อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 431 หยุดนะ

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 431 หยุดนะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 431 หยุดนะ

ตอนที่ 431 หยุดนะ

เย่ซิวตู๋ชะงัก จับมือของหนานหนานให้แน่นยิ่งขึ้น ก้มหน้าลงเล็กน้อยพลางกระซิบถามเสียงเบา “เกิดอะไรขึ้น? เด็กดี ไหนบอกพ่อมาสิ”

“ท่านลุงเหวินถูกใส่ร้ายว่าเป็นฆาตกรฆ่าคน ตอนนี้ถูกผู้ตรวจการเมืองหลวงจับตัวไปขังแล้ว” หนานหนานเล่าเรื่องสำคัญที่สุดก่อนหนึ่งรอบ ส่วนรายละเอียดกลับไปค่อยอธิบายอีกครั้งก็แล้วกัน

เมื่อเย่ซิวตู๋ได้ยิน สีหน้าก็ถึงกับเปลี่ยนตามไปด้วย เขาพยักหน้าอย่างเนิบช้าพลางกล่าวว่า “พ่อเข้าใจแล้ว”

ระหว่างที่พูด เขาก็วางตัวหนานหนานลงบนพื้น ส่วนตนเองลุกขึ้นยืนเดินไปยังเบื้องพระพักตร์ของฮ่องเต้ กระซิบข้างพระกรรณอย่างแผ่วเบาสองสามประโยค

ฮ่องเต้ขมวดพระขนงมุ่น ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพยักพระพักตร์และโบกพระหัตถ์

เย่ซิวตู๋กลับมายังที่นั่งของตนเองอีกครั้ง อุ้มร่างของหนานหนานและเดินออกจากอัฒจันทร์ในทันที

ซ่างกวนจิ่นและฉีหานเว่ยจ้องมองแผ่นหลังของเย่ซิวตู๋ที่เดินห่างออกไปอย่างครุ่นคิด แต่ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใด

มีเพียงองค์ชายรองที่ขมวดคิ้วมุ่นโดยไม่ทิ้งร่องรอยให้ ภายในใจเกิดความกังวล เขาพอจะมองออกว่าสีหน้าของเย่ซิวตู๋แอบเป็นกังวล ใบหน้าของหนานหนานก็ดูผิดปกติอย่างมาก เกรงว่า…คงเกิดเรื่องเข้าแล้ว

เขาเคลื่อนสายตาไปอย่างช้า ๆ ภายในทันที มองไปยังอวี้ชิงลั่วที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์อีกฝั่งหนึ่ง

นับตั้งแต่หนานหนานปรากฏตัวขึ้นภายในสนามแข่งขัน อวี้ชิงลั่วก็เห็นร่างของหนานหนานที่เดินเบียดเข้าไปแล้ว เมื่อเห็นสองพ่อลูกเดินออกไปด้วยกัน ภายในใจจึงเกิดอาการเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ โดยไม่รู้ตัว

“แม่นางชิง…อุ้ย…ข้าหมายถึงองค์หญิงเทียนฝู ทางฝั่งพี่ห้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึ?” เดิมทีจิตใจของเย่หว่านเยียนไม่ได้อยู่ในสนามแข่งขันอยู่แล้ว ตอนนี้นางจึงชะโงกหน้าด้วยท่าทางฉงนสงสัย

อวี้ชิงลั่วแย้มยิ้ม ไหวไหล่พลางส่ายหน้าตอบ “ใครจะไปรู้เล่า? นั่งห่างกันขนาดนี้ ข้าเองก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกัน แต่ก็คงเป็นเรื่องของบุรุษนั่นแหละ สองพ่อลูกคู่นี้มักทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ อยู่เสมอ มีหลายเรื่องที่พวกเขาเองก็ปิดบังข้า เฮ้อ ภายในใจของข้ารู้สึกไม่มีความสุขเลยจริง ๆ”

เย่หว่านเยียนชะงักไปครู่หนึ่ง “หนานหนานเป็นเด็กกตัญญูมากเลยมิใช่รึ? มีเรื่องที่เขาปิดบังเจ้าด้วยรึ?”

“ปกติเวลาเขาสร้างปัญหาก็ไม่บอกข้าหรอก” อวี้ชิงลั่วหยุดพูดเพียงเท่านี้

ครู่ต่อมาเย่หว่านเยียนก็เอ่ยถามนางด้วยความตกตะลึง “เจ้าหมายความว่า หนานหนานไปสร้างปัญหาด้านนอก ดังนั้นจึงวิ่งเข้ามาหาพี่ห้าในสนามแข่งขัน…เอ่อ…เพื่อให้เขาตามเช็ดล้าง?”

“มีความเป็นไปได้สูง” อวี้ชิงลั่วถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกหน “ช่างเถิด ๆ เรื่องของพวกเขาไม่ต้องไปสนใจ พวกเราดูการแข่งขันต่อดีกว่า”

เย่หว่านเยียนมองนางด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ จะว่าไปนิสัยของหนานหนานก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสร้างปัญหาจริง ๆ พี่ห้าดูเหมือนจะรักหนานหนานมากเสียด้วย เกิดเรื่องขึ้นหนานหนานย่อมต้องไปหาพี่ห้าอยู่แล้ว

แม้ว่าเสียงทางฝั่งนี้ของพวกนางจะไม่ดัง ทว่าในฐานะที่เป็นบุคคลผู้เป็นจุดสนใจแล้ว ระยะเวลาสองวันมานี้ก็ทำให้ไทเฮา เหมิงกุ้ยเฟยและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ต่างได้ยิน

เหมิงกุ้ยเฟยจ้องมองอวี้ชิงลั่วด้วยมุมปากแฝงความเย้ยหยันเล็ก ๆ “องค์หญิงเทียนฝู จะพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก หนานหนานเป็นหลานชายของเรา ทั้งยังเป็นลูกชายของเจ้า เมื่อเกิดปัญหา ในฐานะที่เป็นมารดาของเขา มีเหตุผลอะไรที่จะไม่สนใจไม่เอ่ยถาม? ในฐานะหลานเชื้อพระวงศ์ ไม่ว่าจะการพูดหรือการกระทำต้องระมัดระวังให้มาก มิเช่นนั้นอาจตกเป็นขี้ปากคนอื่นจนทำให้ซิวเอ๋อร์ต้องอับอาย”

อวี้ชิงลั่วหลุบตาครุ่นคิด พยักหน้าตอบ “เพคะ ที่กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงสอนก็ถูก เป็นการละเลยในหน้าที่มารดาของหม่อมฉันเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หม่อมฉันขอทูลลานะเพคะ หม่อมฉันจะไปดูว่าหนานหนานสร้างปัญหาใดไว้ คงต้องอบรมสั่งสอนให้ดีถึงจะถูก”

“เรา…”

“การอบรมสั่งของหลานเชื้อพระวงศ์มิอาจรอช้าได้จริง ๆ หม่อมฉันจะไปทำหน้าที่มารดาตอนนี้เลยเพคะ เหนียงเหนียง คงอยู่ดูการแข่งขันเป็นเพื่อนท่านต่อไปมิได้แล้ว หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ”

เหมิงกุ้ยเฟยหรี่ตาลง แอบตกตะลึงเล็กน้อย นางคิดไม่ถึงเลยว่าสตรีผู้นี้จะไหลไปตามน้ำ และออกไปในทันที

เย่หว่านเยียนก็อยากไปด้วยเช่นกัน ทว่าอวี้ชิงลั่วกดมือของนางบอกให้นางอยู่ที่นี่ นางจึงทำได้เพียงแค่นั่งกลับเข้าที่อย่างเงียบเชียบ

อวี้ชิงลั่วมิได้เสียเวลาแม้แต่หนึ่งเค่อ นางยกชายกระโปรงเดินลงจากอัฒจันทร์ วิ่งออกจากสนามแข่งขันในทันที

เย่ซิวตู๋ทางฝั่งนั้นนำหนานหนานออกจากประตูแล้ว หยวนสือไม่ได้พิรี้พิไรมากไปกว่านั้น แม้ว่าเขาอยากประจบประแจงท่านอ๋องสักหน่อย ทว่าก็ไม่อยากเปิดเผยว่ารวมตัวอยู่ที่นี่อย่างโจ่งแจ้ง ดังนั้นไม่รอให้เย่ซิวตู๋ออกมา เขาก็ออกจากประตูใหญ่ของสนามแข่งขันไปแล้ว

เผิงอิงเห็นผู้ใหญ่และเด็กเดินออกมา ก็รุดเข้ามาด้วยความรีบร้อน

เย่ซิวตู๋อุ้มหนานหนานขึ้นบนรถม้า เผิงอิงหวดแส้ รถม้าก็พุ่งทะยานไปด้านหน้าจนเกิดเสียงกรับ ๆ

หนานหนานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้เย่ซิวตู๋ฟังอย่างละเอียด

เย่ซิวตู๋มีสีหน้าดูไม่สู้ดี เห็นได้ชัดว่าผู้ตรวจการเมืองหลวงผู้นี้พุ่งเป้าเข้าหาตำหนักอ๋องซิวของพวกเขา เดิมทีใต้เท้าเย่และอวี๋จั้วหลินเป็นสหายกัน พูดกันตรง ๆ ก็คือความสัมพันธ์และผลประโยชน์ของพวกเขาทั้งสองผูกติดเข้าด้วยกัน หากอวี๋จั้วหลินเจอจุดจบที่ไม่ดี ชีวิตของใต้เท้าเย่ก็คงไม่ดีไปกว่ากัน

ทว่า จากความกล้าหาญและความสามารถของใต้เท้าเย่ คิดว่าคงไม่ถึงขั้นต่อต้านท่านอ๋องอย่างเขา

เขาคิดว่า มีความเป็นไปได้ครึ่งหนึ่งที่จะมีคนคอยหนุนหลังคนเหล่านั้นอยู่ด้านหลังเพื่อมาเล่นงานพวกเขา

คนคนนั้นคือใคร? องค์ชายคนอื่น ๆ…หรือเหมิงกุ้ยเฟย?

“ท่านพ่อ ใต้เท้าเย่ผู้นั้น จะฉวยโอกาสฆ่า…ฆ่าท่านลุงเหวินหรือไม่?” หนานหนานรู้สึกเป็นห่วง นี่คือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด

ท่านลุงเหวินเป็นคนหัวรั้นมาก เพื่อไม่ให้ท่านพ่อต้องเดือดร้อน เขาไม่มีทางต่อต้านและไม่มีทางแหกคุก ใต้เท้าเย่ผู้นั้นแค่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี บางทีอาจฉวยโอกาสสั่งให้ท่านลุงเหวินฆ่าตัวตายก็เป็นได้

เย่ซิวตู๋หัวเราะหนึ่งเสียง ลูบศีรษะของหนานหนานพลางปลอบใจ “ไม่หรอก ผู้ตรวจการเมืองหลวงมิได้มีความกล้าหาญมากขนาดนั้น”

ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุย รถม้าก็หยุดลงตรงหน้าจวนผู้ตรวจการเมืองหลวง ด้านนอกประตูมีทหารเจ้าหน้าที่ยืนคุ้มกันอยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้แล้ว คาดว่าคงรู้ว่าเย่ซิวตู๋ต้องมาเป็นแน่ เมื่อเห็นพวกเขาเดินลงจากรถ ก็เข้ามาคารวะพร้อมกับยิ้มตาหยี

“ท่านอ๋อง ใต้เท้าเย่กำชับให้ข้าน้อยเชิญท่านอ๋องเข้าไปดื่มน้ำชาด้านในจวน ตอนนี้ใต้เท้ากำลังพิจารณาคดีอยู่ เกรงว่าอาจล่าช้า โปรดท่านอ๋องอย่าได้โกรธเคือง”

เย่ซิวตู๋แค่นเยาะหนึ่งเสียง เดินเข้าไปด้านในด้วยตนเองโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองอีกฝ่าย

ทหารเจ้าหน้าที่ผู้นั้นมิได้ขุ่นเคือง นำเขาให้เดินเข้าไปโถงด้านหลัง

ทว่าเดินได้เพียงสองก้าว เย่ซิวตู๋กลับวางหนานหนานลงบนพื้น เด็กน้อยฉลาดเปรื่องยิ่งนัก เขารีบวิ่งไปที่ห้องโถงด้านหน้าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

เจ้าหน้าที่ทหารหน้าถอดสี ยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา เย่ซิวตู๋ก็เดินตามไปแล้ว

“ท่านอ๋อง โถงด้านหลังอยู่ทางนี้พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง…”

“เรารู้ ซื่อจื่อน้อยวิ่งเล่นไปทั่ว เราแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของเขา เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” เย่ซิวตู๋ตอบโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

ทหารเจ้าหน้าที่มุมปากขึงตึง รีบเรียกคนที่อยู่ด้านข้างไปขวางหนานหนานไว้ ทว่าหนานหนานฝีมือว่องไวเคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ลื่นไหลราวกับเป็นปลาไหล พวกเขาจึงมิอาจจับตัวหนานหนานได้ เพียงไม่นาน เขาก็วิ่งไปด้านหน้าห้องโถงใหญ่แล้ว

ในเวลานี้ใต้เท้าเย่กำลังพิจารณาดีของเหวินเทียน เมื่อหนานหนานวิ่งมาถึงจุดหมายปลายทาง ก็พบว่าใต้เท้าเย่สั่งให้หยาอีกดเหวินเทียนลงไปและโบยเขา

เสียง ‘เพียะ ๆๆๆๆ’ กระทบเข้ากับแก้วหูของหนานหนาน ทำให้หนานหนานตกใจโมโหถึงขีดสุด รีบปรี่ตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว “หยุดนะ”

……………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หนานหนานลุยเลยลูก หยุดใต้เท้าเย่ให้ได้นะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *