อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 368 นั่นเป็นการแอบอ้าง

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 368 นั่นเป็นการแอบอ้าง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 368 นั่นเป็นการแอบอ้าง

ตอนที่ 368 นั่นเป็นการแอบอ้าง

หลายวันมานี้ฮูหยินใหญ่เอาแต่แสดงสีหน้ากลัดกลุ้มใจ ทั้งเรื่องของหลี่หรานหร่าน อาการบาดเจ็บของอวี๋จั้วหลิน และการหลบหลีกไม่ยอมเจอหน้าจากแม่นางชิง ทั้งหมดนี้ทำให้นางถึงกับใจสลาย

หลายวันมานี้นางเหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจ ทุกข์ทรมานจนมิอาจเปล่งวาจาออกมาได้ ผมขาวบนศีรษะก็โผล่ขึ้นมาหลายเส้น

ตอนนี้นางเพิ่งสั่งให้คนไล่หลี่หรานหร่านออกไป และเพิ่งกลับเข้ามาในห้องของอวี๋จั้วหลินอีกหน มองดูบุตรชายที่กำลังนั่งอย่างไร้วิญญาณอยู่ตรงหน้าต่าง เห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก เมื่อครู่ได้สั่งให้สาวใช้นำเสื้อคลุมเข้ามาและคลุมลงบนบ่าของเขาอย่างระมัดระวัง

“ร่างกายยังไม่หายดี เหตุใดถึงไม่นอนบนเตียง? แม้ว่าตอนนี้เป็นช่วงคิมหันต์ฤดู แต่ลมยังแรงนัก เจ้าอย่าได้ปล่อยให้ตนเองปวดหัวตัวร้อนจนอาการป่วยเพิ่มทวีเลย”

อวี๋จั้วหลินไม่พูดไม่จา เอาแต่จ้องมองก้อนหินที่อยู่บนพื้นนอกหน้าต่าง ครุ่นคิดถึงคำพูดของแม่นางชิงในวันนั้น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

“ท่านแม่ สตรีผู้นั้นไปแล้วหรือ?”

“ไปแล้ว” ตอนนี้แม้แต่ชื่อของหลี่หรานหร่าน เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเรียกแล้ว ดูเหมือนว่าบุตรชายคงขยะแขยงสตรีผู้นี้แล้วจริง ๆ

อวี๋จั้วหลินได้ยินเช่นนี้ก็กลับมาเงียบขรึมลงอีกหน

ใครจะไปคิดว่าเพิ่งเงียบสงบลงได้ไม่นาน จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงโกลาหลดังขึ้น ในนั้นยังมีเสียงหยิ่งผยองอีกหนึ่งเสียงด้วย

โทสะของฮูหยินใหญ่พุ่งทะยานขึ้นโดยพลัน “มีอย่างที่ไหนกัน กล้าเอะอะโวยวายในเรือนของนายน้อย ไม่คิดจะให้เขาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หรืออย่างไรกัน? ฟางซาน เจ้าออกไปดู ลากคนที่สร้างความวุ่นวายออกไปให้หมด ตบปากมันคนละยี่สิบครั้ง”

“เจ้าค่ะ” ฟางซานพยักหน้า หมุนกายเดินออกนอกประตู

ทว่าเพียงไม่นาน นางก็รีบเดินกลับเข้ามาอีกหน “ฮูหยิน ข้างนอกคือ…คือ…คือหรู…หลี่หรานหร่านกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

“หลี่หรานหร่าน?” ฮูหยินใหญ่ถึงกับขมวดคิ้วโดยพลัน ครั้นหันกลับมาเห็นบุตรของตนเองเพียงแค่ยักไหล่เล็กน้อย มิได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบรุนแรงอะไร ดูราวกับไม่สนใจแม้แต่น้อย

นางรีบตบบ่าอวี๋จั้วหลินแล้วกล่าวว่า “เจ้าไปนอนพักผ่อนเถิด แม่จะออกไปดูสักหน่อย ดูซิว่าสตรีไร้ยางอายผู้นั้นยังคิดจะสร้างปัญหาอันใดอีก”

“ขอรับ” อวี๋จั้วหลินตอบรับ กลับขึ้นเตียงและหลับตาลงเพื่องีบหลับ

ฮูหยินใหญ่รีบออกไปอย่างรวดเร็ว หลี่หรานหร่านกำลังถูกสาวใช้และหญิงเฒ่าสามสี่คนภายในเรือนของอวี๋จั้วหลินขัดขวางไว้ ร่างกายที่บอบบางและสูงค่าย่อมมิอาจสู้สตรีที่เป็นสาวใช้ทำงานหนักเหล่านี้ได้ เพียงไม่กี่หนก็ถูกดึงจนผมเผ้าและเสื้อผ้ายุ่งเหยิง

ฮูหยินใหญ่ยืนอยู่บนบันได มองนางปราดหนึ่ง ก่อนยิ้มเยาะกล่าวกับสตรีเหล่านั้น “จับสตรีบ้าที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ใดโยนออกไปเสีย มีหน้าวิ่งเข้ามาสร้างความวุ่นวายถึงที่นี่ กระทบต่อเวลาพักผ่อนของจั้วหลิน ไม่รู้จักละอายใจเสียบ้าง”

หลี่หรานหร่านถึงกับชะงัก ในใจรู้สึกชิงชังหญิงแก่ผู้นี้ยิ่งนัก

ก่อนหน้านี้นางปฏิบัติต่อฮูหยินใหญ่อย่างดีเยี่ยม หากรู้เช่นนี้ตั้งแต่แรก นางคงใช้โอกาสในช่วงเวลาหกปีมานี้ฆ่านางทิ้งเสีย ก็คงได้เป็นนายหญิงของตระกูลนี้นานแล้ว ไม่ต้องมาทนเห็นสีหน้าของหญิงแก่ในตอนนี้

ครั้นเห็นสาวใช้เหล่านั้นก้าวมาจับแขนของนางไว้ หลี่หรานหร่านก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสี รีบชะโงกหน้าพร้อมกับตะโกนบอกฮูหยินใหญ่ “ฮูหยิน ข้ามีเรื่องจะบอก”

“โยนออกไป” เหอะ นางยังมีเรื่องอะไรจะพูด? ก็คงขอร้องให้นางได้อยู่ที่นี่ต่อไปก็เท่านั้น

นี่เป็นแค่เพียงการแยกทางกับนางเท่านั้น อวี๋จั้วหลินเห็นแก่ความรักที่เคยมีให้กันตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา จึงยอมปล่อยนางไป หากสตรีผู้นี้รู้จักผิดชอบชั่วดีก็ควรไปหาต้นไม้เพื่อผูกคอฆ่าตัวตาย มิใช่เข้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่อีก

หลี่หรานหร่านโมโหอย่างมาก นางไม่สนใจสาวใช้หญิงเฒ่าเหล่านั้นที่อยู่ภายในเรือนแห่งนี้อีกแล้ว จึงตะโกนเสียงสูงว่า “อวี้ชิงลั่วยังไม่ตาย นางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว”

“ช้าก่อน” ฮูหยินใหญ่ถึงกับหน้าถอดสีโดยพลัน สายตาถลึงมองหลี่หรานหร่าน พลางเดินลงมาจากขั้นบันได

ทว่านางยังไม่ทันได้เดินเข้าไปหา เสียงของอวี๋จั้วหลินก็ดังขึ้นจากด้านหลัง “ให้นางเข้ามา”

เสียงของหลี่หรานหร่านเมื่อครู่ดังถึงเพียงนี้ อวี๋จั้วหลินย่อมต้องได้ยิน

บนใบหน้าของหลี่หรานหร่านประดับรอยยิ้มทันใด นางสะบัดแขนแรง ๆ เพื่อปัดมือของสตรีรับใช้เหล่านั้นออก ก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง

ครั้นฮูหยินใหญ่เข้ามา นางก็ปิดประตูลง แล้วรีบคว้าไหล่ของหลี่หรานหร่านพลางเอ่ยถาม “เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอย่างไร? เจ้าบอกว่าอวี้ชิงลั่วยังไม่ตาย?”

“เจ้าค่ะ เรื่องนี้ฮูหยินอวี้เป็นคนพูดเอง ตอนนี้สองแม่ลูกคู่นั้นรออยู่นอกจวนเจ้าค่ะ จั้วหลิน หากท่านไม่เชื่อ ก็ให้คนไปเชิญพวกนางเข้ามาได้”

อวี๋จั้วหลินสีหน้าแข็งทื่อ อวี้ชิงลั่วยังไม่ตาย? เหตุใดอวี้ชิงลั่วผู้นั้นจึงยังไม่ตายเล่า?

เขาโบกมือให้เด็กรับใช้ข้างกายไปนำตัวสองแม่ลูกเฉินจีซินเข้ามา

เพียงหนึ่งเค่อ เขาก็ได้ฟังคำอธิบายจากปากสองแม่ลูกเฉินจีซิน สีหน้าของอวี๋จั้วหลินและฮูหยินใหญ่ยิ่งดูย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ

“พูดเช่นนี้ก็หมายความว่าอวี้ชิงลั่วมาถึงเมืองหลวงแล้ว ฮูหยินอวี้ ท่านรู้หรือไม่ว่านางพักอยู่ที่ใดในเวลานี้?”

นังแพศยาผู้นั้น…ดวงแข็งถึงเพียงนี้ หายนะสองหนเมื่อหกปีก่อนมิอาจปลิดชีพนางได้

เฉินจีซินเม้มปาก พักอยู่ที่ใด? อวี้เจี้ยนต๋ามิได้บอกไว้ นางเองก็ไม่รู้เช่นกัน

ครั้นครุ่นคิดดูแล้ว ตอนที่นางกำลังจะส่ายหน้า กลับได้ยินหลี่หรานหรานหร่านหัวเราะเยาะออกมา

“จั้วหลิน ท่านเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ รึ? แม้แต่อวี้ชิงลั่วพักอยู่ที่ใดก็ไม่รู้”

ฮูหยินใหญ่ขมวดคิ้วมุ่น ยิ้มเยาะใส่นาง “ทำไมรึ หรือว่าเจ้ารู้?”

“จั้วหลิน หรือว่าเมื่อครู่ท่านไม่ได้ยินที่ฮูหยินอวี้พูด ท่านอวี้เจออวี้ชิงลั่วภายในเรือนรับรองของอาณาจักรหลิวอวิ๋นมิใช่รึ? อีกอย่าง ตอนนี้อวี้ชิงลั่วก็อยู่กับอวี้เป่าเอ๋อร์ ตอนนี้อวี้เป๋าเอ๋อร์พักอยู่ในตำหนักอ๋องซิว ครั้งก่อนท่านเองก็ไปสอบถามมาแล้วมิใช่รึ? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อวี้ชิงลั่วย่อมพักอยู่ในตำหนักอ๋องซิวเช่นกัน ส่วนสถานะของนาง…เหอะ ๆ จั้วหลิน จนถึงตอนนี้ท่านยังคิดไม่ออกอีกหรือว่านางคือใคร?”

ร่างกายของอวี๋จั้วหลินถึงกับแข็งทื่อ สตรีที่พักอยู่ในตำหนักอ๋องซิว…นั่นมัน…

“หลี่หรานหร่าน เจ้ากำลังหมายความว่า แม่นางชิง…คืออวี้ชิงลั่ว?” ฮูหยินใหญ่เบิกตาโตด้วยความตกตะลึงขณะโพล่งออกมา

หลี่หรานหร่านแค่นเสียง “ข้ารู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่แรกแล้ว ในเมื่อแม่นางชิงผู้นี้เป็นหมอปีศาจ นิสัยแปลกประหลาดเอาแน่เอานอนมิได้ เหตุใดถึงได้หวังดีวิ่งมาช่วยรักษาให้พวกเราถึงจวนอวี๋เล่า? อีกอย่าง ตอนที่นางปรากฏตัวออกมาก็บังเอิญเกินไปหน่อยกระมัง ทั้งยังใส่ใจจวนอวี๋ของพวกเราอีก สิ่งที่ทำให้ข้าสนใจก็คือ นางพาเยว่ซินไปด้วย เหอะ หากแม่นางชิงผู้นั้นมิใช่อวี้ชิงลั่ว นางจะพาเยว่ซิน ทั้งยังนำสัญญาขายของเยว่ซินไปเพื่ออันใดเล่า?”

ฮูหยินใหญ่ถึงกับสูดลมเข้าปอด จริงสิ นางเองก็รู้สึกแปลก ๆ เช่นกัน เยว่ซินผู้นั้นติดตามแม่นางชิงนานขนาดนั้น เหตุใดนางถึงไม่เคยพูดเรื่องอวี้ชิงลั่วกับแม่นางชิง และไม่เคยกล่าวถึงเรื่องที่หลี่หรานหร่านมิใช่คุณหนูเล็กของตระกูลอวี้เล่า?

“เช่นนั้น…เช่นนั้นที่นางบอกว่าตนเองเป็นองค์หญิงของราชวงศ์ หรือว่า…”

“ย่อมเป็นการแอบอ้าง” หลี่หรานหร่านตอบอย่างมั่นใจ

ฮูหยินใหญ่รู้สึกหายใจลำบาก ทว่าลมหายใจยังไม่ทันคืนกลับมา ก็พบว่าคนที่เคยอยู่ข้างกายปรี่ตัวออกไปด้วยความรีบร้อน นางรีบตะโกนด้วยความตกใจ “จั้วหลิน จั้วหลิน นี่ เจ้าจะไปที่ใด? กลับมานะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โป๊ะแล้วแหละชิงลั่ว จะรับมือยังไงต่อดีเนี่ย

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *