อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ]ตอนพิเศษ 207 จวิ้นจู่ ท่านจำคนผิดแล้ว
ตอนพิเศษ 207 จวิ้นจู่ ท่านจำคนผิดแล้ว
ตอนพิเศษ 207 จวิ้นจู่ ท่านจำคนผิดแล้ว
เย่ฉิงเป่ยวางหมาก แล้วเงยหน้าขึ้นมองไป๋หลิวอี้
ฝ่ายหลังเงียบไปครู่หนึ่ง หลังจากคิดอยู่สักพักก็วางหมากสีขาวในมือลง
อาเวินยืนอยู่ด้านข้างมาสักพักแล้ว ตอนแรกทั้งสองเล่นหมากรุกไปพลางพูดคุยกัน หลังจากผ่านไปนาน พวกเขาก็ไม่เอ่ยคำใดสักคำ ไม่คิดจะพูดคุยอะไรกันสักหน่อยหรือ?
อาเวินไม่สามารถเข้าใจโลกแห่งจิตวิญญาณของทั้งสองได้ เขาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าชาและของว่างด้านข้างไม่พร่องลงไปเลย
เลยเที่ยงแล้ว ได้เวลากินข้าวแล้ว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังเดินออกไปที่ประตู แล้วลงไปชั้นล่าง
ทันทีที่เนี่ยนเนี่ยนเข้าไปในโรงเตี๊ยมจวี้เป่า นางก็เห็นอาเวินยืนอยู่หน้าโต๊ะบริการ ขณะสั่งเสี่ยวเอ้อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “…เตรียมสำรับอาหารและเครื่องดื่ม ส่งไปที่ห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม”
เนี่ยนเนี่ยนตัวแข็งทื่อ เดี๋ยวก่อน เหตุใดอาเวินถึงมาอยู่ที่นี่?
อีกทั้งห้องเทียนจื้อหมายเลขสามนั่น ไม่ใช่หมายเลขห้องที่นัดกับเป่ยเป่ยไว้หรือ?
สีหน้าของนางกลายเป็นเข้าใจยากทันที อาเวินมักจะไม่ออกห่างจากไป๋หลิวอี้ ตอนนี้เขาขอให้เตรียมอาหารและเครื่องดื่ม แล้วไปยังห้องของเป่ยเป่ย… เช่นนั้นไป๋หลิวอี้กับเป่ยเป่ยอยู่ด้วยกันหรือ?
พวกเขาพบกันเมื่อใด? การมาที่อาณาจักรเทียนอวี่ของเป่ยเป่ยเป็นความลับ นอกจากฮ่องเต้ ฮองเฮา ไท่จื่อและไป๋อีเฟิงแล้วก็ไม่มีใครควรรู้เรื่องนี้ แม้แต่ไป๋หลิวอี้ก็เช่นกัน
แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องเดียวกัน ทั้งยังให้อาเวินลงมาสั่งอาหารกลางวันข้างล่างด้วย…
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว แล้วเดินตามอาเวินไป
อาเวินไม่ได้ขึ้นไปชั้นบน แต่หันหลังเดินเข้าไปที่มุมหนึ่ง
มีชายคิ้วต่ำและดวงตาเบิกบานคนหนึ่งรอเขาอยู่ เมื่อเห็นเขามาก็รีบกระซิบทันที “ท่านเวิน…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าน้อยเห็นว่าหลิ่วยางยางวาดภาพเหมือนของจวิ้นจู่ แล้วมอบให้กับสาวใช้คนสนิทของนาง สาวใช้คนนั้นไปพบโจรป่าที่มีนามว่าเหลียงหู่ เหลียงหู่รออยู่ในโรงน้ำชาฟางเจียสองวัน ก่อนที่จวิ้นจู่จะออกมา จากนั้นก็โจมตีจวิ้นจู่ขณะอยู่ในตรอกขอรับ”
อาเวินขมวดคิ้ว “ลงมือแล้วหรือ? แล้วผลเป็นอย่างไร?”
“เดิมทีข้าน้อยต้องการเข้าไปช่วย แต่สตรีผู้หนึ่งที่มาจากไหนไม่รู้มาช่วยจวิ้นจู่ไว้ ดูเหมือนว่านางจะรู้จักกับจวิ้นจู่ และร่วมกับจวิ้นจู่พาเหลียงหู่ไปสอบปากคำที่บ้านร้าง ข้าน้อยไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป เพราะเกรงว่าจวิ้นจู่จะจับได้ ต่อมาเมื่อจวิ้นจู่และหญิงคนนั้นจากไปแล้ว ข้าน้อยก็เข้าไปในบ้านหลังนั้น ก็เห็นว่าเหลียงหู่สิ้นใจเสียแล้วขอรับ”
สีหน้าของอาเวินแข็งทื่อ เขาหันกลับมาพูดทันที “เจ้าบอกว่าตายแล้วงั้นหรือ?”
ชายคนนั้นพยักหน้าด้วยสีหน้าลำบากใจ “ใช่ เขาถูกหญิงคนนั้นบีบคอจนตาย เหลียงหู่เป็นโจรป่า หากเขาถูกพบเป็นศพในบ้านร้างที่ทรุดโทรม ทางการก็คงได้แต่แอบดีใจ หญิงคนนั้นไม่แม้แต่จะจัดการกับศพ เพียงแค่ทิ้งไว้เช่นนั้น”
“น่าเสียดาย” อาเวินถอนหายใจ “แต่เดิมมันเป็นโอกาสที่จะได้สองต่อ หากเหลียงหู่ถูกจับเป็น ก็สามารถให้เขาชี้ตัวสาวใช้คนสนิทของหลิ่วยางยางได้…”
ชายคนนั้นไม่ได้เอ่ยคำใด และไม่คาดคิดว่าเรื่องจะเดินมาถึงจุดนี้
ทันใดนั้น อาเวินก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขาสะดุ้งก่อนจะหันไปมองชายคนนั้นทันใด “เจ้าบอกว่าจวิ้นจู่ออกมาแล้วหรือ? ตอนนี้อยู่ที่ใด?”
“หลังจากที่จวิ้นจู่ออกมาจากบ้านร้างแล้ว ก็เดินมาทางด้านนี้…” ชายผู้นั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วเหมือนจะพูดบางอย่างด้วยเสียงแผ่วเบา
อาเวินรู้สึกว่าเส้นขนทั่วร่างกายของเขาตั้งชัน ไอเย็นยะเยือกที่อธิบายไม่ได้พลันแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา ราวกับว่า… ราวกับว่า… มีใครบางคนกำลังเฝ้าดูเขาจากด้านหลัง
ทันใดนั้น อาเวินก็หันขวับกลับไปดูทันที จากนั้นก็อ้าปากค้างและเอามือปิดหน้า แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
เนี่ยนเนี่ยนกระตุกยิ้มเย็น แล้วรีบก้าวเข้าไปขวางเขาไว้
เมื่อคนที่มารายงานสถานการณ์เมื่อครู่นี้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็รีบวิ่งหนีไปหน้าตาเฉย
เนี่ยนเนี่ยนมองอาเวินที่กำลังก้มหน้าลง และพยายามจะเดินผ่านไปข้างนาง ก่อนจะทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม “ช่างบังเอิญเสียจริง ไม่คาดฝันเลยว่าจะเจอท่านอาเวินที่นี่”
“แม่นางจำคนผิดแล้ว” ท่านอาเวินงั้นหรือ? อาเวินอยากจะตายเหลือเกิน
เกิดอะไรขึ้น? เขาแค่ลงมาสั่งให้คนเตรียมอาหารกลางวัน เหตุใดถึงต้องมาเผชิญหน้ากับนาง?
ส่วนคนที่มารายงานเขาเมื่อครู่นี้ กลับไปต้องเห็นดีกันแน่ หลังจากพูดมาตั้งมากมาย ดันเก็บเรื่องสำคัญที่สุดไว้ตอนท้าย
เขาไม่รู้หรือว่าควรบอกเขาตั้งแต่แรกว่าจวิ้นจู่กำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ เพื่อที่เขาจะได้คิดมาตรการรับมือแต่เนิ่น ๆ? ตอนนี้มันจบแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนใช้นิ้วเท้าเคาะพื้นเบา ๆ ขณะเอียงศีรษะเล็กน้อย “จำคนผิดงั้นหรือ? ท่านอาเวินนี่ชอบล้อเล่นเสียจริง ตาของข้าไม่ได้บอด ข้าจะจำคนผิดได้อย่างไร ในเมื่อยืนดูอยู่ตรงนี้เป็นเวลาหนึ่งในสี่ชั่วยามแล้ว?”
หนึ่งในสี่ชั่วยามหรือ? อาเวินรู้สึกขมขื่นในใจ
“เอาล่ะ เงยหน้าขึ้น เสี่ยวเอ้อร์กำลังเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม เหตุใดเจ้าไม่ส่งมันไปยังห้องเทียนจื้อหมายเลขสามเล่า?”
สีหน้าของอาเวินแข็งทื่อ นางได้ยินหมดเลยหรือ?
ไม่สิ ประสาทสัมผัสของเขาตอบสนองเชื่องช้าถึงเพียงนั้นเลยหรือ? จวิ้นจู่พบเขาตั้งแต่ตอนไหน?
“แต่ข้าจำได้ว่าข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับห้องเทียนจื้อหมายเลขสาม เจ้าต้องการให้ข้ายกไปส่งให้หรือไม่?” เนี่ยนเนี่ยนยืนอยู่ที่นั่นอย่างอดทน…และขวางหน้าเขาไว้
อาเวินยกมือข้างหนึ่งปิดหน้าพลางหัวเราะแห้ง ๆ
“แขกในห้องเทียนจื้อหมายเลขสามดูเหมือนจะชื่อว่าเย่ฉิงเป่ย เจ้าน่าจะรู้จักเขา แล้วเจ้านายของเจ้ารู้จักเขาดีหรือไม่? ลองคิดดูแล้วสองคนนั้นน่าจะมีอะไรคล้ายกัน พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่ชอบอ่านบทกวีและตำรา ดังนั้นพวกเขาคงจะเข้ากันได้อย่างสนิทสนมตั้งแต่แรกพบ”
อาเวินพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ใช่แล้ว ใช่แล้วขอรับ พวกเขาเพิ่งพบกันวันนี้ ทั้งสองมีใจตรงกัน จึงเริ่มสนทนากัน ฮ่าๆ นับว่าชะตาต้องกัน ทว่าจวิ้นจู่ ท่านสนิทกับคุณชายเย่คนนั้นหรือขอรับ?”
ตอนนี้เขาแกล้งทำเป็นโง่เขลาเพื่อนาง
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะเยาะ “ว่าอย่างไร เจ้าไม่บอกว่าข้าจำคนผิดแล้วหรือ? ยอมรับว่าเจ้านายของเจ้าและเย่ฉิงเป่ยอยู่ด้วยกันในห้องนั้นแล้วหรือ?”
“…” อาเวินอยากจะต่อยกำแพงจริง ๆ
“เจ้าไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณชายเย่กับข้าหรือ? เราทั้งสองสกุลเย่เหมือนกัน เจ้าน่าจะคุ้นชื่อเย่ฉิงเป่ยใช่หรือไม่? หืม?”
“อ๋อ ใช่แล้ว ข้าจำได้แล้ว ข้าก็ว่าอยู่ว่าเหตุใดชื่อของคุณชายเย่ถึงคุ้นนัก ปรากฏว่าเป็นน้องชายของจวิ้นจู่นั่นเอง เช่น เช่นนั้นข้าจะไปบอกนายท่านเดี๋ยวนี้ ว่าคุณชายเย่เป็นว่าที่น้องภรรยาของนายท่าน นายท่านต้องดีใจมากเป็นแน่ขอรับ”
เนี่ยนเนี่ยนกอดอก พลางคลี่ยิ้ม “เจ้าคิดออกแล้ว แต่เจ้านายของเจ้าคิดไม่ออกงั้นหรือ? ปรากฏว่าเจ้านายของเจ้าที่ผ่านการสอบไป่กวนมาได้ กลับโง่เขลากว่าเจ้าเช่นนั้นหรือ?”
อาเวินรู้สึกว่าจะดีกว่าถ้าเขาเงียบและไม่พูดอะไรอีก ยิ่งพูดก็ยิ่งผิดมากขึ้นเรื่อย ๆ
“…บางทีนายท่านอาจจะไม่ทันได้สังเกต ดังนั้นข้าจะไปบอกเขาเดี๋ยวนี้ขอรับ”
อาเวินพูดจบก็เตรียมจะจากไป แต่ทันทีที่เขาหันหลังกลับ เนี่ยนเนี่ยนก็เดินนำหน้าเขา แล้วหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง “บอกไป๋หลิวอี้งั้นหรือ? เจ้าคิดได้ดีนี่ แต่ตอนนี้เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น มากับข้า!!”
สีหน้าของเนี่ยนเนี่ยนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางผลักเขาอย่างแรง แล้วผลักเขาตรงไปที่สวนหลังโรงเตี๊ยม
………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อาเวินน่าสงสาร จะโดนเนี่ยนเนี่ยนเค้นอะไรบ้างน้า
ไหหม่า(海馬)
Comments