สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 250 ชนหมัด

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 250 ชนหมัด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 250 ชนหมัด

บทที่ 250 ชนหมัด

ผู้ชายที่ไม่ใส่หน้ากากและไม่ปลอมตัวเลยแม้แต่น้อย บุคคลเช่นนี้อาจไม่ได้ดีเลิศแต่นับว่าจริงใจน้อย

“เจ้าคนต่างเผ่า ตั้งแต่ที่เจ้าตัดสินใจมายืนอยู่บนสังเวียนก็หมายความว่าเจ้าไม่สามารถถอยออกไปได้ ถ้าเจ้าไม่สามารถล้มพวกเขาลงเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเจ้ามีอีกทางเลือกนั้นก็คือตาย!!” คนที่ยืนอยู่นอกสนามตะโกนออกมา

“เฮ้ย ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย ไม่ว่าพวกนายจะพูดยังไงฉันก็เป็นแขกนะ อย่างน้อยพวกนายก็น่าจะต้อนรับฉันหน่อยสิ ฉันไม่ขอให้พวกนายเตรียมงานเลี้ยงสุดหรูเพื่อต้อนรับฉัน ฉันแค่หวังว่าพวกนายจะรีบถอยให้ฉันออกไปข้างนอกได้ซะที การต่อสู้แบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนฉลาดอย่างฉันอยากจะทำสักเท่าไร”

หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหินสายตาของทุกคนก็ยิ่งแปลกไป แต่ครั้งนี้ทุกคนมองหน้ากันและไม่ได้พูดอะไรมากภายในดวงตาของผู้เล่นทั้งสองบนสังเวียนนั้นมีความโกรธเจื่อปนอยู่เล็กน้อย

“เฮ้ เจ้าหมายความว่าอะไรหรือว่าเจ้ากำลังสบประมาทพวกข้าสองคนอยู่” จาผีเอ้อรู้สึกโกรธมากไม่เคยมีใครกล้าสบประมาทเขามาก่อน ต้องเข้าใจว่าในด้านการต่อสู้แบบเดียวเขาไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง แต่การต่อสู้สำหรับพวกเขามันคือสิ่งที่สืบต่อกันมาไม่ใช่การแข่งขันทั่วไป

“แม้อาจนายแข็งแกร่ง แต่ถ้านายอย่ามาลองของนักสู้อย่างนาย ถ้าฉันพร้อมฉันสามารถล้มได้ภายในไม่กี่กระบวนท่าด้วยซ้ำ” ฉู่เหินมอง 2 คนบนเวที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจขณะที่เขาพูดออกมา

“เจ้าชาวต่างเผ่าเจ้าต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ข้าล่ะอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะล้มข้าได้ยังไงภายในไม่กี่กระบวนท่า!” จาผีเอ้อและกู้ปาเทอ มองฉู่เหินราวกับตาจะลุกเป็นไฟ ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขารู้ว่าคนต่างเผ่าต้องการจะสื่ออะไร เกรงว่าพวกเขาคงดวกกันไปไปแล้ว

“ทำไมหรือว่าพวกนายจะยอมแพ้แล้ว ฉันที่ไม่มีอาวุธอะไรเลยคงไปกระตุ้นต่อมอวดดีของพวกนายเข้าสินะ ถ้าฉันมีอาวุธล่ะก็จัดการกับพวกนาย 2 คน มันเป็นเรื่องง่ายดายสุดๆเลยละ” หลังจากพูดจบฉู่เหินก็แสดงท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยามออกมาอย่างรุนแรง

“ชาวต่างเผ่า กล้าหาญเสียจริงนะ ถ้าเจ้ามีความสามารถก็แสดงมันออกมาเสียสิ ถ้าเจ้ามีความสามารถจริง ๆล่ะก็ พวกเราสองคนยินดีรับความพ่ายแพ้”

“ถ้านายทำตามที่ฉันบอก ฉันจะแสดงให้ดูว่าฉันมีวิธีชนะพวกนาย 2 คนใน 1 นาที! ” ฉู่เหินยังคงแสดงสีหน้าภูมิใจบนใบหน้าของเขา

“เจ้าจะให้พวกเราทำอะไร พวกเราถึงจะแพ้ใน 1 นาที?” หลังจากมองหน้ากันพวกเขาต่างก็เห็นความสงสัยในสายตาของกันและกันโดยไม่ต้องพูดคุยอะไร

หลังจากได้ยินสิ่งนี้ฉู่เหินก็เดินไปหาผู้แข่งขัน 2 คนพร้อมรอยยิ้ม ฉู่เหินวงกลมปรากฏล้อมรอบทั้ง 2 ไม่นานผู้ชมก็พูดคุยกับมากกมายจากข้างล่าง ทุกคนเห็นฉู่เหินวาดวงกลมขนาดใหญ่บนพื้น หลังวาดเสร็จแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พวกเขามองวงกลมอย่างจริงจังตามมือของฉู่เหินที่กำลังวาดรูป

“เห็นวงกลมเล็ก ๆ นี้ไหม? ถ้านายเข้าไปในวงกลมนี้ เมื่อฉันบอกให้นายยืนนายก็จะยืนเมื่อฉันบอกจะให้นายนั่ง นายก็ต้องนั่งอย่างเชื่อฟังแน่นอน” ฉู่เหินจ้องมองวงกลมเล็ก ๆ 2 วงที่เขาวาดและพูดกับชายทั้งสอง

จาผีเอ้อและกูปาเทอ วนรอบวงกลมเล็ก ๆ ที่วาดโดยฉู่เหินอยู่สักพักหนึ่ง แต่พวกเขาไม่พบสิ่งใดเป็นพิเศษเลย นี่เป็นวงกลมเล็ก ๆ ธรรมดาไม่ต้องพูดถึงเรื่องมัดตัวของพวกเขาได้เลย แค่ทำให้คันยังไม่ได้ด้วยซ้ำ

“เจ้าจะบอกว่าเจ้าวงกลมเล็ก ๆ นี้มีพลังเวทมนต์งั้นเหรอ พูดยังไงข้าก็ไม่เชื่อ” เมื่อได้ยินจาผีเอ้อพูดกู้ปาเทอก็พยักหน้าเห็นด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็รู้สึกเหมือนกัน

“ในเมื่อพวกนายไม่เชื่อ งั้นพวกเรามาลองทดสอบกันหน่อยเป็นไง” ฉู่เหินยิ้มอย่างไม่ยี่หระ

สิ้นเสียงของฉู่เหิน ทั้งสองก็ผ่ายมือเชิญให้เขาทำได้ตามใจ ตอนนี้พวกเขาทั้งสองต้องการที่จะดูว่าฉู่เหินเขียนอะไรลงในวงกลมนั่น เนื่องจากความมั่นใจของอีกฝ่าย ทำให้พวกเขายิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก วงกลมเล็ก ๆ นี้ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเลย มันทำให้พวกเขาอยากรู้อยากเห็นมาก

ฉู่เหินไม่สนใจพวกเขา เขาโบกมือหยิบเอาสายเหล็กสองเส้นออกจากมาแหวนของเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะผูกสองคนนี้ด้วยเชือกธรรมดา เนื่องจากพลังของฝ่ายตรงข้าม เชือกไม่อาจมัดพวกเขาไว้ได้

อย่างไรก็ตามสายเหล็กนั้นไม่เหมือนกัน สายเหล็กนี้ถูกปรับแต่งเป็นพิเศษ หากคุณใช้มันเพื่อมัดร่างกายเอาไว้ ต่อให้พลังอีกฝ่ายสูงเทียมฟ้าก็ไม่สามารถทำลายได้ง่าย ในขณะที่เห็นสายเหล็ก จาผีเอ้อและกู้ปาเทอก็สั่นจนรู้สึกเลลังขึ้นมา แต่หลังจากครุ่นคิดบางอย่างพวกเขาไม่สนใจมันอีก แม้พลังจะถูกปิดผนึกจนขยับไม่ได้แต่วงกลมเล็ก ๆ นั้นจะทำอะไรพวกเขาได้? พวกเขาไม่ยอมรับวงกลมเล็ก ๆ ที่วาดโดยฉู่เหินหรอก

ฉู่เหินไม่ลังเล เขาหยิบสายเหล็กขึ้นมาและเข้าไปมัดชายทั้งสองโดยไม่พูดอะไร สามทบ ห้าทบและผูกสองเข้าด้วยกัน ฉู่เหินยังคงยิ้มต่อไปแม้มัดพวกเขาไว้แล้ว แต่ปากของพวกเขาก็ยังคงขยับไม่หยุด

“พวกนายนี้มีพลังแต่ไม่มีสมองรึไง จำไว้ความว่าการเป็นคนซื่อตรงเกินไปจะทำให้ถูกเอาเปรียบเอาได้นะ ไอหยาๆ เอาล่ะในเมื่อพวกนายต้องการจะต่อสู้กับฉัน งั้นฉันจะจัดให้” หลังจากพูดจบลงฉู่เหินก็ส่งกำปั้นของเขาต่อยและเตะทั้งสองคนทันที

จาผีเอ้อและผู้ชมหลายพันคนกลายคนเป็นตัวโง่งมในทันที แม้แต่ผู้ตัดสินก็ยังกลายเป็นตัวโง่งม ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้ แต่เดิมทุกคนอยากเห็นความผิดพลาดจากวงกลมเล็กๆ นั้นที่ทำให้ชายที่พูดพร่ำคนนี้ต้องอับอาย

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตาสว่างแล้ว เห็นชัดว่าวงกลมเล็ก ๆ นี้เป็นแค่เหยื่อล่อ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการมัดทั้งสองคนเข้าด้วยกัน หลังจากถูกมัดด้วยสายเหล็ก ทั้งสองก็พยายามโคจรพลังอย่างหนัก ทว่าก็กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วอย่างนี้พวกเขาจะสามารถต้านทานพลังหมัดของฉู่เหินได้อย่างไร

หมัดที่พุ่งเข้ามา ทำให้ชายสองคนที่เดิมทีแสดงท่าทางเย่อหยิ่ง พ่ายแพ้ราวกับหมา พวกเขารู้สึกหงุดหงิดจนอธิบายไม่ได้ตอนนี้พวกเขาก็รู้ตัวแล้วว่าพวกเขาถูกหลอก แต่ในฐานะนักรบการยอมแพ้เช่นนี้มันแย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก

“ต้องให้พวกนายอยากจะยอมแพ้ ก็อย่าเพิ่งพูดมันออกมาเลย เพราะว่าฉันยังอัดไม่สะใจเลยน่ะสิ” หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เหิน ทั้งสองก็พูดไม่ออก พอถูกฉู่เหินมัดออกไว้ก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้พลังดวงดาวได้เลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นที่พึ่งพาเพียงหนึ่งเดียวก็คือความแข็งแกร่งทางกายภาพเท่านั้น ซึ่งนั้นมันเจ็บชะมัดยาก

“ยอมแล้วๆ เจ้าหยุดมือเสียทีเถอะ เรื่องพละกำลังก็ว่าไปอย่าง แต่เรื่องสติปัญญาอย่างไรพวกข้าก็สู้เจ้าไม่ได้จริงๆ” ทั้งสองไม่ได้มีท่าทางขัดขืนเลยแม้แต่นิด กลับพูดออกมาด้วยความจริงใจ

“งั้นพวกนายยังจะสู้กับฉันอยู่ไหม?” ดูเหมือนว่าฉู่เหินไม่ได้ความตั้งใจที่จะยอมแพ้ กำปั้นของเขายกขึ้นสูง ดูเหมือนว่าตราบใดที่อีกฝ่ายยังไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจกับเขา เขาก็สามารถชกต่อยได้ทันที

“ไม่สู้ ไม่สู้ ใครพูดกันว่าเราสองคนเก่งกว่าเจ้า แม้แต่ปัญญาก็ยังห่างไกล วันนี้พวกข้าทั้งสองแพ้แล้วจริงๆ” เมื่อเห็นกำปั้นของฉู่เหินอีกครั้ง รอบต่อมาทั้งสองก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง!

หลังจากฟังคำพูดของทั้งสองคนแล้ว ฉู่เหินก็ไม่ได้พอใจนัก หลังจากบ่นพึมพำเบา ๆ อยู่ในปากของเขา แต่เขาก็รั้งกำปั้นของเขา ยังไงซะที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของเขา หากเขาลงมือหนักเกินไปเกรงว่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากได้ ดังนั้นฉู่เหินไม่มีทางอื่นนอกจากปลดสายเหล็กเหล่านั้นออก

หลังจากที่ทั้งสองกลับมามีอิสรภาพ พวกเขาไม่รู้สึกอยากแก้แค้นแม้แต่น้อย พวกเขาโค้งคำนับต่อฉู่เหินและนับถือเขาแทน จากนั้นก็หันหลังกลับและเดินออกไปจากสังเวียน ในพริบตาเดียวก็มีเพียงแค่ฉู่เหินที่ยังอยู่บนสังเวียนต่อ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด