หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 306 องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 306 องค์รัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 306

องค์​รัชทายาท​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​

 

แล้ว​เสียง​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ดังก้อง​ไปทั่ว​ท้องพระโรง​และ​แฝงไปด้วย​ความ​น่าเคารพ​ “ใน​วันนี้​ เรา​จะรื้อ​ตำแหน่ง​มหาอุปราช​กลับคืน​มา และ​สถาปนา​ฮ่องเต้​องค์​ใหม่​ มีใคร​จะคัดค้าน​อะไร​ไหม​?”

 

เหล่า​ขุนนาง​พา​กัน​มอง​ไปที่​ผู้อาวุโส​น่า​หลาน​และ​หวัง​ให้​อีก​ฝ่าย​ออกมา​พูด​อะไร​บางอย่าง​เพื่อ​โต้แย้ง​ แต่​พวกเขา​ไม่คิด​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะกลับ​ยืน​อยู่​นิ่งเฉย​ไม่มีการ​ตอบสนอง​ใดๆ​ เป็น​ความสงบ​ราวกับ​ภูเขา​ที่​ต้อง​ลม​ต้อง​ฝน​

 

ท่าที​เช่นนี้​ของ​เขา​มัน​ยาก​เกิน​กว่า​จะอธิบาย​ได้​ ตำแหน่ง​มหาอุปราช​นั้น​แม้จะฟังดูดี​ แค่​มองดู​การเมือง​จาก​ด้าน​ข้าง​เท่านั้น​ แต่​จริงๆ​แล้ว​เขา​ถืออำนาจ​เอาไว้​มาก​ คุม​บังเหียน​ฮ่องเต้​และ​สั่งการ​องค์​ชาย​ได้​!

 

องค์​ชาย​เอง​ก็​นั่ง​บน​บัลลังก์​มังกร​อย่าง​เงียบๆ​โดย​ไม่พูด​อะไร​ แสดงถึง​การ​ยอมรับ​เรื่อง​นี้​อย่าง​เห็นได้ชัด​!

 

ถ้าเช่นนั้น​แล้ว​พวกเขา​จะมามัว​คัดค้าน​อยู่​ทำไม​? อย่างไรก็ดี​หาก​เทียบ​กับ​องค์​ชาย​ที่​ยัง​เยาว์วัย​แล้ว​ พวกเขา​เชื่อ​ว่า​รัฐ​เจียง​นั้น​จะสามารถ​รุ่งเรือง​กว่า​ภายใต้​การ​ดูแล​ของ​องค์​ชาย​รัตติกาล​

 

ในขณะที่​พวกเขา​เตรียม​ที่จะ​คารวะ​มหาอุปราช​อยู่​นั้น​ ก็ได้​มีเสียง​ผู้หญิง​ดัง​มาจาก​ข้างนอก​ท้องพระโรง​

 

ทุกคน​จึงได้​รีบ​ลุกขึ้น​ยืน​ แน่นอน​ว่า​ไม่รวม​เจียง​หวาย​เย่​ เจียง​หวาย​เย่​นั้น​ยังคง​นั่ง​อยู่​ที่​เก้าอี้​ไม้ดำ​ที่​แกะสลัก​เป็น​รูป​มังกร​เขียว​ 4 นิ้ว​ ถึงแม้ว่า​จะไม่สูงส่งเท่า​มังกร​ทอง​ 5 นิ้ว​ แต่​ก็​ยัง​น่าเกรงขาม​อยู่ดี​

 

และ​บรรยากาศ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​ยัง​คงเดิม​ เขา​มองดู​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นยะเยือก​และ​ปรากฏ​แสงที่​หนาวเย็น​ออก​มาจาก​ดวงตา​ของ​เขา​

 

ผู้​ที่​เข้ามา​นั้น​คือ​ผู้​ที่อยู่​สูงที่สุด​ใน​พระราชวัง​ก็​คือ​ องค์​ไทเฮา​นั่นเอง​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ความ​อาวุโส​นั้น​ไม่อาจ​เทียบ​ได้​กับ​อำนาจ​ ถึงแม้ว่า​ตำแหน่ง​องค์​ไทเฮา​นั้น​จะไม่ธรรมดา​ แต่​นาง​ก็​ไม่สามารถ​ที่จะ​เมินเฉย​ต่อ​เจียง​หวาย​เย่​ได้​

 

แล้ว​องค์​ชาย​ก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​และ​มอง​ไปที่​องค์​ไทเฮา​แล้ว​ทำการ​คารวะ​ จากนั้น​ก็​กล่าว​ขึ้น​มา “ไม่ทราบ​ว่า​เสด็จ​ย่า​มาทำ​อะไร​ที่นี่​เหรอ​ขอรับ​?”

 

องค์​ไทเฮา​ก็ได้​พ่นลม​ออก​ทาง​จมูก​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​มอง​ไปที่​เจียง​หวาย​เย่​ด้วย​สายตา​ที่​แหลมคม​ “ถ้าหาก​ข้า​ไม่มา เจ้าจะไม่ถูก​รังแก​เหรอ​?”

 

จากนั้น​นาง​ก็ได้​จับมือ​ของ​องค์​ชาย​แล้ว​เดิน​ขึ้นไป​บน​พื้น​ยก​สูงแล้วก็​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​ของ​เจียง​หวาย​เย่​แล้ว​กล่าว​ “องค์​ชาย​เย่​ ตำแหน่ง​มหาอุปราช​นั้น​ถูก​ทำลาย​ไปนาน​แล้ว​ ข้า​ว่า​มัน​จะเป็นการ​ไม่เหมาะสม​นะ​ที่จะ​นำ​ระบบ​เก่า​เช่นนี้​มาใช้ใน​วันนี้​”

 

“การ​ที่​ผู้​ที่​มีหน้า​ที่อยู่​ใน​ตำหนัก​ใน​เข้ามา​ยุ่ง​กับ​การเมือง​เนี่ย​ เปิ่น​หวา​งว่า​ไม่เหมาะสม​มากกว่า​อีก​นะ​” เจียง​หวาย​เย่​กล่าว​ด้วย​เสียง​ที่​เยือกเย็น​ แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความ​ประชดประชัน​ แลดู​ไม่สนใจ​อีก​ฝ่าย​เลย​แม้แต่น้อย​

 

ไทเฮา​ก็ได้​ผงะ​กับ​คำพูด​ของ​เขา​และ​ไม่อาจ​โต้แย้ง​อะไร​กลับ​ไปได้​ชั่วขณะหนึ่ง​

 

จากนั้น​นาง​ก็​นึก​อะไร​บางอย่าง​ขึ้น​มาได้​แล้ว​มอง​ไปที่​ องค์​ชาย​ที่อยู่​ข้างๆ​นาง​แล้ว​กล่าว​ “เจิ้งเฉิง พ่อ​ของ​เจ้ายัง​ไม่สิ้นพระชนม์​เสียหน่อย​ ทำไม​เจ้าถึงได้คิด​ขึ้น​ครอง​บัลลังก์​เช่นนี้​?”

 

แล้ว​องค์​ชาย​ก็ได้​รู้สึก​สับสน​ขึ้น​มา ใน​สายตา​ของ​เขา​แล้ว​เสด็จ​ย่า​นั้น​ใจดี​กับ​เขา​มาก​เสมอมา​และ​เสด็จ​พ่อ​เอง​ก็​เช่นกัน​ ทำให้​เขา​ยาก​ที่จะ​พูด​อะไร​ออก​ไปได้​

 

แล้ว​องค์​ชาย​เย่​ก็ได้​พูด​ขึ้น​มา “เจียง​เห​ริน​จื้อ​นั้น​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​ไร้ความสามารถ​ มีกองทัพ​กบฏ​บุก​เข้า​มาถึงเมืองหลวง​ แต่กลับ​ไม่มีทางแก้​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​ ปล่อย​ให้​องค์​ชาย​สามนำ​ทัพ​มายึด​วังหลวง​ เห็นได้ชัด​ถึงความ​ไร้ความสามารถ​ของ​เขา​ และ​ไทเฮา​เอง​ก็​เช่นกัน​ ท่าน​ไม่โผล่​มาเลย​จนกระทั่ง​ทุกสิ่งทุกอย่าง​เข้าที่เข้าทาง​แล้ว​ แต่​ท่าน​กลับ​โผล่​หัว​ออกมา​และ​คัดค้าน​เช่นนี้​มัน​ไม่น่าขัน​ไปหน่อย​เหรอ​?”

 

คำพูด​ที่​ตรงไปตรงมา​นี้​ทำเอา​ผู้คน​ที่อยู่​ที่นี่​ได้ยิน​เข้า​ต่าง​ก็​พา​กัน​ก้มหัว​ลง​ไปอย่าง​รวดเร็ว​อย่าง​ฝืนทน​

 

ถึงแม้ว่า​คำพูด​ของ​องค์​ชาย​รัตติกาล​นั้น​จะเป็น​เรื่องจริง​ แต่​มัน​ก็​ฟังดู​ไม่ระ​รื่นหู​มากเกินไป​ ทำให้​ไทเฮา​ต้อง​ตัวสั่น​ด้วย​ความโกรธ​ นาง​ชี้มาที่​เจียง​หวาย​เย่​ แล้ว​พูด​ด้วย​เสียง​ที่สูง​

 

“ดี​นี่​องค์​ชาย​เย่​ นี่​เจ้าโยนความผิด​ทั้งหมด​ของ​เจ้าพวก​ขุนนาง​พวก​นี้​มาให้​ข้า​อย่างนั้น​เหรอ​?”

 

แล้ว​ที่​มุมปาก​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ยิ้ม​ขึ้น​มาเล็กน้อย​ แล้ว​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​ประชดประชัน​ “ไทเฮา​ก็​จริงจัง​เกินไป​ เปิ่น​หวา​งก็​แค่​พูดความจริง​เท่านั้น​ อย่างไร​เสีย​เทียบ​กับ​วิธีการ​ของ​ท่าน​แล้ว​ ตัวเรา​นั้น​ยัง​แค่​เด็ก​ๆยิ่งนัก​”

 

เมื่อ​ได้ยิน​ที่​พูด​แล้ว​องค์​ไทเฮา​ก็ได้​คิ้ว​ขมวด​และ​มีแววตา​ครุ่นคิด​ใน​ดวงตา​ของ​นาง​ นาง​นั้น​รู้ดี​ว่า​องค์​ชาย​รัตติกาล​นั้น​เกลียด​นาง​มาก​ ดังนั้น​วันนี้​ไม่ว่า​นาง​จะต้อง​ใช้วิธีการ​เช่นไร​ จะปล่อย​ให้​เจียง​หวาย​เย่​ได้​อำนาจ​ไปไม่ได้​เด็ดขาด​ ไม่อย่างนั้น​ตระกูล​ทาง​แม่ของ​นาง​รวมถึง​ตัวนาง​คง​ได้​อยู่​ไม่ไกล​จาก​ความตาย​แน่​

 

ไทเฮา​กระแอม​ แล้ว​นาง​ก็​พูด​กับ​เจียง​หวาย​เย่​ ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ลง​เหมือน​คุย​ปรึกษาหารือ​กัน​ “เก้าอี้​ของ​มหาอุปราช​นั้น​ได้​ถูก​ยกเลิก​ไปแล้ว​ ในเวลานี้​หาก​นำ​กลับมา​ก็​จะเป็นเรื่อง​ยาก​ที่จะ​ทำให้​ประชาชน​เข้าใจ​ได้​นะ​

 

“ไทเฮา​ก็​กังวล​มากเกินไป​ ข้า​คิด​ว่า​เหล่า​ขุนนาง​เหล่านี้​ก็​ไม่เห็นจะ​มีใคร​คัดค้าน​นะ​”

 

“……”

 

แล้ว​เหล่า​ขุนนาง​ต่าง​ก็​พา​กัน​พูด​อะไร​ไม่ออก​และ​อึดอัด​ เพราะ​พวกเขา​นั้น​ไม่กล้า​ที่จะ​คัดค้าน​อะไร​ออก​ไป และ​ต่อให้​ เจียง​หวาย​เย่​ไม่ได้​ตำแหน่ง​มหาอุปราช​ไป เขา​ก็​ถูก​เรียก​ว่า​ราชา​ไร้​มงกุ​ฏอยู่แล้ว​

 

สำหรับ​ตำแหน่ง​นี้​นั้น​ไม่ว่า​จะมีหรือไม่​มี ก็​ไม่ต่างกัน​เลย​

 

ในเวลานี้​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​ยัง​ไม่อาจ​ที่​หงาย​ไพ่​ใน​มือ​ออกมา​ได้​ จึงได้​อาศัย​เพียง​คำพูด​ของ​เขา​ทำให้​ไทเฮา​สงบปากสงบคำ​ไปชั่วขณะ​ แล้ว​นาง​ก็ได้​ครุ่นคิด​อยู่​พักใหญ่​แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​กล่าว​

 

“องค์​ชาย​เย่​ในเวลานี้​เจ้ามีอำนาจ​มาก​ แน่นอน​ว่า​คง​ไม่มีใคร​ใน​รัฐ​เจียง​ที่จะ​มางัดข้อ​กับ​เจ้าได้​ แต่​ถ้าหาก​เจ้าอยาก​ที่จะ​ได้​ตำแหน่ง​นั้น​จริงๆ​เจ้าก็​จะต้อง​ได้รับ​การยินยอม​จาก​ข้า​ก่อน​ เพียงแต่​เจ้าจะต้อง​ยอมรับ​เงื่อนไข​อย่างหนึ่ง​กับ​ข้า​ก่อน​ ไม่อย่างนั้น​ข้า​จะปฏิเสธทุกอย่าง​ที่​เจ้าเสนอ​ แล้ว​ปล่อย​ให้​เจ้าจมดิ่ง​อยู่​แบบ​นั้น​ไปพันปี​หมื่น​ปี”

 

เจียง​หวาย​เย่​ที่​ยังคง​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​มังกร​เขียว​ไม้ดำ​นั้น​อย่าง​สบายอารมณ์​ ช่างตัด​กับ​สภาพ​ที่​กระวนกระวาย​ของ​ไทเฮา​นัก​

 

แล้ว​เขา​ก็ได้​ยิ้ม​และ​กล่าว​ “ใน​เมื่อ​ไทเฮา​ต้องการ​อะไร​ก็​พูด​มาเลย​ แล้ว​เรา​จะรับฟัง​เอง​”

“ข้า​อยาก​ให้​เจ้าเรียก​พี่ใหญ่​ของ​ข้า​กลับมา​ที่​เมืองหลวง​”

 

ชวี​เหยียนเฉิง​พี่ชาย​ของ​องค์​ไทเฮา​นั้น​ ได้​ถูก​ส่งให้​ไปอยู่​ยัง​ที่​ห่างไกล​ใน​ตอนที่​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​สิ้นพระชนม์​ เพื่อ​ป้องกัน​ไม่ให้​ญาติ​ของ​นาง​นั้น​เข้ามา​เกี่ยวข้อง​กับ​การเมือง​

 

จาก​มุมมอง​นี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ไทเฮา​นั้น​ไม่ได้​วางแผนการ​ทั้งหมด​เพื่อ​เจียง​เห​ริน​จื่อ​เลย​แม้แต่น้อย​ ตั้งแต่แรก​แล้ว​สิ่งที่​นาง​ทำ​ลง​ไปนั้น​ก็​เพื่อ​ความเป็นอยู่​ของ​ตระกูล​ของ​นาง​ ซึ่งกล้า​พูด​ได้​เลย​ว่า​ตระกูล​ชวี​นั้น​ช่างเลี้ยง​ลูกสาว​มาได้ดี​จริงๆ​

 

แต่​เงื่อนไข​เช่นนี้​ ทำไม​เจียง​หวาย​เย่​จะต้อง​ยอม​ตกลง​กับ​นาง​ด้วย​ ตั้งแต่แรก​แล้ว​ไทเฮา​นั้น​ไม่ได้​มีเบี้ย​อะไร​มาต่อรอง​กับ​เจียง​หวาย​เย่​เลย​แม้แต่น้อย​

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กล่าว​โดย​ไม่เงยหน้า​ขึ้น​มา “ฮ่องเต้​ องค์​ก่อน​นั้น​ได้​กล่าว​เอาไว้​ว่า​จะให้​ตระกูล​ชวี​อยู่​ใน​เมืองหลวง​ไม่ได้​ ต้อง​ให้​อยู่​ใน​พื้นที่​ห่างไกล​ถึงจะมีชีวิต​อยู่​ต่อ​ได้​ หรือว่า​สิ่งที่​ไทเฮา​ต้องการ​คือ​การ​ให้​ตระกูล​ของ​ท่าน​ต้อง​พังพินาศ​?”

 

“มีข้า​อยู่​ทั้งคน​ ใคร​กัน​จะกล้า​ทำลาย​ตระกูล​ของ​ข้า​!” คำพูด​ที่​น่าเกรงขาม​เช่นนี้​ แม้แต่​องค์​รัชทายาท​ก็​ยัง​ต้อง​หนาวสั่น​

 

“เสด็จ​ย่า​ในเวลานี้​เมืองหลวง​กำลัง​วุ่นวาย​นัก​ คงจะ​ให้​ตระกูล​ชวี​กลับ​เข้ามา​ใน​ตอนนี้​ไม่ได้​หรอก​ขอรับ​” ถึงแม้ว่า​ องค์​รัชทายาท​นั้น​จะยัง​เด็ก​ แต่​เขา​ก็ได้​ศึกษา​มาตั้งแต่​ยัง​เล็ก​ ถึงแม้ว่า​จาก​สถานการณ์​ใน​ปัจจุบัน​แล้ว​ เขา​อาจจะ​มอง​ได้​ไม่ทั่วถึง​นัก​ แต่​ก็​สามารถ​มอง​ผลดี​ผลเสีย​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​

 

ในเวลานี้​ทั้ง​องค์​ชาย​รัตติกาล​กับ​องค์​ชาย​หก​ต่าง​ก็​ไม่เห็นด้วย​ ต่อให้​ไทเฮา​นั้น​จะมีแผนการ​ที่​ดีเลิศ​ใน​ใจของ​นาง​เพียงใด​ แต่​นาง​ก็​ไม่อาจจะ​นำมา​ใช้ได้​

 

ไทเฮา​สะบัดมือ​ของ​องค์​รัชทายาท​แล้ว​มอง​มาอย่าง​โกรธ​ๆ “เจิ้งเฉิง ที่​ย่า​ทำ​น่ะ​ก็​เพื่อประโยชน์ของ​เจ้านะ​ ในเวลานี้​ไม่มีใคร​ที่จะ​สนับสนุน​เจ้าได้​ แต่​ถ้าเป็น​ตระกูล​ชวี​ล่ะ​ก็​จะช่วย​เจ้าได้​นะ​”

 

แล้ว​องค์​รัชทายาท​ก็ได้​กล่าว​ด้วย​สีหน้าที่​มืด​ดำ​ “เจิ้งเฉิงรู้​ตัวดี​ขอรับ​ ดังนั้น​ข้า​จะไม่รบกวน​ท่าน​หรอก​ ส่วน​เรื่อง​ของ​ตระกูล​ชวี​นั้น​ปล่อย​ให้​พวกเขา​อยู่​อย่าง​สุขสบาย​ที่​ชายแดน​ต่อไป​เถอะ​”

 

เมื่อ​คำพูด​เช่นนี้​ออกมา​แล้ว​ ตระกูล​ชวี​ก็​หมด​สิทธิ์​กลับมา​ได้​อีก​ แม้ว่า​จะมีการตัดสินใจ​ที่​หนักแน่น​เพียงใด​ เรื่อง​นี้​ก็​ไม่อาจ​เปลี่ยนแปลง​ได้​

 

ไทเฮา​ที่​เหมือน​อยาก​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​ออกมา​ แต่​ก็ได้​ถูก​ขัด​โดย​น่า​หลาน​จาว​เสีย​ก่อน​ “ทูล​ไทเฮา​ ได้​โปรด​วางใจ​ได้​ฮองเฮา​นั้น​มาจาก​ตระกูล​น่า​หลาน​ พวกเรา​จะคอย​สนับสนุน​ องค์​รัชทายาท​ให้ได้​กลายเป็น​ฮ่องเต้​ไปจวน​จน​วาระ​ของ​ท่าน​พ่ะย่ะค่ะ​”

 

ไทเฮา​ก็ได้​รู้สึก​ไม่พอใจ​อย่าง​มาก​และ​ต้องการ​ที่จะ​ต่อรอง​กับ​องค์​ชาย​ แต่​นาง​ก็​ถูก​ขัด​โดย​เจียง​หวาย​เย่​เสีย​ก่อน​

 

“ไทเฮา​ แม้ว่า​ท่าน​จะมีฐานะ​สูงส่งแต่​ท่าน​ก็​ยัง​เป็น​เพียง​คน​ของ​ตำหนัก​ใน​ ข้า​หวัง​ว่า​ท่าน​จะประพฤติตน​ให้​เป็น​แบบอย่าง​ที่​ดี​และ​คอย​ตักเตือน​ให้​เหล่า​หญิงสาว​ใน​ตำหนัก​ใน​ว่า​อย่า​ได้คิด​มาก้าวก่าย​เรื่อง​การเมือง​เด็ดขาด​”

“เจ้า—“

 

ไทเฮา​นั้น​รู้ดี​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​กำลัง​พูดถึง​ตัวเอง​อยู่​ นาง​จึงได้​สะบัด​แขน​เสื้อ​แล้ว​จากไป​

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด