สุดยอดชาวประมง (极品小渔民)บทที่ 427 ออกจากฌาน

Now you are reading สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) Chapter บทที่ 427 ออกจากฌาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 427 ออกจากฌาน

บทที่ 427 ออกจากฌาน

เสี่ยวชิงนั้นรู้สึกภูมิใจในตัวของฉู่เหินมาตลอด วันนี้คนที่ตัวเองภูมิใจกลับถูกคนอื่นเหยียบย่ำ เรื่องนี้มันเกินกว่าที่เธอจะรับไหว! ดังนั้นหลังจากที่ฉู่เหินบอกว่าเขาจะกักตนเข้าฌาน เสี่ยวชิงก็ยกสองมือเห็นด้วยทันที

แน่นอนเสี่ยวชิงเข้าใจดีว่าเรื่องนี้จะฝั่งอยู่ในใจ และกลายเป็นรอยแผลของฉู่เหินตลอดไป ถ้าเขาไม่รีบไปช่วยซ่างกวนเสี่ยวฟู๋เร็ว ๆ นี้ล่ะก็ บางทีในอนาคตฉู่เหินอาจจะถูกจิตมารครอบง่ำก็ได้ อีกทั้งหากพูดเรื่องความรู้สึก เขาเองก็ค่อนข้างชอบซ่างกวนเสี่ยวฟู๋เช่นกัน

ตอนนี้หญิงสาวได้แต่รอให้ฉู่เหินออกจากฌานเสียก่อน ครั้งนี้ชายหนุ่มเข้าฌานเพื่อศึกษาค่ายกลจูเซียนเจินโดยเฉพาะ! โดยที่ทางตระกูลฉู่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ! พวกเขาเองก็พากันออกตามหาว่าเทียนไวเทียนมันเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่

ไม่เพียงตระกูลฉู่ที่ทำแบบนี้ แม้แต่พรรคอื่น ๆ เองก็พากันเสาะหาเทียนไวเทียนทั่วทุกสารทิศ เทียนไวเทียนไม่เพียงแต่เป็นสถานที่นอกโลก พลังวรยุทธ์ของพวกเขานั้นสามารถก้าวหน้าได้อีกขั้นหนึ่ง! กลุ่มผู้มีอำนาจต่างก็พากันออกค้นหา ทว่ากลับมีเบาะแสเพียงน้อยนิด

ทางด้านเหนือของมหาสมุทรมีเกาะอยู่แห่งหนึ่งที่ดูแปลกประหลาด หากมองจากภายนอกจะคิดว่าเกาะนี้ไม่ได้มีเนื้อที่ใหญ่อะไรนัก แต่พอพวกเขาได้มาเยือนที่เกาะนี้จริง ๆ ก็จะพบว่าที่นี่นั้นผิดปกติอย่างมาก เพราะทั่วทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะเต็มไปหมด!

หลังจากมาถึงที่นี่ ในใจของพวกเขาทุกคนก็ไม่อาจสงบนิ่งได้เลย เพราะในเกาะแห่งนี้นั้นมียาวิญญาณล่ำค่าเต็มไปหมด! กลุ่มอำนาจนับไม่ถ้วนต่างก็พากันมาที่เกาะโดยหวังจะฮุบดินแดนนี้มาเป็นของตัวเอง ตระกูลฉู่เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พวกเขาเองก็ได้ใช้กำลังยึดที่ดินมาไม่น้อย

เรื่องทั้งหมดที่ว่าเกิดขึ้นไม่ถึงสิบวัน ในที่สุดเกาะอันกว้างใหญ่นี้ก็ถูกผู้มีอำนาจต่าง ๆ ยึดไว้จนหมด มีไม่กี่กลุ่มอำนาจที่สามารถยึดจุดศูนย์กลางของเกาะมาได้ อีกทั้งพวกเขายังได้รับถ้ำที่ค่อนข้างสำคัญมาคนละหนึ่งแห่ง

ตระกูลฉู่เองก็ยึดถ้ำมาได้แห่งหนึ่ง ถ้ำของพวกเขานั้นเป็นถ้ำหินภูเขาไฟ เจ้าหินนี้มีมันมีทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่และก็มีความแปลกประหลาดอย่างมาก ตรงที่มันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง อีกทั้งผิวด้านนอกของก้อนหินจะมีเปลวเพลิงอาบไว้ด้วยอีกชั้นหนึ่ง!

ที่สำคัญคือก้อนหินชนิดนี้นั้นมีความแข็งอย่างมาก ถ้าจะเอามันมาเจียระไนล่ะก็ เครื่องที่ใช้เจียระไนคงต้องเป็นเครื่องมือขั้นเทพเท่านั้นจึงจะสามารถเจียระไนมันได้ สิ่งนี้ทำให้กลุ่มผู้มีอำนาจอื่น ๆ มองพื้นที่ ๆ ตระกูลฉู่ยึดด้วยสายตากระหายอยาก แต่เนื่องจากพวกเขายังหวาดกลัวค่ายกลจูเซียนเจินที่ตระกูลฉู่ครอบครอง ดังนั้นเลยทำได้แค่ถอยออกไป

แน่นอนว่าเจ้าของที่ดินอย่างตระกูลฉู่นั้นได้มาเฝ้าที่ดินตรงนี้ไว้ก่อนแล้ว อีกทั้งมีกลุ่มอำนาจในบริเวณข้างเคียงมายันยืนให้อีกด้วยว่าพวกเขาเป็นเจ้าของ แม้ว่ากลุ่มอำนาจอื่น ๆ จะรู้สึกขัดเคืองใจ แต่ก็ทำได้เพียงแค้นใจตัวเองที่ไม่มาให้เร็วกว่าพวกคนตระกูลฉู่

หลังจากยึดถ้ำมาได้ พวกเขาก็ออกคำสั่งให้คนงานเริ่มทำการขุดเหมืองในทันที จะว่าไปก็แปลก หลังจากหินพวกนี้ถูกขุดออกมา เปลวไฟที่อยู่ด้านนอกก็ดับไปในเวลาสั้น ๆ และแม้ว่าเปลวไฟจะดับไปแล้ว แต่คุณสมบัติดั่งเดิมของหินก็ยังคงไม่เปลี่ยน ยังคงแข็งแกร่งเหมือนเดิม

แน่นอนว่ากลุ่มผู้มีอำนาจอื่น ๆ เองก็ได้ถ้ำที่ไม่เลวมาคนละแห่ง แม้แต่นิกายกิเลนเองก็ยังยึดถ้ำเล็ก ๆ ได้แห่งหนึ่งเช่นกัน! เดิมที่บนเกาะเหมันต์แห่งนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่นิกายอันดับสองจะเหยียบย้ำอยู่ที่นี่ได้!

ด้วยความที่พลังของนิกายกิเลนนั้นค่อนข้างจะแข็งแกร่ง แม้แต่นิกายอันดับหนึ่งมาเห็นก็ยังรู้สึกว่าตัวเองดูถูกอีกฝ่ายเกินไปหน่อยแล้ว ยิ่งบวกกับที่พวกเขาเป็นพันธมิตรกับตระกูลฉู่ด้วยแล้ว นั่นก็ยิ่งทำให้นิกายกิเลนยกสถานะตัวเองขึ้นมาอีกขั้น!

เพียงแต่คนของนิกายกิเลนที่อยู่ในถ้ำนี้ พวกเขาค่อนข้างที่จะซอมซ่อ เนื่องจากเมื่อกี้นิกายกิเลนระเบิดพลังทั้งหมดของตัวเองออกมา ดังนั้นตอนนี้เลยทำได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน! เพราะถ้ำเล็ก ๆ นี้ของพวกเขาเป็นเพียงอุโมงธรรมดาเท่านั้น เจ้าอุโมงค์นี้สำหรับคนธรรมดาแล้ว บางทีอาจจะสามารถทำให้พวกเขาร่ำรวยได้เลยก็ได้ แต่สำหรับผู้ฝึกยุทธแล้ว ของพวกนี้มันไม่มีคุณค่าแม้แต่น้อย!

โชคดีหน่อยที่พื้นที่ของอุโมงค์ที่พวกเขายึดมาได้นี้ก็ไม่ได้เล็กอะไร กระทั้งหากเอาไปเปรียบกับกลุ่มอำนาจบางคนแล้วยังใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ดูจากภายนอกแล้วคล้ายกับว่านิกายกิเลนจะได้รับผลประโยชน์ไม่น้อย แต่มีเพียงแค่บางกลุ่มอำนาจเท่านั้นที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนิกายกิเลนไม่ได้ของดี ๆ อะไรไปเลย!

ด้วยความจนปัญญา นิกายกิเลนเลยต้องทำการขุด! ระหว่างขุดพวกเขาก็พากันพูดปลุกใจตัวเองไปเรื่อย บอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าห้ามหยุดขุดเด็ดขาด บางทีในอุโมงแห่งนี้อาจจะมีของดีแอบซ่อนอยู่ก็ได้!

และแล้วในที่สุดพวกเขาก็เจอเข้ากับก้อนแร่ประหลาด แร่พวกนี้เป็นก้อนหินสีม่วงอ่อน ก้อนหินชนิดนี้ไม่ได้มีความแข็งแรงนัก กระทั่งสามารถใช้มือเดียวกำก็แตกได้แล้ว! แต่ที่ทำให้นิกายกิเลนรู้สึกว่าก้อนแร่เล็กนี้มีมูลค่าไม่ธรรมดาก็คือ เจ้าก้อนหินสิม่วงอ่อนนี้ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่

ถ้าคน ๆ หนึ่งกำลังฝึกฝนพลังอยู่ และถือหินสีม่วงอ่อนนี้ไว้ พวกเขาจะสามารถสัมผัสได้ว่าภายในนั้นมีร่องรอยของพลังธาตุไหลเวียนอยู่ภายใน ถ้ามีก้อนหินเพียงพอ พวกเขาก็จะสามารถนำพลังธาตุนั้น ๆ มาเปลี่ยนเป็นของตัวเองได้ ส่วนถ้าใครมีพลังธาตุอยู่แล้ว คนผู้นั้นก็สามารถใช้ก้อนหินชนิดนี้เพื่อยกระดับพลังธาตุของตัวเองได้

เมื่อเป็นแบบนี้ ก้อนหินสีม่วงอ่อนนี้ถึงได้มีมูลค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ นี้เป็นเหมือนของวิเศษล้ำค่าที่มีแค่ในจินตนาการชัด ๆ เมื่อนิกายกิเลนขุดหินสีม่วงอ่อนเสร็จ พวกเขาก็สั่งให้ปิดปากเงียบ หากมีใครแพร่พรายเรื่องนี้ออกไปก็เท่ากับเป็นการทรยศต่อนิกาย!

ขณะที่ทุกคนกำลังขุดอย่างขะมักเขม้นอยู่นั้น ที่มุมนึงของเกาะก็ได้มีการขุดค้นพบประตูทางเข้าโดยไม่ได้คาดหมาย ทางเข้านี้ราวกับถูกส่งมาจากสวรรค์! เมื่อคนที่รู้เรื่องค่ายกลเข้ามาตรวจสอบ พวกเขาก็พบว่าเจ้าสิ่งนี้สามารถเชื่อมต่อกับโลกด้านนอกได้

หลังได้ยินดังนั้นเหล่าผู้มีอำนาจต่าง ๆ ก็ดีใจ ว่าแล้วก็พากันยกโขยงกันมาศึกษา ทว่าน่าเสียดาย จากการที่ผู้เชี่ยวชาญศึกษาค่ายกลเหล่านี้รอบหนึ่ง พวกเขาก็พบว่าค่ายกลพวกนี้มีระบบควบคุมขนาดใหญ่มาก ก่อนอื่นหากอยากจะใช้ค่ายกลพวกนี้อายุจะต้องไม่เกินหนึ่งร้อยปี ทั้งพลังวรยุทธ์จะต้องมากเกินขั้นปราชญ์ระดับต้น! ซึ่งใครก็ตามที่คิดจะใช้ค่ายกลอันนี้ก็ต้องยึดตามกฎนี้มาเป็นข้อบังคับ

ในการส่งครั้งหนึ่ง ถ้าส่งไปเกินสามสิบคนล่ะก็ น่ากลัวว่าค่ายกลเล็กนี้จะไม่สามารถคงอยู่ได้ไหว พอฟังมาถึงตรงนี้ทุกคนก็เงียบไป มีเพียงสามสิบคน แล้วมันจะไปพอใช้ได้ยังไง?

อีกทั้งตามกฎของค่ายกลนี้ น่ากลัวว่าหนึ่งปีจะสามารถใช้ได้หนึ่งครั้งเท่านั้น เมื่อเป็นแบบนี้ผู้มีอำนาจต่าง ๆ จึงรวมตัวกันเจรจาสิทธิ์ที่จะได้จากค่ายกลนี้! หลังจากหารือกันจนเสียงแหบแห้ง สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปสิทธิ์ในการใช้ค่ายกลนี้จะมอบมันให้เป็นรางวัลในการแข่งขันร้อยนิกายที่จะถึง!

ภายในนั้นต้องมีของดีอยู่มากมายแน่นอน ถ้าสามารถเอาออกมาได้ นิกายของตัวเองก็จะได้รับของดี ๆ ในปริมาณที่ไม่จำกัด และก็เพราะแบบนี้ถึงได้ทำให้เหล่าผู้มีอำนาจหมายมั่นใจ อีกทั้งพวกเขายังมีความรู้สึกคาดหวังว่าโลกแห่งนั้นจะเต็มไปด้วยพืชวิญญาณ เพียงรอให้ลูกหลานของตัวเองไปแล้วเก็บเกี่ยวกลับมา

แม้ในความคิดของพวกเขาฝันหวานไปหน่อย แต่ใครจะไม่ฝันแบบนี้บ้างล่ะ แน่นอนว่ามีบางคนที่คิดเหมือนกันว่าให้พวกนายไปเถอะ พอพวกนายไปแล้วก็ไปตายที่นอกโลกซะ! อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ที่คิดส่วนมากเป็นลูกหลานที่ไม่ค่อยเก่งกาจเท่าไรนัก

ดังนั้นพูดว่ามีเพียงความหวังแค่เพียงเศษเสี่ยว ใครจะไปอยากให้คนรุ่นหลังของนิกายตัวเองทะเลาะแย่งชิงกัน ไม่ว่าเส้นทางข้างหน้าอาจจะมีอันตราย แต่เส้นทางของผู้ฝึกวรยุทธ์มีคำว่าปลอดภัยด้วยเหรอ มีแต่ต้องต่อสู้แย่งชิงกันทั้งนั้นถึงจะสามารถได้รับโอกาส

ในตอนที่ ๆ พวกเขากำลังชุลมุนวุ่นวายเกี่ยวกับค่ายกลนั่น ในที่สุดฉู่เหินก็ออกจากฌานแล้ว! การที่ชายหนุ่มออกจากฌานในครั้งนี้ก็เพราะเขามีจุดมุ่งหมายอยู่สามอย่าง เรื่องแรกและเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือเรื่องของที่หว่านแห ที่ต่อไปถึงเวลาที่จะได้จับเหยื่อแล้ว ต้องเข้าใจว่าตอนนี้เจียฉิวฉิวอยู่ในสภาวะของเจ้าหญิงนิทรา ฉู่เหินจำเป็นต้องรีบไปที่ทวีปลึกลับ เพื่อหาว่ามีสิ่งใดที่จะสามารถช่วยให้เจียฉิวฉิวฟื้นได้บ้าง!

ดังนั้นเรียกได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนอย่างที่สุด และเรื่องที่สองก็คือวันที่การแข่งขันร้อยนิกายนั้นใกล้จะมาถึงแล้ว ครั้งนี้ฉู่เหินเป็นตัวแทนของนิกายกิเลน ไม่ใช่ตระกูลฉู่ เพราะเมื่อเทียบกับตระกูลฉู่แล้ว นิกายกิเลนจำเป็นต้องมีเขา! ดังนั้นเขาจะต้องไปที่นิกายกิเลนสักครั้ง เพื่อพูดเรื่องการแข่งขันครั้งนี้!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด