อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 371 ลืมบอกเรื่องสำคัญไปหนึ่งเรื่อง

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 371 ลืมบอกเรื่องสำคัญไปหนึ่งเรื่อง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 371 ลืมบอกเรื่องสำคัญไปหนึ่งเรื่อง

ตอนที่ 371 ลืมบอกเรื่องสำคัญไปหนึ่งเรื่อง

หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง หนานหนานจึงดึงมือเสิ่นอิงแล้วกล่าวขึ้นว่า “ท่านลุงเสิ่น ท่านไปกับเขาเถอะ ข้าไม่ค่อยไว้ใจ”

“…” มุมปากของเสิ่นอิงถึงกับกระตุก ครั้นเงยหน้าก็พบสีหน้าอึมครึมของอวี๋จั้วหลิน จึงทำได้เพียงพูดอย่างจนปัญญาว่า “ใต้เท้าอวี๋ เสื้อตัวนี้ของหนานหนาน เป็น…ชุดที่ท่านอ๋องซื้อให้ ท่าน…ช่วยรับผิดชอบด้วย”

แม้แต่เสิ่นอิงยังพูดเช่นนี้ อวี๋จั้วหลินจึงรู้สึกไม่ดีที่จะพูดอะไรมากไปกว่านั้น อีกอย่าง ให้เสิ่นอิงตามไปด้วยก็ดี ได้ยินมาว่าผู้อารักขาคนนี้มีตำแหน่งสูง ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากท่านอ๋องซิวอย่างมาก

หากได้พูดคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวโดยไม่มีเด็กคนนั้นสร้างปัญหา มีเรื่องอะไรก็อาจจะจัดการได้ง่ายขึ้น

คิดเช่นนี้ อวี๋จั้วหลินจึงพยักหน้า และเดินออกจากจวนซิวอ๋องพร้อมกับเสิ่นอิง

หนานหนานถือเงินหนึ่งร้อยตำลึงนั้นไว้ ก่อนจะหมุนกายเดินเข้าประตู

ครั้นแลเห็นท่านพ่อและท่านแม่กำลังยืนมองอยู่จากด้านใน เด็กน้อยก็รีบเก็บเงินไว้ในกระเป๋าเสื้อ แล้วพูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “ข้าจัดการเขาแล้ว”

อวี้ชิงลั่วตอบ ‘อืม’ เบา ๆ แล้วกระซิบว่า “กลับเข้าไปเถอะ”

หนานหนานถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง มองท่านแม่ที่ดูอ่อนโยนและใจดีด้วยความไม่เข้าใจ เขามีเงินจำนวนมากถึงหนึ่งร้อยตำลึง ท่านแม่กลับไม่คิดจะเก็บไว้?

นิสัยเปลี่ยนแล้ว? หรือว่า…เป็นเพราะเห็นคนที่ชื่ออวี๋จั้วหลินนั่น อาจจะนึกถึงเรื่องชั่ว ๆ เหล่านั้น จึงทำให้อารมณ์ไม่ดีนัก?

ครั้นนึกถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ เหล่านั้น หนานหนานพลันเม้มริมฝีปาก ก้าวเท้าเดินตามอวี้ชิงลั่ว ก่อนจะปีนขึ้นหลังพร้อมโอบคอนาง และกระซิบว่า “ท่านแม่ ตอนนี้ท่านแม่มีข้าและท่านพ่อแล้ว หลังจากนี้จะไม่มีใครรังแกท่านแม่อีกแล้ว ใครกล้าทำไม่ดีกับท่านแม่ หนานหนานจะช่วยอัดหน้ามันเอง ดีหรือไม่?”

อวี้ชิงลั่วยิ้มออกมา หันหน้ามาบีบจมูกของหนานหนาน “แค่เจ้าไม่สร้างปัญหาให้แม่ แม่ก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว”

“ท่านแม่ วันนี้มีคนบีบจมูกของข้าตั้งหลายคนแล้ว ท่านแม่ปล่อยมันไปมิได้เชียวหรือ?” หนานหนานบุ้ยปาก ทว่ากลับยังใช้ศีรษะพิงเข้าที่บ่าของอวี้ชิงลั่วอย่างน่ารัก

อันที่จริงเขารู้มาโดยตลอดว่าท่านแม่ลำบากเหลือเกิน ลำบากมาตั้งแต่เมื่อก่อน ตอนที่เขาเพิ่งคลอดออกมาก็ร่างกายไม่แข็งแรง เอาแต่เจ็บไข้ได้ป่วย เป็นเพราะท่านแม่ต้องรักษาเขา จึงต้องวิ่งหายาไปทั่ว

แม่นมเก๋อเคยบอกว่า มีครั้งหนึ่งที่เขาป่วย ท่านแม่ต้องวิ่งไปถึงหน้าผาเพื่อเก็บสมุนไพร จนเกือบจะตกลงไปในเหวลึกสูงหมื่นจั้ง

ดังนั้น เขาต้องปฏิบัติกับท่านแม่ให้ดี และต้องทำให้คนอื่นปฏิบัติกับท่านแม่ให้ดีด้วย สำหรับเขาแล้ว ไม่มีใครดีเทียบเท่ากับท่านแม่ได้

เย่ซิวตู๋เดินตามหลังพวกเขาอย่างเงียบ ๆ มีบางเรื่องที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดอะไร แต่ในใจของเขากลับรู้ดี

เมื่อเห็นอารมณ์ของหนานหนานดูหดหู่เช่นนี้ นัยน์ตาของเขาพลันหมองหม่นลง เกิดอคติต่ออวี๋จั้วหลินมากยิ่งขึ้น บุรุษเช่นนั้น ได้ใช้ชีวิตเป็นอย่างดีมาหลายปีก็สมควรพอได้แล้ว

ครั้นกลับถึงห้อง หนานหนานก็ยังไม่ยอมลงมาจากตัวของอวี้ชิงลั่ว

คาดว่าเป็นเพราะเห็นอวี๋จั้วหลิน วันนี้เขาจึงทำตัวติดเหนียวหนึบเป็นพิเศษ ซุกอยู่ในอ้อมกอดของอวี้ชิงลั่วไม่ยอมปล่อย ทั้งยังนำเงินหนึ่งร้อยตำลึงออกมาใส่มืออวี้ชิงลั่วด้วยตนเอง

ช่วงมื้อค่ำ เสิ่นอิงก็กลับมาพร้อมกับเงินห้าพันตำลึง

เขานำเงินหนึ่งพันตำลึงยื่นให้หนานหนานที่กำลังงัวเงียง่วงนอน ส่วนอีกสี่พันตำลึงนั้นมอบให้เย่ซิวตู๋

เย่ซิวตู๋เลิกคิ้วแล้วกล่าวเคล้ารอยยิ้มว่า “อวี๋จั้วหลินคิดจะซื้อตัวเจ้ารึ?”

“นายท่าน ระหว่างทางเขาสอบถามกระหม่อมเกี่ยวกับความคุ้นชินในการใช้ชีวิตของนายท่านไปไม่น้อย” เสิ่นอิงไม่ยอมรับ เพียงแต่มองเงินเหล่านั้นด้วยสายตาดูหมิ่น

อวี้ชิงลั่วอุ้มหนานหนานจนมือชาแล้ว นางจึงยัดหนานหนานใส่อ้อมกอดของเย่ซิวตู๋ ก่อนจะดึงเงินมาจากมือของเขา ตบเงินลงมือฝ่ามือดัง ‘เพียะ ๆ’ สองหน แล้วกล่าวว่า “อวี๋จั้วหลินผู้นี้ช่างขี้งกเสียเหลือเกิน ซื้อตัวเจ้าด้วยเงินแค่สี่พันตำลึง”

มุมปากเสิ่นอิงถึงกับกระตุก “แม่นางอวี้ เงินสี่พันตำลึงก็ไม่ใช่น้อย ๆ นะขอรับ” แม้ว่าเขาจะเก็บออมเงินอยู่บ้าง แต่เงินสี่พันตำลึงก็ใช้เวลาสะสมไม่น้อยเลยทีเดียว

หนานหนานขยี้ตา เมื่อถูกอวี้ชิงลั่วโยนออกไปเช่นนี้จึงทำให้เขาตื่น

ครั้นได้เห็นเงินสี่พันตำลึง แววตาก็ถึงกับเป็นประกายขึ้นมา “อวี๋จั้วหลินโง่หรืออย่างไรกัน? คิดจะซื้อตัวคน เหตุใดถึงไม่คิดจะซื้อตัวข้าเล่า? ท่านลุงเสิ่นเห็นเงินทองราวกับเห็นมูล จะเห็นความสำคัญของเงินได้อย่างไรกัน? แต่ข้าไม่เหมือนกับท่านลุงเสิ่นหรอก ข้าเป็นเด็ก เงินนั่นถ้าให้ข้าคงดีไม่น้อย ข้ารับประกันว่าไม่ว่าจะเรื่องท่านพ่อตื่นกี่โมง ถ่ายเบากี่โมง ล้างหน้ากี่โมง กินข้าวเช้ากี่โมง เข้านอนกี่โมง ข้าจะบอกเขาให้หมดเลย”

เย่ซิวตู๋ถึงกับสีหน้ามืดหม่นเอือมระอา ออกแรงบีบจมูกหนานหนานพลางแค่นเสียงเยาะ “หรือจะบอกเขาไปด้วยเลยว่า พ่อของเจ้ามีลูกชายอยู่หนึ่งคน ซึ่งก็คือเจ้า?”

หนานหนานรู้สึกแสบจมูกเพราะถูกบีบจนเจ็บไปหมดแล้ว เขารีบเอนศีรษะไปด้านหลัง กล่าวด้วยความขุ่นเคืองว่า “ท่านพ่อ อวี๋จั้วหลินนั่นไม่ได้สนใจหรอกว่าท่านจะมีบุตรชายหรือไม่ อีกอย่าง เลิกบีบจมูกข้าสักที”

น่ารำคาญจริง ๆ ท่านพ่อกับท่านแม่ราวีกับจมูกของเขาไม่เลิกรา หากไม่ระวังแล้วเผลอบีบจนจมูกเขาหักขึ้นมาจะทำอย่างไร?

“ถามเกี่ยวกับเรื่องของแม่นางอวี้ด้วยขอรับ เขาถามว่าเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของแม่นางอวี้หรือไม่ ทั้งยังถามด้วยว่าปีนี้แม่นางอวี้อายุเท่าไร รวมถึงประสบการณ์ชีวิตของแม่นางอวี้ว่าเกี่ยวข้องกับราชวงศ์หรือไม่ขอรับ”

แน่นอนว่าอวี๋จั้วหลินถามคำถามเหล่านี้ด้วยความคลุมเครืออย่างมาก

เสิ่นอิงก็ได้แต่หัวเราะฮ่า ๆ หยิบยกคำถามที่ไม่สำคัญมาตอบ อย่างน้อย ๆ อีกฝ่ายก็ให้เงินมาสี่พันตำลึงแล้ว หากไม่ขยับปากพูดอะไรเลย เขาจะส่งเงินให้ตำหนักอ๋องซิวได้อย่างไรกัน?

อวี้ชิงลั่วหัวเราะ “ดูเหมือนว่าบาดแผลของเขาคงจะหายดีแล้ว”

“ท่านแม่อย่าได้เป็นกังวล วันนี้ข้าชกเขาไปอีกหลายหมัดเลย บาดแผลต้องรุนแรงขึ้นเป็นแน่” หนานหนานเอ่ยปากเอาอกเอาใจ ทว่าสายตากลับเป็นประกายจับจ้องไปที่เงินสี่พันตำลึงในมือของอวี้ชิงลั่ว น้ำลายแทบจะไหลย้อยลงมาแล้ว

อวี้ชิงลั่วมองหนานหนานด้วยสายตาระอา ก่อนจะเก็บเงินไว้อย่างดีเพื่อไม่ให้เขาทำตัวน่าอับอายต่อไป

เสิ่นอิงจ้องมองเงินที่เขาหามาด้วยความยากลำบากถูกริบไปต่อหน้าต่อตา รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เงินเก็บของเขายังมีไม่มากพอ เงินที่เขาต้องนำไปสู่ขอภรรยาหลังจากนี้ก็ยังขาดอยู่ แม่นางอวี้ หากนายท่านไม่ต้องการเงินก้อนนั้น ก็คืนมาให้ข้าเถิด

เย่ซิวตู๋แอบก่ายหน้าผาก เหตุใดเขาถึงรู้สึกได้ว่าบัดนี้ตำหนักอ๋องเหมือนจะเปลี่ยนเป็นกระปุกออมสินไปเสียแล้ว? แต่ละคนทำราวกับเป็นพวกหน้าเงิน ตำหนักอ๋องซิวของพวกเขา…มิได้ยากจนสักหน่อย

“หนานหนาน…หนานหนาน…” ตอนที่ต่างคนต่างหลากความคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ด้านนอกก็มีเสียงกังวลของเย่หลานเฉิงดังขึ้น ตามมาติด ๆ ด้วยเงาเล็ก ๆ ที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างฉับพลัน ระหว่างที่วิ่งเข้ามาก็ตะโกนว่า “หนานหนาน การแข่งขันใหญ่การละเล่นชู่จวีในวันพรุ่ง ข้าลืมบอกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งกับเจ้าไปเสียสนิทเลย”

……………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

สมกับเป็นลูกชิงลั่ว เริ่มขูดรีดศัตรูของแม่แล้วสินะหนานหนาน

หลานเฉิงจะมาบอกเรื่องอะไรหนอ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *