สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้ายบทที่ 1142 ตอนพิเศษ (41)

Now you are reading สาวนาผู้เป็นมารดาของครอบครัวตัวร้าย Chapter บทที่ 1142 ตอนพิเศษ (41) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1142 ตอนพิเศษ (41)

บทที่ 1142 ตอนพิเศษ (41)

ฝางซิ่วหลานเดินอุ้ยอ้ายอยู่ในสวน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวหน้าตางดงามผู้หนึ่งเดินมาจากฝั่งตรงข้าม

หญิงสาวผู้นั้นรูปร่างบอบบาง เอ่ยเสียงแผ่วเบาราวกับนกกระเต็น เสียงหัวเราะกระจ่างใสดังกังวาน แม้กระทั่งดอกไม้ในสวนก็ไม่อาจเทียบความสดสวยเช่นนี้ได้

“พี่หญิง ไม่ได้พบท่านหลายวันแล้ว ข้าอยากมาเล่นกับท่านพอดี!” อนุห้ากล่าวเบา ๆ “โอ๊ะ พี่หญิง บนใบหน้าของท่านมีกระแล้วหรือ?”

เด็กสาวปิดปากด้วยผ้าเช็ดหน้า ดวงตาวาวน้ำเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “ผิวของท่านอยู่ในสภาพย่ำแย่เพียงนี้ มิน่าเล่า นายท่านถึงได้ไม่ไปที่ห้องท่าน อ๊ะ พี่หญิง ท่านอย่าได้คิดจริงจัง ข้าเพียงพูดจาไร้สาระไปเรื่อย ข้ายังเล็ก พี่หญิงคงไม่ถือสาข้ากระมัง?”

ฝางซิ่วหลานกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “อนุห้า เจ้าเข้าจวนมาสามเดือนแล้ว เหตุใดท้องยังไม่โตอีกเล่า จุ๊ ๆ ผู้อื่นล้วนกล่าวว่าน้องหญิงยังสุขภาพดี แต่ดูเหมือนร่างกายของเจ้าจะไม่สู้ดีเท่าใดนัก โถ่เอ๊ยนายท่านบอกแล้วว่า ตอนนี้ข้ากำลังอุ้มท้องทายาทคนสำคัญของเขา ข้าต้องทานรังนกทุกวัน เจ่าจือ ถึงเวลากินรังนกแล้วหรือยัง?”

“ฮูหยิน ถึงเวลาแล้วเจ้าค่ะ! รังนกเหล่านั้นเตรียมไว้ให้ฮูหยินแล้ว ท่านจะต้องทานตอนร้อน ๆ รังนกจึงจะให้ผลดีที่สุด หากท่านกินเข้าไป คุณชายน้อยในท้องก็จะได้รับสารอาหารครบถ้วน ถ้ากินไม่ทันกาลจะไม่เสียความตั้งใจดีของนายท่านหรือ?” หลังจากเจ่าจือกล่าวจบ นางก็เอ่ยกับอนุห้า “อนุห้า ท่านอย่าได้ถือสา รังนกดี ๆ เหล่านั้นหาได้ยาก แม้กระทั่งนายท่านก็ยังต้องจ่ายราคาสูงถึงจะซื้อได้มากเพียงนั้น เขาต้องบำรุงฮูหยินที่กำลังท้องไส้อยู่ก่อนเป็นอันดับแรก”

อนุห้ากล่าวเบา ๆ “รังนกมีดีอะไร รสชาติก็งั้น ๆ! โอ๊ะ ดูข้าสิ ข้าไม่ได้ตั้งใจจะแย่งชิงความโปรดปรานกับฮูหยิน นายท่านเพียงแค่บอกว่าข้าผอมเกินไปจึงยืนกรานจะให้กิน ข้าถึงได้กินเสียหลายคำ เพียงแต่นายท่านบอกว่าของราคาแพง ไม่อาจโยนทิ้งได้ บอกว่าฮูหยินตั้งท้องคุณชายน้อย ต้องบำรุงให้ดีจึงให้ท่านกินที่เหลือ พี่หญิง ท่านคงไม่ว่าอะไรหากข้ากินเข้าไปสักคำกระมัง?”

ฝางซิ่วหลานจ้องมองอนุห้าเขม็ง

อนุห้าปิดปาก แสดงท่าทีหวาดกลัว “พี่หญิง ท่านดุร้ายจริงเชียว!”

“อนุ นายท่านบอกว่าจะพาไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารเจ้าค่ะ ท่านอยากไปเลือกดูเสื้อผ้าหรือไม่เจ้าคะ?” สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เอ่ยถาม

“จริงสิ ข้าเกือบลืมเรื่องสำคัญ” อนุห้าโบกผ้าเช็ดหน้า มองฝางซิ่วหลานอย่างทะนงตน “นายท่านบอกว่าอยากพาข้าไปเจรจาการค้าให้สหายของเขาได้เห็น บอกว่าพาข้าไปเป็นหน้าเป็นตา ต่างจากบางคนที่หน้าตาน่าเกลียดพฤติกรรมต่ำช้า เหมือนแม่สุกรในชนบทที่สมควรถูกเลี้ยงไว้ในคอกหมูเท่านั้น”

ฝางซิ่วหลานชี้หน้าอนุห้า สีหน้าเกรี้ยวกราดจนเอ่ยคำใดไม่ออก

นังปีศาจตนนี้ถูกคหบดีจางเก็บมาจากข้างนอก ว่ากันว่าสหายการค้าผู้หนึ่งของเขาซื้อนางมาจากหยางโจว นับตั้งแต่นางผู้นี้ปรากฏตัว คหบดีจางก็วิ่งไปที่ห้องของอีกฝ่ายทุกวัน โชคดีที่ฝางซิ่วหลานท้อง มิเช่นนั้นที่นี่คงไม่มีที่สำหรับนางแล้ว

ฝางซิ่วหลานลูบท้อง

นางบอกตนเองว่าจะไม่ทำในสิ่งที่นังสารเลวผู้นั้นต้องการ

หญิงแพศยาผู้นั้นจงใจยั่วให้นางโมโห หวังว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ เช่นนี้เครื่องรางคุ้มภัยของนางก็จะหายไป นางปีศาจผู้นั้นจะขึ้นมามีสิทธิ์ขาดในสกุลนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าฝางซิ่วหลานจะได้เป็นฮูหยินจาง นางไม่มีวันสละตำแหน่งนี้!

“ฮูหยิน คนจากทางบ้านท่านมาขอรับ” บ่าวรับใช้คนหนึ่งเข้ามารายงาน

“ผู้ใดมา?”

“บอกว่าเป็นผู้อาวุโสของท่านขอรับ”

ฝางซิ่วหลานเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “พาเขาไปที่เรือนอู๋ถง”

นับตั้งแต่นางกลายเป็นฮูหยินจาง ครอบครัวนางก็มั่งคั่งขึ้นมา เมื่อวานพึ่งให้เงินบิดามารดาไปห้าสิบตำลึง ผ่านไปเพียงวันเดียว วันนี้กลับมาอีกแล้วหรือ?

ฝางซิ่วหลานเดินเข้าไปในเรือนอู๋ถงด้วยสีหน้าเย็นชา เมื่อเห็นร่างที่กำลังหันหลังให้ หัวใจนางพลันเต้นระรัวขึ้นมา

นางรู้จักเจ้าของร่างนั้น ต่อให้เขาจะกลายเป็นขี้เถ้านางก็จำได้ เขาไม่ใช่ครอบครัวนาง ทว่าก็อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันเหมือนคนในครอบครัวอยู่ช่วงหนึ่ง นางถึงกับเคยเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ ด้วยซ้ำ

“ท่านมาทำอะไรที่นี่?” ฝางซิ่วหลานเอ่ยกับหลิ่วซานเฉวียน

หลิ่วซานเฉวียนหันกลับมา เมื่อเห็นฝางซิ่วหลาน รอยยิ้มแปลก ๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้า “ข้ามีบางอย่างจะพูดคุยกับฮูหยินจาง ฮูหยินจางแน่ใจหรือว่าอยากให้ผู้อื่นได้ยิน?”

ฝางซิ่วหลานโบกมือ ส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ ถอยออกไป

เจ่าจือในฐานะสาวใช้ส่วนตัวของฝางซิ่วหลานถูกเจ้านายสั่งให้ถอยออกไปเช่นกัน

ภายในห้องเหลือเพียงฝางซิ่วหลานกับหลิ่วซานเฉวียนเท่านั้น

ฝางซิ่วหลานไม่เห็นหลิ่วซานเฉวียนอยู่ในสายตา

มีคนของนางอยู่ข้างนอก หลิ่วซานเฉวียนย่อมไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

“ว่ามา มีเรื่องอะไร?”

หลิ่วซานเฉวียนนั่งลง หยิบขนมพุทราข้าง ๆ ขึ้นมากิน “ยายเฒ่าบ้านข้าตายแล้ว ไม่มีผู้ใดคอยดูแลตาเฒ่าอย่างข้า เคยเป็นพ่อสามีครั้งหนึ่ง ย่อมเป็นพ่อสามีตลอดไป เจ้าคงไม่ละเลยข้ากระมัง?”

“เกี่ยวอะไรกับข้า? ข้ากับลูกชายเจ้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันมานานแล้ว” ฝางซิ่วหลานตะคอกอย่างเย็นชา

“ทีแรกก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า แต่ผู้ใดให้ยายเฒ่าบ้านข้าตายอย่างแปลกประหลาดเล่า ทุกหนทุกแห่งล้วนมีกลิ่นตุ ๆ หากข้าไปพูดคุยกับคหบดีจาง แล้วคหบดีจางรู้ว่าคนข้างกายเป็นฆาตกร เขายังจะกล้านอนเตียงเดียวกับเจ้าหรือ?” หลิ่วซานเฉวียนยิ้มแล้วกล่าวต่อไป “คหบดีจางมีคนใหม่แล้วกระมัง? ข้าได้ยินมาว่านางเป็นสตรีงามจากหยางโจว อ่อนโยนบอบบาง ข้าว่านะซิ่วหลาน สกุลผู้ร่ำรวยให้ความสำคัญกับลูกชาย หากเจ้าคลอดลูกออกมาแล้ว เขามีวิธีเป็นร้อยพันที่จะกำจัดสตรีไม่จำเป็นอย่างเจ้า อย่าได้คิดว่าเจ้ามีลูกให้เขา แล้วจะเป็นฮูหยินสกุลจางจริง ๆ อย่าได้ลืมว่าฮูหยินจางสามารถเปลี่ยนคนได้”

“เจ้ากำลังพูดอะไร? ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอะไร”

“เจ้าฉลาดเพียงนี้จะไม่เข้าใจได้อย่างไร” หลิ่วซานเฉวียนทำท่าราวกับตัวร้าย เขาเหยียดขา ไขว่ห้าง แล้วหยิบขนมชิ้นแล้วชิ้นเล่าด้วยมือดำ ๆ ข้างนั้นส่งเข้าปาก

ฝางซิ่วหลานพลันรู้สึกไม่สบายเมื่อเห็นท่าทางดังกล่าว

ชีวิตนางกำลังไปได้ดี แต่เมื่อคิดว่าเคยอาศัยอยู่ใต้ชาเดียวกันกับคนเช่นนี้มาก่อน นางกลับรู้สึกต่ำต้อย

“หากเจ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ข้าจะไปคุยกับคหบดีจางเอง” หลิ่วซานเฉวียนกล่าว “ยายเฒ่าของข้ายังไม่ฝัง ถึงเวลาคหบดีจางก็จะเห็นว่ายายเฒ่าตายอย่างอยุติธรรมเพียงใด จริงสิ เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าทำโดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเล่า เจ้าใช้น้ำมันและทิ้งร่องรอยเอาไว้ ไม่เพียงแต่ข้าที่รู้ว่าเป็นเจ้า ทว่าทุกคนในหมู่บ้านล้วนรู้ทั้งสิ้น เจ้าส่งคนมาวางเพลิงหลิ่วจิ่วจู๋ ยิ่งกระจ่างชัดว่าคนที่เจ้าอยากฆ่าคือนาง”

ฝางซิ่วหลานยืนโอนเอน

นางรีบคว้าจับโต๊ะข้าง ๆ ไว้อย่างรวดเร็ว

นางคิดว่าตนก่อเรื่องใหญ่โดยไม่มีผู้สังเกตเห็น กลับกลายเป็นว่าถูกคนมองออกนานแล้ว อีกทั้งเวลาผ่านมาเนิ่นนานเพียงนี้ ผู้คนมากมายยังรู้ด้วยว่านางเป็นฆาตกรตัวจริง

วันนั้นเมื่อได้รับรายงานจากลูกน้องว่าเป็นอวี๋ซื่อที่เสียชีวิตไม่ใช่หลิ่วจิ่วจู๋ นางก็รู้ดีว่าเรื่องยังไม่จบ หากผู้ที่ตายคือหลิ่วจิ่วจู๋ สามีของหลิ่วจิ่วจู๋ไม่อยู่ เมื่อกลับมาย่อมไร้โรงศพ ไม่ต้องเอ่ยถึงการสืบสวนเรื่องนี้ต่อ อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นโชคดีจริง ๆ ที่ขึ้นไปบนเขา ร่างไร้วิญญาณที่บ้านไม่ใช่นาง หากแต่เป็นหัวขโมยอวี๋ซื่อ

“ข้าจะไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ ส่งห้าร้อยตำลึงเงินให้ข้า แล้วข้าจะไม่กลับมาอีก” หลิ่วซานเฉวียนเอ่ย “หลังจากได้รับเงินแล้ว ข้าจะฝังร่างยายเฒ่าทันที อนาคตย่อมไม่มีเบาะแสใด ๆ หลงเหลือ”

ฝางซิ่วหลานกำมือแน่น

“เจ้าคิดให้ดี ๆ เถอะ เจ้ากำลังตั้งท้องทายาทสกุลจาง ด้วยวัยของคหบดีจาง อีกไม่กี่ปีเขาก็จะขึ้นสวรรค์ เจ้าไม่ได้มีสิทธิขาดในสกุลจางหรอกหรือ? หากตอนนี้ถูกคหบดีจางรังเกียจ เจ้าย่อมไม่เหลืออะไรแล้ว” หลิ่วซานเฉวียนเอ่ย “เงินห้าร้อยตำลึงไม่นับเป็นอะไรสำหรับเจ้า ดูเครื่องประดับบนศีรษะและกำไลบนข้อมือของเจ้าสิ เหล่านั้นล้วนเป็นเงินมหาศาลไม่ใช่หรือ?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด