สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน 972 สาวใช้ตัวแสบ 876
ตอนที่ 972 สาวใช้ตัวแสบ 876
พอส้งซูหาวได้ยินคำพูดของเย่เชินหลิน ใบหน้าเขาไม่ได้เปลี่ยนสีมากนัก แต่ในใจก็ค่อนข้างกังวล เขาก้าวเล็กๆ เดินไปหาเย่เชินหลิน ดวงตาสำรวจรอบๆ
“นายไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีเซี่ยชีหรั่นไง! ” ส้งซูหาวพูดแดกดัน เขาอยากเห็นท่าทางเย่เชินหลินตื่นตระหนกจริงๆ ถ้าไม่ใช่เย่เชินหลิน เขาคงไม่เป็นแบบตอนนี้
เย่เชินหลินไม่หักล้างสิ่งที่ส้งซูหาวพูดเช่นกัน เขาดึงเย่เชินหลินมาอยู่ด้านหลัง ค่อยๆ ถอยอย่างช้าๆ เมื่อครู่นี้เขาฉวยโอกาสกดข้อความส่งหาคนเหล่านั้นแล้ว เชื่อว่าเมื่อคนเหล่านั้นเห็นข้อความที่เป็นเอกลักษณ์แล้วจะติดตามแหล่งที่อยู่ได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ยืดเวลาได้หนึ่งนาทีก็ยังดี
เซี่ยชีหรั่นได้ยินสิ่งที่ส้งซูหาวพูดจบก็เป็นกังวล เธอดึงเสื้อผ้าเย่เชินหลินแน่น จากนั้นก็ปล่อย เธอคิดในใจว่าในเมื่อมันเป็นแบบนี้ เธอก็จะอยู่กับเขา
“ส้งซูหาวกลุ่มคนพวกแกจัดการพวกเราสองคน นายไม่หน้าด้านเหรอ? ” เซี่ยชีหรั่นไม่คิดว่าส้งซูหาวได้ยินหลักการของเธอแล้วจะปล่อยโอกาสตรงหน้าทิ้งไป เธอรู้ดีว่าตอนนี้เย่เชินหลินกำลังหาโอกาส สิ่งที่เธอทำได้คือยืดเยื้อเวลา
ส้งซูหาวมองไปที่เซี่ยชีหรั่น เขายิ้มอย่างผู้ดี “เซี่ยชีหรั่น ฉันคิดถึงรสชาติเธอ ไม่งั้นตอนนี้เธอมากับฉันสิแล้วฉันจะปล่อยเย่เชินหลินไป”
“แกมันไร้ยางอาย” เซี่ยชีหรั่นสบถคำที่ไม่มากเกินไป ตาโตของเธอจ้องเขม็งส้งซูหาว เหมือนจะกินส้งซูหาว
เย่เชินหลินตอนแรกเห็นแก่สถานะของส้งหลิงหลิงเลยจะให้บทเรียนนิดหน่อยกับส้งซูหาว ส้งซูหาวไม่ควรแตะต้องต่อมโมโหของเขา เซี่ยชีหรั่นคือต่อมโมโหของเขา
“แกจะได้ชดใช้ในสิ่งที่แกพูดออกมา” เย่เชินหลินพูดจบก็ถอดเสื้อโค้ตออก พับแขนเสื้อขึ้น การกระทำอันธพาลนี้เย่เชินหลินทำออกมาแล้วสง่างามอย่างบอกไม่ถูก เขาจูบหน้าผากเซี่ยชีหรั่นแล้วเอ่ยกระซิบเบาๆ “ไปหาที่ปลอดภัยและดูแลตัวเองให้ดี” ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะมาไม่ได้สักพักหนึ่ง เย่เชินหลินทำได้เพียงออกรบด้วยตัวเองก่อน
ไม่รอให้เขาลงมือ กลุ่มชายชุดดำก็ออกมาทันที พวกเขาพุ่งตรงไปที่ส้งซูหาวและคนด้านหลังมัน ทุบตีคนเหล่านั้นด้วยท่าทางมีอำนาจ ส้งซูหาวเห็นว่าเป็นแบบนี้ก็วิ่งหนี ยังไม่ทันวิ่งออกไปได้สักก้าวก็มีสี่คนมาล้อมรอบกาย คนพวกนั้นมองไปที่แววตาเย่เชินหลิน ไม่ได้ซัดส้งซูหาว
“ส้งซูหาว บางคนไม่ใช่อย่างที่แกคิด แกจำไว้นะอย่ายุ่งกับคนที่ไม่ควรยุ่ง แกต้องชดใช้” เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นฝังไว้ในอ้อมกอด ไม่ให้เธอดูฉากนองเลือดเหล่านี้ “อย่าฆ่าให้ตายก็พอ” เย่เชินหลินพูดจบก็อุ้มเซี่ยชีหรั่นออกไป
คนเหล่านั้นเข้าใจว่าเย่เชินหลินหมายถึงใคร พวกเขาพยักหน้าและเริ่มทำงาน
“เชินหลิน ฉันอยากกลับบ้าน” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงเบา เมื่อครู่นี้เธอวิ่งเร็วเกินไป ปวดท้องนิดหน่อย
เย่เชินหลินพอได้ยินเสียงเซี่ยชีหรั่นก็มองใบหน้าเธอ ใบหน้าเล็กเซี่ยชีหรั่นซีดเซียว ไร้ร่องรอยความโกรธ
“ชีหรั่น คุณเป็นอะไร” เย่เชินหลินพูดอย่างกังวล เขาจ้องส้งซูหาวที่อยู่ไม่ไกล ในใจแอบพูดเงียบๆ อยู่ตลอด “ส้งซูหาว ชีหรั่นอย่าเป็นอะไรนะ ไม่งั้นฉันจะให้แกได้รู้ว่าผลที่ตามมาไม่ใช่อย่างที่แกคิด”
เขากอดเซี่ยชีหรั่นแน่น หยิบโทรศัพท์ออกมาโทร ไม่กี่นาทีรถคันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
“รีบไปที่ที่มีแพทย์ให้เร็วที่สุด” เย่เชินหลินพูดอย่างกังวล เขาอุ้มเซี่ยชีหรั่นแล้วเข้าไปในรถ ชีหรั่น คุณต้องทนไว้นะ เร็วๆ นี้
“เชินหลิน ฉันปวดท้อง” เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างหวาดกลัว เธอกลัวจริงๆ เด็กคนนี้มาด้วยความยากลำบาก เธอไม่อยากเสียเขาไป พอคิดว่าถ้าสูญเสียเด็กไป เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าโลกทั้งใบพังทลาย เธอกอดเย่เชินหลินแน่น มือก็หยิกแขนเย่เชินหลินอยู่ตลอดเวลา ถึงเย่เชินหลินจะเจ็บแต่ก็ไม่ได้เตือนเซี่ยชีหรั่น
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” เย่เชินหลินตบบ่าเซี่ยชีหรั่น จริงๆ ในใจเขาก็กังวลสุดขีด เมื่อเห็นใบหน้าเล็กเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็บอกตัวเองว่าอย่าให้เธอเห็นว่าเขาก็หวาดกลัวเช่นกัน ตอนนี้เธอพึ่งพาเขาได้เท่านั้น
ไม่นาน เซี่ยชีหรั่นก็ถูกพาไปที่อาคารใหญ่แปลกตาแห่งหนึ่ง เธอยังไม่ทันพูดอะไรสักประโยคก็สลบไปเลย
“เจ้านาย” ชายชุดดำคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงเบา
“นายต้องรักษาเธอไว้ให้ได้ ลูกด้วย” เย่เชินหลินติดต่อจากสถานการณ์เมื่อครู่นี้ เดาว่าเซี่ยชีหรั่นสั่นสะเทือนทารกในครรภ์ระหว่างการวิ่งหนี เมื่อพูดถึงเด็กเขาค่อนข้างลังเล เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นชอบเด็กคนนี้ แต่เย่เชินหลินรู้ว่าภายใต้สถานการณ์พิเศษเขาอยากมีเซี่ยชีหรั่น ถ้าไม่มีเด็กจริงๆ พวกเขาก็สามารถรับเลี้ยงได้
เมื่อเซี่ยชีหรั่นฟื้นขึ้นมาทั้งร่างก็ไร้เรี่ยวแรง เธอนอนบนเตียงใหญ่หรูหรา รอบข้างสงบมาก! เมื่อเย่เชินหลินเห็นเธอตื่นขึ้นมาแล้วก็ถามอย่างเป็นห่วง “ที่รัก เป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ เชินหลิน ฉันเป็นอะไรไป ทำไมฉันปวดท้อง หรือว่า” เธอไม่กล้าพูดประโยคถัดไป กลัวที่จะได้ยินคำตอบที่ไม่อยากได้ยิน
“ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” เย่เชินหลินลูบใบหน้าที่ไม่ค่อยมีสีของเธออย่างปลอบโยน
เซี่ยชีหรั่นได้ยินว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดีก็พยักหน้าอย่างสบายใจ สงบได้ไม่กี่วินาทีเซี่ยชีหรั่นก็เขย่ามือเย่เชินหลินแล้วเอ่ยถาม “เชินหลิน ลูกล่ะ? ” เธอมองเย่เชินหลินอย่างหวาดกลัว กลัวได้ยินอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอกลัวจากปากของเขา เธอยื่นมือเล็กออกมากุมมือเย่เชินหลิน เธอวิ่งนาน พอนึกถึงที่เธอวิ่งไม่คิดชีวิต โอกาสรอดของเด็กมีน้อยมาก เซี่ยชีหรั่นน้ำตาไหลลงมาอย่างช้าๆ สองข้างทาง เธอแอบตำหนิตัวเอง ถ้าไม่ได้ออกมาเที่ยวเธอคงไม่เจอกับส้งซูหาว ถ้าไม่มีส้งซูหาวตอนนี้ลูกก็จะไม่เป็นอะไร
เซี่ยชีหรั่นยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่ เธอมองเย่เชินหลินด้วยน้ำตา ส่ายศีรษะตลอดเวลา
“ยัยทึ่ม คุณทำไมโง่แบบนี้ ฉันจะให้ลูกตัวเองเป็นอะไรได้ยังไงล่ะ” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่ร้องไห้ หัวใจเขาค่อยๆ สงสารขึ้นมา เขาไม่อยากเห็นที่รักของเขาเสียน้ำตา เธอน้ำตาไหลหนึ่งหยด หัวใจเขาก็เจ็บหนึ่งครั้ง
ประโยคนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นเบนสายตาขึ้นมาได้สำเร็จ ในดวงตาเธอมีความหวัง มองเย่เชินหลินด้วยความหวาดกลัว
“ยัยทึ่ม ไม่ต้องร้องแล้ว น้ำตาไหลไม่สวยนะ ลูกไม่เป็นอะไร คุณนอนมาสามวันแล้ว” เย่เชินหลินยื่นมือออกไปลูบน้ำตาที่ขอบตาเธออย่างระมัดระวัง ท่าทางสง่างาม เป็นห่วงโดยไม่พูดอะไร
เซี่ยชีหรั่นพิงเย่เชินหลิน ในขณะนี้เธอมีความสุขมากกว่าสิ่งใด ลูกเธอไม่เป็นอะไร นี่คือข่าวดีที่สุด
“เชินหลิน พรุ่งนี้เราไปเยี่ยมพวกคุณแม่กันดีไหม” เซี่ยชีหรั่นคิดว่าไม่ได้เจอผู้อาวุโสสองครอบครัวนานแล้ว ครั้งนี้รอดภัยพิบัติครั้งใหญ่มาเธออยากไปเยี่ยมจริงๆ เธอเขย่าแขนเสื้อเย่เชินหลิน ขอความยินยอมจากเขา พอนึกถึงส้งซูหาว เซี่ยชีหรั่นก็สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
“ได้ เอาตามที่คุณว่า” เย่เชินหลินก็อยากเยี่ยมฝู้เฟิ่งหยีเหมือนกัน
เซี่ยชีหรั่นได้ยินเย่เชินหลินตอบตกลงก็มีความสุขมาก เธอคิดถึงจิ่วจิ่วมาก มาที่นี่นานไม่ได้เจอจิ่วจิ่วเลย เธออยากไปเจอเธอ
เย่เชินหลินเป็นนักกิจกรรมมาตลอด ตอนนี้คือต้นฤดูร้อน อากาศยังไม่ค่อยร้อนมาก เย่เชินหลินคิดแล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าเซี่ยชีหรั่น หยิบเสื้อโค้ตตัวบางหนึ่งตัวให้เธอสวม และจัดเสื้อผ้าให้เซี่ยชีหรั่นอย่างเอาใจใส่ ท่าทางละเอียดรอบคอบมาก
เย่เชินหลินประคองเซี่ยชีหรั่นเข้าไปในรถอย่างระมัดระวัง เซี่ยอี้ชิงลดความเร็วลง
ทั้งสองมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่ก่อน พ่อบ้านพอได้รับสายจากเย่เชินหลินก็ไม่สนสิ่งที่ทำอยู่ สั่งให้สาวใช้เตรียมตัวต้อนรับคุณเย่ เซี่ยชีหรั่นแทบรอไม่ไหวหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาจิ่วจิ่ว
พอจิ่วจิ่วได้ยินว่าชีหรั่นมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเย่แล้ว เธอดึงเหยนชิงเหยียนไม่ไปซื้อของแล้ว รีบวิ่งออกมา
“เราเอาอะไรไปให้ชีหรั่นดี? หรือซื้อเสื้อผ้าให้เด็กดี” จิ่วจิ่วพูดสะเปะสะปะ เธอเตรียมจะวิ่งเข้าไปอีกครั้ง
“ไม่ต้องรีบ เด็กยังไม่ทันคลอดเลย” เหยนชิงเหยียนดึงจิ่วจิ่วไว้ เขาคิดว่าควรซื้ออะไรกลับไปดี
“งั้นเราเอาอะไรดีล่ะ?” จิ่วจิ่วมองเหยนชิงเหยียนอย่างทำอะไรไม่ถูก
“เอาของที่แม่ชอบไป เอาของที่ชีหรั่นชอบไป” เหยนชิงเหยียนคิดแล้วพูดแนะนำ จิ่วจิ่วพอได้ยินก็พยักหน้าดึงมือเหยนชิงเหยียนเดินไปที่ห้าง
ฝู้เฟิ่งหยีเพิ่งกลับมาจากบ้านไห่ฉิงฉิง พอเธอได้ยินพ่อบ้านพูดว่าเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นมาในใจก็มีความสุขมาก
“ชีหรั่น รู้สึกยังไงบ้าง มีลูกแล้วเหนื่อยไหม” ฝู้เฟิ่งหยีจับเซี่ยชีหรั่นไว้แล้วมองสำรวจ เซี่ยชีหรั่นสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เด็กยังเผยออกมาเล็กน้อย ฝู้เฟิ่งหยีมุมปากยกขึ้นตลอดเวลา ใครๆ ก็มองออกว่าวันนี้คุณนางเย่มีความสุขมาก
“แม่ ฉันไม่เป็นไรค่ะ” เซี่ยชีหรั่นยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น เธอมองฝู้เฟิ่งหยีด้วยความเขินอายนิดหน่อย มีลูกให้กับคนที่ตัวเองรัก เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคน ลูกคือสิ่งที่ตกผลึกกับความรักพวกเขา เธอคิดถึงตรงนี้แล้วก็หันศีรษะไปมองเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินเข้ามาก็ไม่ใช่คนโปรดของฝู้เฟิ่งหยีอีกต่อไป ฝู้เฟิ่งหยีเหมือนไม่เห็นเขา ลูกชายคนนี้ ดึงเซี่ยชีหรั่นมาถามนู่นนี่อยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งเขาเคยสงสัยว่าเขาเป็นลูกชายของจ้าวเหวินอิง ส่วนชีหรั่นเป็นลูกสาวแท้ๆ ของแม่เขา
เห็นสายตาเซี่ยชีหรั่นที่หันมา เย่เชินหลินก็ยิ้มให้แม่สามีและลูกสะใภ้สองคน
“ชีหรั่น ได้ยินว่าเธอมา” จิ่วจิ่วเสียงดังขึ้นก่อนตัวจะมา เธอวิ่งเข้ามาเหมือนกระต่าย เหยนชิงเหยียนยิ้มอย่างหมดหนทางอยู่ด้านหลัง
เห็นฝู้เฟิ่งหยีจิ่วจิ่วก็แลบลิ้นให้กับเซี่ยชีหรั่น พูดขึ้นอย่างกระอักกระอ่วน “คุณนางเย่”
“แม่” เหยนชิงเหยียนพูดด้วยเสียงอ่อนโยน เย่เชินหลินพยักหน้าให้กับเหยนชิงเหยียน ไม่ได้พูดอะไร เขาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไร เจอน้องชายตัวเองแล้วเหมือนไม่ดีใจอย่างที่คิดไว้
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นท่าทางจิ่วจิ่ว รู้ว่าสาวน้อยคนนี้อยากคุยกับเซี่ยชีหรั่น เธอยิ้มแล้วพูดขึ้น “มาๆ ชีหรั่นเธอกับจิ่วจิ่วไปรำลึกความหลังกันก่อน ไม่เจอเธอนาน เธอรู้ไหมว่าสาวน้อยคนนี้พูดถึงเธอทุกวัน” จิ่วจิ่วพอได้ยินก็แลบลิ้นอีกครั้ง เธอทำหน้าผีใส่เซี่ยชีหรั่น
จิ่วจิ่วมองฝู้เฟิ่งหยีอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ดึงเซี่ยชีหรั่นวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างหน้าไม่อาย
“ชีหรั่น ฉันขอดูลูกหน่อย” จิ่วจิ่วยื่นมือจะดึงเสื้อผ้าเซี่ยชีหรั่น
“ดูเธอกังวลกว่าฉันอีกนะ” เซี่ยชีหรั่นจับมือที่วุ่นวายของจิ่วจิ่วไว้แล้วพูดขึ้น “เธอดึงเสื้อผ้าฉันไปก็ไม่มีประโยชน์”
จิ่วจิ่วพูดพึมพำ “แต่ฉันเป็นแม่ทูนหัวของเขานะ ไม่กังวลได้ไง” ถึงปากจะพูดแบบนี้ แต่การกระทำที่มือก็หยุดลง เธอเดินวนรอบตัวชีหรั่นสองรอบแล้วเอาหูแนบท้องเซี่ยชีหรั่น เรียกอย่างสวยงามก็คือการได้ใกล้ชิดกับลูกเธอ
Comments