หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 307 องค์ไทเฮา

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 307 องค์ไทเฮา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 307

องค์​ไทเฮา​

 

การ​ปรากฏตัว​ของ​ไทเฮา​นั้น​ไม่อาจ​เปลี่ยนแปลง​การ​ สถาปนา​ครั้งนี้​ได้​ เจียง​หวาย​เย่​นั้น​ยังคง​ได้​เป็น​มหาอุปราช​และ​องค์​ชาย​หก​ก็ได้​ขึ้น​นั่ง​ราชบัลลังก์​

 

ในเวลานี้​หลิน​ซีเหยียน​ได้คิด​ที่จะ​ไปเข้าพบ​กับ​ หลี​เจี้ยนเฉิน​ก่อน​แล้ว​ค่อย​จากไป​

 

หลี​เจี้ยนเฉิน​นั้น​แสดง​สีหน้า​ออกมา​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ไม่ยอมให้​นาง​ไป เขา​ได้​จับ​ไปที่​แขน​เสื้อ​ของ​หลิน​ซีเหยียน​แล้ว​พูด​อย่าง​น่าสงสาร​ “ข้า​รู้ดี​ว่า​มีบางอย่าง​ใน​รัฐ​เจียง​ที่​ท่าน​หมอ​หลิน​นั้น​ไม่อาจ​ปล่อยไป​ได้​ ดังนั้น​ต่อให้​ข้า​ไม่อยาก​ให้​ท่าน​จากไป​มาก​เพียงใด​ ข้า​ก็​ไม่อาจ​ห้าม​ท่าน​ได้​อยู่ดี​”

 

หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​ผงกหัว​ด้วย​รอยยิ้ม​แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​ไปจาก​หลี​เจี้ยนเฉิน​ และ​ออกเดินทาง​กลับ​ เพราะ​มีหลิน​หนาน​เฟิง, จี๋เฟิงกับ​ชิงอ​วี่​ร่วม​เดินทาง​ไปด้วย​ การ​เดินทาง​ยาวนาน​ใน​สามวัน​มานี้​จึงได้​ไม่น่าเบื่อ​มาก​นัก​

 

ในเวลานี้​ นาง​นั้น​ไม่ได้​คิดถึง​สิ่งใด​นอก​เสีย​ไปจาก​ เทียน​เอ๋อ​กับ​เจียง​หวาย​เย่​

 

นาง​นั้น​ไม่ได้​เจอ​เทียน​เอ๋อ​มานาน​แล้ว​ และ​ไม่รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​นั้น​จะยัง​เชื่อฟัง​ท่าน​ลุง​ของ​เขา​และ​หมั่น​ฝึก​ยุทธ์​หรือไม่​ จะได้​ไม่เสีย​ร่างกาย​ที่​มีกระดูก​ที่​เหมาะสม​แก่​การ​ฝึก​ยุทธ์​ไปเปล่าๆ​

 

เมื่อ​คิดถึง​เจ้าตัวแสบ​เทียน​เอ๋อ​แล้ว​ ใบหน้า​ของ​ หลิน​ซีเหยียน​ก็ได้​เต็มไปด้วย​ความยินดี​และ​มีความสุข​ขึ้น​มา

 

แต่​พอ​มานึกถึง​เจียง​หวาย​เย่​แล้ว​ รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็ได้​หาย​ไป แล้ว​ตามมา​ด้วย​ความเจ็บปวด​ภายใน​อก​ข้าง​ซ้าย​ของ​นาง​ นาง​นั้น​ไม่รู้​ว่า​เจ้าหนอน​แมลง​วิปลาส​ใน​ตัว​ชาย​โชคร้าย​คน​นั้น​ถูก​นำ​ออกมา​หรือยัง​? แล้ว​อาการ​พิษ​ของ​เขา​เป็น​อย่างไร​แล้ว​บ้าง​?

 

เมื่อ​นาง​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​ออกมา​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​เร่งความเร็ว​ใน​การ​เดินทาง​กลับ​ให้​เร็ว​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

 

ในเวลานี้​เจียง​หวาย​เย่​ที่​ถูก​คิดถึง​โดย​หลิน​ซีเหยียน​นั้น​ กำลัง​นั่ง​ดื่ม​ชากับ​สาว​ที่​กำลัง​สวม​ชุด​ที่​ดู​สง่างามสีเหลือง​อ่อน​อยู่​ ถ้าหาก​ไม่รู้จัก​ก็​จะคิด​ว่า​เป็น​เชื้อพระวงศ์​ใน​วังหลวง​เสีย​อีก​

 

ใน​ห้องโถง​ใหญ่​นั้น​ เจียง​หวาย​เย่​นั้น​กำลัง​นั่ง​อยู่​ที่​หัว​โต๊ะ​ด้วย​ใบ​หน้าที่​เยือกเย็น​ ด้วย​ท่าที​เช่นนี้​ทำให้​หญิงสาว​ที่​มาจาก​วังหลวง​คน​นี้​รู้สึก​อึดอัด​ขึ้น​มา

 

หลังจากที่​ลังเล​อยู่​สัก​พักใหญ่​หญิงสาว​ก็ได้​กล่าว​ขึ้น​มา “องค์​ชาย​เจ้าคะ​ รั่ว​จิ่งมาที่นี่​วันนี้​ก็​เพื่อที่จะ​ขอบคุณ​ท่าน​ที่​ช่วย​ข้า​ใน​วันนั้น​”

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้อง​ขอบคุณ​เปิ่น​หวา​งก็ได้​ ใน​วันนั้น​ เปิ่น​หวา​งก็​แค่​บังเอิญ​ไปพบ​กับ​เจ้าก็​เท่านั้น​” เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​หยิบ​เอา​แก้ว​ชาตรงหน้า​เขา​ขึ้น​มา แล้ว​ดื่ม​อย่าง​นุ่มนวล​และ​ สง่างาม แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​รู้สึก​ลุ่มหลง​ไปกับ​กลิ่นหอม​ของ​ชา

“องค์​ชาย​ขอรับ​” มีเสียงดัง​มาจาก​ข้างนอก​แล้วก็​มีคน​คน​หนึ่ง​ปรากฏตัว​ออกมา​อย่าง​รวดเร็ว​ ชาย​คน​นั้น​สวม​ชุด​สีดำ​ดำ​และ​ใบหน้า​ของ​เขา​นั้น​ดู​ด้านชา​มาก​ เขา​ได้​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ด้วย​ท่าที​ที่​เคารพ​มาก​

 

“มีอะไร​รึ​?” เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​คิ้ว​ขมวด​ขึ้น​มาเล็กน้อย​แล้ว​ถาม

 

แล้ว​ชาย​คน​นั้น​ก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ เขา​มอง​ไปที่​หลิน​รั่ว​จิ่งแล้ว​จากนั้น​ก็ได้​เดิน​ไปที่​ข้าง​หู​ของ​เจียง​หวาย​เย่​แล้ว​กระซิบกระซาบ​

 

หลิน​รั่ว​จิ่งที่นั่ง​อยู่​นั้น​ก็ได้​มอง​ไปที่​ชาย​ชุด​ดำ​คน​นั้น​อย่าง​เงียบๆ​ ซึ่งหาก​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​เขา​แล้ว​ ก็​รู้​ว่า​ชาย​คน​นี้​จะต้อง​สุดยอด​มาก​แน่ๆ​

 

ทำให้​นาง​นั้น​ปักใจ​เชื่อมั่น​มาก​ขึ้นไป​อี​กว่า​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​คือ​ผู้​ที่​เหมาะสม​จะเป็น​คนรัก​ของ​นาง​มาก​ที่สุด​

 

หลังจากที่​ชาย​ชุด​ดำ​ได้​กลับ​ไป อารมณ์​ของ​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​ก็​ดีขึ้น​อย่าง​เห็นได้ชัด​ ดวงตา​ของ​เขา​นั้น​ดู​ไร้​ซึ่งความโมโห​และ​ดู​ผ่อนคลาย​มากกว่า​เมื่อ​สักครู่​นัก​

 

ซึ่งเรื่อง​นี้​ได้​ทำให้​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​รู้สึก​สงสัย​ใน​เนื้อหา​ของ​รายงาน​เมื่อ​สักครู่​มาก​ขึ้นไป​อีก​

 

เมื่อ​รู้สึก​ได้​ถึงสายตา​ของ​หลิน​รั่ว​จิ่ง ดวงตา​ของ​เขา​ก็ได้​กลับมา​หนาวเย็น​อีกครั้ง​ แล้ว​เปลี่ยน​ท่าทาง​ที่​ดู​ผ่อนคลาย​เมื่อ​สักครู่​กลับ​กลายเป็น​หนาวเย็น​ ซึ่งการเปลี่ยนแปลง​เช่นนี้​ได้​ทำให้​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​รู้สึก​เสียใจ​ขึ้น​มา

 

ในขณะที่​นาง​กำลัง​ตกอยู่ในภวังค์​อยู่​ใน​เอง​ เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กล่าว​ต่อ​ “ถ้าหาก​องค์​หญิง​ไม่มีธุระ​อะไร​แล้ว​ เรา​คงจะ​ต้อง​ขอให้​องค์​หญิง​กลับ​ไปก่อน​เถิด​”

 

ตั้ง​แต่ต้น​จน​จับ​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​ได้​พูด​ออก​ไปแค่​ไม่กี่​คำ​เท่านั้น​ ก่อนที่​นาง​จะได้​นำ​เอา​ของขวัญ​ที่​เตรียม​เอาไว้​ออกมา​นาง​ก็ได้​ถูก​บอก​ให้​กลับ​ไปเสียแล้ว​

 

หลิน​รั่ว​จิ่ว​ก็ได้​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​ แต่​นาง​นั้น​ก็​ไม่อาจ​ที่จะ​ฝืน​อยู่​ต่อ​ใน​บรรยากาศ​ที่​ดู​อึดอัด​เช่นนี้​ได้​ นาง​จึงได้​ลุกขึ้น​ยืน​แล้ว​คารวะ​ “ใน​เมื่อ​องค์​ชาย​ไม่สะดวก​ รั่ว​จิ่งก็​จะไม่อยู่​เพื่อ​รบกวน​ท่าน​ต่อ​ ในเวลานี้​ข้า​ตัว​ก่อน​”

 

แต่​ก่อนที่​นาง​จะได้​เดิน​ออกจาก​ห้อง​นั้น​ ก็ได้​มีชุด​สีขาว​ผ่าน​เข้ามา​ใน​สายตา​ของ​นาง​ เมื่อ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มามอง​ก็​พบ​ว่า​เป็น​หญิงสาว​ที่​สวม​ชุด​สีขาว​อยู่​ ใบหน้า​และ​ร่างกาย​ของ​นาง​ที่​ดู​ซีด​ ทำ​ให้ได้​บรรยากาศ​ของ​สาวงาม​ที่​อ่อนแอ​น่า​ปกป้อง​ออกมา​

 

เพียงแค่​มอง​ผ่านๆ​ หลิน​รั่ว​จิ่งก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​ตัวตน​ของ​ผู้หญิง​ใน​ชุด​ขาว​นี้​จะต้อง​ไม่ธรรมดา​เป็นแน่​

 

หญิงสาว​ใน​ชุด​สีขาว​นั้น​ได้มา​พร้อมกับ​ถ้วย​น้ำแกง​ใน​มือ​ของ​นาง​ และ​ดูเหมือนว่า​นาง​นั้น​จะมาหา​เจียง​หวาย​เย่​ นาง​จึงได้​แกล้ง​ทำเป็น​สะดุด​แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​ชน​เข้ากับ​เจียง​อี๋​จน​ทำให้​น้ำแกง​หก​รด​ตัว​ของ​นาง​

 

“องค์​หญิง​!”

 

แล้ว​สาว​กำนัล​ที่​เดิน​ตามหลัง​หลิน​รั่ว​จิ่งมานั้น​ก็ได้​รีบ​เดิน​เข้ามา​แล้ว​ถาม “ถูก​น้ำแกง​ลวง​หรือเปล่า​เจ้าคะ​?”

 

หลังจากที่​พบ​ว่า​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​ไม่เป็นอะไร​ นางกำนัล​ก็ได้​มอง​ไปที่​เจียง​อี๋​ด้วย​ท่าทาง​ที่​เป็น​ปรปักษ์​ “นี่​เจ้าเดิน​ยังไง​ไม่รู้จัก​มอง​ทาง​เสีย​บ้าง​? หา​เจ้าเกิด​ผิว​สวย​ๆของ​องค์​หญิง​เป็น​อะไร​ขึ้น​มาเจ้าจะทำ​อย่างไร​?”

 

เจียง​อี๋​ก็ได้​เหลืออด​กับ​คำพูด​เช่นนี้​ นาง​นั้น​เดิน​มาดี​ๆ แต่​กลับเป็น​องค์​หญิง​เอง​ที่​เข้ามา​ชน​นาง​แล้ว​ทำไม​ถึงได้มา​โทษ​นาง​ด้วย​?

 

นาง​นั้น​คิด​ที่จะ​โต้แย้ง​กลับ​ไป แต่​ก็​เหลือบ​ไปมอง​ เจียง​หวาย​เย่​ที่​สวม​ชุด​สีดำ​อยู่แล้ว​ก็ได้​มีแววตา​ไตร่ตรอง​ขึ้น​มาใน​ดวงตา​ของ​นาง​ แล้ว​ก็ได้​มีน้ำ​ไหล​ทะลัก​ออก​มาจาก​ดวงตา​ของ​นาง​

 

เดิมที​เจียง​อี๋​นั้น​ก็​มีร่างกาย​ที่​อ่อนแอ​กว่า​คนธรรมดา​อยู่แล้ว​ แล้ว​ในเวลานี้​ดวงตา​ของ​นาง​ที่​เหมือนกับ​บ่อน้ำพุ​นี้​ช่างทำให้​ดู​น่า​ตกใจ​ยิ่งนัก​ เพียงแค่​ผู้​ที่​ได้​เห็น​แค่​ครั้ง​เดียว​ก็​ทำให้​ต้อง​รู้สึก​อยาก​ที่จะ​ออกมา​ปกป้อง​นาง​

 

แต่​น่าเสียดาย​นัก​ที่​การเล่นละคร​ตบตา​ของ​นาง​นั้น​ช่างอ่อนด้อย​นัก​ ใน​สายตา​ของ​นางกำนัล​ที่​เติบ​โตมา​ใน​วังหลวง​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​นั้น​ ก็​เห็น​ได้​อย่าง​ชัดเจน​มาแล้ว​ก็ได้​พูด​ออก​ไปทันที​ “แกล้ง​ทำเป็น​น่าสงสาร​แบบ​นั้น​ จะมีใคร​สงสาร​นาง​ไหม​นะ​?”

 

เมื่อ​หลิน​รั่ว​จิ่งได้ยิน​เสียง​ฝีเท้า​ดัง​มาจาก​ข้างหลัง​ของ​นาง​ หลิน​รั่ว​จิ่งก็ได้​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​นางกำนัล​แล้ว​กล่าว​ “ต้อง​ขอโทษ​แม่นาง​ด้วย​จริงๆ​ เป็น​รั่ว​จิ่งเอง​ที่​ไปชน​นาง​ก่อน​”

 

เจียง​อี๋​ก็ได้​พ่นลม​ออก​ทาง​จมูก​ แล้วก็​พูด​ต่อว่า​ใน​ใจของ​นาง​ “นาง​ตอบโต้​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​จริงๆ​”

 

ทันทีที่​เจียง​หวาย​เย่อ​อก​มาจาก​ใน​ห้อง​ เขา​ก็​พบ​คน​น่ารังเกียจ​สอง​คน​เผชิญหน้า​กัน​ และ​ตัดสินใจ​ที่จะ​ปล่อย​ทั้งคู่​เอาไว้​แบบ​นั้น​แล้ว​เดิน​จากไป​โดยที่​ไม่คิด​จะเหลือบตา​มามอง​ แต่​ใน​ชั่ว​ขณะนั้น​เอง​จู่ๆพิษ​ใน​ร่างกาย​ของ​เขา​ก็ได้​กำเริบ​อย่าง​ควบคุม​ไม่ได้​อีกครั้ง​

เขา​จึงได้​หยุด​แล้ว​เดิน​ไปหา​เจียง​อี๋​ แล้ว​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กล่าว​อย่าง​เยือกเย็น​ “มากับ​เปิ่น​หวา​ง

 

จากนั้น​ก็ได้​กล่าว​กับ​นางกำนัล​ที่อยู่​ใกล้​ๆ “พา​องค์​หญิง​ไปเปลี่ยน​เสื้อผ้า​ก่อน​”

 

แล้ว​เจียง​อี่​ก็ได้​เดินตาม​เจียง​หวาย​เย่​ด้วย​สีหน้าที่​ เอียงอาย​ นาง​ได้​แสดง​สีหน้า​ผู้ชนะ​ไปที่​หลิน​รั่ว​จิ่งและ​เดินตาม​เจียง​หวาย​เย่​ไป และ​ไม่นาน​นัก​ก็ได้​มาถึงที่​ห้อง​ว่าง​ๆห้อง​หนึ่ง​

 

“ในที่สุด​องค์​ชาย​เย่​ก็​หลงรัก​ข้า​และ​คิด​ที่จะ​แต่ง​กับ​ข้า​ใน​ฐานะ​องค์​หญิง​แล้ว​ใช่ไหม​?”

 

ในขณะที่​เจียง​อี๋​กำลัง​เดา​เรื่อยเปื่อย​อยู่​นั้น​ เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ตะโกน​ “อัน​อี้​”

 

แล้ว​อัน​อี้​ก็ได้​ปรากฏตัว​ออกมา​แล้ว​มอง​ไปที่​อีก​ฝ่าย​ จากนั้น​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​เดิน​จากไป​ปล่อย​ให้​เจียง​อี๋​รู้สึก​สับสน​และ​งุนงง​

 

เมื่อ​เห็น​ท่าที​ที่​ตื่นเต้น​ของ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ ก็ได้​มีแววตา​ดูหมิ่น​ปรากฏ​ขึ้น​มาใน​ดวงตา​ของ​เขา​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​รีบ​เฉือน​ไปที่​ข้อมือ​ของ​เจียง​อี๋​ด้วย​มีดพก​ของ​เขา​

 

แม้ว่า​เจียง​อี๋​นั้น​จะโง่เขลา​ แต่​นาง​ก็​รู้ดี​ว่า​จะต้อง​ทำ​อะไร​?

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กลับมา​ที่​ห้อง​ของ​เขา​แล้ว​ถอด​เอา​หน้ากาก​หยก​ออกจาก​ใบหน้า​ของ​เขา​ แล้ว​นอนลง​อย่าง​ไร้​เรี่ยวแรง​ แล้ว​ลวดลาย​สีดำ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​นั้น​ก็ได้​ชัดเจน​มากยิ่งขึ้น​เรื่อยๆ​

 

“ระยะเวลา​ใน​การ​กำเริบ​นั้น​เริ่ม​ถี่มากขึ้น​เรื่อยๆ​แล้ว​” เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ยิ้ม​ออกมา​อย่าง​ขมขื่น​ที่​มุมปาก​ของ​เขา​ “ไม่รู้​เลย​ว่า​เรา​นั้น​จะได้​พบ​กับ​เสี่ยว​เหยียน​อีกครั้ง​ไหม​?”

 

ในเวลานี้​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​อ่อนแอ​มาก​ที่สุด​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ ด้วยเหตุนี้​จึงได้​มีเหล่า​นักฆ่า​ได้​บุก​เข้ามา​ใน​วัง​รัตติกาล​ ถึงแม้ว่า​ท้องฟ้า​จะถูก​ปกคลุม​ด้วย​ความมืด​แล้ว​ก็ตาม​ แต่​การกระทำ​เช่นนี้​ก็​เรียก​ได้​ว่า​อุกอาจ​นัก​

 

เจีนง​หวาย​เย่​ก็ได้​รีบ​จี้สกัด​จุด​บน​ร่างกาย​ของ​เขา​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​ลุกขึ้น​ยืน​ด้วย​ใบ​หน้าที่​หนักแน่น​และ​เผชิญหน้า​กับ​ชาย​ชุด​ดำ​สอง​คน​อย่าง​ห้าวหาญ​

 

หน่วย​คุ้มกัน​วัง​รัตติกาล​นั้น​ไม่ธรรมดา​นัก​ ถ้าหาก​คิด​ที่จะ​ลอบ​เข้ามา​ที่นี่​แล้ว​ล่ะ​ก็​ เป็นไปไม่ได้​เลย​ที่จะ​เข้ามา​โดย​ไม่เสียสละ​คน​ไปบ้าง​

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด