หนึ่งฝ่ามือสยบโลกาบทที่ 1022 แล้วตอนนี้เล่า

Now you are reading หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา Chapter บทที่ 1022 แล้วตอนนี้เล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้านหนึ่งหลังใคร่ครวญจากการเปรียบเทียบนี้ ก็ยิ่งเห็นความเมตตาของอาจารย์อย่างเด่นขัด อีกด้านหนึ่งนอกจากการใคร่ครวญแล้ว ก็ได้กำหนดเป้าหมายเป็นระยะเวลาหนึ่งในกาลข้างหน้าของตนไว้แล้ว

เป้าหมายก็คือ…เขาต้องทำให้หวังเป่าเล่อที่อยู่ตรงหน้ามีความสุขและสบายใจ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเขาจึงจะสามารถรับรองได้ว่าเรื่องจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้

หรือกระทั่งหากจะวัดผลแล้ว ในใจของเซี่ยไห่หยาง ศีรษะของหวังเป่าเล่อน่าจะมีแถบวัดระดับจากหนึ่งถึงร้อยอยู่ แถบนี้หากถึงหนึ่งร้อยก็หมายถึงวิกฤติของพ่อเขา ไม่เพียงแต่สามารถแก้ไขได้แต่ยังเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเผชิญชะตาชีวิตใหม่อีกครั้ง

แม้แต่ตนเองที่นี่ก็เช่นกัน

ด้วยมาตรวัดเช่นนี้ ในใจเซี่ยไห่หยางก็ยิ่งยึดมั่น ด้วยเพราะหลังจากที่เขาแอบคำนวณไว้ในใจก็รู้สึกว่าเวลานี้แถบวัดระดับของหวังเป่าเล่อกับตนเอง เกรงว่าจะมีเพียงประมาณ 30 คิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าของเซี่ยไห่หยางก็ปรากฏรอยยิ้ม เขาพลิกมือขวาขึ้น แล้วหยิบกล่องน้ำเย็นหล่อวิญญาณออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ

“อาจารย์อาสิบหก ข้ามาครั้งนี้ ได้ให้คนจากสหพันธรัฐซื้อเครื่องดื่มที่ท่านชื่นชอบที่สุดมาให้เป็นพิเศษ วางไว้ให้ท่านตรงนี้แล้ว” พูดพลาง เซี่ยไห่หยางก็วางน้ำเย็นหล่อวิญญาณลง

“อีกอย่างข้ารู้สึกว่า จำนวนดาวเคราะห์ทั่วไปแปดพันดวง ในความเข้าใจของสหพันธรัฐ เป็นตัวเลชที่เป็นมงคล แต่ยังขาดไปเล็กน้อย เช่นนี้เถอะอาจารย์อาสิบหก ข้าจะคิดหาวิธีใช้เวลาให้เร็วที่สุดหาดาวเคราะห์ทั่วไป 8,888 ดวงมาให้ท่าน” พอกล่าวจบ หลังจากสังเกตได้ชัดว่าหวังเป่าเล่อมีความยินดี เซี่ยไห่หยางก็กล่าวบางอย่างอยู่ข้างๆ คำพูดเต็มไปด้วยถ้อยคำเยินยอ

พวกรูปงามที่หนึ่ง ลูกผู้สูงศักดิ์ สง่างามหาใดเสมอเป็นต้น…ฟังไปฟังมา ล้วนเป็นคำกล่าวเหล่านี้ ฟังจนหวังเป่าเล่อก็แทบจะทนไม่ไหว

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยไห่หยางออกจะไม่คุ้นเคยในด้านนี้อยู่บ้าง ไม่ต้องเทียบกับหวังเป่าเล่อ แม้แต่เป็นหลิวต้าวปินเขาก็เทียบไม่ได้ สุดท้ายตนเองก็รู้สึกอับอาย เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อหาวจึงได้เอ่ยปากลา

เซี่ยไห่หยางเดินออกจากหอคอย ทันทีที่จากมาก็กัดฟันแน่น รีบหยิบแผ่นหยกออกมา ด้านหนึ่งให้ลูกน้องของตนจัดซื้อดาวเคราะห์ทั่วไปส่งมา อีกด้านหนึ่งหลังจากลังเลก็สั่งการลงไปให้รวบรวมผู้ที่มีความสามารถในด้านการประจบสอพลอ เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะในด้านนี้

“ทำอย่างไรได้ เจ้าหวังเป่าเล่อนั่นเก่งในการพูด…” ขณะเดียวกันก็เซี่ยไห่หยางทอดถอนใจ หลังจากไตร่ตรองแล้วก็ระลึกถึงครั้งที่อยู่สหพันธรัฐ ดูเหมือนข้างกายหวังเป่าเล่อตลอดเวลาไม่ขาดหญิงสาว และแต่ละนางต่างก็ดูไม่เลว ดังนั้นจึงได้สั่งการอีกครั้ง ให้ลูกน้องค้นหาสาวงามจากภายนอก…

ในขณะที่เซี่ยไห่หยางพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้หวังเป่าเล่อพอใจ เวลาเดียวกับที่หวังเป่าเล่อที่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจากไปแล้ว เพียงพริบตาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก

“อาจารย์ท่านช่างดีต่อข้า…” หวังเป่าเล่อกระแอม คิดถึงว่าหลังจากที่เขามาดาราจักรไฟ ฝึกฝนเวทผนึกดาราโดยมีเทพวัวเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด หลังจากฝึกจนสำเร็จแล้วก็มีของกำนัลจากอารยธรรมครามทองคำส่งมา ทำให้ได้เสริมการฝึกฝนของได้มาก ตอนนี้ต้องการดาวเคราะห์ทั่วไป อาจารย์ก็ส่งเซี่ยไห่หยางมาให้อีก

แต่ละขั้นตอนนี้ หากจะกล่าวว่าไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า หวังเป่าเล่อย่อมไม่เชื่อ ดังนั้นก็ยิ่งยอมรับดาราจักรไฟยิ่งขึ้น สำหรับอาจารย์ท่านนี้ของตน ก็ยิ่งเกิดความเคารพจากก้นบึ้งของหัวใจ

แต่ละวันก็ผ่านไปเช่นนี้ เพียงพริบตาก็ผ่านไปครึ่งเดือน ด้วยการมาของเซี่ยไห่หยาง ภายในดาราจักรไฟก็ยิ่งครึกครื้นขึ้น โดยปกติแล้วเซี่ยไห่หยางจะมาหาหวังเป่าเล่อเพื่อทักทายทุกวัน หากหวังเป่าเล่อออกนอกหอคอย เช่นนั้นโดยทั่วไปหลังจากเขาออกจากหอคอยภายในเวลาไม่ถึงครึ่งธูป ก็จะต้องมีร่างของเซี่ยไห่หยางวิ่งมาด้วยความกระตือรือร้นมาตลอดทาง

คำพูดของเขาในแต่ละวันก็ก้าวหน้าอย่างไม่หยุด ด้วยวิธีที่น่าทึ่ง จากคำเยินยอในตอนเริ่มต้นที่น่าอับอาย จนเปลี่ยนเป็นลื่นไหล ในขณะเดียวกันจากการสอพลอโดยตรงก็เปลี่ยนเป็นคำพูดสัพเพเหระในไม่ช้า กลับทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกเป็นสุขมาก การปรับปรุงทั้งหมดนี้แม้แต่หวังเป่าเล่อก็ยังต้องชื่นชมความสามารถในการเรียนรู้ของเซี่ยไห่หยาง..Aileen-novel

อีกอย่างนอกจากการเปลี่ยนแปลงคำพูด ความเฉลียวฉลาดของเซี่ยไห่หยางก็ยังทำให้หวังเป่าเล่อพึงพอใจอย่างยิ่ง โดยทั่วไปเขาเพียงมองตาอีกฝ่ายก็สามารถเข้าใจได้ในทันที และสามารถจัดการเรื่องที่สั่งการได้อย่างเข้าใจ

เหมือนเช่นหวังเปาเล่อเพียงแค่ไอเล็กน้อย เซี่ยไห่หยางที่ติดตามเขาอยู่ทางด้านหลังก็จะรีบนำขวดที่แช่เย็นด้วยพลังเวท เติมสารน้ำวิญญาณและน้ำเย็นหล่อวิญญาณเข้าไปทันที

หรือหากหวังเป่าเล่อเหยียดแขนออกไป เซี่ยไห่หยางก็จะรีบเข้ามานวดให้เขาด้วยแรงที่กำลังพอดี ซึ่งทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ทุกวันในเวลาที่ไม่แน่นอน เซี่ยไห่หยางก็ส่งของขวัญมาให้มิได้ขาด วันนี้ทหารเวท พรุ่งนี้โอสถบำรุง วันมะรืนเชื้อเชิญหวังเป่าเล่อไปเที่ยวดวงดาวแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ของตระกูลเซี่ย…

กล่าวได้ว่าเซี่ยไห่หยางทำหน้าที่ด้านผู้ช่วยได้ไม่เลวแล้ว ในขณะเดียวกันสำหรับอาจารย์ หรือก็คือศิษย์พี่หญิงใหญ่ของหวังเป่าเล่อนั้นเองก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ หรือกระทั่งใส่ใจมากขึ้น สำหรับอาจารย์อาท่านอื่น เซี่ยไห่หยางก็ส่งของขวัญให้หมดไม่ตกหล่น ด้วยครอบครัวที่มีอำนาจของเขา การส่งของขวัญจึงทำได้ไม่สิ้นสุด จนกองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับดาวเอกอัคคี…

หวังเป่าเล่อย่อมพอใจกับสิ่งนี้มาก อย่างไรก็ตามเขายังได้แนะนำเซี่ยไห่หยางไปหลายครั้ง

“สหายไห่หยาง เจ้าไม่ต้องทำเช่นนี้ ข้าบอกแล้วว่าจะช่วยเจ้า ก็จะช่วยอย่างแน่นอน”

“อาจารย์อาสิบหก ต่อไปโปรดเรียกด้วยชื่อเล่นของข้า มีเพียงเช่นนี้ข้าจึงจะรู้สึกได้ถึงความสนิทสนม!” ใบหน้าเซี่ยไห่หยางดูจริงจัง

“เรื่องนี้… เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนี้จริงๆ…”

“อาจารย์อาสิบหก! นี่คือการกระทำจากใจของหยางเอ๋อร์เอง ขอให้อาจารย์อาสิบหกอย่าได้ห้ามปรามความกตัญญูของศิษย์!”

หลังจากที่หวังเป่าเล่อได้แนะนำแต่ไร้ผลมาหลายครั้งก็ไม่เอ่ยปากอีก แต่เขาก็พอมองออกว่าเซี่ยไห่หยางทำทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นความตั้งใจจริง การแสดงออกที่ไม่เป็นธรรมชาติในบางครั้ง เห็นชัดว่าเซี่ยไห่หยางคอยปลอบตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า

ที่จริงแล้วหวังเป่าเล่อก็มองไม่ผิด เซี่ยไห่หยางเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลเซี่ย ก่อนที่จะมาดาราจักรไฟ เขาก็ยโสโอหังยิ่ง ต่อมาหลังจากมาถึงที่นี่ ด้วยเรื่องราวต่างๆ จึงต้องเป็นเช่นนี้ ในใจส่วนลึกของเขาย่อมยังไม่ยินยอม

ดังนั้นทุกครั้งหลังจากที่กลับมาถึงหอคอยของตนเอง เซี่ยไห่หยางจึงนำสิ่งทั้งหมดนี้มาตำหนิตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้หวังเป่าเล่อจะแนะนำให้เขาไม่ต้องทำเช่นนี้ อาจารย์ของเขาก็บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องเป็นเช่นนี้ แต่เซี่ยไห่หยางก็ยังไม่วางใจ เขารู้สึกว่าในโลกนี้นอกจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้ว ความสัมพันธ์อื่นใดทั้งหมด หากต้องการรักษาไว้ ล้วนต้องใช้ผลประโยชน์ในการนำทาง

แนวคิดของตระกูลเซี่ยที่มีมาแต่เดิมนี้ ทำให้เขาจัดการกับความสัมพันธ์ไปตามแนวคิดของตนเองในวันข้างหน้า หวังเป่าเล่อมองอยู่ในสายตา และค่อยๆ ปล่อยไปตามแต่เขาแล้ว อีกอย่างในระหว่างนี้เขายังรู้สึกสบายมาก และในขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธว่าวิธีการของเซี่ยไห่หยางสามารถทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดได้อย่างรวดเร็วจริง

อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้เพียงเดือนเดียวหวังเปาเล่อก็ยิ่งถูกชะตากับเซี่ยไห่หยางมากขึ้นเรื่อยๆ เตรียมที่จะเกลี้ยกล่อมศิษย์พี่เฉินชิงจื่อให้มากขึ้น…หากเรื่องราวราบรื่นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าอีกไม่นานเซี่ยไห่หยางก็จะสามารถยืนหยัดภายในดาราจักรไฟได้อย่างมั่นคง แต่ฟ้ากลับไม่เป็นใจ

เซี่ยไห่หยางไม่ควรเลยจริงๆ…นอกเหนือจากประจบหวังเป่าเล่อและให้ความเคารพอาจารย์ท่านอื่นแล้ว ยังสมคบกับอาจารย์อาสิบห้าค่อยๆ เป็นพวกเดียวกัน

บางทีอาจเป็นพฤติกรรมของเซี่ยไห่หยางเอง หรืออาจเป็นเจตนาของอาจารย์อาสิบห้าสิบห้าที่จะเข้าใกล้ เกิดเป็นความเห็นใจในโชคชะตาเดียวกัน สรุปแล้วหลังจากหนึ่งเดือนนี้ผ่านไป ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเกือบจะถึงขั้นที่ว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง

และอาจารย์อาสิบห้าสิบห้าก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างไร ทำให้เซี่ยไห่หยางดูเหมือนฟื้นฟูสู่สถานะที่เคยเป็น การคบหารุ่นเดียวกันของทั้งสองยิ่งทำให้เขารู้สึกสนิทสนม

เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของหวังเป่าเล่อ สีหน้าของเขาดูแปลกๆ แอบคิดว่าอาจารย์ท่านก็สนุกเกินไปแล้ว…

“นี่เป็นจังหวะที่จะให้เซี่ยไห่หยางเล่นเป็นตัวร้ายสินะ…” หวังเป่าเล่อลูบคิ้ว และเขาสามารถคาดเดาตอนจบได้ในทันที เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีต่อเซี่ยไห่หยาง เขาก็เคยแอบบอกเป็นนัยกับเซี่ยไห่หยาง แต่เห็นได้ชัดว่าเซี่ยไห่หยางฟังไม่เข้าใจ

ดังนั้น ในขณะที่ความสัมพันธ์กับอาจารย์อาสิบห้ากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าสิบห้าเป็นผู้เริ่มพูดสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับปรมาจารย์แห่งไฟครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกันนั้นก็ชี้นำเซี่ยไห่หยางซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ในที่สุดมีอยู่วันหนึ่ง ภายในหอคอยของหวังเป่าเล่อ เจ้าสิบห้าก็นำเหล้ามาด้วยขวดหนึ่ง หลังจากที่เซี่ยไห่หยางดื่มจนได้ที่ เมื่อเจ้าสิบห้าเริ่มค่อนแคะปรมาจารย์แห่งไฟอยู่นั้น ในที่สุดเซี่ยไห่หยางก็เริ่มระบายความในที่ไม่พอใจปรมาจารย์แห่งไฟ บอกแก่อาจารย์อาสิบห้าของเขา

“เจ้าสิบห้า ที่เจ้าพูดถูกต้องที่สุด ปรมาจารย์ผู้นี้ลึกลับเกินไปแล้ว ข้ามาถึงที่นี่ถูกเขาหลอกมาไม่จบสิ้น ข้าก็ไม่กล้าบอกผู้ใด กล่าวกับเจ้าได้เท่านั้น…แต่ก่อนข้าก็เคยได้ยินผู้พูดถึงปรมาจารย์มาก่อนว่าเป็นผู้มีจิตใจคับแคบ ชอบขุดหลุมพลางล่อผู้อื่น ข้าก็ไม่เชื่อ…”

เจ้าสิบห้านั่งอยู่ตรงข้ามเซี่ยไห่หยาง หรี่ตาลง ส่วนลึกในดวงตามีความหมายลึกซึ้งวูบหนึ่งที่เซี่ยไห่หยางมองไม่เห็น เขาเทเหล้าใส่จอกให้เซี่ยไห่หยาง หลังจากยื่นมันไปให้ ก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“แล้วตอนนี้เล่า…”

……………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกาบทที่ 1022 แล้วตอนนี้เล่า

Now you are reading หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา Chapter บทที่ 1022 แล้วตอนนี้เล่า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้านหนึ่งหลังใคร่ครวญจากการเปรียบเทียบนี้ ก็ยิ่งเห็นความเมตตาของอาจารย์อย่างเด่นขัด อีกด้านหนึ่งนอกจากการใคร่ครวญแล้ว ก็ได้กำหนดเป้าหมายเป็นระยะเวลาหนึ่งในกาลข้างหน้าของตนไว้แล้ว

เป้าหมายก็คือ…เขาต้องทำให้หวังเป่าเล่อที่อยู่ตรงหน้ามีความสุขและสบายใจ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นเขาจึงจะสามารถรับรองได้ว่าเรื่องจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้

หรือกระทั่งหากจะวัดผลแล้ว ในใจของเซี่ยไห่หยาง ศีรษะของหวังเป่าเล่อน่าจะมีแถบวัดระดับจากหนึ่งถึงร้อยอยู่ แถบนี้หากถึงหนึ่งร้อยก็หมายถึงวิกฤติของพ่อเขา ไม่เพียงแต่สามารถแก้ไขได้แต่ยังเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเผชิญชะตาชีวิตใหม่อีกครั้ง

แม้แต่ตนเองที่นี่ก็เช่นกัน

ด้วยมาตรวัดเช่นนี้ ในใจเซี่ยไห่หยางก็ยิ่งยึดมั่น ด้วยเพราะหลังจากที่เขาแอบคำนวณไว้ในใจก็รู้สึกว่าเวลานี้แถบวัดระดับของหวังเป่าเล่อกับตนเอง เกรงว่าจะมีเพียงประมาณ 30 คิดมาถึงตรงนี้ใบหน้าของเซี่ยไห่หยางก็ปรากฏรอยยิ้ม เขาพลิกมือขวาขึ้น แล้วหยิบกล่องน้ำเย็นหล่อวิญญาณออกมาจากกระเป๋าคลังเก็บ

“อาจารย์อาสิบหก ข้ามาครั้งนี้ ได้ให้คนจากสหพันธรัฐซื้อเครื่องดื่มที่ท่านชื่นชอบที่สุดมาให้เป็นพิเศษ วางไว้ให้ท่านตรงนี้แล้ว” พูดพลาง เซี่ยไห่หยางก็วางน้ำเย็นหล่อวิญญาณลง

“อีกอย่างข้ารู้สึกว่า จำนวนดาวเคราะห์ทั่วไปแปดพันดวง ในความเข้าใจของสหพันธรัฐ เป็นตัวเลชที่เป็นมงคล แต่ยังขาดไปเล็กน้อย เช่นนี้เถอะอาจารย์อาสิบหก ข้าจะคิดหาวิธีใช้เวลาให้เร็วที่สุดหาดาวเคราะห์ทั่วไป 8,888 ดวงมาให้ท่าน” พอกล่าวจบ หลังจากสังเกตได้ชัดว่าหวังเป่าเล่อมีความยินดี เซี่ยไห่หยางก็กล่าวบางอย่างอยู่ข้างๆ คำพูดเต็มไปด้วยถ้อยคำเยินยอ

พวกรูปงามที่หนึ่ง ลูกผู้สูงศักดิ์ สง่างามหาใดเสมอเป็นต้น…ฟังไปฟังมา ล้วนเป็นคำกล่าวเหล่านี้ ฟังจนหวังเป่าเล่อก็แทบจะทนไม่ไหว

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยไห่หยางออกจะไม่คุ้นเคยในด้านนี้อยู่บ้าง ไม่ต้องเทียบกับหวังเป่าเล่อ แม้แต่เป็นหลิวต้าวปินเขาก็เทียบไม่ได้ สุดท้ายตนเองก็รู้สึกอับอาย เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อหาวจึงได้เอ่ยปากลา

เซี่ยไห่หยางเดินออกจากหอคอย ทันทีที่จากมาก็กัดฟันแน่น รีบหยิบแผ่นหยกออกมา ด้านหนึ่งให้ลูกน้องของตนจัดซื้อดาวเคราะห์ทั่วไปส่งมา อีกด้านหนึ่งหลังจากลังเลก็สั่งการลงไปให้รวบรวมผู้ที่มีความสามารถในด้านการประจบสอพลอ เตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะในด้านนี้

“ทำอย่างไรได้ เจ้าหวังเป่าเล่อนั่นเก่งในการพูด…” ขณะเดียวกันก็เซี่ยไห่หยางทอดถอนใจ หลังจากไตร่ตรองแล้วก็ระลึกถึงครั้งที่อยู่สหพันธรัฐ ดูเหมือนข้างกายหวังเป่าเล่อตลอดเวลาไม่ขาดหญิงสาว และแต่ละนางต่างก็ดูไม่เลว ดังนั้นจึงได้สั่งการอีกครั้ง ให้ลูกน้องค้นหาสาวงามจากภายนอก…

ในขณะที่เซี่ยไห่หยางพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้หวังเป่าเล่อพอใจ เวลาเดียวกับที่หวังเป่าเล่อที่เมื่อเห็นอีกฝ่ายจากไปแล้ว เพียงพริบตาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก

“อาจารย์ท่านช่างดีต่อข้า…” หวังเป่าเล่อกระแอม คิดถึงว่าหลังจากที่เขามาดาราจักรไฟ ฝึกฝนเวทผนึกดาราโดยมีเทพวัวเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด หลังจากฝึกจนสำเร็จแล้วก็มีของกำนัลจากอารยธรรมครามทองคำส่งมา ทำให้ได้เสริมการฝึกฝนของได้มาก ตอนนี้ต้องการดาวเคราะห์ทั่วไป อาจารย์ก็ส่งเซี่ยไห่หยางมาให้อีก

แต่ละขั้นตอนนี้ หากจะกล่าวว่าไม่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้า หวังเป่าเล่อย่อมไม่เชื่อ ดังนั้นก็ยิ่งยอมรับดาราจักรไฟยิ่งขึ้น สำหรับอาจารย์ท่านนี้ของตน ก็ยิ่งเกิดความเคารพจากก้นบึ้งของหัวใจ

แต่ละวันก็ผ่านไปเช่นนี้ เพียงพริบตาก็ผ่านไปครึ่งเดือน ด้วยการมาของเซี่ยไห่หยาง ภายในดาราจักรไฟก็ยิ่งครึกครื้นขึ้น โดยปกติแล้วเซี่ยไห่หยางจะมาหาหวังเป่าเล่อเพื่อทักทายทุกวัน หากหวังเป่าเล่อออกนอกหอคอย เช่นนั้นโดยทั่วไปหลังจากเขาออกจากหอคอยภายในเวลาไม่ถึงครึ่งธูป ก็จะต้องมีร่างของเซี่ยไห่หยางวิ่งมาด้วยความกระตือรือร้นมาตลอดทาง

คำพูดของเขาในแต่ละวันก็ก้าวหน้าอย่างไม่หยุด ด้วยวิธีที่น่าทึ่ง จากคำเยินยอในตอนเริ่มต้นที่น่าอับอาย จนเปลี่ยนเป็นลื่นไหล ในขณะเดียวกันจากการสอพลอโดยตรงก็เปลี่ยนเป็นคำพูดสัพเพเหระในไม่ช้า กลับทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกเป็นสุขมาก การปรับปรุงทั้งหมดนี้แม้แต่หวังเป่าเล่อก็ยังต้องชื่นชมความสามารถในการเรียนรู้ของเซี่ยไห่หยาง..Aileen-novel

อีกอย่างนอกจากการเปลี่ยนแปลงคำพูด ความเฉลียวฉลาดของเซี่ยไห่หยางก็ยังทำให้หวังเป่าเล่อพึงพอใจอย่างยิ่ง โดยทั่วไปเขาเพียงมองตาอีกฝ่ายก็สามารถเข้าใจได้ในทันที และสามารถจัดการเรื่องที่สั่งการได้อย่างเข้าใจ

เหมือนเช่นหวังเปาเล่อเพียงแค่ไอเล็กน้อย เซี่ยไห่หยางที่ติดตามเขาอยู่ทางด้านหลังก็จะรีบนำขวดที่แช่เย็นด้วยพลังเวท เติมสารน้ำวิญญาณและน้ำเย็นหล่อวิญญาณเข้าไปทันที

หรือหากหวังเป่าเล่อเหยียดแขนออกไป เซี่ยไห่หยางก็จะรีบเข้ามานวดให้เขาด้วยแรงที่กำลังพอดี ซึ่งทำให้หวังเป่าเล่อรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ทุกวันในเวลาที่ไม่แน่นอน เซี่ยไห่หยางก็ส่งของขวัญมาให้มิได้ขาด วันนี้ทหารเวท พรุ่งนี้โอสถบำรุง วันมะรืนเชื้อเชิญหวังเป่าเล่อไปเที่ยวดวงดาวแหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเปิดใหม่ของตระกูลเซี่ย…

กล่าวได้ว่าเซี่ยไห่หยางทำหน้าที่ด้านผู้ช่วยได้ไม่เลวแล้ว ในขณะเดียวกันสำหรับอาจารย์ หรือก็คือศิษย์พี่หญิงใหญ่ของหวังเป่าเล่อนั้นเองก็เป็นเช่นเดียวกันนี้ หรือกระทั่งใส่ใจมากขึ้น สำหรับอาจารย์อาท่านอื่น เซี่ยไห่หยางก็ส่งของขวัญให้หมดไม่ตกหล่น ด้วยครอบครัวที่มีอำนาจของเขา การส่งของขวัญจึงทำได้ไม่สิ้นสุด จนกองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับดาวเอกอัคคี…

หวังเป่าเล่อย่อมพอใจกับสิ่งนี้มาก อย่างไรก็ตามเขายังได้แนะนำเซี่ยไห่หยางไปหลายครั้ง

“สหายไห่หยาง เจ้าไม่ต้องทำเช่นนี้ ข้าบอกแล้วว่าจะช่วยเจ้า ก็จะช่วยอย่างแน่นอน”

“อาจารย์อาสิบหก ต่อไปโปรดเรียกด้วยชื่อเล่นของข้า มีเพียงเช่นนี้ข้าจึงจะรู้สึกได้ถึงความสนิทสนม!” ใบหน้าเซี่ยไห่หยางดูจริงจัง

“เรื่องนี้… เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนี้จริงๆ…”

“อาจารย์อาสิบหก! นี่คือการกระทำจากใจของหยางเอ๋อร์เอง ขอให้อาจารย์อาสิบหกอย่าได้ห้ามปรามความกตัญญูของศิษย์!”

หลังจากที่หวังเป่าเล่อได้แนะนำแต่ไร้ผลมาหลายครั้งก็ไม่เอ่ยปากอีก แต่เขาก็พอมองออกว่าเซี่ยไห่หยางทำทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นความตั้งใจจริง การแสดงออกที่ไม่เป็นธรรมชาติในบางครั้ง เห็นชัดว่าเซี่ยไห่หยางคอยปลอบตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า

ที่จริงแล้วหวังเป่าเล่อก็มองไม่ผิด เซี่ยไห่หยางเป็นเช่นนั้นจริงๆ ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลเซี่ย ก่อนที่จะมาดาราจักรไฟ เขาก็ยโสโอหังยิ่ง ต่อมาหลังจากมาถึงที่นี่ ด้วยเรื่องราวต่างๆ จึงต้องเป็นเช่นนี้ ในใจส่วนลึกของเขาย่อมยังไม่ยินยอม

ดังนั้นทุกครั้งหลังจากที่กลับมาถึงหอคอยของตนเอง เซี่ยไห่หยางจึงนำสิ่งทั้งหมดนี้มาตำหนิตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้หวังเป่าเล่อจะแนะนำให้เขาไม่ต้องทำเช่นนี้ อาจารย์ของเขาก็บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องเป็นเช่นนี้ แต่เซี่ยไห่หยางก็ยังไม่วางใจ เขารู้สึกว่าในโลกนี้นอกจากความสัมพันธ์ทางสายเลือดแล้ว ความสัมพันธ์อื่นใดทั้งหมด หากต้องการรักษาไว้ ล้วนต้องใช้ผลประโยชน์ในการนำทาง

แนวคิดของตระกูลเซี่ยที่มีมาแต่เดิมนี้ ทำให้เขาจัดการกับความสัมพันธ์ไปตามแนวคิดของตนเองในวันข้างหน้า หวังเป่าเล่อมองอยู่ในสายตา และค่อยๆ ปล่อยไปตามแต่เขาแล้ว อีกอย่างในระหว่างนี้เขายังรู้สึกสบายมาก และในขณะเดียวกันก็ไม่อาจปฏิเสธว่าวิธีการของเซี่ยไห่หยางสามารถทำให้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดได้อย่างรวดเร็วจริง

อย่างน้อยที่สุด ตอนนี้เพียงเดือนเดียวหวังเปาเล่อก็ยิ่งถูกชะตากับเซี่ยไห่หยางมากขึ้นเรื่อยๆ เตรียมที่จะเกลี้ยกล่อมศิษย์พี่เฉินชิงจื่อให้มากขึ้น…หากเรื่องราวราบรื่นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าอีกไม่นานเซี่ยไห่หยางก็จะสามารถยืนหยัดภายในดาราจักรไฟได้อย่างมั่นคง แต่ฟ้ากลับไม่เป็นใจ

เซี่ยไห่หยางไม่ควรเลยจริงๆ…นอกเหนือจากประจบหวังเป่าเล่อและให้ความเคารพอาจารย์ท่านอื่นแล้ว ยังสมคบกับอาจารย์อาสิบห้าค่อยๆ เป็นพวกเดียวกัน

บางทีอาจเป็นพฤติกรรมของเซี่ยไห่หยางเอง หรืออาจเป็นเจตนาของอาจารย์อาสิบห้าสิบห้าที่จะเข้าใกล้ เกิดเป็นความเห็นใจในโชคชะตาเดียวกัน สรุปแล้วหลังจากหนึ่งเดือนนี้ผ่านไป ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองเกือบจะถึงขั้นที่ว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง

และอาจารย์อาสิบห้าสิบห้าก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างไร ทำให้เซี่ยไห่หยางดูเหมือนฟื้นฟูสู่สถานะที่เคยเป็น การคบหารุ่นเดียวกันของทั้งสองยิ่งทำให้เขารู้สึกสนิทสนม

เหตุการณ์นี้อยู่ในสายตาของหวังเป่าเล่อ สีหน้าของเขาดูแปลกๆ แอบคิดว่าอาจารย์ท่านก็สนุกเกินไปแล้ว…

“นี่เป็นจังหวะที่จะให้เซี่ยไห่หยางเล่นเป็นตัวร้ายสินะ…” หวังเป่าเล่อลูบคิ้ว และเขาสามารถคาดเดาตอนจบได้ในทันที เห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีต่อเซี่ยไห่หยาง เขาก็เคยแอบบอกเป็นนัยกับเซี่ยไห่หยาง แต่เห็นได้ชัดว่าเซี่ยไห่หยางฟังไม่เข้าใจ

ดังนั้น ในขณะที่ความสัมพันธ์กับอาจารย์อาสิบห้ากำลังดีขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าสิบห้าเป็นผู้เริ่มพูดสิ่งไม่ดีเกี่ยวกับปรมาจารย์แห่งไฟครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกันนั้นก็ชี้นำเซี่ยไห่หยางซ้ำแล้วซ้ำเล่า…ในที่สุดมีอยู่วันหนึ่ง ภายในหอคอยของหวังเป่าเล่อ เจ้าสิบห้าก็นำเหล้ามาด้วยขวดหนึ่ง หลังจากที่เซี่ยไห่หยางดื่มจนได้ที่ เมื่อเจ้าสิบห้าเริ่มค่อนแคะปรมาจารย์แห่งไฟอยู่นั้น ในที่สุดเซี่ยไห่หยางก็เริ่มระบายความในที่ไม่พอใจปรมาจารย์แห่งไฟ บอกแก่อาจารย์อาสิบห้าของเขา

“เจ้าสิบห้า ที่เจ้าพูดถูกต้องที่สุด ปรมาจารย์ผู้นี้ลึกลับเกินไปแล้ว ข้ามาถึงที่นี่ถูกเขาหลอกมาไม่จบสิ้น ข้าก็ไม่กล้าบอกผู้ใด กล่าวกับเจ้าได้เท่านั้น…แต่ก่อนข้าก็เคยได้ยินผู้พูดถึงปรมาจารย์มาก่อนว่าเป็นผู้มีจิตใจคับแคบ ชอบขุดหลุมพลางล่อผู้อื่น ข้าก็ไม่เชื่อ…”

เจ้าสิบห้านั่งอยู่ตรงข้ามเซี่ยไห่หยาง หรี่ตาลง ส่วนลึกในดวงตามีความหมายลึกซึ้งวูบหนึ่งที่เซี่ยไห่หยางมองไม่เห็น เขาเทเหล้าใส่จอกให้เซี่ยไห่หยาง หลังจากยื่นมันไปให้ ก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“แล้วตอนนี้เล่า…”

……………………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+