หมอหญิงยอดมือสังหาร 198 เจตนาร้ายจากพวกหัวโบราณ (3)
หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ยเสียงเรียบ “ไยน้องสาวจึงไม่อยู่เคียงข้างคอยปรนนิบัติพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องเล่า”
สีหน้าของหนานกงซูเปลี่ยนไป ยกมุมปากยิ้มหยัน “พระชายาบอกให้ข้ามาอยู่กับครอบครัว ไม่จำเป็นต้องให้ข้าดูแล”
หนานกงมั่วเข้าใจอยู่ในใจ เกรงว่าหยวนซื่อคงไม่ต้องการให้หนานกงซูปรนนิบัติอยู่ข้างกายพระชายารัชทายาทเสียมากกว่า อย่างไรเสียนางก็มีหนานกงไหวให้พึ่งพิง และอย่างไรเสียพระชายารัชทายาทก็ต้องไว้หน้านางบ้างไม่มากก็น้อย หากหนานกงซูฉลาดสักนิดคงทำให้พระชายารัชทายาทโปรดปรานได้ไม่ยาก นั่นย่อมมิใช่สิ่งที่หยวนซื่ออยากเห็นหรอก เพียงไม่รู้ว่าหนานกงซูจะนึกถึงเรื่องนี้ได้บ้างหรือไม่ แต่ไม่ว่าหนานกงซูจะคิดได้หรือไม่ หนานกงมั่วก็ไม่คิดจะเตือนนาง ทำเพียงยิ้มบางๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ น้องสาวคุยกับหว่านฮูหยินและพี่สะใภ้เถิด ข้ายังมีธุระคงไม่ได้อยู่ด้วย”
“พี่สาว!” น้ำเสียงของหนานกงซูเต็มไปด้วยความคับแค้นใจจนหนานกงมั่วสะดุ้งอย่างห้ามไม่ได้ หันกลับไปมองนาง หนานกงซูยังคงมองนางด้วยความคับแค้นใจ เอ่ย “อย่างไรพวกเราก็เป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน พี่สาวจะอยู่คุยกับข้าไม่ได้เลยหรือ”
หันไปมองผู้คนที่เริ่มให้ความสนใจมองมาทางนี้ หนานกงมั่วจึงยักไหล่ กล่าว “ก็ได้ น้องสาวอยากคุยสิ่งใดเล่า”
หนานกงซูยิ้มหวาน “ขอบคุณพี่สาว เรามานั่งดื่มชากันเถิด”
“…” คุณหนูใหญ่หนานกงที่พึ่งดื่มชาไปจนเต็มท้องย่อมไม่มีความสนใจต่อชาอีก นั่งลงโดยไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ หนานกงมั่วมองสำรวจหนานกงซู อยากรู้ว่าเข้าไปเป็นอนุภรรยาในจวนเย่ว์จวิ้นอ๋องหลายวันแล้วนางมีการเปลี่ยนแปลงอันใดบ้างหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงอันเด่นชัดเห็นจะเป็นเครื่องแต่งกาย อย่างน้อยเมื่อดูภายนอกก็แตกต่างไปจากตอนเป็นคุณหนูในห้องหอโดยสิ้นเชิง นางอยู่ในชุดเครื่องแต่งกายของอนุจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง เป็นอนุภรรยาหากอยู่ในเรือนของตนปิดประตูแล้วอยากแต่งกายเช่นไรล่อลวงสามีนับเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เมื่อเดินออกจากประตูมาย่อมมีข้อจำกัดในการแต่งกาย
ก่อนอื่น สีแดงสด สีม่วงแก่อมแดง สีเหล่านี้มิสามารถสวมใส่ได้เพราะเป็นสีของชนชั้นสูง อีกทั้งเครื่องประดับที่บ่งบอกฐานะก็ใช้ไม่ได้ อนุภรรยาติดตามนายหญิงออกนอกเรือน ฐานะมิได้เป็นอนุทว่ากลายเป็นผู้ดูแลปรนนิบัติ ดังนั้นเรียกได้ว่าเป็นสาวใช้ เครื่องประดับบนศีรษะห้ามมีมากเกินสองชิ้น ส่วนมากเป็นดอกชากงหนึ่งหรือสองดอกประดับไว้พอเป็นพิธี มองเห็นความอัปยศภายในสายตาของหนานกงซูเมื่อมองมายังตนก็รู้ได้ การออกเรือนครั้งนี้ทำให้หนานกงซูได้เข้าใจคำว่าอนุภรรยาและภรรยาเอกอย่างชัดเจน รวมไปถึงความแตกต่างระหว่างชายารองอีกด้วย
“น้องรองมีเรื่องอันใดหรือ” หนานกงมั่วเอ่ยถามเสียงเรียบ
หนานกงซูกัดริมฝีปาก พูดไม่ออกชั่วขณะ เจิ้งซื่อที่นั่งอยู่ด้านข้างเริ่มร้อนใจ ทว่าตรงข้ามกับหลินซื่อที่ปิดปากยิ้มด้วยความสบายใจ เอ่ยขึ้น “น้องสาวไม่รู้ เมื่อครู่ซูเอ๋อร์และฮูหยินเจิ้งร้องไห้เจ็บปวดอย่างยิ่ง คิดว่าคงมีเรื่องน้อยใจในจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง ซูเอ๋อร์บอกว่านางสำนึกผิดแล้ว อยากให้น้องสาวช่วยวิงวอนต่อหน้าท่านพ่อ” สีหน้าของเจิ้งซื่อไม่ค่อยดีนัก จ้องหลินซื่อเขม็ง
หนานกงมั่วกวาดตามองทั้งสามด้วยสายตาแตกต่างกันออกไป ตอบกลับ “วิงวอนงั้นหรือ หากน้องสาวอยากขอร้องวิงวอนบอกกับหว่านฮูหยินไม่ดีกว่าหรือ หากท่านพ่อฟังคำวิงวอนของข้า…”
สีหน้าของเจิ้งซื่อตึงขึ้นมา นางเข้าใจวาจาที่หนานกงมั่วมิได้เอ่ยออกมาให้จบในทันที…หากท่านพ่อฟังคำวิงวอนของข้า จวนฉู่กั๋วกงยังจะมีเรื่องของพวกเจ้าหรือ
เนิ่นนาน เจิ้งซื่อจึงกัดฟันเอ่ย “คุณหนูใหญ่ ก่อนหน้านี้เพราะซูเอ๋อร์มิรู้ความ ยามนี้นางสำนึกผิดแล้ว ขอคุณหนูใหญ่เห็นแก่สายเลือดเดียวกัน ช่วยเอ่ยแทนนางต่อหน้านายท่านด้วย”
“ก่อนหน้านี้มิรู้ความงั้นหรือ” หนานกงมั่วยิ้มเย็น ปรายตามองหนานกงซูที่ขยำผ้าเช็ดหน้ามิกล้าเงยหน้าขึ้นมา “ข้าว่าตอนนี้นางก็ดูมิได้รู้ความเท่าใดนักอยู่ดี นางสำนึกผิดแล้วจริงหรือ มิใช่ว่าเจอความลำบากที่จวนเย่ว์จวิ้นอ๋องจึงรู้สึกเสียใจขึ้นมา ไม่รู้หรือ โลกใบนี้ไม่มียารักษาการเสียใจภายหลัง หากสำนึกผิดจริง ตอนนี้เจ้ายังมัวทำอันใดอีก งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระชายารัชทายาท เจ้าร้องห่มร้องไห้ฟ้องเรื่องพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องในจวนรัชทายาท เจ้านึกว่าพระชายารัชทายาทและพระชายาจวิ้นอ๋องตาบอดงั้นหรือ ยิ่งไปกว่านั้น…สตรีที่ออกเรือนไปแล้วก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป ไม่ว่าพระชายาเย่ว์จวิ้นอ๋องจะทำเช่นไรกับเจ้า ต่อให้นางทำสิ่งใดจริงๆ นั่นก็คือชีวิตของเจ้าแล้ว เจ้าคิดหรือว่าท่านพ่อจะทำอันใดเพื่ออนุภรรยาคนหนึ่งของจวนเย่ว์จวิ้นอ๋อง”
“คุณหนูใหญ่ ซูเอ๋อร์เป็นน้องสาวของท่านนะ” เจิ้งซื่อกัดฟันเอ่ย “ไยถึงใจร้ายเช่นนี้”
หนานกงมั่วแสยะยิ้ม “ข้าใจร้าย…ตอนนั้นฮูหยิน…ก็ไม่ได้ใจดีไปมากกว่าข้าเลยนี่”
เจิ้งซื่อชะงัก เอ่ยเสียงดุดัน “แม้การส่งคุณหนูใหญ่ไปอยู่ตานหยางเป็นความคิดของข้า แต่ว่า…คุณหนูใหญ่ก็กลับมาแล้วมิใช่หรือ หลายวันมานี้ สิ่งที่คุณหนูใหญ่ขาดไปก็ได้รับการชดเชยแล้ว คุณหนูใหญ่ยังมีอันใดไม่พอใจอีกเล่า” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว ใบหน้าสงบนิ่งมองเจิ้งซื่อ สายตาคับแค้นใจของเจิ้งซื่อเองก็จ้องเขม็งกลับมายังหนานกงมั่ว “คุณหนูใหญ่กลับมา นายท่านก็แทบจะลืมซูเอ๋อร์แล้ว คุณหนูใหญ่ยังมีสิ่งใดไม่พอใจอีกหรือ”
หนานกงมั่วหลุบตาลง ครุ่นคิดวนอยู่ในใจ ในยามที่นางเอ่ยถึงเรื่องราวเมื่อครั้งก่อน ดวงตาของเจิ้งซื่อไม่มีแววตระหนกหรือเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือว่า…เรื่องขายหนานกงชิงให้หัวหน้าโจรมิใช่ฝีมือของเจิ้งซื่อ น่าเสียดายที่คนพานางไปขายได้ตายไปแล้ว ยามนี้จึงไม่มีหลักฐานหรือพยานใดๆ แต่ถ้าไม่ใช่เจิ้งซื่อแล้วจะเป็นใครกันเล่า คงมิใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ หรอกใช่ไหม ถึงหนานกงชิงจะถูกทิ้งให้ไปอยู่ตานหยาง อย่างไรก็มีสาวใช้คอยติดตามไม่ห่าง ไหนเลยจะตกไปอยู่ในมือแม่เล้าได้ง่ายๆ
“น้องสาว ซูเอ๋อร์น่าสงสาร น้องสาวโปรดเมตตาช่วยนางสักนิดเถิด” หลินซื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
หนานกงมั่วช้อนตาขึ้น หันไปมองหลินซื่อพลางเอ่ยถาม “พี่สะใภ้คิดว่าข้าควรช่วยเช่นไร”
“เอ่อ…” หลินซื่อลังเล หนานกงมั่วเอ่ย “หากพี่สะใภ้คิดว่าสามารถยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องเรือนหลังของจวนเย่ว์จวิ้นอ๋องได้โดยไม่มีปัญหาก็ไปช่วยเถิด” หลินซื่อสีหน้าเปลี่ยนไป ทำเพียงยิ้มแห้งออกมา “ พี่สะใภ้โง่เขลา ไหนเลยจะมีความสามารถ”
หนานกงมั่วหันกลับไปมองหนานกงซู เอ่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อยู่ในจวนเงียบๆ ไป ท่านพ่อมิใช่จะไม่สนใจเจ้าเลย หากคิดจะทำอันใด เจ้าจะลองดูก็ได้ ดูสิว่าเจ้าจะเป็นคู่ปรับของพระชายาจวิ้นอ๋องได้หรือไม่”
หนานกงซูจ้องหนานกงมั่วเขม็ง กัดฟันเอ่ยเสียงกระซิบ “เจ้าริษยาข้า”
รอยยิ้มของหนานกงมั่วหายไป มองนางด้วยความแปลกใจ “เจ้าบ้าหรือ ข้าจะริษยาเจ้าทำไมกัน ริษยาที่เจ้าไปเป็นอนุภรรยาให้คนอื่นน่ะหรือ”
หนานกงซูกัดฟัน เอ่ยด้วยความโกรธ “ถึงจะเป็นอนุภรรยา ข้าก็เป็นอนุของหวงจั่งซุน ดีกว่าเว่ยจวินมั่วหลายเท่านัก”
หนานกงมั่วรู้สึกสงสารนางขึ้นมา สายตาของเด็กคนนี้ต้องแย่เพียงใดจึงมองว่าเซียวเชียนเยี่ยดีกว่าเว่ยจวินมั่ว แน่นอนหากโชคชะตาของเซียวเชียนเยี่ยดีพอ อนาคตอาจจะดีกว่าเว่ยจวินมั่วเล็กน้อย ยามนี้หวังอย่าให้เขาสร้างศัตรูให้ตนเองไปทั่วก็พอ หนานกงมั่วคร้านจะคุยกับพวกนางต่อจึงลุกยืนขึ้นแล้วมองไปรอบๆ โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูหนานกงซูอีกครั้ง “ช่างโง่เสียจริง ต่อให้ข้าชอบเซียวเชียนเยี่ยขึ้นมาก็ไม่มีทางมาอยู่ในฐานะเช่นเจ้าในตอนนี้แน่ รู้หรือไม่ว่าเราสองคนต่างกันตรงไหน ข้าเอาชนะผู้หญิงทุกคนได้ เจ้า…ทำไม่ได้”
Comments