หมอหญิงยอดมือสังหาร 436 องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ (3)

Now you are reading หมอหญิงยอดมือสังหาร Chapter 436 องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 436 องค์รัชทายาทสิ้นพระชนม์ (3)
คุณชายเสียนเกอจ้องมองนางเนิ่นนาน ถอนหายใจออกมาเบาๆ ในยามที่ศิษย์น้องตัดสินใจมุ่งมั่นจะทำอันใด ใครก็ขัดขวางนางเอาไว้ไม่ได้

“ระวังตัวด้วย หากเกิดเรื่องอันใดกับเจ้า อย่าหวังให้ข้าเลี้ยงดูตาเฒ่าสองคนนั้นไปจนแก่” คุณชายเสียนเกอเอ่ย หนานกงมั่วหัวเราะเสียงดังออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว “ศิษย์พี่ท่านวางใจเป็นพอเจ้าค่ะ ข้าเองก็หวงชีวิตน้อยๆ ของข้ายิ่งกว่าสิ่งใด ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะคิดมากไปเอง เพียงไม่วางใจ กลับไปดูก่อนค่อยว่ากัน”

คุณชายเสียนเกอส่งเสียงในลำคอ เห็นชัดว่าไม่เชื่อคำปลอบโยนของศิษย์น้อง “ทางที่ดีเจ้าต้องปลอดภัย มิเช่นนั้น…ข้าจะช่วยเจ้าส่งสามีของเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อน”

“เช่นนั้นคงต้องขอบคุณศิษย์พี่แล้วเจ้าค่ะ” หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้มตาหยี “ข้าก็รู้สึกว่า หากข้าไม่อยู่และปล่อยให้เขาอยู่ต่อไม่รู้จะเสียเปรียบสตรีนางใดหรือไม่”

“…” จวิ้นจู่ ความรักของท่านช่างเลือดเย็น

คุณชายเสียนเกอเคาะลงบนศีรษะของนางอย่างไม่พอใจ “ระวังตัวด้วย”

“อืม ศิษย์พี่วางใจ”

“จวิ้นจู่ พาข้าน้อยไปด้วยเถิด” สองเสียงดังขึ้นโดยพร้อมเพรียง หนานกงมั่วหันไปมองฝังและหลิ่วพลางเลิกคิ้ว ยกนิ้วขึ้นมานิ้วหนึ่งพร้อมส่ายไปมา หนานกงมั่วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พาไปได้คนเดียว พวกเจ้าตัดสินใจกันเอาเอง”

ฝังและหลิ่วมองสบตากัน จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตามาดร้ายราวกับจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายด้วยสายตา รอคุณชายฟื้นขึ้นมาพบว่าจวิ้นจู่ไปแล้ว พวกเขายังจะดีได้อยู่อีกหรือ จะอยู่ที่นี่ไม่ได้แน่

หลังจากฟาดฟันกันผ่านทางสายตาไปแล้ว สุดท้ายสุภาพบุรุษอย่างฝังก็ต้องพ่ายแพ้ไป หลิ่วกลับไปเก็บข้าวของกลับจินหลิงพร้อมหนานกงมั่วด้วยความร่าเริง ราวกับไม่รับรู้ว่าจินหลิงนั้นเป็นดั่งภูเขาแห่งคมดาบและทะเลเพลิง หลังจากจวิ้นจู่ไปแล้ว สถานที่ที่มีคุณชายนั่นต่างหากที่เรียกว่าถ้ำเสือถ้ำมังกร

“ท่านอ๋อง ซิงเฉิงจวิ้นจู่พาคนออกไปจากเมืองลั่วสยาแล้วเพคะ” ในเรือนเล็ก เซียวฉุนกำลังนั่งหลับตาทำสมาธิอยู่อีกฝั่ง จูชูอวี้เดินเข้ามารายงานด้วยท่าทางนอบน้อม

เซียวฉุนลืมตา เอ่ยถาม “มีเพียงซิงเฉิงจวิ้นจู่ที่จากไปอย่างนั้นหรือ เว่ยจวินมั่วยังอยู่หรือ”

จูชูอวี้พยักหน้า เอ่ย “มีเพียงซิงเฉิงจวิ้นจู่จริงๆ เพคะ”

“ดีมาก” เซียวฉุนเลิกคิ้วยิ้มออกมา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็ควรเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว เซียวเชียนเยี่ยเป็นเยี่ยงไร”

จูชูอวี้ย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ถอนหายใจออกมาเบาๆ “เย่ว์จวิ้นอ๋องไม่ยอมเสวยเลยเพคะ ทำเพียงอาละวาดอยากออกไปข้างนอก”

“ขายหน้าสิ้นดี” เซียวฉุนยิ้มเย็น เอ่ยอย่างไม่พอใจ “บอกเขา หากไม่ต้องการร่วมมือกับข้า รีบฆ่าตัวตายไปเสีย หากไม่อยากตายก็ให้เชื่อฟัง ข้ามีวิธีที่จะผลักเขาให้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งสูงสุดนั่นอย่างแน่นอน” จูชูอวี้หลุบตา ยิ้มบาง เอ่ย “ท่านอ๋องใส่ใจแล้ว อย่างไรเย่ว์จวิ้นอ๋องก็จะค่อยๆ เข้าใจเพคะ เพียงแต่…หากพวกเราไปตอนนี้ เกรงว่าจะทำให้เว่ยซื่อจื่อเกิดความสงสัย”

เซียวฉุนส่งเสียงหยัน “เกรงว่าอย่างนั้นหรือ เห็นชัดว่าคงทำให้สงสัยไปแล้ว เว่ยจวินมั่วผู้นี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ข้ายังไม่ทันได้ทำอันใดเขากลับ…น่าเสียดาย สุดท้ายก็เป็นเพียงผู้สืบทอดจวิ้นอ๋องเท่านั้น หากเซียวเชียนเยี่ยเป็นเช่นเขาได้ ข้าคงไม่ต้องทำเช่นนี้”

“ท่านอ๋องมีแผนการอันใดหรือเพคะ” จูชูอวี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย

เซียวฉุนยิ้มเย็น “ข้ามีวิธี ต่อให้รู้ว่าข้าไปเมืองหลวงด้วยเหตุอันใด ก็คงไม่กล้าไปจากหลิงโจว ส่งคนไป ปล่อยคนบนเขาลั่วหยาง…ลงมาให้หมด”

ดวงตาของจูชูอวี้หดเกร็ง เอ่ยอย่างตื่นตระหนก “ท่านอ๋องกำลังจะ…เอ่อ…”

เซียวฉุนกวาดตามองนาง “ทำไมหรือ กลัวหรือ หลิงโจวมีพื้นที่เท่าฝ่ามือ เมื่อมีใต้หล้าแล้วจะมีกี่หลิงโจวก็ได้มิใช่หรือ เดิมข้ายังเป็นกังวลอยู่บ้าง เพียงแต่…มีสูตรยาที่เจ้าให้ไว้แล้วมิใช่หรือ รอหลังจากเรื่องราวผ่านไปแล้ว ค่อยส่งคนมาจัดการเรื่องราวในหลิงโจว” ใบหน้าจูชูอวี้ซีดขาว “ท่านอ๋องตั้งใจใช้โรคระบาด ถ่วงเวลาให้เว่ยซื่อจื่ออยู่ที่หลิงโจว นั่น จะทำให้มีผู้คนล้มตายมากมายนะเพคะ” ไม่เพียงเขาลั่วหยางที่มีคนตายเป็นพัน แต่เป็นหลายพันไปจนถึงหลายหมื่น อาจถึงแสนหรือมากกว่านั้นในหลายพื้นที่ จูชูอวี้มองเซียวฉุยด้วยความหวาดกลัว เมื่อเทียบกับตนเองแล้ว คนผู้นี้…ยิ่งเหมือนปีศาจมากกว่า คนผู้นี้…น่ากลัวราวกับกงอวี้เฉิน

“คุณหนูใหญ่ตระกูลจู มีความกล้าเท่านี้เองหรือ” เซียวฉุนยิ้มหยัน เอ่ย “เจ้าวางใจ รอเซียวเชียนเยี่ยขึ้นครองบัลลังก์แล้ว ตระกูลจูของเจ้าจะต้องเป็นตระกูลขุนนางที่ใหญ่ที่สุด คุณหนูจู ต่อให้เป็นฮองเฮาไม่ได้ เป็นกุ้ยเฟยก็ยังได้” จูชูอวี้รีบคุกเข่าลง เอ่ยเสียงเข้ม “ขอบพระทัยท่านอ๋องที่สนับสนุนเพคะ ตระกูลจูทำประโยชน์เพื่อหวงจังซุนและท่านอ๋องนั้นเป็นสิ่งสมควรแล้ว ชูอวี้คงไม่คู่ควรกับตำแหน่งกุ้ยเฟย มิกล้าคาดหวังหรอกเพคะ”

“อ้อ” เซียวฉุนกวาดสายตามองนาง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่คู่ควรอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าเซียวเชียนเยี่ยไม่คู่ควรกับเจ้าใช่หรือไม่ มา บอกข้าสิ เจ้าคิดว่าใครคู่ควรกับเจ้า เว่ยจวินมั่วหรือ”

จูชูอวี้ก้มหน้า “ชูอวี้เกิดในตระกูลจู มิกล้าเพ้อฝันถึงความรักระหว่างชายหญิงเพคะ”

มุมปากของเซียวฉุนยกยิ้ม ไม่เอ่ยสิ่งใดอีก จูชูอวี้ลอบถอนหายใจอยู่ในใจ

ในห้องข้างๆ เซียวเชียนเยี่ยกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่เก้าอี้ข้างๆ โต๊ะ ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูเบาๆ ดังเข้ามา “พระองค์ ถึงเวลาอาหารแล้วเพคะ”

เพล้ง! เซียวเชียนเยี่ยคว้าถ้วยชาบนโต๊ะขว้างไปกระแทกประตูอย่างรุนแรง “ไสหัวไป ข้าไม่กิน ข้าจะพบเซียวฉุน”

ประตูด้านนอกเงียบลง ไม่นานพลันได้ยินเสียงด้านนอกดังขึ้นอีกครั้ง “ท่านอ๋อง ถึงเวลาอาหารแล้วเพคะ”

“ไสหัวไป” เซียวเชียนเยี่ยแทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ตั้งแต่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในวันนั้นเขาก็พบว่าตนเองถูกกักขังไว้ ตอนนั้นเขาจึงรู้ว่ากองทัพของเขานั้นถูกเซียวฉุนยึดไปนานแล้ว คนพวกนั้นที่ฟังคำสั่งของเขา เพียงเพราะพวกเขาฟังคำสั่งของเซียวฉุนที่ควบคุมอยู่เบื้องหลังเพียงเท่านั้น เซียวเชียนเยี่ยจึงนึกขึ้นได้ในสิ่งที่หนานกงมั่วถามเขาในวันนั้น เรื่องในครั้งนี้ เป็นความต้องการของพระองค์หรือความต้องการของใครกันแน่ ท่านอ๋องเข้าใจชัดเจนแล้วหรือไม่

เข้าใจชัดเจนแล้วหรือไม่ เข้าใจชัดเจนแล้วหรือไม่ ที่แท้…เข้าไม่เคยเข้าใจชัดเจนมาก่อนเลย ที่แท้ เขาที่คิดว่าตนเองนั้นเป็นหวงจั่งซุนผู้สูงส่ง ตั้งแต่ต้นจนจบก็ถูกคนอื่นหยอกเล่นด้วยเสียงปรบมือ

“เซียวฉุน เจ้าออกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้แก่ตายยาก เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่”

ห้องทั้งห้องเงียบสงบ ด้านนอกก็ไม่มีเสียงผู้ใด มีเพียงเซียวเชียนเยี่ยตะโกนโหวกเหวกอยู่เพียงผู้เดียว

คุณชายเสียนเกอไม่ได้รอถึงสามวันจึงให้ยาปลุกเว่ยจวินมั่วตื่นขึ้นมา ไม่ใช่เขาต้องการล้มแผนการของศิษย์น้อง แต่มันจำเป็น…

เว่ยจวินมั่วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ดวงตาสีม่วงที่เคยสะลึมสะลือพลันแหลมคมราวกับคมดาบ “อู๋สยา”

คุณชายเสียนเกอประคองเขาให้ลุกขึ้นมาจากเตียง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “อย่าพึ่งเรียกมั่วเอ๋อร์ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

เว่ยจวินมั่วขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นมาปัดมือคุณชายเสียนเกอที่จับเขาอยู่ เอ่ย “เกิดเรื่องอันใด” คุณชายเสียนเกอเอ่ยอย่างโกรธเกรี้ยว “ไอ้บ้าเซียวฉุนนั่น เขาให้คนปล่อยผู้คนที่ถูกกักขังอยู่บนเขาลั่วหยางออกมาแล้ว แม้กระทั่งคนป่วยที่แทบเดินไม่ไหวก็ถูกโยนทิ้งออกมา”

สีหน้าของเว่ยจวินมั่วเปลี่ยนไปเล็กน้อย เอ่ยเสียงเข้ม “สั่งให้จ้าวเฟยรีบไปรวมกองกำลัง ล้อมเขาลั่วหยางปิดกั้นพื้นที่ในระยะยี่สิบลี้ ห้ามให้เข้าออก ยาของท่านปรุงได้อย่างไรบ้างแล้ว” คุณชายเสียนเกอกลอกตา เอ่ย “ทดลองไปสองครั้งแล้ว ได้ผลอยู่บ้าง เพียงแต่มันยังไม่พอ ข้าต้องการเวลา ต้องใช้วัตถุดิบจำนวนมาก”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *