หมอหญิงยอดมือสังหาร 115 คิดจะเล่นกับข้า รนหาที่ตายหรือ (5)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 115 คิดจะเล่นกับข้า รนหาที่ตายหรือ (5) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยเพ่ยหวนทำได้เพียงถอนหายใจ หนานกงซูได้เจอกับเซียวเชียนเยี่ย ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่โชคร้ายกว่ากัน

หนานกงมั่วยกมือเท้าคาง “จะว่าไป ครั้งนี้จวนฉู่กั๋วกงของข้าก็ถือว่าช่วยเจ้าได้มากใช่หรือไม่” อย่างน้อยในช่วงนี้เซียวเชียนเยี่ยก็คงไม่ไปวุ่นวายกับเซี่ยเพ่ยหวนแล้ว เซี่ยเพ่ยหวนเหลือบตามองนาง “จะให้เลี้ยงข้าวเจ้างั้นหรือ”

“โอ้ เช่นนั้นไม่เกรงใจแล้วนะ วันนี้ของพวกนี้…ใช้เงินเจ้าจ่ายก็แล้วกัน”

เซี่ยเพ่ยหวนมีท่าทีเบื่อหน่ายเล็กน้อย “เจ้าบอกว่าเงินเจ้ามีมากจนเอาไปทุบคนตายได้ ยังมาคิดร้ายต่อเงินอันน้อยนิดของข้าอีก”

หนานกงมั่วยิ้มตาหยี “เจ้าไม่เข้าใจหรอก…กินของคนอื่นมันอร่อยกว่าของตัวเอง”

ซุนเหยียนนั่งฟังทั้งคู่โต้ตอบกันไปมาด้วยรอยยิ้ม สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง นางเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยมีเพื่อน ที่บ้านเข้มงวด น้อยครั้งจะได้ออกมาเดินเล่นด้านนอก ยิ่งไม่เคยเจอคุณหนูที่ยิ่งรู้จักยิ่งน่าสนใจเช่นหนานกงมั่วและเซี่ยเพ่ยหวนมาก่อน แม้มิได้พูดสิ่งใดก็ยังรู้สึกสนุกสนานตามไปด้วย

“เอ๊ะ” กำลังยกถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ซุนเหยียนชะงักไปโดยไม่รู้ตัว หันมามองยังหนานกงมั่วอย่างรวดเร็ว หนานกงมั่วเลิกคิ้ว ซุนเหยียนลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “นั่น…คล้ายกับเว่ยซื่อจื่อกับคุณหนูใหญ่จูใช่หรือไม่”

แน่นอนว่าเว่ยจวินมั่วมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองจินหลิง ต่อให้ชาติกำเนิดเขาจะไม่ได้สวยงาม ทว่ากลับเป็นชายรูปงามอันดับหนึ่งในเมืองจินหลิง ซุนเหยียนเคยเห็นเขาอยู่ไกลๆ แน่นอนว่านางไม่มีทางลืมได้ สำหรับจูชูอวี้นั้น แม้ว่าในบรรดาคุณหนูเช่นเซี่ยเพ่ยหวนหรือหนานกงมั่ว นางจะมิได้เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก แต่หากมองย้อนลงไปกว่านั้นชื่อเสียงของนางก็มิได้ธรรมดา แม้ว่าตระกูลจูจะเป็นพ่อค้า แต่พวกเขายังมีเกาอี้ปั๋วที่มีตำแหน่ง บรรดาตระกูลชนชั้นสูงไม่สนใจตระกูลจูได้ แต่ว่าคนทั่วไปและบรรดาตระกูลขุนนางจะไม่เห็นนางอยู่ในสายตาย่อมจะไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น จูชูอวี้ยังมีรูปลักษณ์งดงาม กิริยามารยาท รวมทั้งความสามารถล้วนยอดเยี่ยม เมื่อก่อนซุนเหยียนมักรู้สึกด้อยขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวในยามที่ต้องพบเจอกับสตรีเช่นนี้

เซี่ยเพ่ยหวนและหนานกงมั่วเองก็รีบชะโงกหน้าขึ้นมาดูด้วย เห็นเว่ยจวินมั่วกำลังยืนคุยกับจูชูอวี้อยู่มุมหนึ่งของถนน เซี่ยเพ่ยหวนยิ้มตาหยี หันมาหาหนานกงมั่ว “ไอ๊หยา มั่วเอ๋อร์ บนหัวเจ้ามีสีเขียว[1]แล้วหรือไม่”

หนานกงมั่วกลอกตา “บนหัวข้ามีเมฆขาวและท้องฟ้าสีฟ้าครามสดใสอยู่เสมองั้นหรือ คิดจะเล่นกับข้า…รนหาที่ตายหรือ”

เซี่ยเพ่ยหวนยักไหล่แล้วนิ่งรอดู

เว่ยจวินมั่วมองหญิงสาวในอาภรณ์ขาวตรงหน้า ดวงตาสีม่วงกำลังเพียรปกปิดอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้

จูชูอวี้ยืนอยู่ตรงหน้าเว่ยจวินมั่ว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ชูอวี้ขอบคุณเว่ยซื่อจื่อที่ช่วยชีวิต” เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว เนิ่นนานจึงเอ่ยตอบ “แม่นางจำคนผิดแล้ว ข้าไม่เคยช่วยชีวิตเจ้า” เอ่ยจบจึงหมุนตัวเดินจากไป

“เว่ยซื่อจื่อ” จูชูอวี้ชะงัก รีบเอ่ยเรียก

เว่ยจวินมั่วหันกลับไป คิ้วคมขมวดมุ่นเล็กน้อย มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยท่าทางเฉยเมย จูชูอวี้จนปัญญา ได้แต่เอ่ยด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เส้นทางกลับจากตานหยาง ชูอวี้ไม่ทันระวังตกลงไปในน้ำ ต้องขอบคุณซื่อจื่อที่ช่วยเอาไว้” เว่ยจวินมั่วจึงพยักหน้าพร้อมตอบว่า “ไม่จำเป็น”

“บุญคุณช่วยชีวิตจะไม่ใช้คืนได้เยี่ยงไรกัน ด้านหน้ามีร้านน้ำชาตระกูลจู หากซื่อจื่อไม่รังเกียจ แวะดื่มชากันก่อนดีหรือไม่”

เว่ยจวินมั่วมองหญิงสาวในอาภรณ์สีขาวตรงหน้า รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาไม่เชี่ยวชาญการพูดคุยกับสตรี ยิ่งไม่เคยคิดอยากคุยกับสตรีนางใด แน่นอนว่าอู๋สยาเป็นข้อยกเว้น

“ไม่จำเป็น เรื่องเล็กน้อย แม่นางจูก็ไม่ต้องเก็บเอามาใส่ใจ ชายหญิงแตกต่าง แม่นางระวังไว้บ้างก็ดี” เอ่ยจบก็เดินตรงไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ทางด้านหลัง จูชูอวี้มองแผ่นหลังที่เดินห่างออกไปโดยไม่แม้แต่จะอาลัยอาวรณ์สักนิด ดวงตาฉายแววความมุ่งมั่น เว่ยจวินมั่วเย็นชาไร้ความรู้สึกสมคำร่ำลือ เผชิญหน้ากับหญิงสาวอ่อนโยนบอบบาง ไม่มีสิ่งใดปรากฏออกมาให้เห็นผ่านดวงตาคู่นั้น คนเช่นนี้…นางจะมีความสามารถพิชิตและควบคุมได้หรือไม่

“หลบไป หลบไป ม้าตื่น หลบไป” เสียงตื่นตระหนกดังขึ้น จากนั้นเสียงกีบม้าพลันดังขึ้น มองเห็นรถม้ากำลังวิ่งมาทางนี้

“แม่นาง หลบไปเร็ว” เห็นว่าจูชูอวี้ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น คนขับรถม้าจึงเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ

เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว กำลังจะหันไปกลับได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากที่ไม่ไกล “จวินมั่ว”

“อู๋สยา…หลบไป” เว่ยจวินมั่วไร้ซึ่งความลังเล กระโดดเข้าหาหนานกงมั่วอย่างรวดเร็ว จากนั้นคว้าเอวนางและหลบเข้าริมฝั่งถนน ขณะเดียวกัน รถม้าก็วิ่งผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว มองไปด้านหลัง จูชูอวี้กำลังยืนหน้าซีดอยู่ข้างถนน ด้านข้างมีองครักษ์วัยกลางคนยืนอยู่ เห็นได้ชัดว่าพึ่งช่วยนางไปเช่นกัน เพียงแต่ยังช้าไปเล็กน้อย แขนของจูชูอวี้มีเลือดสีแดงซึมจนเปื้อนอาภรณ์สีขาวที่นางสวมอยู่

เมื่อมองสาวงามในอ้อมแขนของเว่ยจวินมั่วที่เขาเป็นคนช่วยเอาไว้ สีหน้าของจูชูอวี้ซับซ้อนขึ้นมา กัดฟันและหลุบตาลง

“ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้” เว่ยจวินมั่วก้มลงไปหาหนานกงมั่ว เอ่ยถามเสียงเบา

หนานกงมั่วเงยหน้าพร้อมทั้งชี้ไปที่โรงน้ำชาใกล้ๆ “ข้ากับเซี่ยสามมาดื่มชาที่นี่ มองเห็นท่านเลยอยากลงมาทักทาย” เว่ยจวินมั่วเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าต่างที่ถูกเปิดเอาไว้และเซี่ยสามที่โผล่ใบหน้าออกมาคล้ายจะยิ้มทว่าไม่ยิ้ม จากนั้นหันกลับไปมองเห็นจูชูอวี้กำลังยืนอยู่ตรงนั้น ครุ่นคิดเล็กน้อย หนานกงมั่วยิ้มออกมา “คุณหนูจูผู้นั้น…เหมือนจะบาดเจ็บแล้ว”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้า “ดูเหมือนจะไม่ได้หนักอะไร”

จูชูอวี้กดแขนเอาไว้และเดินเข้ามา ฝืนส่งยิ้มมาให้ “คุณหนูหนานกง ได้พบกันอีกแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง”

หนานกงมั่วยิ้มน้อยๆ “ข้าไม่เป็นไร เพียงแต่…คุณหนูจูดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไร”

จูชูอวี้หัวเราะออกมาเบาๆ “ไม่เป็นไร แผลเล็กน้อยเท่านั้น ไม่คิดว่าคุณหนูหนานกงจะมาอยู่ที่นี่ โชคดีที่เจ้าไม่เป็นไร”

ไยหนานกงมั่วจะฟังไม่ออกถึงความหมายในคำพูดของนาง หากไม่ใช่เพราะหนานกงมั่วปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน เว่ยจวินมั่วคงจะช่วยจูชูอวี้ นางก็จะไม่ต้องบาดเจ็บ

รอยยิ้มของหนานกงมั่วยิ่งจริงใจมากขึ้น “ไอ๊หยา เมื่อสักครู่ตอนที่เห็นก็มัวแต่ดีใจที่พบจวินมั่วเลยไม่ทันได้สังเกต ต้องขออภัยแล้ว คุณหนูจูรีบไปรักษาบาดแผลก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะเป็นรอยแผลเป็นเอาได้

“ขอบคุณคุณหนูหนานกงที่กล่าวเตือน” จูชูอวี้กัดฟัน อดกลั้นต่อความเจ็บปวดฝืนยิ้มออกมา หนานกงมั่วยิ้ม ตอบกลับไป “เป็นเรื่องสมควรแล้ว พวกเราเองก็มีธุระต้องไปจัดการ ต้องลาแล้ว”

“เชิญ”

เว่ยจวินมั่วจูงมือหนานกงมั่วเดินออกไป พลางเอ่ยถาม “อู๋สยามาหาข้ามีธุระใดหรือ”

หนานกงมั่วเอ่ย “อ้อ เมื่อครู่เซี่ยสามบอกว่าปิ่นบนผมของข้ามันเขียวไปหน่อย ข้านึกขึ้นได้ว่าข้าไม่ชอบสีเขียว กำลังตั้งใจจะไปเปลี่ยนเสียหน่อย”

ใบหน้าเย็นชาของเว่ยจวินมั่วเผยรอยยิ้มออกมา “ข้ารู้แล้ว”

หนานกงมั่วเดินเคียงข้างเว่ยจวินมั่ว ก่อนจะหันกลับไปมอง เห็นจูชูอวี้ยืนอยู่ตรงนั้นและมองมายังพวกตนทั้งสองอยู่ สีหน้าดูแปลกประหลาด หนานกงมั่วเลิกคิ้ว ส่งยิ้มให้นางกลับไป สตรีผู้นี้…ที่แท้ก็อยากแย่งคนกับนางนี่เอง แต่น่าเสียดาย เจ้ามาช้าไปแล้ว สิ่งที่อยู่ในมือหนานกงมั่วไม่ว่าจะคนหรือสิ่งของ ไม่ใช่ใครคิดจะแย่งก็แย่งไปได้

…………………………………………………………………………….

[1] สวมหมวกเขียว ภรรยามีชู้หรือนอกใจ ในที่นี้เซี่ยเพ่ยหวนพูดเพื่อแซวเรื่องที่เว่ยจวินมั่วอยู่กับคุณหนูจู

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *