อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 581 ข้ามีวิธี

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 581 ข้ามีวิธี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 581 ข้ามีวิธี

ตอนที่ 581 ข้ามีวิธี

ฮ่องเต้ทรงพิโรธนัก หมอหลวงและข้าหลวงที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นต่างตกใจเสียจนสะดุ้ง

“เหมียวกงกง นำตัวทุกคนที่รับผิดชอบอาหารของข้าจากห้องพระเครื่องต้นมาให้หมด” ตั้งแต่ตอนที่หนานหนานกล่าวว่ามีการวางยา ข้าหลวงเหล่านั้นก็ถูกเปาเหอเฟิงลากตัวมาแล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างก็ยืนตัวสั่นเทาอยู่ด้านนอก

เมื่อฮ่องเต้ตรัสจบ เขาก็หันกลับไปมองเหล่าหมอหลวงอย่างเย็นชา กล่าวว่า “พวกเจ้าทุกคน ออกไปให้หมด”

หมอเถื่อน ทั้งหมดเป็นหมอเถื่อน

เขาเป็นถึงหมอหลวงจากสถาบันแพทย์หลวงแห่งอาณาจักรเฟิงชาง แต่กลับไร้ความสามารถ ยังสู้เด็กและสตรีคนหนึ่งไม่ได้ ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก

ฮ่องเต้รู้สึกเดือดดาลในพระทัยมาก ครั้นเหมียวเชียนชิวรับคำสั่ง เหล่าหมอหลวงพวกนั้นก็พากันออกจากห้องไปกันหมดแล้ว

หนานหนานหันศีรษะเล็กๆ มามองฮ่องเต้แวบสายตาหนึ่ง ทันใดนั้นก็วิ่งไปข้างหน้า จับแขนของเขาแล้วกล่าว “เสด็จปู่ ทรงรีบมานั่งเถิด อย่าทรงโกรธไปเลย จะไม่ดีกับพระวรกาย ท่านแม่กระหม่อมกล่าวว่า คนที่ถูกวางยาควรทำจิตใจให้สงบ ไม่อย่างนั้นพิษอาจจะแพร่กระจายได้”

ฮ่องเต้เดินตามเขาไปยังเก้าอี้แล้วประทับลง นวดขมับของตัวเอง จากนั้นก็หันหน้ามามองอวี้ชิงลั่ว

“ยาพิษในร่างของข้า มีวิธีแก้หรือไม่”

อวี้ชิงลั่วครุ่นคิด ในหัวปรากฏความคิดสองอย่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็พยักหน้า กล่าวอย่างนุ่มนวล “ก็พอจะมีวิธีอยู่เพคะ แต่ยังขาดส่วนผสมอยู่อย่างหนึ่ง”

ฮ่องเต้เห็นการแสดงออกของอวี้ชิงลั่ว อดไม่ได้ที่จะขมวดพระขนง “ส่วนผสมนั้นหายากมากเลยหรือ”

เขารู้ว่าหมอปีศาจไปมาทั่วทุกแห่งหน ทั้งยังเป็นองค์หญิงเทียนฝูจากอาณาจักรเทียนอวี่แล้ว คนอย่างนางจะมียาหายากชนิดใดที่ไม่เคยเห็นอีก ตอนนี้กลับทำท่าทางลำบากใจเช่นนี้ ดูท่าจะไม่ได้หาง่ายๆ แล้ว

ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาคงต้องให้ทุกคนพยายามตามหาทั่วทุกแห่งเสีย

อวี้ชิงลั่วเม้มปาก ผ่านไปนานจึงพ่นลมหายใจออกมา “เดิมทีก็ไม่ได้หายากนักเพคะ แต่หม่อมฉันต้องขอทูล ถึงแม้จะได้ส่วนผสมชนิดนี้มา แต่สถานการณ์ตอนนี้ซับซ้อนนัก…”

ขณะที่กล่าว ก็เหลือบมองไปยังฮ่องเต้ ทำท่าทางอยากกล่าวบางอย่างแต่ยังลังเล

“ซับซ้อนอย่างไรหรือ?” ฮ่องเต้ตรัสถาม

อวี้ชิงลั่วถอนหายใจเบาๆ จากนั้นก็กล่าวออกมาอย่างสุภาพ “ตอนนี้ส่วนผสมนั้นอยู่ในมือของแม่นางจิน ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา จะขออันใดจากนางคงไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนี้เพราะฮ่องเต้ทรงต้องการจับตัวนาง เช่นนั้นนางคงจะ…”

สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ดูลุ่มลึกขึ้นมาในทันที ช่างเก่งเหลือเกินแม่นางอวี้ชิงลั่ว ช่างเก่งเหลือเกินองค์หญิงเทียนฝู

ขาดส่วนผสมยาอะไรกัน ที่แท้ก็เพียงแต่จะมาออกตัวแทนแม่นางจินผู้นั้น

สีหน้าของเขามีความโกรธปนอยู่ มองอวี้ชิงลั่วอย่างเย็นชา

อีกฝ่ายกลับทำท่าทางไม่ใส่ใจ ยังคงแสดงออกด้วยสีหน้าไร้เดียงสาและจริงจัง เช่นเดียวกับหนานหนาน

ในตอนนั้นเอง เหมียวเชียนชิวก็พาข้าหลวงที่ทำงานในห้องพระเครื่องต้นมา

ฮ่องเต้ข่มพระทัยให้สงบนิ่ง จากนั้นก็ละสายตา มองคนที่นั่งคุกเข่าอยู่อย่างโกรธเกรี้ยว

‘ปัง’ พระหัตถ์ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ก่อนจะตะคอกออกมา “ว่ามา ใครในพวกเจ้าที่มันช่างกล้านัก กล้ามาลงมือกับอาหารของข้า?”

ข้าหลวงเหล่านั้นต่างก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง ได้ยินคำกล่าวนั้นก็ยิ่งเหงื่อแตกเสียจนจะเป็นลม

“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมถูกใส่ร้าย กระหม่อมไม่รู้เห็นอันใดเลยพ่ะย่ะค่ะ”

สองสามคนนั้นตัวสั่น คุกเข่าก้มหน้ามองพื้น ไม่กล้าแม่แต่จะเงยหน้า เพียงแต่โอดครวญว่าถูกใส่ร้าย

แววตาของอวี้ชิงลั่วกวาดมองกลุ่มคนอยู่ครู่หนึ่ง ในใจเริ่มคิดวิเคราะห์

วางยา วางยาอีกแล้ว เป็นการวางยาเรื้อรังอีกแล้ว

เย่หลานเฉิงก็คนหนึ่งแล้ว อีกคนหนึ่งก็ซูเฟยเหนียงเหนียง ตอนนี้… ฮ่องเต้ก็มาโดนอีกคนหนึ่ง

เย่หลานเฉิงและซูเฟยต่างก็เป็นฝีมือของหว่านเฟยเหนียงเหนียง เช่นนั้นแล้วฮ่องเต้ล่ะ ก็เป็นหว่านเฟยหรือ?

แต่พิษของพวกเขาทั้งสามคนนั้นต่างกัน ของฮ่องเต้นั้นจางมากเสียจนแทบจะไม่รู้สึกถึง แต่ก็มีร่องรอยของการถูกวางยาอยู่จริงๆ

เพียงแต่หว่านเฟยผู้นั้นเป็นคนระแวดระวัง นางรู้ชัดแจ้งว่าร่างกายหนานหนานไม่เหมือนคนปกติ และรู้อยู่แล้วว่าช่วงสองสามวันนี้หนานหนานมาอยู่ในวังหลวง เหตุใดจึงลงมือได้อีกเล่า

นี่ช่างผิดปกตินัก

“เหมียวกงกง ลากคนพวกนี้ออกไปให้หมด ตัดหัวพวกมันเสีย”

ได้ยินเสียงของฮ่องเต้ลอยมากระทบหู อวี้ชิงลั่วก็ตกตะลึง หันไปมองสีพระพักตร์อันเคร่งเครียดเหลือประมาณของฮ่องเต้

นางเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ข้าหลวงเหล่านี้ตอบว่าอะไร ฮ่องเต้จึงมีทีท่ากริ้วหนักกว่าเดิม

หนานหนานแอบดึงแขนเสื้อของนาง กล่าวเสียงเบา “ท่านแม่ ท่านรู้หรือไม่ขอรับว่าใครในพวกเขาที่วางยา”

“ไม่รู้สิ” มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก

นางไม่ได้คุ้นเคยกับวังหลวงของอาณาจักรเฟิงชางนัก ยังไม่ต้องพูดถึงคนจากห้องพระเครื่องต้น

แต่ว่าก่อนหน้านี้หนานหนานก็มักจะไปแอบกินอาหารที่ห้องพระเครื่องต้นมิใช่หรือ เขาน่าจะคุ้นเคยอยู่จึงจะถูก

ขณะที่อวี้ชิงลั่วเพิ่งจะเลิกคิ้ว ก็เห็นหนานหนานหัวเราะฮิๆ อย่างมีเลศนัย

เหมียวเชียนชิวกำลังขอให้ฮ่องเต้พระทัยเย็นลง ยกมือขึ้นบอกให้เปาเหอเฟิงคุมตัวคนพวกนั้นไว้

หนานหนานเด้งตัวขึ้นทันที กล่าวเสียงดัง “เดี๋ยวก่อน”

เปาเหอเฟิงหยุดนิ่งตามจิตใต้สำนึก ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงเหลือบตาขึ้นมองฮ่องเต้

แต่ฮ่องเต้ก็ไม่ได้ออกความคิดเห็นคัดค้านอันใด เขาจึงเงียบ แล้วจึงถอยไปอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพและรอฟังคำสั่ง

แล้วหนานหนานก็กระโดดมาอยู่ด้านข้างของฮ่องเต้ กระซิบกระซาบเสียงเบา “เสด็จปู่ กระหม่อมมีวิธีหาตัวมือสังหารแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ค่อยๆ คลายโทสะลง จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นมองหนานหนาน “อ้อ วิธีอันใดหรือ”

หนานหนานกลับเดินไปตรงหน้าของขันทีสองสามคนนั้นอย่างอวดดี หลังจากเดินไปเดินมากว่าสิบรอบแล้ว ก็ดึงแขนของคนคนหนึ่ง พาเขามาอยู่ด้านหน้า

คนผู้นั้นตกใจจนตัวสั่น รีบเงยหน้ามองหนานหนาน แล้วก็รีบก้มหน้าลงทันที แม้แต่เสียงก็ยังสั่น “ฝ่าบาท ซื่อจื่อ กระหม่อม… กระหม่อมเปล่าพ่ะย่ะค่ะ”

“โธ่ ข้ารู้ว่าไม่ใช่เจ้า เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว” หนานหนานกลอกตาไปมาอย่างว่างเปล่า ให้เขานั่งคุกเข่าต่อไป

คนผู้นั้นตระหนก แต่เมื่อได้ยินหนานหนานกล่าวเช่นนั้น เขาก็สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง

หนานหนานเดินไปมาอีกครั้ง จากนั้นก็ลากคนออกมาอีกห้าหกคน

สุดท้ายแล้ว คนที่ยังคุกเข่าอยู่ที่เดิมก็เหลือเพียงคนเดียว

คนผู้นั้นเมื่อเห็นว่ารอบๆ ตัวไม่มีใครแล้ว เหงื่อเย็นๆ ก็ไหลออกมาในทันที

หนานหนานยืนอยู่ตรงหน้าเขา เท้าคางเอียงคอและสังเกตอย่างละเอียด

ฮ่องเต้งุนงง ดูไม่ออกจริงๆ ว่าหนานหนานมีแผนการอะไรอยู่ในใจ

สองมือของอวี้ชิงลั่วทาบอก สงสัยเช่นกันว่าเขาต้องการทำอันใดกันแน่

เขาพาคนทางด้านนี้ทั้งหมดไปอยู่ด้านหน้า จนเหลือเพียงแค่คนคนนั้นคนเดียว หรือว่าคนผู้นั้นจะเป็นมือสังหาร

หนานหนานกลับส่ายหน้าอย่างครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็เอื้อมมือไปจับแขนของคนผู้นั้นเช่นกัน ดึงเขามาทางด้านหน้า

ขันทีผู้นั้นถอนหายใจโล่งอก โชคดีที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับคนอื่นๆ ดูท่าจะไม่มีเรื่องอันใดแล้ว

เขาค่อยๆ วางใจ ใครจะรู้ว่าลุกมาได้ครึ่งตัว อยู่ดีๆ หนานหนานที่อยู่ข้างๆ ก็ปล่อยมือ

น้ำเสียงที่ดูเด็ก โกรธเกรี้ยว แต่ยังมีความแข็งแกร่งในน้ำเสียงนั้น อยู่ๆ ก็ลอยเข้ามากระทบโสตประสาทของเขา “เป็นเจ้านี่เอง”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ใครกันนะที่ลอบวางยาฮ่องเต้ แต่วิธีทางจิตวิทยาของหนานหนานดูท่าจะได้ผลแฮะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *