อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 561 พวกเขาทำอะไรกันอยู่

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 561 พวกเขาทำอะไรกันอยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 561 พวกเขาทำอะไรกันอยู่

ตอนที่ 561 พวกเขาทำอะไรกันอยู่

อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปทันที และเห็นเย่หว่านเยียนกำลังโบกมือให้นาง

เป็นเพราะเสียงของนาง ทำให้กลุ่มคนสองสามคนที่เดิมทีกำลังพูดคุยกันอยู่ค่อยๆ พากันหันมามองตาม

แม้แต่หมิ่นเฟยที่สนใจแต่ตนเองและเม้มปากจิบชาอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะหันมาชายตามองวูบหนึ่ง

มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกเล็กน้อย มองไปตามสายตาของคนอื่นๆ รีบรุดเดินไปที่ข้างกายของเย่หว่านเยียน

ดูเหมือนว่าเย่หว่านเยียนจะไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ เมื่อเห็นนางก็ตื่นเต้นมาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข

“แม่นางชิง ท่านไม่ได้มาที่สนามประลองนานแล้วนะ” เย่หว่านเยียนเป็นคนชอบความคึกคัก หากไม่ติดว่ามีเรื่องสำคัญดังเช่นต้องไปวัดหลิงไท่เพื่อขอพรเมื่อสองวันก่อน ในทุกๆ วันนางก็จะมาที่สนามประลองเพื่อดูการแข่งขัน

เพียงแต่ว่าหลังจากที่ทุกคนรู้จักตัวตนของอวี้ชิงลั่วแล้ว ก็ไม่เคยได้เห็นนางปรากฏตัวที่นี่เลย ตอนนี้ได้พบอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง เย่หว่านเยียนจึงมีความสุขเป็นอย่างมาก

อวี้ชิงลั่วนั่งลงข้างๆ นาง มองไปยังลานแข่งขันวูบหนึ่ง ยิ้มพลางกล่าว “เป็นเพราะการแข่งขันชู่จวีของหนานหนานเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง หากข้าไม่มา เขาจะต้องโกรธข้าแน่”

เย่หว่านเยียนตกใจไปชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวต่อทันที “จริงสิ ข้าเกือบลืมไปแล้วว่าวันนี้หนานหนานจะลงแข่งด้วย เช่นนั้นแล้ว การแข่งขันในวันนี้คงจะน่าดูชมขึ้นมากทีเดียว”

อวี้ชิงลั่วนึกถึงสองครั้งนั้นที่หนานหนานลงแข่ง ก็อดที่จะลอบกุมขมับอยู่ในใจไม่ได้ ดูเหมือนว่า… จะน่าดูชมมากจริงๆ

“แม่นางชิง ท่านคงไม่รู้ ข้ามาดูที่นี่หลายวันแล้ว เอาแต่รู้สึกว่าไม่มีความรู้สึกน่าตื่นตาตื่นใจดังเช่นเมื่อตอนแรกเริ่ม การแข่งขันช่วงหลังๆ นี้น่าเบื่อมาก ข้าอยากจะหาท่านเพื่อคุยด้วยสักหน่อย แต่หันกลับมาก็เห็นว่าท่านไม่ได้มาดูการแข่ง เฮ้อ…”

อวี้ชิงลั่วส่ายหน้าพลางเผลอหัวเราะออกมา “ต่อให้ไม่สนุกแต่ท่านก็ยังมาที่นี่ทุกวันน่ะหรือ?”

“ถึงแม้จะไม่สนุก แต่ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ในวังหลวง แน่นอนว่ายังมีการแข่งขันสองสามรายการที่น่าสนุกมากอยู่” ดูเหมือนอารมณ์ของเย่หว่านเยียนจะไม่เลว ยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่ออยู่ครู่หนึ่ง

ผ่านไปครู่ใหญ่ก็เหมือนว่านึกบางอย่างออก ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้นก็หยุดลง “จริงสิ แม่นางชิง อาการบาดเจ็บของท่านเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บอยู่เหตุใดจึงไม่อยู่ที่ตำหนักเพื่อพักผ่อนเล่า ที่นี่มีแต่ฝุ่นควัน ไม่ค่อยดีกระมัง”

“ไม่เป็นไรหรอก ตราบใดที่ไม่ได้ขยับตัวมากเกินไป เพียงแค่นั่งดูการแข่งขันเงียบๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก” อวี้ชิงลั่วตอบ “เฉินเฟยเหนียงเหนียงเป็นอย่างไรบ้าง”

“อืม ดีขึ้นมากแล้ว หลังจากกลับมาก็ตามหมอหลวงมาตรวจอาการอีกครั้ง หมอหลวงบอกว่ายาของแม่นางชิงดีมาก ของเพียงหมู่เฟยพักผ่อนให้ดีก็เพียงพอ” เพื่อพูดถึงเฉินเฟย น้ำเสียงของเย่หว่านเยียนก็เบาลงมาก พูดไปได้สองประโยค จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ

อวี้ชิงลั่วแปลกใจ “มีอะไรหรือ ดูเหมือนจะมีเรื่องดีๆ นะ”

เย่หว่านเยียนก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “จริงๆ แล้วจะว่าเป็นเรื่องดีก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เป็นเรื่องที่วัดหลิงไท่น่ะ เสด็จพ่อทำการสืบสวน ก็ได้รู้ว่าหลังจากแม่นางชิงตรวจอาการหมู่เฟยเสร็จแล้วก็ได้พบกับมือสังหารระหว่างทางกลับ เสด็จพ่อรู้ว่าเหมิงกุ้ยเฟยเป็นผู้จัดแจงให้หมู่เฟยไปสถานที่ห่างไกลเช่นนั้นที่ไม่มีคนเลยแม้แต่คนเดียวก็ทรงกริ้วมาก อย่างไรเสียหมู่เฟยเองก็เป็นสนมของท่านพ่อ เหตุใดจึงให้ไปอยู่ราวกับฮูหยินเพียงคนหนึ่งเช่นนั้น”

“ดังนั้นสองวันมานี้อาการของหมู่เฟยไม่สู้ดีนัก เสด็จพ่อจึงเอาใจใส่นางมากขึ้นหน่อย เมื่อคืนก็ทรงมาประทับที่ตำหนักของหมู่เฟย ทั้งยังให้ของกำนัลมากมายกับหมู่เฟยอีกด้วย ตรัสว่าหมู่เฟยเสียขวัญ พูดๆ ไปแล้วก็เป็นหลายปีมาแล้วที่หมู่เฟยไม่ได้รับความสนใจเช่นนี้จากเสด็จพ่อ นี่ก็ถือเป็นเรื่องร้ายในเรื่องดี อา… จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ควร ที่แม่นางชิงบาดเจ็บก็เป็นเพราะพวกข้า”

พูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงของเย่หว่านเยียนก็อ่อนลง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเงยหน้าขึ้น แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “ถึงแม้เรื่องนี้จะผ่านมาสองวันแล้ว แต่ข้าก็ยังต้องกล่าวขอโทษแม่นางชิง เป็นเพราะพวกเราทำให้แม่นางต้องลำบาก”

อวี้ชิงลั่วหันหน้ากลับไปอย่างเงียบๆ คำขอโทษนี้ นางเองก็ยังคงละอายแก่ใจอยู่ ฟ้าดินรู้ว่าใครเป็นผู้ทำให้ใครต้องลำบาก เป้าหมายของเหมิงกุ้ยเฟยนั้นเป็นนางและเซียวเฟยเพียงสองคนมาตั้งแต่แรก

“แต่สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจก็คือ เหตุใดเหมิงกุ้ยเฟยต้องมาทำอะไรหมู่เฟยด้วยเล่า” เย่หว่านเยียนพ่นลมอย่างเย็นชา ความรู้สึกต่ำต้อยเมื่อครู่หายไปชั่วขณะ “วันนั้นข้าเห็นอย่างชัดเจน ว่าคนคนนั้นคือเจี่ยนเซียงที่คอยรับใช้ข้างกายเหมิงกุ้ยเฟย ในมือนางถือตะกร้าอยู่ เป็นตะกร้าถั่วแขก แต่พูดไปก็น่าแปลก ตั้งแต่กลับมาจากวัดหลิงไท่วันนั้นข้าก็ไม่ได้พบเจี่ยนเซียงอีกเลย แท้จริงแล้วเหมิงกุ้ยเฟยมีเป้าหมายอันใดกัน จริงสิ แล้วมือสังหารผู้นั้นเกี่ยวข้องกับนางจริงหรือไม่ แม่นางชิง ท่านคิดหรือไม่ว่าเรื่องนี้มีอันใดแปลกๆ”

นางแค่นหัวเราะสองครั้ง ก่อนจะหันศีรษะไปเงียบๆ อีกครั้ง แล้วกล่าวอ้อมแอ้ม “คงจะไม่มีเรื่องอันใดหรอก บางทีเจี่ยนเซียงผู้นั้นอาจจะมีเจตนาร้ายก็เป็นได้ ท่านบอกว่าไม่เห็นนางเลยไม่ใช่หรือ คงจะหนีไปเพราะกลัวความผิดแล้วกระมัง”

เย่หว่านเหยียนประหลาดใจ หลุบสายตาลงแล้วครุ่นคิด “กล่าวเช่นนี้แล้วก็มีเหตุผลอยู่ แต่ข้ายังคิดว่าเหมิงกุ้ยเฟยและเรื่องราวนี้…”

“ดูเหมือนการแข่งขันจะเริ่มแล้ว” อวี้ชิงลั่วไม่คิดจะสนทนากับนางในประเด็นนี้ต่อไป เรื่องนี้นางเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แต่ไม่เหมาะที่จะคุยเรื่องนี้กับเย่หว่านเยียนอย่างแน่นอน รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสียจะดีกว่า

เย่หว่านเยียนกะพริบตา รีบละสายตาไปมองที่กลางสนามตามนางอย่างรวดเร็ว

ผู้แข่งขันทั้งสองฝ่ายเข้าแถวสองแถวเดินเข้ามายังกลางสนามเรียบร้อยแล้ว หนานหนานเดินอย่างกระสับกระส่ายตลอดทาง เดินเอียงตัวไปมา ไม่นานนักก็เป็นจุดสนใจของผู้ชม

แน่นอนว่าเขาพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้อย่างยิ่ง

เย่หว่านเยียนหัวเราะ ‘คิกคัก’ ออกมา เบ้ปากแล้วส่ายหน้า “เป็นอย่างที่คิดทีเดียว มีหนานหนานอยู่ด้วย การแข่งขันนี้ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเป็นพิเศษตั้งแต่เริ่ม”

มีชีวิตชีวาหรือ คำนี้…

อวี้ชิงลั่วหัวเราะแห้งๆ เอาเถอะ ก็มีชีวิตชีวาจริงๆ

ตรงอัฒจันทร์ทางฝั่งฮ่องเต้ก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมา แต่เนื่องจากเคยมีบทเรียนมาก่อน และหลังจากได้รู้ตัวตนของหนานหนานแล้ว คนเหล่านั้นก็ไม่กล้าวิจารณ์ว่าเขาไม่ดีอีก กว่าครึ่งนั้นมีแต่คำชม กล่าวว่าเด็กคนนี้มีชีวิตชีวาและน่ารัก น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

ฮ่องเต้ได้สดับแล้วก็พอพระทัยยิ่งนัก พยักพระพักตร์อยู่เรื่อยๆ

อวี้ชิงลั่วนวดขมับของตน คนเหล่านี้ยังประจบประแจงได้กว่านี้อีกหรือไม่ นางนั่งอยู่ตรงอัฒจันทร์ฝ่ายสตรีย่อมได้ยินคำเยินยอของพวกเขาอยู่แล้ว

ช่างไร้ศักดิ์ศรีนัก

‘ตึง’ เสียงฆ้องดังขึ้น ผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการก็เริ่มกล่าวอย่างฉะฉาน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการพูดถึงกฎเกณฑ์การแข่งขัน

หนานหนานฟังไปก็ง่วงไป ศีรษะของเขาผงกลงทีละน้อย

รอจนกระทั่งกรรมการผู้นั้นกล่าวจบ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมาอย่างตื่นเต้นมีชีวิตชีวาในทันที พลางเม้มปากและเช็ดน้ำลาย

คิ้วและตาของเย่หว่านเยียนโค้งขึ้น หัวเราะออกมาเล็กน้อย

ครู่หนึ่งต่อมา เสียงหัวเราะก็หยุดลงในทันใด มุมปากของเย่หว่านเยียนค่อยๆ ลดลง จากนั้นก็อุทานขึ้นมาทันที นางรีบดึงแขนเสื้อของอวี้ชิงลั่ว ก่อนจะชี้ไปที่สนามแข่งอย่างตื่นตระหนก “นี่ แม่นาง… แม่นางชิง พวกเขาทำอะไรกันน่ะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หมิ่นเฟยดูอยู่เป็นนะคะ ปลีกตัวออกจากเรื่องวุ่นวายเก่ง

หนานหนานอย่าเพิ่งหลับ จะประลองกันแล้วน้า

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *