หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 294 อาวุธลับเคลือบพิษ

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 294 อาวุธลับเคลือบพิษ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 293

ไม่ยอมรับ​ความพ่ายแพ้​

นั่น​หมายความว่า​เจียง​หวาย​เย่​ไม่ได้​ถูก​พิษ​ เขา​พูด​คำ​เหล่านั้น​กับ​หลิน​ซีเหยียน​ใน​ตอนที่​เขา​สติ​ครบถ้วน​ดี​ ในเวลานี้​น้องสาว​ของ​เขา​นั้น​ต้อง​เสียใจ​อย่าง​มาก​

เมื่อ​เห็น​สายตา​ที่​ร้อนแรง​ด้วย​ความเป็นห่วง​ของ​ทั้งสอง​คน​แล้ว​ หลิน​ซีเหยียน​จึงทนไม่ไหว​และ​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไม่ต้อง​กังวล​หรอก​ ข้า​ไม่เป็นไร​จริงๆ​”

“ถ้าอย่างนั้น​ท่าน​หมอ​หลิน​จะเข้าร่วม​ศึก​คัดเลือก​นักบุญ​หญิง​ต่อไป​หรือไม่​?”

เมื่อ​มอง​ไป​ที่​ดวงตา​และ​ริมฝีปาก​ของ​หลิน​ซีเหยียน​แล้ว​ เขา​ก็ได้​กล่าว​อย่าง​เงียบๆ​ “นี่แหละ​คือ​ท่าน​หมอ​หลิน​ที่​ข้า​ชื่นชอบ​”

หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ลด​มุมตา​ลง​แล้ว​ครุ่นคิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​แล้ว​กล่าว​ “แน่นอน​ว่า​ข้า​ต้อง​เข้าร่วม​อยู่แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​พวกเรา​ก็​อาจจะ​พลาด​อะไร​สนุก​ๆก็ได้​”

ใน​ค่ำคืน​นั้น​หลิน​ซีเหยียน​กับ​ชิงอ​วี่​ก็ได้​นอน​ด้วยกัน​ ส่วน​หลี​เจี้ยนเฉิน​กับ​จี๋เฟิงนั้น​นอน​ด้วย​ และ​รอคอย​การ​มาถึงของ​ รุ่งสาง​อยู่​อย่าง​เงียบๆ​

ใน​กระโจม​ที่​เงียบกริบ​นั้น​ จู่ๆก็​มีเสียง​ของ​หลี​เจี้ยนเฉิน​ดัง​ขึ้น​มา “จี๋เฟิง เจ้าเคย​เป็น​คน​ของ​เจียง​หวาย​เย่​สินะ​?”

“ขอรับ​ ฝ่าบาท​”

ถึงแม้ว่า​เขา​จะไม่ใช่เจ้านาย​ของ​เขา​ แต่​ด้วย​เพราะ​ฐานะ​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ จี๋เฟิงจึงจำต้อง​ตอบ​ด้วย​ความเคารพ​

แล้ว​หลี​เจี้ยนเฉิน​ก็ได้​ถามต่อ​ “เจียง​หวาย​เย่​ใน​สายตา​ของ​เจ้าเป็น​คน​อย่างไร​?”

“องค์​ชาย​นั้น​เป็น​วีรบุรุษ​ใน​ดวงใจ​ของ​ข้าน้อย​ขอรับ​ เพื่อ​ช่วยเหลือ​ผู้คน​แล้ว​เขา​เลือก​ที่จะ​ละทิ้ง​ราชบัลลังก์​แล้ว​นำ​ทัพ​ออก​ไป​ต่อสู้​ ยิ่งไปกว่านั้น​องค์​ชาย​เป็น​คน​ที่​ยึดมั่น​อย่าง​มาใน​ความรัก​และ​ความถูกต้อง​ ท่ามกลาง​สนามรบ​เขา​เลือก​ที่จะ​เอาชีวิต​ของ​ตัวเอง​เข้าไป​เสี่ยง​เพื่อ​ช่วยเหลือ​ทหาร​เพียง​คนเดียว​ขอรับ​”

คำพูด​ของ​จี๋เฟิงนั้น​เต็มไปด้วย​ความชื่นชม​เจียง​หวาย​เย่​ ซึ่งทำให้​หลี​เจี้ยนเฉิน​นั้น​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย​และ​พูด​ออกมา​ด้วย​เสียง​ที่​พูด​ไม่ค่อย​ชัด​ “แล้ว​เจ้าว่า​วันนี้​เขา​ทำ​เช่นนั้น​ทำไม​?”

จี๋เฟิงก็ได้​เปิดปาก​แต่​สุดท้าย​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา​ เขา​รู้สึก​ได้​ว่า​องค์​ชาย​นั้น​กำลัง​ตัดสินใจ​เลือก​เส้นทาง​ที่​ยากลำบาก​อยู่​ แต่ลำพัง​คำพูด​ของ​เขา​นั้น​คง​ไม่มีน้ำหนัก​อะไร​ และ​ไม่มีหลักฐาน​อะไร​มารองรับ​ด้วย​

นอกเหนือ​ไป​จาก​คน​หนึ่ง​ที่​นอนไม่หลับ​ใน​คืนนี้​แล้ว​ ไม่ไกล​ออก​ไป​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ยืน​อยู่​ใน​ความมืด​อย่าง​เงียบๆ​และ​มอง​ไป​ที่​กระโจม​ของ​หลิน​ซีเหยียน​

ชะตากรรม​ระหว่าง​เขา​กับ​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​จะเป็น​เช่นไร​นั้น​ ก็​ขึ้นอยู่กับ​วันพรุ่งนี้​แล้ว​

แล้ว​วัน​ต่อมา​ก็ได้​มาถึง ทันทีที่​หลิน​ซีเหยียน​ปรากฏตัว​ออกมา​ ซึ่งนาง​นั้น​ได้​เป็นที่ดึงดูด​ความสนใจ​ของ​คนดู​ทั้งหมด​ เพราะ​หลิน​ซีเหยียน​ที่​มักจะ​สวม​ชุด​สีฟ้าอ่อน​นั้น​ วันนี้​ก็​สวม​ชุด​สีขาว​เช่นกัน​

ด้วย​สีหน้าที่​เย็นชา​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​แล้ว​ ช่างดูเหมือน​เซียน​ที่​มาจาก​สวรรค์​มาก​ ทั้ง​สูงศักดิ์​, เยือกเย็น​และ​ทระนง​จน​ไม่อาจ​ที่จะ​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​ได้​

ใบหน้า​ของ​เจียง​อี๋​นั้น​ไม่ดี​อย่าง​มาก​ เพราะ​ในเวลานี้​ทั้งคู่​ต่าง​ก็​สวม​ชุด​สีขาว​ ซึ่งทำให้​เห็นได้ชัด​เลย​ว่า​ใคร​ที่อยู่​เหนือกว่า​และ​ใคร​ที่อยู่​ต่ำกว่า​ และ​นาง​นั้น​ไม่ต้องการ​ที่จะ​อยู่​ต่ำกว่า​ และ​ต้องการ​ให้​หลิน​ซีเหยียน​ต้อง​อับอาย​ นาง​จึงได้มา​พร้อมกับ​เจียง​หวาย​เย่​

แล้วก็​พูด​ขึ้น​มาอย่าง​โมโห​ “ท่าน​พี่​ ท่าน​ว่า​ใคร​กันที่​สวย​กว่า​ใน​สายตา​ของ​ท่าน​ ระหว่าง​ข้า​กับ​ผู้หญิง​คน​นั้น​?”

คำพูด​ของ​นาง​นั้น​ได้​ดึงดูด​ให้​ผู้คน​มากมาย​ต้อง​รอ​ชม เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​จ้อง​ไป​ที่​นาง​อย่าง​เป็นการ​เตือน​แล้ว​กล่าว​ “มัน​แน่นอน​อยู่แล้ว​ว่า​ผู้หญิง​คน​ไหน​ที่​สวย​กว่า​ แต่ว่า​เจ้านั้น​เคย​ช่วยชีวิต​ของ​ข้า​เอาไว้​ ดังนั้น​เจ้าไม่จำเป็นต้อง​รู้สึก​ต้อยต่ำ​ไป​หรอก​”

ทันทีที่​ผู้คน​รอบ​ๆได้ยิน​เช่นนั้น​ พวกเขา​ต่าง​ก็​พา​กัน​หัวเราะ​

เจียง​หวาย​เย่​นี้​ช่างเป็น​คน​ที่​น่าสนใจ​จริงๆ​ ที่​เขา​กล้า​พูด​เช่นนั้น​ตรงๆ​ต่อหน้า​ทุกคน​ได้​ แม้แต่​คน​ที่มา​ด้วยกัน​อย่าง​เจียง​อี๋​นั้น​ก็​ยัง​ต้อง​รู้สึก​หัวเสีย​ขึ้น​มา ราวกับ​นาง​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​พูด​อะไร​อยู่​กัน​แน่​

หลิน​ซีเหยียน​ที่​ยัง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​ก็ได้​มีสีหน้าที่​สงบนิ่ง​มาก​ และ​ไม่แม้แต่​ที่จะ​มอง​มายังอีก​ฝ่าย​ เจียง​หวาย​เย่​ที่​รู้สึก​ได้​ถึงท่าที​ของ​หลิน​ซีเหยียน​แล้วก็​แอบ​ตกใจ​ เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​ผิดหวัง​ใน​ตัว​เขา​ขนาด​นั้น​เลย​เหรอ​?

ในขณะที่​เขา​กำลัง​คิด​เช่นนั้น​อยู่​ ท่าน​ยาย​ก็ได้​มาถึงและ​ประกาศ​ให้​เริ่ม​การคัดเลือก​ต่อ​ได้​

แล้ว​หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​หยิบ​เอา​แมงป่อง​แดง​ตัว​น้อย​ของ​นาง​ออกมา​ด้วยมือ​ข้าง​หนึ่ง​ แล้วก็​ปรากฏ​แววตา​สงสัย​ท่ามกลาง​สายตา​ของ​ทุกคน​ “ไม่ใช่แมงป่อง​แดง​ตัว​นั้น​ได้​คืนให้​ซู่ฉุ่ย​ไป​แล้ว​หรอก​เหรอ​?”

“ใช่ๆ แล้ว​ทำไม​ถึงได้​ยังอยู่​ใน​มือ​ของ​นาง​ได้​”

แล้ว​ผู้คน​รอบ​ๆก็ได้​พา​กัน​ฮือฮา​ขึ้น​มา และ​หลิน​ซีเหยียน​ก็​ดูเหมือน​จะไม่รู้ตัว​ด้วย​ แต่​เจียง​อี๋​ก็ได้​จ้อง​ไป​ที่​แมลง​ของ​อีก​ฝ่าย​ด้วย​สีหน้าที่​ไม่ดี​อย่าง​มาก​

ก็​ว่า​มัน​หาย​ไป​ไหน​ ที่แท้​ก็​ถูก​ผู้หญิง​คน​นั้น​ขโมย​กลับ​ไป​แล้ว​นี่เอง​

แล้ว​นาง​ก็ได้​ยิ้ม​ขึ้น​มาอย่าง​ประชดประชัน​ รอยยิ้ม​ของ​นาง​นั้น​ปรากฏ​อย่าง​ชัดเจน​มาก​และ​เต็มไปด้วย​การ​ดูหมิ่น​ “ไม่แปลกใจ​เลย​ตอนที่​ข้า​พบ​ซู่ฉุ่ย​อีก​หน​นั้น​ ข้า​ก็​พบ​ว่า​นาง​กลายเป็น​ศพ​ตัว​สีม่วง​แล้วไปแล้ว​ ที่แท้​ก็​เป็น​เพราะ​เจ้าที่​ฆ่านาง​ด้วย​พิษ​แมงป่อง​ตัว​นั้น​”

ใช้แมลง​พิษ​ฆ่าคน​เพื่อ​หวัง​ชิงเอา​ของ​ของ​คนอื่น​งั้น​เหรอ​? ด้วยเหตุนี้​สายตา​ของ​คนดู​จึงพา​กัน​จับจ้อง​ไป​ที่​หลิน​ซีเหยียน​

การกระทำ​เช่นนี้​เป็น​สิ่งที่​ดูหมิ่น​อย่าง​มาก​ใน​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​นี้​ ที่นี่​สามารถ​ที่จะ​ฆ่าคน​ด้วย​แมลง​พิษ​ได้​ แต่​ไม่สามารถ​ที่จะ​ฆ่าคนอื่น​เพื่อ​หวัง​ชิงเอา​ผลิตผล​จาก​น้ำพักน้ำแรง​คนอื่น​ได้​

“ซู่ฉุ่ย​และ​ข้า​เป็น​เหมือน​พี่น้อง​กัน​ วัน​นี่​ข้า​จะขอ​ล้างแค้น​แทน​นาง​” เจียง​อี๋​ที่​เหมือนกับ​ยืน​อยู่​จุดสุดยอด​ของ​ศีลธรรม​นั้น​ ก็ได้​กำ​ความยุติธรรม​เอาไว้​ใน​มือขวา​ของ​นาง​

ด้วยเหตุนี้​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ยิ้ม​ออกมา​ เสียง​ที่​สวย​ใสราวกับ​เสียง​หยดน้ำ​ใน​บ่อน้ำพุร้อน​ แล้ว​ทันใดนั้น​เอง​ก็ได้​เปลี่ยนไป​เป็น​เหมือน​ฝน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ที่​ตกลง​มาสู่พื้น​ด้วย​แรง​โมโห​

“เจ้ายัง​ไม่ได้​เห็น​ศพ​ของ​ซู่ฉุ่ย​เลย​ แล้ว​เจ้ากล้า​พูด​ได้​อย่างไร​ว่า​ซู่ฉุ่น​ตาย​แล้ว​?”

“เจ้าจะบอ​กว่า​ข้า​โกหก​อย่างนั้น​เหรอ​?” เจียง​อี๋​ก็ได้​กล่าว​อย่าง​โมโห​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​นาง​ทำ​เช่นนี้​ต่อหน้า​ผู้อื่น​ ใบ​หน้าที่​ซีดเซียว​ก่อนหน้านี้​ ก็ได้​แดง​ขึ้น​มาอย่าง​กระวนกระวายใจ​ ช่างเป็น​ตัวตน​ที่​ต่าง​ออก​ไป​จริงๆ​

“แล้ว​เจ้าพบ​ศพ​ของ​ซู่ฉุ่ย​ที่ไหน​?” ท่าน​ยาย​ที่​เป็น​คน​ที่​ยุติธรรม​มาก​ที่สุด​ใน​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​นี้​ นาง​นั้น​ไม่สามารถ​เลือก​ที่จะ​เข้าข้าง​ใคร​ได้​ง่ายๆ​ นาง​นั้น​ตัดสินใจ​ที่จะ​ลงโทษ​ หลิน​ซีเหยียน​หลังจากที่​พบ​ศพ​แล้ว​

แต่​ใน​ใจของ​นาง​นั้น​หาก​เทียบ​กับ​คนนอก​อย่าง​ หยิน​ซีเหยียน​แล้ว​ นาง​ก็​อยาก​ที่จะ​พูด​เข้าข้าง​เจียง​อี๋​มากกว่า​

“ศพ​ของ​ซู่ฉุ่ย​นั้น​ถูก​ฝังอยู่​โดย​ข้า​เอง​ที่​ด้านหลัง​ของ​ภูเขา​” เจียง​อี๋​ก็ได้​ตอบ​ไป​ และ​มีแววตา​ที่​สงสัย​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​ นาง​นั้น​ไม่คิด​ว่า​ท่าน​ยาย​นั้น​จะถามหา​ศพ​ของ​ซู่ฉุ่ย​เช่นนี้​

ซู่ฉุ่ย​นั้น​ถูก​ฆ่าโดย​นาง​เอง​ แต่​นาง​ก็ได้​ทำความสะอาด​ศพ​ของ​นาง​เรียบร้อย​แล้ว​ และ​ไม่น่าจะ​มีอะไร​ที่​สาว​มาถึงตัวนาง​ได้​

ด้วยเหตุนี้​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​จึงได้​พา​กัน​ไป​ที่​ด้านหลัง​ของ​ภูเขา​ หลังจากที่​เจียง​อี๋​หยุด​เดิน​ พวกเขา​ก็​พบ​แต่​กอง​หิน​ที่​ใช้ฝังซู่ฉุ่ย​เมื่อวาน​นี้​ถูก​ขุด​ขึ้น​มา และ​ศพ​ที่อยู่​ใน​นั้น​ก็ได้​หาย​ไป​แล้ว​

“แม่นาง​เจียง​ ขออภัย​ใน​สายตา​ที่​ฝ้าฟางของ​ข้า​ด้วย​ แต่​ข้า​ไม่เห็น​อะไร​เลย​นอก​เสีย​จาก​กอง​หิน​เท่านั้น​”

คำพูด​ของ​หลิน​ซีเหยียน​นั้น​แฝงไป​ด้วย​ความไม่พอใจ​ “ข้า​รู้ดี​ว่า​พวกเรา​นั้น​ต่าง​ก็​เป็น​คู่แข่ง​กัน​ แต่​ทำไม​เจ้าถึงต้อง​ปรักปรำ​ข้า​เช่นนี้​ด้วย​”

“ไม่ ข้า​ไม่ได้​ปรักปรำ​เจ้า ข้า​ฝังซู่ฉุ่ย​ไว้​ที่นี่​จริงๆ​”

เจียง​อี๋​ก็ได้​รู้สึก​สับสน​ไป​ชั่วขณะหนึ่ง​กับ​สถานการณ์​ที่​เกิดขึ้น​ แต่​เมื่อ​เหลือบ​สายตา​ไป​มองดู​รอยยิ้ม​ที่​มั่นใจ​ของ​ หลิน​ซีเหยียน​แล้ว​ นาง​ก็​พลัน​นึก​ขึ้น​มาได้​ “มัน​เป็น​เจ้า เจ้าเอา​ศพ​ของ​ซู่ฉุ่ย​ไป​”

“พูด​อะไร​ไร้สาระ​ แม่นาง​เจียง​ข้า​ว่า​เจ้าเลิก​พูดจา​ไร้สาระ​จะดีกว่า​” จากนั้น​หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​มองดู​เวลา​แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​หันหน้า​ไป​ถามท่าน​ยาย​ “ท่าน​ยาย​ ยัง​พอ​มีเวลา​เหลืออยู่​ข้า​ว่า​เรา​รีบ​เริ่ม​การคัดเลือก​กัน​ต่อ​นาง​!”

“ท่าน​ยาย​เชื่อ​ข้า​เถอะ​” เจียง​อี๋​ก็ได้​กล่าว​ทั้ง​น้ำตา​ นาง​จะต้อง​ทำให้​ท่าน​ยาย​นั้น​ปรับ​หลิน​ซีเหยียน​ให้​หมด​สิทธิ์​การ​เข้าร่วม​การคัดเลือก​ให้ได้​ ไม่อย่างนั้น​นาง​อาจจะ​พลาด​ตำแหน่ง​นักบุญ​หญิง​ก็ได้​

แล้ว​ท่าน​ยาย​ก็ได้​ยกมือ​ของ​นาง​ขึ้น​มา แล้วก็​ปาด​น้ำตา​บน​หน้า​ของ​เจียง​อี๋​แล้ว​กล่าว​ด้วย​วาจา​ที่​หนักแน่น​ “อี๋​เอ๋อ​ ยาย​นั้น​จำต้อง​ตัดสิน​การคัดเลือก​นี้​อย่าง​ยุติธรรม​ นี่​คือ​กฎ​ที่​ถูก​ตั้ง​มาโดย​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​ และ​ยาย​ก็​ไม่สามารถ​ที่จะ​ละเมิด​กฎ​นี้​ได้​”

จากนั้น​นาง​ก็ได้​หันหน้า​มาแล้ว​เดิน​กลับ​ไป​ “เรา​จะมีหารือ​เรื่อง​นี้​กัน​ทีหลัง​ ตอนนี้​พวกเรา​จำต้อง​กลับ​ไป​ที่​หมู่บ้าน​เพื่อ​เริ่ม​การคัดเลือก​กัน​ต่อ​”

ในเวลานี้​มีผู้เข้าชิง​เหลืออยู่​แค่​ 5 คน​ได้แก่​ หนึ่ง​คือ​ หลิน​ซีเหยียน,​ สอง​คือ​เจียง​อี๋​, สามคือ​ลู่​หลี​, สี่คือ​สวี​หรา​น​ และ​ห้า​คือ​ชิงอ​วี่​

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด