อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 527 อาการของซ่างกวนจิ่นสาหัสนัก

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 527 อาการของซ่างกวนจิ่นสาหัสนัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 527 อาการของซ่างกวนจิ่นสาหัสนัก

ตอนที่ 527 อาการของซ่างกวนจิ่นสาหัสนัก

“ฟึ่บ” สิ้นเสียงของอวี้ชิงลั่ว ทุกคนในห้องต่างก็หันมาสนใจนางเป็นตาเดียว

พระเนตรของฮ่องเต้เป็นประกาย พร้อมกับพระองค์ที่รีบก้าวเข้าไปหานาง “องค์หญิง เร็วเข้า รีบไปดูอุปราชเถิด”

หมอหลวงเหล่านั้นมีสีหน้าเหมือนเห็นเทพยดามาโปรด ดวงตาของพวกเขาถึงมีน้ำตาเอ่อคลอ ราวกับว่าเห็นหนทางฟื้นคืนชีวิตจากขอบเหวแห่งความเป็นความตาย

อวี้ชิงลั่วกลอกตาและเดินตามฮ่องเต้เข้าไปในห้องชั้นใน

แต่ทันทีที่นางเข้าไป นางก็ถูกองครักษ์พยัคฆ์ถือดาบขวางไว้ “หยุด อย่าเข้าใกล้ท่านอ๋อง”

พระเนตรของฮ่องเต้เย็นชาขึ้นเล็กน้อย พลางระบายพระปัสสาสะอย่างเย็นชา “คนผู้นี้คือแม่นางชิง หากเจ้ายังต้องการช่วยอุปราชก็จงเปิดทางเดี๋ยวนี้”

รัศมีของฮ่องเต้ดูทรงพลังอำนาจมากจนองครักษ์พยัคฆ์ที่ถือดาบอยู่ตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะมองขึ้นอวี้ชิงลั่วและขยับไปทางด้านข้างเล็กน้อย

อวี้ชิงลั่วก้าวเข้าไปมองซ่างกวนจิ่นบนเตียง คิ้วของนางก็พลันกระตุก ไม่น่าแปลกใจเลยที่หมอหลวงเหล่านี้ทำอะไรไม่ถูก อาการของเขารุนแรงกว่าที่แม่นมเซียวอธิบายไว้มาก

ข้างเตียงของซ่างกวนจิ่นมีชายวัยกลางคนสวมชุดหมอหลวงแห่งอาณาจักรจิงเหลยกำลังปฐมพยาบาลเขาอยู่ และยังมีสาวใช้ของอาณาจักรจิงเหลยอยู่รอบกายเขาด้วย

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ไว้วางใจฮ่องเต้แห่งอาณาจักรเฟิงชาง

อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ข้างเตียงและนึกเย้ยหยัน ขณะหมอหลวงวัยกลางคนอดขมวดคิ้วอย่างไม่ได้ เขาหันหน้ามาจ้องนางอย่างดุร้าย “ไปให้พ้น อย่ามาขวางทาง”

“หมอหลวงหลู นี่คือแม่นางชิงที่เป็นหมอปีศาจขอรับ” เมื่อองครักษ์พยัคฆ์ที่รับใช้ซ่างกวนจิ่นรู้จักอวี้ชิงลั่ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จู่ ๆ หมอหลวงหลูจะตำหนินางเช่นนี้ได้อย่างไร องครักษ์พยัคฆ์ที่ตกใจมากจึงรีบก้าวเข้าไปแนะนำนาง เพราะกลัวว่าหมอปีศาจจะไม่พอใจและจากไป

ทุกคนต่างเห็นบาดแผลของอุปราชของพวกเขาอย่างชัดเจน ไม่ต้องพูดถึงว่าหมอหลวงแห่งอาณาจักรเฟิงชางจะช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะแม้แต่หมอหลวงหลูที่อุปราชไว้วางใจมากที่สุดก็ยังกังวลอยู่ในขณะนี้

ตอนนี้ความหวังเดียวของพวกเขาจึงอยู่ที่อวี้ชิงลั่วเท่านั้น

หมอหลวงหลูตกตะลึงครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเป็นประกาย จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง และมองนางด้วยความหวาดระแวง

หมอปีศาจหรือ? สตรีผู้นี้คือหมอปีศาจที่ผู้คนเล่าลือกันในอาณาจักรเฟิงชางเมื่อเร็ว ๆ นี้หรือ?

หมอหลวงหลูมองดูร่างของอวี้ชิงลั่วอีกสองสามครั้ง และดวงตาของเขาก็ฉายแววระแวดระวังมาก หลังจากนั้นไม่นานก็ยืนขึ้นและถามนางด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะสามารถรักษาท่านอ๋องได้?”

“ไม่” อวี้ชิงลั่วตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย

ดวงตาของหมอหลวงหลูเบิกกว้าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ก่อนจะพูดเยาะเย้ย “หากไม่แน่ใจก็ออกไปเสีย ฮึ่ม ดูเหมือนว่าจะมีดีแค่ชื่อเสียงเสียแล้วกระมัง”

ฮ่องเต้ยังอยู่ข้างหลัง เมื่อได้ยินดังนั้น สีพระพักตร์ของพระองค์ก็กลายเป็นบึ้งตึงทันที

อวี้ชิงลั่วยกยิ้มอ่อน “เช่นนั้นหมอหลวงหลู เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าจะสามารถรักษาอุปราชได้?”

“ข้า…” หมอหลวงหลูขมวดคิ้ว และหันไปมองซ่างกวนจิ่นที่กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความโกรธที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้สึกอึดอัดมากจนไม่อาจพูดอะไรได้แม้แต่คำเดียว

อวี้ชิงลั่วไม่ได้รีบร้อน นางมาถึงที่แล้ว แต่ตอนนี้หมอหลวงแห่งอาณาจักรจิงเหลยมาขวางหน้านางเอง หากเกิดอะไรขึ้นกับซ่างกวนจิ่น มันก็จะไม่ใช่ความรับผิดชอบของนาง เพราะทุกคนต่างเห็นว่านางยังไม่อาจเข้าไปทำอะไรได้เลย

“หมอหลวงหลู หากเจ้าไม่มั่นใจในตัวเอง แล้วเหตุใดจึงไม่ขอให้คนอื่นมารักษาอุปราชของเจ้าเล่า” อวี้ชิงลั่วมองเขา “หากเจ้ายังยืนขวางหน้าข้าอยู่อีก อุปราชจะตายจริง ๆ แต่หากเจ้าออกไปให้พ้นทางและไม่ยืนบังแสง ก็ยังมีโอกาสรักษาอุปราชของเจ้าอยู่”

เสียงของนางไม่เบาและไม่ดังจนเกินไป และยิ่งชัดเจนและไพเราะยิ่งขึ้นด้วยเสียงฝนข้างนอก

ซ่างกวนจิ่นบนเตียงส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

หมอหลวงหลูได้ยินดังนั้น เขาก็หันศีรษะไปมองอย่างกังวลทันที และเมื่อเห็นใบหน้าสีเขียวคล้ำของซ่างกวนจิ่นยิ่งคล้ำขึ้นไปอีก เขาก็ตกใจและรีบหลีกทางให้อวี้ชิงลั่ว

เขารู้สึกละอายใจมากที่ทักษะทางการแพทย์ของเขามีจำกัด และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ไว้วางใจอวี้ชิงลั่ว แต่ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว

“แม่นางชิง ได้โปรด”

อวี้ชิงลั่วยังเห็นว่าอาการของซ่างกวนจิ่นนั้นสาหัสจริง ๆ นางไม่ชักช้าอีกต่อไป รีบเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงและเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด

นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย มีบาดแผลมากถึงหกแห่ง อาการบาดเจ็บภายในรุนแรงมาก ลิ้นของเขากลายเป็นสีม่วง และผิวหนังกลายเป็นสีดำ นี่คืออาการของคนถูกวางยาพิษ ไม่น่าแปลกใจที่หมอหลวงจำนวนมากช่วยอะไรไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าซ่างกวนจิ่นผู้นี้กำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูนรก

แต่บาดแผลได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เลือดหยุดไหลแล้ว ปัญหาที่ยากกว่าคือการบาดเจ็บภายในและภาวะเป็นพิษ

อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่น และเอื้อมมือออกไปหยิบถุงยามาแกะออก จากนั้นวางอุปกรณ์ที่ขอบเตียง แล้วหยิบมีดผ่าตัดบางเฉียบออกมา ก่อนจะเลื่อนไปยังแขนของเขา

หมอหลวงหลูที่อยู่ข้าง ๆ เบิกตากว้างและตะโกนว่า “เจ้ากำลังจะทำอะไร?”

“ถ้าไม่เข้าใจก็หุบปากเสีย หากจะพูดจาเหลวไหลก็จงเงียบไปเถิด” อวี้ชิงลั่วไม่ได้เงยหน้า นางวางมีดบนถาดข้าง ๆ แล้วหยิบยาออกมายัดเข้าไปในปากของซ่างกวนจิ่น ก่อนจะยกคางของเขาขึ้นแล้วสั่นเบา ๆ ทำให้ยากลิ้งลงไปในลำคอของเขา

หมอหลวงหลูลูบเคราของเขาและจ้องเขม็ง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นว่าคิ้วที่ขมวดแน่นของซ่างกวนจิ่นเมื่อสักครู่นี้เริ่มค่อย ๆ คลายออก เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย ทว่าเขาก็ยังคงจ้องมองการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคล่องแคล่วของอวี้ชิงลั่ว

ฮ่องเต้ประทับอยู่ข้างหลังเขา ทอดพระเนตรอยู่ครู่หนึ่งก่อนตรัสถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “องค์หญิง อุปราชเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ตอนนี้ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะหมอหลวงของเขาได้จัดการแล้ว ยกเว้นการสูญเสียเลือดมากเกินไป บาดแผลที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำร้ายจุดสำคัญ อาการบาดเจ็บภายในนั้นรุนแรงกว่า และจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างช้า ๆ มันเป็นเพราะยาพิษที่ต้องใช้ความพยายามต้าน และหม่อมฉันได้ระงับพิษเอาไว้ชั่วคราวแล้ว ซึ่งบรรเทาความเจ็บปวดของท่านอ๋องลงได้บ้าง”

หลังจากหยุดไปชั่วครู่ นางก็หันหน้าไปมองฮ่องเต้ “แต่ฝ่าบาท ยาพิษในร่างของท่านอ๋องนั้นรุนแรงนัก หม่อมฉันต้องการวัตถุดิบทำยาอันล้ำค่าและหายาก ไม่ทราบว่าฝ่าบาท…”

“องค์หญิงอย่ากังวลไปเลย เพียงบอกสิ่งที่เจ้าต้องการ แล้วข้าจะให้คนไปหามันมา เพราะข้าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้อุปราชปลอดภัย” แม้ว่าฮ่องเต้จะไม่ทรงโปรดซ่างกวนจิ่นนัก ต่อให้เขาจะกำลังอาการหนักก็ตาม แต่แน่นอนว่า… ไม่อาจปล่อยให้เขาตายในอาณาจักรเฟิงชางได้

อวี้ชิงลั่วพยักหน้าเบา ๆ “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” ด้วยวิธีนี้นางจึงโล่งใจได้บ้าง สมุนไพรอันล้ำค่าบางชนิดมีอยู่แค่ในวังเท่านั้น อืม… ต้องใช้บางส่วนสำหรับซ่างกวนจิ่น และนางจะเก็บไว้ใช้เองด้วย เพื่อที่จะไม่ลำบากในการไปตามหามันทีหลัง

“ฝ่าบาท ให้หม่อมฉันอยู่ที่นี่เถิด พระองค์เสด็จกลับไปพักผ่อนที่วังก่อนเถิดเพคะ”

ฮ่องเต้ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักพระพักตร์ หลังอธิบายให้นางฟังอีกเล็กน้อย ก็หันหลังออกจากโรงเตี๊ยมไป แต่ยังจัดหมอหลวงเอาไว้ที่นี่

อวี้ชิงลั่วรอจนกว่าจะไม่เห็นพระวรกายอีกต่อไปแล้วจึงยกยิ้มอ่อน จากนั้นหันไปมองหมอหลวงหลูที่ยืนอยู่ข้างนาง และเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

โดนพิษร้ายแรงที่ต้องใช้ของล้ำค่าหายากมารักษาอีก จะรอดไหมเนี่ย ต่อให้ไม่ชอบก็อยากให้รอดไปก่อน เพราะเดี๋ยวมีปัญหาระหว่างสองอาณาจักรนี่แหละ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *