผู้ขายม้าวิ่งออกไปข้างนอกพร้อมคนงานผู้นั้น

พ่อค้าที่เหลือต่างมองหน้ากันไปมา

“สถานการณ์วันนี้ไม่ถูกต้อง! หนึ่งครั้งถือเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มีเรื่องบังเอิญถึงสองครั้งด้วยหรือ?”

“พี่อวี๋ ท่านหมายความว่า…”

“พวกเราไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้ว กลับไปดูกันก่อนเถอะ! จะดีที่สุดหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ช่วยชีวิตทั้งครอบครัวไว้ก่อนย่อมดีที่สุด”

“ท่านหมายความว่าเรื่องในวันนี้เกี่ยวข้องกับฮองเฮา…”

“อย่าได้ประมาทสตรีเป็นอันขาด โดยเฉพาะสตรีในราชวงศ์ ฝ่าบาทของเราจากไปนานเพียงนี้ ฮองเฮาสตรีผู้หนึ่งยังยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งได้ ท่านคิดว่านางมีเพียงใบหน้าที่น่าดูจริง ๆ หรือ?”

ผู้ทำการค้าหลายสิบคนที่เมื่อครู่นี้เย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก บัดนี้ล้วนรู้สึกอับอาย พวกเขารีบรุดกลับบ้านตนเอง

“นายท่าน ท่านอย่าได้ต่อต้านฮองเฮาเลยนะเจ้าคะ พวกเราไม่อาจล่วงเกินนางได้” ฮูหยินหวังกล่าว “วันนี้เป็นวันที่ัหัวหน้ามู่เข้ารับตำแหน่ง ท่านควรนำของขวัญไปแสดงความยินดีกับนาง”

“ฮูหยิน คนผู้นั้นก็ไม่อาจล่วงเกินได้น่ะซี!”

“นายท่านลองคิดดูเถิด ท่านมักจะสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง หากเจอคู่แข่งสองคนปรากฏตัวที่โต๊ะสุราพร้อม ๆ กัน ท่านจำต้องประจบประแจงทั้งสองฝ่าย ตอนนั้นท่านก็รับมือได้ดีไม่ใช่หรือ? บัดนี้คนหนึ่งอยู่ในที่แจ้ง อีกคนอยู่ในที่มืด ทั้งสองคนไม่ได้บีบบังคับให้ท่านเผชิญหน้า ด้วยความสามารถของท่าน จะไม่รู้จักรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหางได้อย่างไร?”

“ฮูหยินกล่าวถูกต้อง โชคดีที่ฮูหยินแนะนำข้า เตรียมของขวัญให้ข้าประเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปหาหัวหน้ามู่เพื่อแสดงความยินดี!”

บทสนทนาเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นในบ้านหลายสิบหลัง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อผู้ทำการค้าหลายสิบคนมาพบกันที่ทางเข้ากลุ่มการค้า พวกเขาต่างก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ความกระอักกระอ่วนนั้นคงอยู่เพียงไม่กี่อึดใจ อย่างไรเสียทุกคนก็ล้วนเป็นจิ้งจอกในแวดวงนี้ แต่ละคนล้วนหนังหนา ยอมรับความจริงได้อย่างรวดเร็ว

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ทุกคนจัดแจงเสื้อผ้าอาภรณ์ตนเอง เตรียมสร้างความประทับใจให้กับมู่ซืออวี่

——————————————

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด