หมอผีแม่ลูกติดบทที่ 308 ส่งคืน

Now you are reading หมอผีแม่ลูกติด Chapter บทที่ 308 ส่งคืน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บท​ที่​ 308

ส่งคืน​

 

เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​เอะอะ​ที่​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​แล้ว​ ดวงตา​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ปรากฏ​ความ​ว้าวุ่น​ใจออกมา​ เขา​พอ​จะเดา​ได้​ว่า​คน​ที่​อยาก​จะฆ่าเขา​โดย​ไร้​ซึ่งความคิด​ไตร่ตรอง​เช่นนี้​เป็น​ใคร​

 

งูพิษ​เฒ่าที่​แอบ​เลื้อย​อยู่​ใน​ตำหนัก​ใน​นั้น​ในที่สุด​ก็​อยู่​ทน​เฉย​ไม่ไหว​และ​ออกมา​ต่อสู้​แล้ว​

 

ในเวลานี้​ทั้งสอง​คน​ที่อยู่​ตรงหน้า​เขา​นั้น​น่าจะ​แอบ​ เล็ดลอด​เข้ามา​ แผนการ​ของ​ไทเฮา​นั้น​แยบยล​มาก​ ได้​ฉวยโอกาส​ตอน​พิษ​กำลัง​กำเริบ​อยู่​นั้น​ ก็ได้​ส่งคน​เข้ามา​แฝงตัว​อยู่​ใน​หน่วย​อัน​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​ให้​สอง​คน​นั้น​ทำหน้าที่​มาฆ่าเขา​

 

มีคน​อยู่​ไม่มาก​นัก​ที่​รู้​ถึงอาการป่วย​ของ​เขา​อย่าง​ชัดเจน​เช่นนี้​ ซึ่งแสดงให้เห็น​ว่า​ใน​วัง​รัตติกาล​นี้​มีหนอนบ่อนไส้​อยู่​เป็นแน่​

แล้ว​ทั้งสอง​คน​ก็ได้​มอง​ไปที่​เจียง​หวาย​เย่​ที่​กำลัง​ซีดเผือด​แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​หันมา​มองหน้า​กันเอง​ แล้ว​จากนั้น​ก็ได้​ลงมือ​เข้า​ จู่โจมเจียง​หวาย​เย่​ทันที​

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​พยายาม​หลบ​อย่าง​ยากลำบาก​ ถึงแม้ว่า​จะยากลำบาก​ แต่​เขา​ก็​ไม่ได้​เป็นกังวล​ว่า​ทั้งคู่​นั้น​จะเอาชีวิต​เขา​ได้​เลย​

 

“ใคร​ส่งพวก​เจ้ามา?”

 

อาศัย​ช่องว่าง​ใน​ระหว่าง​การต่อสู้​นั้น​ เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กล่าว​ขึ้น​มาแต่​ก็​ไม่มีใคร​เลย​ที่​ตอบคำถาม​เขา​ ซึ่งเจียง​หวาย​เย่​เอง​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​อะไร​ จากนั้น​เขา​ก็ได้​พูด​ต่อ​ “พวก​เจ้าคิด​ว่า​จะเป็น​อย่างไร​หาก​องค์​รัชทายาท​รู้เรื่อง​นี้​เข้า​ แม้แต่​ไทเฮา​ก็​ไม่สามารถ​ที่จะ​ไว้ชีวิต​พวก​เจ้าได้​หรอก​นะ​?”

 

ทั้งสอง​คน​นั้น​ก็​ยังคง​ไม่ตอบคำถาม​ แต่​การเคลื่อนไหว​ที่​มือ​ของ​พวกเขา​นั้น​ก็ได้​ดู​รุนแรง​ขึ้น​ แต่ละ​การ​โจมตี​ของ​เขา​ล้วน​เล็ง​ไปที่​จุดสำคัญ​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ พวกเขา​นั้น​ไม่สน​การ​โจมตี​สวน​กลับมา​ของ​เจียง​หวาย​เย่​ดูเหมือน​พวกเขา​คิด​ที่จะ​ใช้วิธี​แลก​ชีวิต​กับ​เจียง​หวาย​เย่​

 

การ​โจมตี​เช่นนี้​ของ​ทั้งสอง​คน​นั้น​ทำให้​เจียง​หวาย​เย่​รู้สึก​ได้​ถึงแรงกดดัน​ หลังจากที่​ผ่าน​ไปพักใหญ่​เขา​ก็​เริ่ม​รู้สึก​หายใจ​ไม่ค่อย​ทัน​ และ​ตัว​ของ​เขา​ก็​เริ่ม​มีบาดแผล​ปรากฏ​ออกมา​ แต่​โชค​ยัง​ดี​ที่​เขา​ยัง​ไม่ได้รับบาดเจ็บ​เข้าที่​จุดสำคัญ​

 

แต่​เขา​ก็​ยัง​เสีย​เลือด​อย่าง​ต่อเนื่อง​ เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​คิดในใจ​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ตัว​เขา​คง​ได้​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​เสียเปรียบ​เป็นแน่​

 

“พวก​เจ้ารู้สึก​อับอาย​และ​โกรธ​ที่​เรา​เดา​พวก​เจ้าถูก​อย่างนั้น​เหรอ​?” เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​เอา​หลัง​พิง​เข้ากับ​กำแพง​และ​เผย​รอยยิ้ม​ที่​มุมปาก​ของ​เขา​แล้ว​มอง​ไปที่​นักฆ่า​ทั้งสอง​คน​นั้น​อย่าง​ดูถูก​

 

“วันนี้​จะเป็น​วัน​ตาย​ของ​เจ้า” ในที่สุด​ก็ได้​มีหนึ่ง​ใน​นักฆ่า​สอง​คน​นั้น​ที่​ทนไม่ไหว​และ​พูด​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หนาวเย็น​

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ยักคิ้ว​ขึ้น​มา “เรา​เกรง​ว่า​ลำพัง​แค่​พวก​เจ้าสอง​คน​คง​ยัง​ไม่อาจ​ที่จะ​เอาชีวิต​ของ​เรา​ไปได้​” ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ขว้าง​เข็ม​เงิน​ใน​มือ​ของ​เขา​ออก​ไปสอง​เล่ม​ แต่​ทั้งคู่​ก็​สามารถ​ปัด​เข็ม​เงิน​ทิ้ง​ไปได้​ “อาวุธ​ลับ​ของ​เจ้าทำ​อะไร​พวกเรา​ไม่ได้​หรอก​”

 

ทันทีที่​สิ้น​เสียง​ หัว​ของ​ทั้งสอง​คน​ก็ได้​“ตกลง​”มากอง​อยู่​ที่​พื้น​ เป็นการ​โจมตี​ที่​เฉียบคม​และ​น่ากลัว​มาก​จริงๆ​

 

ชุด​สีเงิน​ของ​เชีย​น​อี้​ก็ได้​เปื้อน​ไปด้วย​เลือด​เพราะ​การ​โจมตี​เมื่อ​สักครู่​ของ​เขา​ เสร็จ​แล้ว​ก็ได้​ลงมา​นั่งคุกเข่า​ต่อหน้า​อีก​ฝ่าย​แล้ว​กล่าว​ “องค์​ชาย​ พวก​ศัตรู​ที่อยู่​ด้านนอก​ถูก​เก็บกวาด​เรียบร้อย​แล้ว​ขอรับ​”

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​ผงกหัว​แล้ว​มองดู​ด้วย​สีหน้า​นิ่ง​ๆ “ส่งคน​พวก​นี้​คืน​กลับ​ไปให้​ไทเฮา​ด้วย​”

 

หลังจากที่​เน้น​คำ​ว่า​“ส่งคืน​”เรียบร้อย​แล้ว​ เจียง​หวาย​เย่​ก็ได้​กลับ​ลงมา​นั่ง​ที่​เก้าอี้ยาว​อีกครั้ง​ แล้ว​อัน​อี้​ก็ได้​ถือ​ชามยา​ที่​ปรุง​มาจาก​เลือด​ของ​เจียง​อี๋​ตาม​สูตร​ยามา​ให้​

ซึ่งได้​ทำให้​ดวงตา​ของ​เจียง​หวาย​เย่​นั้น​เต็มไปด้วย​ความรังเกียจ​ขึ้น​มา แต่​เขา​ก็​ยัง​ดื่ม​จน​หมดเกลี้ยง​

 

แล้ว​ใน​วัน​ต่อมา​ทันทีที่​พระอาทิตย์​โผล่​ใน​ตอนเช้า​ ก็ได้​มีเสียง​กรีดร้อง​ดัง​มาจาก​ตำหนัก​อายุ​นิรันดร์​ อันเป็น​ที่พำนัก​ของ​ไทเฮา​

 

เดิมที​ที่นี่​เป็น​สถานที่​ที่​เงียบสงบ​มาก​เหมาะ​แก่​การ​นั่งสมาธิ​ แต่​ในเวลานี้​กลับ​กลายเป็น​สถานที่​ที่​น่ากลัว​ไปแล้ว​ เมื่อ​มีศพ​เปื้อน​เลือด​ใน​ชุด​สีดำ​ 12 คน​กอง​อยู่​กับ​พื้น​และ​แขวน​อยู่​บน​ต้นไม้​

 

แม้แต่​ไทเฮา​ที่​เคยชิน​กับ​เลือด​แล้ว​ ก็​ยัง​ไม่สามารถ​ตั้งสติ​อยู่​ได้​พักใหญ่​ๆ

 

แล้ว​เหล่า​ราชองครักษ์​ที่​ตรวจตรา​อยู่​ด้านนอก​ตำหนัก​นั้น​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​กรีดร้อง​ ก็ได้​ต้องการ​ที่จะ​เข้ามา​ตรวจ​ด้านใน​แต่​ก็​ถูก​ห้ามไม่ให้​เข้ามา​เสีย​ก่อน​

 

“พี่สาว​จือจือ​ ไทเฮา​ไม่เป็นอะไร​จริงๆ​เหรอ​?” หัวหน้า​ราชองครักษ์​ที่​ทำหน้าที่​เฝ้าตำหนัก​ใน​ก็ได้​ถามด้วย​สีหน้า​ไม่เชื่อ​ เพราะ​เสียงร้อง​เมื่อ​สักครู่​นั้น​เหมือน​คน​หวาดกลัว​มาก​

 

สีหน้า​ของ​จือจือ​เอง​ก็​มีสีหน้าซีด​เช่นกัน​ แต่​ในเวลานี้​นาง​ได้​ทำการ​ฝืนยิ้ม​แล้ว​กล่าว​ “ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ก็​แค่​มีนางกำนัล​ใน​ตำหนัก​ที่​ละเลย​การ​ทำความสะอาด​ จน​มีหนู​โผล่​มาใน​ตำหนัก​ทำให้​ไทเฮา​ตกใจ​เท่านั้นเอง​”

 

ใน​เมื่อ​อีก​ฝ่าย​พูด​เช่นนั้น​ ด้วย​ฐานะ​ของ​ราชองครักษ์​ที่​ต่ำต้อย​กว่า​แล้ว​ มัน​จะเป็นการ​ไม่ดี​ที่​เขา​จะซักไซ้​ถามมาก​ไปกว่า​นี้​ เขา​จึงได้​หันหลัง​แล้ว​กลับ​ไป

 

ณ ตำหนัก​อายุ​นิรันดร์​ ไทเฮา​ที่นั่ง​อยู่​เก้าอี้ยาว​นั้น​ ก็ได้​ถือ​ยาต้ม​ไว้​ใน​มือ​ด้วยมือ​สั่น​ๆและ​มีสีหน้า​โมโห​ “เจ้าพวก​โง่พวก​นี้​ช่างไร้ความสามารถ​จริงๆ​ ทำงาน​ไม่สำเร็จ​จน​ตัวเอง​ต้อง​ตาย​ไม่พอ​ ยัง​ถูก​คน​นำ​ศพ​เอา​มาคืน​ทำให้​ข้า​ต้อง​ตกใจ​อีก​”

 

แล้ว​จือจือ​ก็ได้​นวด​ไหล่​ของ​องค์​ไทเฮา​เพื่อ​ทำให้​นาง​ได้​ผ่อนคลาย​ขึ้น​มา

“ข้า​ได้ยิน​มาว่า​มีองค์​หญิง​ที่​ชื่อว่า​รั่ว​จิ่งก็​อยู่​ที่​วังหลวง​ด้วย​ใช่ไหม​?” ไทเฮา​ก็ได้​ถามขึ้น​มาอย่าง​ไม่ใส่ใจนัก​

 

แล้ว​จือจือ​ก็ได้​ตอบกลับ​ไปด้วย​ความเคารพ​ “เรียน​ไทเฮา​เพคะ​ องค์​หญิง​รั่ว​จิ่งนั้น​เดิมที​คือ​คุณหนู​ห้า​ของ​บ้าน​มหา​เสนาบดี​หลิน​เพคะ​”

 

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็ได้​มีสายตา​ครุ่นคิด​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​ดวงตา​ของ​ไทเฮา​ แล้ว​จากนั้น​นาง​ก็ได้​ยิ้ม​ขึ้น​มา “ถ้าเจ้าว่าง​เมื่อไร​ ช่วย​ไปเชิญองค์​หญิง​คน​นั้น​มาร่วม​สนทนา​กับ​ข้า​หน่อย​สิ”

 

“ได้​เพคะ​ ไทเฮา​”

 

แต่​เกรง​ว่า​นาง​จะคิดไม่ถึง​ว่า​องค์​หญิง​หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​ไม่ได้​กลับมา​ที่​วังหลวง​เมื่อคืนนี้​ นาง​ได้​เปลี่ยน​เสื้อผ้า​ของ​นาง​กลับ​ใน​ตอน​เช้าตรู่​และ​ออก​มาจาก​วัง​รัตติกาล​

 

ซึ่งข่าว​นี้​ได้​แพร่กระจาย​ออก​ไปด้วย​ความเร็ว​สิบ​เท่า​ร้อย​เท่า​ จน​ในที่สุด​ก็ได้​มีคน​ไม่มาก​นัก​ใน​เมืองหลวง​ที่​ไม่ทราบ​ข่าว​นี้​

 

หลิน​รั่ว​จิ่งนั้น​ได้​กลาย​มาเป็น​คนรัก​ของ​องค์​ชาย​รัตติกาล​แล้ว​!!

 

เมื่อ​เจียง​หวาย​เย่​ได้​ทราบ​ข่าว​นี้​ ปฏิกิริยา​แรก​ของ​เขา​คือ​รีบ​ปฏิเสธข่าวลือ​นี้​ทันที​ เพราะ​เสี่ยว​เหยียน​เอ๋อ​นั้น​จะกลับมา​ในไม่ช้า​แล้ว​ เขา​ไม่ต้องการ​ที่จะ​ให้ข่าว​นี้​รู้ถึงหู​ของ​หลิน​ซีเหยียน​

 

อย่างไร​เสีย​ในเวลานี้​ก็​มีช่องว่าง​เกิดขึ้น​ระหว่าง​ทั้งสอง​คน​อยู่แล้ว​ เขา​จึงไม่ต้องการ​ที่จะ​ทำให้​ช่องว่าง​นี้​ห่าง​กัน​มาก​ขึ้นไป​อีก​

 

“อัน​อี้​รีบ​ส่งคน​ไปอธิบาย​เรื่อง​นี้​โดยละเอียด​ทันที​” เจียง​หวาย​เย่​กล่าว​ขณะที่​มอง​ไปที่​เส้น​สีแดง​ใน​มือขวา​ของ​เขา​ ในเวลานี้​เส้น​สีแดง​นี้​ได้​เข้า​มาถึงข้อศอก​แล้ว​ แต่​นั่น​ไม่ใช่เรื่อง​ที่​เขา​จะต้อง​กังวล​อะไร​

 

เพราะ​เขา​นั้น​อาจจะ​ไม่ได้​มีชีวิต​อยู่​รอ​จน​มัน​เข้าไป​ถึงหัวใจ​ของ​เขา​ก็ได้​

 

ในขณะที่​เจียง​หวาย​เย่​กำลัง​เหม่อลอย​อยู่​นั้น​ พ่อบ้าน​ก็ได้​เข้ามา​รายงาน​ “องค์​ชาย​ขอรับ​ องค์​ชาย​จงมาขอ​พบ​ท่าน​ขอรับ​”

 

แล้ว​เขา​ก็ได้​หรี่​ดวงตา​ของ​เขา​ลง​ และ​คิด​ว่า​จงซู่เฟิงนั้น​คิด​จะทำ​อะไร​ใน​ช่วงเวลา​ที่​เปราะบาง​เช่นนี้​? เจียง​หวาย​เย่​นั้น​เดา​ไม่ออก​ถึงจุดประสงค์​ของ​อีก​ฝ่าย​ แต่​เขา​ก็ได้​บอก​ให้​พ่อบ้าน​ไปเชิญเขา​เข้ามา​

 

ไม่นาน​นัก​ จงซู่เฟิงก็ได้​เข้ามา​ที่​ห้องโถง​ใหญ่​

 

“มีธุระ​อะไร​อย่างนั้น​รึ​คุณชาย​จง?” ในเวลานี้​ เจียง​หวาย​เย่​ได้​สวมหน้ากาก​หยก​ขาว​กลับ​เข้าไป​อีกครั้ง​แล้ว​ และ​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​ทำให้​อีก​ฝ่าย​รู้สึก​ได้​ถึงความห่างเหิน​

 

จงซู่เฟิงที่นั่ง​อยู่​ที่​เก้าอี้​ก็ได้​ทำ​สีหน้า​จริงจัง​ “องค์​ชาย​ เรา​หวัง​ให้​ท่าน​ช่วย​ปล่อย​เรา​กลับ​ไปที่​รัฐ​จงที​”

 

“ใน​ฐานะ​ที่​ท่าน​เป็น​ตัวประกัน​ จะให้​ปล่อย​ให้​ท่าน​กลับ​ไปจาก​รัฐ​เจียง​ง่ายๆ​ได้​อย่างไร​? หรือว่า​รัฐ​จงตัดสินใจ​ที่จะ​หา​คน​มาแทน​เป็น​ตัวประกัน​แทน​ท่าน​งั้น​เหรอ​?”

จงซู่เฟิงก็ได้​ส่าย​หัว​แล้ว​กล่าว​ “แม้ว่า​ท่าน​จะไม่ปล่อย​ข้า​กลับ​ไปรัฐ​จง แต่​เมื่อใด​ที่​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​สิ้นพระชนม์​ พวกเขา​ก็​คงจะ​คิด​ฆ่าเรา​อยู่ดี​”

 

เจียง​หวาย​เย่​ก็​ได้คิด​ว่า​ จงซู่เฟิงกับ​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ของ​รัฐ​จงนั้น​ล้วนแล้วแต่​ไม่มีความสัมพันธ์​ต่อกัน​ ล้วน​เหมือน​ขวากหนาม​ใน​สายตา​ของ​แต่ละคน​ ที่​เสียดแทง​เข้าไป​ใน​เนื้อ​และ​รีบ​ที่จะ​จัดการ​ให้​พ้น​ทาง​

 

“ถึงแม้ว่าที่​ท่าน​พูด​มาจะเป็น​ความจริง​ แต่​มัน​ก็​ยัง​ไม่เพียง​พอที่จะ​ให้​รัฐ​เจียง​ปล่อย​ท่าน​ไปอยู่ดี​”

 

จงซู่เฟิงก็ได้​นิ่งเงียบ​ เขา​นั้น​รู้ดี​ว่า​เขา​จะต้อง​แสดง​ความจริงใจ​ให้​อีก​ฝ่าย​ได้​เห็น​เสีย​ก่อน​ แล้ว​บางที​เขา​อาจจะ​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​รัฐ​เจียง​ก็ได้​ เขา​จึงได้​ตัดสินใจ​เอา​หนังสือสัญญา​ที่​เขา​เตรียม​เอาไว้​นาน​แล้ว​ออกมา​ ซึ่งมีชื่อ​ของ​จงซู่เฟิงเซ็น​เอาไว้​อยู่​ด้วย​

 

“หากว่า​ท่าน​ยอม​ปล่อย​เรา​กลับ​ไปและ​แอบ​ช่วย​ให้​ข้า​ได้​ขึ้น​เป็น​ฮ่องเต้​ของ​รัฐ​จงแล้ว​ล่ะ​ก็​ เรา​ยินดี​ที่จะ​ยอม​จ่าย​เครื่องบรรณาการ​ให้​กับ​รัฐ​เจียง​ทุกปี​”

 

เมื่อ​ได้ยิน​ที่​จงซู่เฟิงพูด​ออกมา​เช่นนั้น​ เจียง​หวาย​เย่​ก็​ยัง​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​ทันที​ แต่​ถามกลับ​ไป “ท่าน​รู้​หรือไม่​ว่า​สิ่งที่​ท่าน​พูด​ออกมา​นั้น​มัน​หมายความ​เช่นไร​?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด