สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 238 โชคร้ายกำลังมา

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 238 โชคร้ายกำลังมา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 238 โชคร้ายกำลังมา

บทที่ 238 โชคร้ายกำลังมา

ไม่เพียงแค่ในมหาสมุทรเท่านั้นที่โกลาหล ฉู่เหินเองก็ไม่ทราบว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หญิงชราผู้ที่เขาเฝ้าสาปแช่งอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้กำลังคิดแผนการอันหื่นกามกับเขาขนาดไหนกันแน่!

หญิงชราคนนี้มีนามสกุลว่าเม่ย ที่แปลว่าเสน่ห์ เหตุผลที่เม่ยซานเหนียงมีเสน่ห์ทางเพศก็เกี่ยวข้องกับนามสกุลของเธอเช่นกัน หลังจากที่รู้ว่าฉู่เหินถูกจับกลับมาที่พรรค เม่ยซานเนี่ยงก็รู้สึกหัวใจสั่นไหวแบบนี้มันไม่ถูกต้อง หลังจากที่เธอเลื่อนระดับมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเธอ

เธอเจ็บปวดที่เห็นฉู่เหินถูกพามาที่นี่แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา เธอปิดด่านเงียบๆ อยู่ภายในห้องของเธอ เธอคิดว่าเธอน่าจะถูกวางยาพิษแต่หลังตรวจสอบอย่างละเอียด เธอก็พบว่าทุกอย่างเป็นปกติทำให้เธอได้แต่สงสัย

เพื่อความรอบคอบ เธอส่งให้คนของเธอไปจับฉู่เหินไว้ในคุกน้ำหลังจากนั้นไม่กี่วันเธอจะแอบเข้าไปหาเขา เธอเลยต้องประกาศบอกว่าเธอกำลังปิดด่านฝึกวิชา!

เธอไม่รู้ว่าทำไมหัวใจเธอถึงสั่นไหว เมื่อฝึกมาถึงขั้นนี้แล้วถ้าร่างกายผิดปกติเธอจะต้องรู้สึกตัวทันที แต่เธอกลับไม่รู้สึกเลยว่าเธอถูกพิษเล่นงาน อาศัยวรยุทธของเธอมีหรือที่จะโดนลอบวางยาพิษง่ายๆ

เธอพยายามลอบเข้าไปหาเข้า แต่เธอก็ไม่สามารถเข้าไปลึกกว่านี้ได้หลังจากเข้าไปได้สักพัก เธอก็หมดหนทางเธอจึงเดินกลับไปมาในห้องตัวเอง ขณะที่เธอเดินกลับมาเธอรู้สึกถึงอันตราย เธอไม่เชื่อว่าจะมีอะไรสามารถคุกคามชีวิตของเธอได้ภายในพรรคกระบี่แหล่งเทียนซานของเธอเอง แต่เพื่อความรอบคอบเธอจึงกระโดดออกมาจากห้อง

เมื่อเธอออกมาจากห้อง เครื่องบินลำใหญ่ก็กระแทกเข้าไปในห้องที่เธอเพิ่งออกมา แรงกระแทกรุนแรงจนทำให้ห้องทั้งห้องพังพินาศไปภายในทันที จากนั้นก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่วงกว้างกว่าสิบเมตร

เม่ยซานเหนียงลูบหน้าผากของเธอเบาๆ ถ้าเธอออกมาช้ากว่านี้เกรงว่าร่างของเธอคงถูกฝั่งอยู่ใต้เครื่องบินไปแล้ว หากเธอต้องเผชิญกับแรงระเบิดที่รุนแรงขนาดนี้ ไม่ว่าเธอจะมีความสามารถแค่ไหนก็ไม่มีทางรอดได้เลย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจเบาๆ

ในขณะที่เธอกำลังรู้สึกว่าเธอโชคดี ทันใดนั้นก็มีบางอย่างหล่นลงมาและคลุมตัวเธอไว้ เธอรีบฉีกมันออกในทันทีและในที่สุดชั้นผ้าที่คลุมตัวเธอก็ขาดออก จากนั้นเธอก็เห็นว่ามันคือร่มชูชีพและด้านในร่มชูชีพก็มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ในนั้น

เม่ยซานเหนียงก็เข้าใจ ผู้ชายคนนี้คงจะเป็นนักบิน เธอไม่รู้ว่าทำไมเครื่องบินถึงตก แต่เธอคิดว่าคงมีผู้เสียชีวิตหลายคนในเครื่องส่วนชายคนนี้ก็รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะโดดลงมา

เธอโกรธมากจนเกือบจะฆ่าผู้ชายคนนี้ ต้องเข้าใจว่าในห้องของเธอ มีทั้งวัตถุโบราณที่ประเมินค่าไม่ได้อยู่มากมาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของวิเศษที่มีค่าต่อการฝึกฝนอีกหลายอย่าง ด้วยแรงระเบิดเกรงว่าคงถูกเผาทำลายไปหมดแล้วแค่คิดเธอก็อยากจะร้องไห้ออกมา

เธอเดินไปมาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ไม่นานก็มีผู้ชายสิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็ว “หัวหน้าบอกให้ท่านไปหา”

หลังจากได้ยินคำเหล่านี้ เม่ยซานเหนียงก็ได้สติจากความตกใจ หลังจากได้ยินว่าอาจารย์เรียก เธอก็หันหลังและมุ่งหน้าไปทางห้องโถงของพรรค ส่วนนักบินที่ได้รับบาดเจ็บแน่นอนว่ามีคนดูแลเขาแทนอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเม่ยซานเหนียงจะเกลียดอีกฝ่ายจนแทบอยากจะกินเนื้อเขาทั้งเป็น แต่เธอต้องไปหาอาจารย์ของเธอก่อน

ในห้องโถง

“น้องหญิง เธอมาแล้ว เร็วนั่งลงก่อนสิ มีบางอย่างที่จะต้องคุยกับเธอน่ะ” เมื่อเห็นศิษย์พี่ที่ปกติจะนิ่งไม่ค่อยพูด พูดออกมาเธอก็ขมวดคิ้วอย่างฉับพลัน เม่ยซานเหนียง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นกับท่านอาจารย์? ท่านพี่ถึงกับได้รีบร้อนเรียกฉันมากัน”

เม่ยซานเหนียงขมวดคิ้วมองดูศิษย์พี่ของเธออย่างไม่เชื่อถือ จริงๆแล้วแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาศิษย์พี่คนนี้ไม่เคยจะร้อนรนอะไรกับใครเขา เขาเป็นคนที่มีนิสัยใจเย็นจนน่ากลัว วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ

“เมื่อไม่นานมานี้มีกองกำลังที่ทรงพลังปรากฏตัวในทะเลทราย มันไม่สำคัญกับพวกเราก็จริง ยังไงซะพวกเขาก็อยู่ห่างกับเรามาก แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาช่องการขนส่งของพวกเราถูกปล้นระหว่างทางผ่านในทะเลทราย สินค้าที่ขนส่งในครั้งนี้เป็นผลไม้วิญญาณแปลกๆ สองอย่าง ผลไม้วิญญาณแปลกๆ ทั้งสองนี้อาจช่วยในเรื่องการบ่มเพาะของเธอ แต่ … ”

“ตอนนี้ฉันไม่มีวิธีอื่น ฉันอยากจะเอามันกลับคืนมาจากกองกำลังนั้น การจะพึ่งพาศิษย์น้องให้ออกไปเอามันมาก็ดูจะยากเกินไป ดังนั้นฉันเลยให้ศิษย์คนสนิทไปดูให้แล้ว เพราะมันเรื่องใหญ่มากที่มีคนมาโจมตีเราแบบนี้” พี่ชายใหญ่คิดอยู่พักหนึ่งและบอกสาเหตุของเรื่อง

หลังจากที่เม่ยซานเหนียงได้ฟัง จิตสังหารก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเธอ เกือบกว่าพันปีแล้วที่พรรคกระบี่แห่งเทียนซานของพวกเขาไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้ เธอไม่คาดคิดเลยว่าตอนนี้จะมีกองกำลังไร้นามออกมาปล้นสิ่งของของพวกเธอ พวกมันช่างรนหาที่ตายจริงๆ

“ใจเย็นศิษย์พี่ ปล่อยให้ฉันจัดการเอง ฉันอยากจะดูว่ากลุ่มนี้มันจะทำอะไรกันแน่ พวกมันคิดว่าพวกมันสามารถทำอะไรก็ได้ที่พวกมันต้องการงั้นเหรอ เพียงแค่เพราะมีคนเก่งแค่ไม่กี่คนก็กล้าหาญท้าทายสวรรค์? ฉันจะทำให้พวกมันรู้ตัวว่ากำลังพลของพวกเราที่มีมานานกว่าสหัสวรรษไม่ใช่สิ่งที่มดตัวเล็กๆ อย่างพวกมันจะมาเทียบได้”

หลังจากฟังคำพูดของเม่ยซานเหนียง ศิษย์พี่ก็มองเธออย่างเป็นห่วง แต่เขาก็โบกมือให้เธอ เม่ยซานเหนียงจากไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วเท่ากับเสียง แม้แต่รถยี่ห้อดังที่วิ่งด้วยความเร็วสูงก็ไม่สามารถตามเธอได้ทัน ระดับความเร็วขนาดนี้ราวกับสัตว์ประหลาดยากจะมีใครเทียบได้

เพียงชั่วพริบตาเธอก็ออกมาจากภูเขาเทียนซานมา แต่ก่อนที่เธอจะไปถึงทะเลทราย เธอก็หยุดลงที่แม่น้ำสายใหญ่ด้านหน้า ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอที่จะข้ามแม่น้ำไปได้อย่างง่ายๆ ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจ เธอจึงวิ่งข้ามมันไปตรงๆ

ทันทีที่เธอมาถึงกลางแม่น้ำ เธอก็รู้สึกขากระตุกเหมือนขาจะเป็นตะคริว ทำให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ จากนั้นเธอก็ค่อยๆจมลงไปช้าๆ

อุณหภูมิในน้ำค่อนข้างอุ่น แม้ว่าจะตกลงไปในน้ำมันก็ไม่มีอะไรต่างจากน้ำใช้อาบ แต่น้ำในแม่น้ำสายนี้ไหวเชี่ยวมากแต่ขาของเธอจู่ๆก็ไม่ปกติหลังจากตกลงไปในน้ำแล้วเธอก็รีบว่ายไปที่ริมแม่น้ำอย่างรวดเร็ว ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถ ในที่สุดเธอก็จับก้อนหินเอาไว้ได้ ทำให้เธอมีที่ยึดที่มั่นคงได้

เธอกำลังปีนขึ้นฝั่งด้วยหินที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ในตอนนั้นเองมีงูตัวใหญ่กว่าสองเมตรนอนอยู่บนพื้นหญ้าริมฝั่งแม่น้ำ แต่เธอไม่เห็นมันเธอเลยปีนขึ้น มาจากแม่น้ำแล้วเธอนอนลงเพื่อสูดลมหายใจ งูพิษก็พุ่งเข้ามากัดข้อเท้าของเธอในทันที!

เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่าวันนี้ทำไมช่างโชคร้ายอย่างนี้นะ ห้องของเธอก็เพิ่งถูกเครื่องบินทำลายโดยไม่มีเหตุผล และตอนนี้กลับเธอหล่นลงในแม่น้ำและถูกงูพิษกัดอีก นี่มันทำให้เธอพูดไม่ออก

เธอโยนก้อนหินและฆ่างูพิษที่กัดตัวเอง จากนั้นก็นั่งลงขัดสมาธิอย่างรวดเร็วและเริ่มบังคับพิษออก ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเธอมันไม่ยากที่จะขับพิษออกมา หลังจากพลังของเก้าบรรจบหมดลง ในที่สุดเธอก็พยายามจะลุกขึ้นและทำภารกิจต่อ แต่ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าโลกทั้งใบสั่นไหวอย่างแรง

“มารดาเถอะ แผ่นดินไหว!” เม่ยซานเหนียงรู้สึกไม่อยากพูดอะไรมากกับโชคของเธอ เพราะมันน่าอึดอัดใจมากเกินไป หรือว่าเธอไม่ได้ดูปฏิทินจันทรคติก่อนออกจากบ้านกัน! ซวยเกินไปแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด