สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 929 สาวใช้ตัวแสบ 833
ตอนที่ 929 สาวใช้ตัวแสบ 833
จนกระทั่งไม่เห็นแสงไฟจากรถแล้ว เซี่ยชีหรั่นถึงได้ปิดประตูและนั่งข้างโต๊ะ เห็นว่ายังมีเหล้าเหลือในวันนี้ เธอไปหยิบแก้วมา รินแก้วใหญ่ ดื่มเหล้าคนเดียว ไข้ใจมันขมขื่นที่สุด เซี่ยชีหรั่นเข้าสู่อาการไข้ใจ ยากที่จะไม่เป็น ถึงจะรู้ว่าเย่เชินหลินทำเพื่อตัวเอง เธอก็อยากเจอเขาสักครั้ง ครั้งเดียวก็ยังดี
ดื่มไปสามรอบ เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินนั่งตรงข้ามตน เย่เชินหลินมองตนด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ฝันเหรอ? ” เซี่ยชีหรั่นมองคนตรงข้ามอย่างมึนเมานิดๆ ใบหน้าที่คุ้นเคย ในเมื่อมันเป็นความฝัน เซี่ยชีหรั่นจึงบ่นความปรารถนาในใจออกมาจนหมด
“หลิน คุณยุ่งมากอยู่ใช่ไหม เลยไม่มาหาฉัน” เซี่ยชีหรั่นยื่นนิ้วไปทางเย่เชินหลิน มือหล่นลงบนโต๊ะกลางอากาศ
“หลิน ฉันคิดถึงคุณ” เซี่ยชีหรั่นเริ่มแสดงความไม่พอใจของตัวเองผ่านฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอส่ายศีรษะ พบว่ามีเย่เชินหลินสามคนนั่งตรงข้ามตน พึมพำกับตัวเอง “มีแค่เย่เชินหลินคนเดียวไม่ใช่เหรอ? ทำไมมีเย่เชินหลินสามคน? หลินคนหนึ่งทำให้ฉันเจ็บปวดมาก หลินสามคนจะไม่ทำให้ฉันเจ็บปวดจนไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยเหรอ คำพูดเมามายของเย่เชินหลินเคาะเข้าไปในใจเย่เชินหลินทีละคำ หัวใจเขาเจ็บปวด ที่ดื่มเหล้าในบาร์มา สร่างเมาไปหมดเลย
เพราะเซี่ยชีหรั่นขยับตัว ร่างกายเริ่มไหลลงไปบนพื้น เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นไปที่โซฟาอย่างอ่อนโยน พูดขึ้นอย่างเอาอกเอาใจ “อย่าซนนะ ที่รัก ฉันจะรินน้ำให้เธอ”
เย่เชินหลินอุ่นนมร้อนให้เซี่ยชีหรั่น กล่อมให้เซี่ยชีหรั่นดื่มมัน
เซี่ยชีหรั่นมองหน้าหล่อของเจ้าชาย ส่ายศีรษะ อย่างไรก็ไม่ดื่ม และใบหน้าเล็กมองเย่เชินหลินอย่างอมทุกข์
เย่เชินหลินมองท่าทางนี้ เซี่ยชีหรั่นไม่ยอมดื่มลงไปดีๆ เขาขมวดคิ้วก่อน จากนั้นก็ยิ้ม ดื่มอึกใหญ่อย่างชั่วร้าย กอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ริมฝีปากประกบเข้าด้วยกัน ให้เธอดื่มแบบนี้เย่เชินหลินก็ไม่รังเกียจ
เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะไม่หยุด โดนเย่เชินหลินเอาชนะได้ทันที
ชีหรั่น ถ้าจูบต่อไปเรื่อยๆ จะดีแค่ไหน
ใช้ความพยายามอย่างหนักสุดท้ายก็ให้เซี่ยชีหรั่นดื่มนมร้อนหมดหนึ่งแก้ว เย่เชินหลินมองไปที่ห้องครัวชั่วคราวนั้น คิดว่าจะต้มอะไรบางอย่าง ครึ่งชั่วโมงออกมาเห็นว่าชีหรั่นหายไป เขารีบวิ่งออกมาจากห้อง เห็นเซี่ยชีหรั่นยืนเหม่ออยู่ด้านนอก เซี่ยชีหรั่นถูกลมเย็นพัด ไม่นานก็สร่างเมา นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ หน้าเล็กก็เห่อร้อนเล็กน้อย
“หลิน คุณมาหาฉันแล้ว” ภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิด ใบหน้าเซี่ยชีหรั่นมีแต่รอยยิ้ม น้ำเสียงร่าเริงแสดงถึงความสุขของเธอ
เย่เชินหลินก้าวยาวๆ เข้าไปกอดเซี่ยชีหรั่น กอดเซี่ยชีหรั่นแนบอกแน่น พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปฉันจะอยู่กับคุณ” เจ้าชายรับปากแล้วเชื่อถือได้ เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าดีใจ ใบหน้าเล็กเหมือนดอกไม้ไฟสวยงามท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน
“กลับไปพักผ่อนไหม? ” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นและถาม มองท้องฟ้ายามค่ำคืน มันแทบจะเป็นศูนย์
“อืม” เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เห็นสภาพแวดล้อมที่มืดมิด นึกขึ้นได้ว่าเย่เชินหลินไม่เห็นตนพยักหน้า จึงพูดอืมเบาๆ
เย่เชินหลินยื่นมือใหญ่ออกไปอุ้มเซี่ยชีหรั่นค่อยๆ เดินเข้าไปในบ้าน มีกระแสความสุขไหลระหว่างสองคนนี้
เซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินวางลงโซฟาอย่างอ่อนโยน บะหมี่ร้อนๆ บนโต๊ะบ่งบอกว่าเซี่ยชีหรั่นกับเจ้าชายยังไม่ได้ทานอาหาร
“คุณกินก่อน” เซี่ยชีหรั่นชี้บะหมี่จานนั้น “เย็นแล้วไม่อร่อย”
“ไม่กินด้วยกันเหรอ? ” วันนี้เจ้าชายเมาที่บาร์ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้าวสักเม็ดลงท้อง คำพูดเมื่อครู่นี้ของเซี่ยชีหรั่นคลายปมในใจเขา ตอนนี้ถึงได้รู้สึกหิว
เย่เชินหลินถือตะเกียบกินบะหมี่อย่างสง่างาม มองเซี่ยชีหรั่นเป็นครั้งคราว เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กน้อยให้ทุกครั้ง ในใจกลับเกลียดเย่เชินหลิน แม้แต่ทานอาหารก็ยังสง่างามแบบนี้
“เห็นตาคุณแล้วดูเหมือนจะอยากกินมากนะ? ” เย่เชินหลินเบนสายตาขึ้นมา พูดขึ้นอย่างช้าๆ
“เปล่า ฉันไม่ได้อยากกินจริงๆ ” เซี่ยชีหรั่นปฏิเสธ เธอไม่อยากทานบะหมี่ มีความงามที่เรียกว่าอาหารตา มองการเคลื่อนไหวของเจ้าชายนี้ เซี่ยชีหรั่นก็เปรี้ยวปากแล้ว
เย่เชินหลินมองใบหน้าเล็กของเซี่ยชีหรั่นที่โกหก พูดขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ “แล้วคุณอยากอะไร อยากกินฉัน? ”
เซี่ยชีหรั่นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากพอ แต่ก็ยังตกใจกับคำพูดโจ่งแจ้งนี้ของเจ้าชาย
“เปล่าซะหน่อย”
“ฉันอยากกินคุณ” เย่เชินหลินพูดจบก็วางตะเกียบในมือลง แล้วกอดเซี่ยชีหรั่น
“ที่รัก ฉันอยากกินคุณ ได้ไหม” เย่เชินหลินพูดจบไม่รอให้เซี่ยชีหรั่นตกลง ก็สัมผัสริมฝีปากสีแดงอมม่วงโดยตรง
เซี่ยชีหรั่นอยากต้านทานก็สายเกินไป และเธอก็ไม่อยากต้านทานด้วย เธอก็คิดถึงเขาเหมือนกัน มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย
เป็นคนรักกันตั้งแต่แรก คิดถึงกันตั้งแต่แรก แววตาเดียวก็จมดิ่งได้ ผลไม้ต้องห้ามของสวนเอเดนถูกหยิบขึ้นมา
เซี่ยชีหรั่นกอดตอบเย่เชินหลิน ตอบสนองเย่เชินหลิน เย่เชินหลินได้รับการปลุกเร้าก็ยิ่งรุนแรงขึ้น
จูบธรรมดาไม่สามารถเติมเต็มความคิดถึงหลายวันได้ เจ้าชายอุ้มเซี่ยชีหรั่นในท่าเจ้าสาวขึ้นมา ค้นหาห้องนอนตามความรู้สึก
ปิดไฟ สองคู่รักอยู่ในห้องที่มีทัศนียภาพฤดูใบไม้ผลิ
รุ่งเช้า เซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมา อยู่คนเดียวมาหลายวัน วันนี้ลุกขึ้นนั่งอย่างเคยชิน พอขยับมือก็พบว่าข้างกายมีอีกคนนอนอยู่ ในใจรายล้อมไปด้วยความสุข เชินหลินมีคุณมันดีจริงๆ เซี่ยชีหรั่นนอนลงไปแอบมองเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินหลับตา ขนตาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบราวกับปีกผีเสื้อ เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไป ค่อยๆ สัมผัสใบหน้าหล่อที่คุ้นเคย สัมผัสดวงตาอันอบอุ่น เซี่ยชีหรั่นหัวเราะเสียงทุ้ม นี่ไม่ใช่ความฝัน หลินมาที่นี่ เมื่อคืนคือเรื่องจริง
ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นมีความคิดแบบสาวน้อยอย่างสมบูรณ์ คนที่คิดถึงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า นี่คือความฝันที่เป็นจริง
“มองฉันจนเคลิ้มแบบนี้เลยเหรอ? หลงฉันแล้วสิ? ” เจ้าชายหยอกล้อขึ้นมาอย่างหาได้ยาก มีรอยยิ้มโหดๆ บนหางตา ตอนเซี่ยชีหรั่นตื่นเขาก็ตื่นแล้ว เพียงแต่เวลานี้หาโอกาสแบบนี้ได้ยาก อยากจะอ่อนโยนให้มากขึ้น
“เปล่าซะหน่อย” เซี่ยชีหรั่นเบ้ปาก ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
มองคนสวยปากแดง เย่เชินหลินเริ่มก่อนได้เปรียบ จูบลงไปอย่างที่ใจคิด หวานจริงๆ รสชาติเซี่ยชีหรั่นงดงามมาก
“ตอนเช้าต้องทำเรื่องสำคัญ ไม่ใช่ทำแบบคุณอย่างนี้” เซี่ยชีหรั่นส่ายศีรษะหลบ
เย่เชินหลินเหมือนชิมชาหอมๆ ค่อยๆ ชิมมากพอแล้วปล่อยมือ ต้องทำเรื่องสำคัญจริงๆ แต่เรามาคุยกันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก่อน
“ต้าเฟิ่งหนีออกไปจากสายตาจงหวีฉวนแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังตามหาเธออยู่ แค่หาต้าเฟิ่งให้เจอ เชื่อว่าคุณจะได้พ้นข้อกล่าวหา” เย่เชินหลินเชื่อว่าต้าเฟิ่งจะบอกสถานการณ์กับเขา เขาต้องรีบดำเนินการตามหาต้าเฟิ่งให้เจอ
เซี่ยชีหรั่นได้ยินคำพูดของเย่เชินหลินแล้วไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร จุ๊บเย่เชินหลินเบาๆ จุ๊บแล้วรีบหันศีรษะหันหลังให้เย่เชินหลิน เห็นเสื้อผ้าทั้งคู่นอนอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบๆ เสื้อผ้า ต้องบอกเรื่องนี้กับหลิน
เซี่ยชีหรั่นเข้าไปใกล้หูเย่เชินหลินอย่างลับๆ และพูดขึ้นเสียงเบา “หลิน เสื้อผ้านั้นไม่ใช่ของฉัน” เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำเธอมันคลุมเครือแค่ไหน ยั่วยวนแค่ไหน
เย่เชินหลินไม่เข้าใจชั่วขณะหนึ่งว่าเซี่ยชีหรั่นหมายถึงอะไร เลิกคิ้วมองเซี่ยชีหรั่นอย่างสงสัย
“เสื้อผ้าในที่เกิดเหตุไม่ใช่ของฉัน เสื้อผ้าฉันมีเครื่องหมาย เสื้อผ้านั้นไม่ใช่ของฉัน” เซี่ยชีหรั่นตรวจสอบอีกครั้ง นึกถึงคำว่าหลินเล็กๆ นั้น หัวใจก็เต็มไปด้วยความสุข
เจ้าชายมองออกว่าดวงตาเล็กของเซี่ยชีหรั่นเป็นประกาย สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือลำคอที่น่าดึงดูด ต้องจูบสักทีไหม? เจ้าชายเป็นนักปฏิบัติการมาโดยตลอด แค่ห่างกันเซนติเมตรเดียว
ความปรารถนายังไม่บรรลุ โทรศัพท์ก็ส่งเสียงดังมีสายเข้า
เซี่ยชีหรั่นใช้ปากส่งสัญญาณบอกเย่เชินหลินว่ามีสายเข้า เย่เชินหลินทำหน้าบึ้งตึง หยิบโทรศัพท์มา ทางที่ดีต้องเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นรอโดนได้เลย
และใช่ เจ้าชายกำลังทำอะไรบางอย่างแล้วโดนขัดจังหวะ ผู้ชายที่ไม่ได้ดั่งใจจะอารมณ์เสียมาก
เซี่ยชีหรั่นยิ้มมองเย่เชินหลิน พยายามลืมอารมณ์เศร้าในช่วงสองสามวันนี้
“ว่ามา มีอะไร” เย่เชินหลินตะโกนเสียงดังขึ้นมาโดยไม่ได้มอง เขาไม่อยากเดินจากเซี่ยชีหรั่นไป รับสายแล้วก็ไม่ยอมปล่อยร่างสวยเหมือนหยกไป
อีกด้านหนึ่งเงียบไปสองสามนาที ก็ค่อยๆ มีสองสามประโยคดังเข้ามา
“เย่เชินหลิน ฉันเอง โม่เสี่ยวจุน”
เซี่ยชีหรั่นได้กลิ่นหอมละมุนความเป็นชายของเย่เชินหลินอย่างชัดเจน และได้ยินเสียงคุ้นเคยที่ปลายสายอยู่แล้ว เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นในอ้อมแขนอย่างระมัดระวัง ยกมุมปากขึ้นแรงๆ ถามอย่างสงบนิ่ง “นายเองเหรอ มีเรื่องอะไร? ไม่มีจะวางแล้ว”
พูดกระชับจริงๆ เพิ่มอีกคำเดียวก็ไม่พูด เผชิญหน้ากับศัตรูหัวใจต้องระวัง เจ้าชายไม่อยากให้ผู้ชายที่เคยอยู่ในใจเซี่ยชีหรั่นมีช่องว่างเริ่มต้นได้ คนพวกนั้นที่คอยสอนไห่ฉิงฉิงให้จับโม่เสี่ยวจุนไว้ ดูเหมือนจะต้องฝึกอบรมให้มากกว่านี้
“อย่าว่าง ฉันอยากถามว่าถ้าติดตามจงหวีฉวนจะหาเบาะแสได้ไหม”
“ได้ ติดตามระวังอย่าให้จับได้ล่ะ” เย่เชินหลินพูดแล้วก็วางสาย ต้าเฟิ่งหายไป จงหวีฉวนต้องตามหาแน่ๆ ถ้าหาต้าเฟิ่งเจอเขาต้องไปพบกับต้าเฟิ่งแน่ๆ ถ้าเขากับต้าเฟิ่งเจอกันจะมีปัญหาเกิดขึ้น
โม่เสี่ยวจุนมองโทรศัพท์ที่วางสายเงียบๆ ตั้งแต่คราวที่มารวมตัวกันที่บ้านเซี่ยชีหรั่นก็ไม่คิดถึงอะไรทั้งนั้น ทั้งวันเอาแต่คิดถึงคนที่เกี่ยวข้องกับคดี
โม่เสี่ยวจุนเปิดคอมพิวเตอร์ดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องที่เย่เชินหลินให้มา เริ่มคิดทุกคนและทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกัน แต่ความจริงมีช่องโหว่มากมาย ศาลให้ความสำคัญกับพยานหลักฐาน ดูเหมือนจำเป็นต้องติดตามจงหวีฉวนอย่างยิ่ง
ตอนหกโมงเย็น ออดดังขึ้น โม่เสี่ยวจุนสงสัยว่าใครมาหาเขาเวลานี้?
โม่เสี่ยวจุนปิดคอมพิวเตอร์ก่อน เดินไปข้างประตูเบาๆ
“เสี่ยวจุน ฉันเอง ออกมาเที่ยวกัน” ไห่ฉิงฉิงยืนยิ้มอยู่นอกประตู สวมเสื้อโค้ตขนสัตว์ตัวหนา สวมหมวกหนา สองมือก็ห่อด้วยถุงมือสีชมพู
ช่วงนี้โม่เสี่ยวจุนยุ่งกับเรื่องเซี่ยชีหรั่น แทบไม่มีเวลาอยู่กับไห่ฉิงฉิง รู้สึกผิดในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เห็นแววตาคาดหวังของไห่ฉิงฉิง หัวใจก็ทนไม่ได้ พยักหน้าตอบตกลงคำขอของไห่ฉิงฉิง
โม่เสี่ยวจุนดึงไห่ฉิงฉิง พูดขึ้นด้วยความจริงใจ “ฉิงฉิง รอฉันสองสามนาทีนะ”
Comments