หมอหญิงยอดมือสังหาร 403 ที่ปรึกษาจอมหลอกลวง (3)
ตอนที่ 403 ที่ปรึกษาจอมหลอกลวง (3)
หนานกงมั่วล้วงหยิบป้ายทองอาญาสิทธิ์ออกมาจากแขนเสื้อ แกว่งไกวไปมา เอ่ย “เช่นนั้น ตอนนี้เชิญท่านอ๋องได้โปรดสั่งการให้คนแจกเสบียงอาหารออกไปโดยเร็วได้แล้วหรือไม่ ข้าหมายถึง ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ณ บัดนี้”
เซียวเชียนเยี่ยขมวดคิ้ว สีหน้าแข็งทื่อขึ้นมา จูชูอวี้พลันเอ่ย “จวิ้นจู่อย่าพึ่งโกรธไปเลยเจ้าค่ะ หวงจั่งซุนมิได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่ยามนี้สงครามยังไม่สงบ ทุกหนทุกแห่งในหลิงโจวเกรงว่าจะมีทหารกบฏซ่อนตัวอยู่ พวกเราเองไม่มีคนมากมายที่จะแบ่งเสบียงไปทั่วทุกที่ได้ ดังนั้น…ความหมายของหวงจั่งซุนคือ รอให้ซื่อจื่อยึดหลิงโจวกลับมาได้แล้ว ค่อยแจกเสบียงอาหารแก่ผู้ปกครองเขตต่างๆ ให้พวกเขาไปจัดการกันเอง อย่างไรพวกเขาก็คุ้นเคยกับหลิงโจวมากกว่าพวกเรา”
หนานกงมั่วหลุบตาลง เอ่ยถาม “เย่ว์จวิ้นอ๋องรู้ ว่าประชาชนชาวหลิงโจวหิวตายไปวันละมากเพียงใดหรือไม่ ถ้าหากครึ่งเดือนยังจัดการกับเมืองหลิงโจวไม่ได้ จะต้องยืนมองชาวเมืองหลิงโจวหิวโซไปอีกครึ่งเดือนเลยหรือ”
จูชูอวี้ยิ้มเจื่อน เอ่ย “จวิ้นจู่ล้อเล่นแล้วเจ้าค่ะ ซื่อจื่อกลยุทธ์ดุจเทพเจ้า หลิงโจวเมืองเล็กๆ คงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งเดือนหรอกหรือไม่”
มองกลุ่มคนตรงหน้า หนานกงมั่วยิ้มหยัน เอ่ย “เอาเยี่ยงนี้ดีหรือไม่ ทุกครั้งที่แจกเสบียงอาหารก็บอกชาวบ้านว่านี่คือเสบียงที่หวงจั่งซุนประทานให้ ให้พวกเขากล่าวขอบคุณหวงจั่งซุนสามครั้งเป็นเช่นไร”
“หนานกงมั่ว” เซียวเชียนเยี่ยทนไม่ไหว ลุกขึ้นทันใด กัดฟันเอ่ยเสียงดังขึ้นมา “เจ้าหมายความเช่นไร เจ้ากำลังว่าข้าใช้วิธีที่มิชอบได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศเช่นนั้นหรือ”
หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเย็น “ข้าว่าท่านอ๋องท่านคงถูกปัญญาชนเหล่านั้นสั่งสอนมาผิดเสียแล้ว ในสายตาของท่านชื่อเสียงสำคัญกว่าชีวิตของชาวเมืองหลิงโจวหรือ ท่านอย่าลืมเล่า ว่าพวกเขามาอยู่ในจุดนี้ได้ ท่านอ๋องท่านเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบหลายส่วน”
“เจ้า…เจ้าบังอาจนัก” เซียวเชียนเยี่ยโกรธเกรี้ยว “หนานกงมั่ว เจ้าอย่าคิดว่าเจ้าเป็นจวิ้นจู่แล้วจะมาจองหองต่อหน้าข้าได้ ข้าเป็นหวงจั่งซุน เจ้านับประสาอันใด”
ลิ่นฉังเฟิงที่นั่งอยู่ด้านข้างหนานกงมั่วสายตาเยือกเย็นขึ้นมา สายตาของผู้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังหนานกงมั่วต่างมองไปยังเซียวเชียนเยี่ยอย่างไม่เป็นมิตรเสียแล้ว
คุณชายฉังเฟิงโบกพัดในมือเล่น เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าพวกเรามิได้สูงส่งเช่นเย่ว์จวิ้นอ๋อง ต่อให้เป็นถึงจวิ้นจู่ เมื่อเทียบกับจวิ้นอ๋องแน่นอนว่ายังห่างชั้นกันอยู่มาก” น่าเสียดาย ผู้ที่ถูกขับไล่ออกมาจากจินหลิงกลับเป็นเย่ว์จวิ้นอ๋องผู้สูงส่งเสียแล้ว
ความจริงเมื่อต่อว่าออกไปแล้วเย่ว์จวิ้นอ๋องพลันรู้สึกผิดในทันใด สถานะของหนานกงมั่วใช่ว่าเขาอยากต่อว่าก็ต่อว่าได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวในหลิงโจวยามนี้มีเว่ยจวินมั่วเป็นผู้ตัดสินใจ หากเว่ยจวินมั่วคิดลอบกัดเขาเพราะเรื่องนี้ เดิมตนเองที่อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้วก็คงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นไปอีกเป็นแน่ แต่เมื่อเอ่ยออกไปแล้ว จะให้ขอโทษหนานกงมั่ว เซียวเชียนเยี่ยก็ไม่อาจขายหน้าไปขอโทษนางได้
แน่นอนว่าจูชูอวี้เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทำได้เพียงถอนหายใจอยู่ในใจ ทว่าใบหน้ายังคงยิ้มอย่างเป็นมิตร “ท่านอ๋อง จวิ้นจู่ อย่าได้โมโหเลยเจ้าค่ะ ทุกคนล้วนแล้วแต่ทำเพื่อฝ่าบาท ไยต้องไม่พอใจเช่นนี้เล่า ยามนี้สถานการณ์ในหลิงโจวใครๆ ต่างรับรู้จึงอดกังวลมิได้ ขอจวิ้นจู่ได้โปรดอภัยด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
หนานกงมั่วเลิกคิ้วอย่างขำขัน หันกลับมาส่งสายตาให้กงอวี้เฉินที่นั่งอยู่อีกฝั่ง นี่คือผู้ช่วยที่ท่านเลือกหรือ
กงอวี้เฉินมองไม่ยังหนานกงมั่วอย่างนึกสนุกทว่าไม่เอ่ยสิ่งใด บางทีคนโง่ก็มีข้อดีของคนโง่ หากฉลาดมากเกินไป หลายครั้งก็ไม่อาจควบคุมได้
เซียวเชียนเยี่ยสูดหายใจเข้าลึก หันกลับไปพยักหน้าให้หนานกงมั่ว เอ่ย “จวิ้นจู่ ข้าเพียงพลั้งปากไป ขอจวิ้นจู่อภัยด้วย”
แน่นอนว่าหนานกงมั่วไม่อาจโกรธแค้นเขาได้ ทำเพียงหมุนป้ายอาญาสิทธิ์ในมือเล่น “มิกล้า ซั่นจยาเซี่ยนจู่เอ่ยถูกแล้ว จวิ้นจู่เช่นข้าก็ทำงานให้ฝ่าบาท ขอจวิ้นอ๋องอย่าทำให้ข้าต้องลำบากใจ เรื่องอื่นข้ากับซื่อจื่อจะอธิบายต่อฝ่าบาทเอง ไม่ทำให้จวิ้นอ๋องต้องลำบากใจ”
แม้เซียวเชียนเยี่ยจะเสียดายที่พลาดโอกาสกอบกู้ชื่อเสียง แต่ป้ายทองอาญาสิทธ์ในมือของหนานกงมั่ว อย่าว่าแต่เขาที่เป็นหวงจั่งซุน ต่อให้เขาเป็นถึงองค์รัชทายาทยังต้องไตร่ตรองให้ดี จำต้องตอบรับ “ตามจวิ้นจู่สั่งการ เดี๋ยวข้าจะสั่งการลงไป”
หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “เช่นนั้นคงต้องลำบากจวิ้นอ๋องแล้ว”
การเจอหน้ากับเซียวเชียนเยี่ยนับว่าแยกย้ายกันไม่ดีนัก เซียวเชียนเยี่ยเดินนำจูชูอวี้ออกไปด้วยสีหน้าทะมึน ทว่ากงอวี้เฉินที่ควรตามเซียวเชียนเยี่ยออกไปกลับไม่มีทีท่าว่าจะตามออกไป ในฐานะที่ปรึกษาคนใหม่ สิ่งที่กงอวี้เฉินทำนั้นเห็นได้ชัดว่าไม่ผ่าน กงอวี้เฉินเอนตัวพิงเก้าอี้ เอ่ยด้วยท่าทางเกียจคร้าน “ข้าว่านะ เสี่ยวมั่วเอ๋อร์ เจ้าไม่ไว้หน้าเซียวเชียนเยี่ยเช่นนี้ ไม่กลัวว่าเขาได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้วจะทำให้เว่ยจวินมั่วต้องลำบากหรือ”
หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “เจ้าสำนักกงมั่นใจว่าเขามีความสามารถเพียงพอจะได้ขึ้นครองบัลลังก์อย่างนั้นหรือ”
กงอวี้เฉินยิ้ม ตอบ “ใช่แล้วเยี่ยงไร”
หนานกงมั่วเอ่ย “หากเป็นเช่นนั้นจริง ตอนนี้เจ้าสำนักกงกำลังทำสิ่งใดอยู่หรือ” หากเชื่อมั่นในตัวเซียวเชียนเยี่ยจริงๆ ตอนนี้กงอวี้เฉินควรอยู่ต่อหน้าเซียวเชียนเพื่อช่วยเขาคิดแผนการ ไม่ใช่มาคุยเล่นอยู่กับนางเช่นนี้ กงอวี้เฉินยิ้ม เอ่ย “ข้าเป็นคนในยุทธภพ” หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ย “บังเอิญแล้ว หนานกงมั่วเองก็เรียกได้ว่าเป็นคนในยุทธภพเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น อนาคตใครจะรู้ว่าจะเป็นเช่นไร มากังวลเรื่องอนาคตตั้งแต่ตอนนี้ เช่นนั้นชีวิตคงน่าเบื่อเกินไปแล้ว”
หากเพราะเซียวเชียนเยี่ยได้ขึ้นครองบัลลังก์จึงต้องประจบประแจง หนานกงมั่วก็รู้ตัวดีว่าตนเองคงทำได้ไม่ดีเพียงนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่มีโอกาสนี้มีมากมาย หรือว่านางต้องคุกเข่านอบน้อมกับหวงซุนทุกพระองค์เลยหรืออย่างไร ยิ่งตำแหน่งสูง พวกเขายิ่งต้องระมัดระวังไม่อาจทำตามใจเพราะความไม่พอใจส่วนตัว หากนางมีความสามารถ ต่อให้เซียวเชียนเยี่ยจะโกรธมากเพียงใดก็ไม่กล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายเล็บ ตรงกันข้าม หากนางไร้ความสามารถ ต่อให้นางคุกเข่าต่อหน้าเซียวเชียนเยี่ย เกรงว่าเซียวเชียนเยี่ยคงจะลุกขึ้นมาถีบนางเพราะขัดหูขัดตา เยินยอ ประจบประแจง คุณหนูใหญ่หนานกงนั้นไม่ถนัดในเรื่องเหล่านี้
“หากเจ้าสำนักกงไม่มีอันใดแล้ว สู้บอกกับข้าทีเถิด หวงจั่งซุนต้องการทำสิ่งใดกันแน่ ข้าเองก็มีแผนอยู่ในใจ เลี่ยงไม่ให้สองฝ่ายต้องเข้าใจผิดกัน หากอยู่ต่อหน้าฝ่าบาทพวกเราทั้งสองฝ่ายจะแย่เอาได้” หนานกงมั่วมองกงอวี้เฉินพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ ดวงตาภายใต้หน้ากากคู่นั้นเผยแววเย้ยหยันออกมา เอ่ย “เรื่องนี้หรือ แน่นอนว่าเพื่อชดเชยความผิดที่หวงจั่งซุนก่อเอาไว้ที่หลิงโจว ขอเพียงจัดการภัยพิบัติและความวุ่นวายในหลิงโจวได้ เรื่องที่หวงจั่งซุนใช้คนไม่ได้เรื่องอย่างน้อยก็จะสงบลง แน่นอนความประสงค์ของฝ่าบาท ยังคงมีเว่ยจวินมั่วเป็นหลัก”
กงอวี้เฉินรู้สึกว่าตนเองนั้นเห็นด้วยกับฮ่องเต้ชราในวังเป็นอย่างยิ่ง จัดการเช่นนี้อย่างไรก็คือไม่เชื่อในกำลังของหลานชายตนเอง ฮ่องเต้ผู้ฉลาดหลักแหลมและโหดเหี้ยมมาทั้งชีวิต สุดท้ายก็มาเจอปัญหาเรื่องรัชทายาท หากร่างกายขององค์รัชทายาทแข็งแรงดี องค์รัชทายาทครองตำแหน่งอยู่แบบนั้น ชินอ๋องคนอื่นต่อให้ไม่ยอมรับก็ต้องเก็บเอาไว้ในใจ แต่เซียวเชียนเยี่ยหวงซุนผู้นี้พูดได้ยาก หากเซียวเชียนเยี่ยมีความสามารถและเจ้าแผนการเช่นเว่ยจวินมั่วฮ่องเต้คงวางใจได้มาก น่าเสียดาย…บนโลกใบนี้มิใช่เพียงลูกไม่เหมือนพ่อจึงจะเจ็บปวด หลานผู้นี้ช่างแตกต่างจากปู่มากเหลือเกิน ทำให้คนทุกข์ใจได้เช่นเดียวกัน
Comments