อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 680 เขาไปทำให้คนขุ่นเคือง

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 680 เขาไปทำให้คนขุ่นเคือง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 680 เขาไปทำให้คนขุ่นเคือง

ตอนที่ 680 เขาไปทำให้คนขุ่นเคือง

เช้าวันรุ่งขึ้น อวี้ชิงลั่วพาหงเย่ออกจากโรงเตี๊ยม ไปยังโรงเตี๊ยมที่หมอเฒ่าฉยงซานพักอยู่

เดิมทีหมอเฒ่าฉยงซานตั้งใจจะไปรับนางมาเอง แต่อวี้ชิงลั่วรู้สึกอยู่เสมอว่าการให้เขาไปปรากฏตัวที่โรงเตี๊ยมของตนจะดึงดูดปัญหาที่ไม่จำเป็นเข้ามา

อย่างไรตอนนี้ก็อยู่ในดินแดนเหมิง มีผู้อาวุโสไม่น้อยที่รู้ที่อยู่ของเขา ไม่แน่ว่าจะมีคนตามเขามาเมื่อไหร่ก็ได้

ยิ่งไปกว่านั้นที่โรงเตี๊ยมของหมอเฒ่าฉยงซานยังมียาผงและยาเม็ดจำนวนมาก การไปหาเขาที่นั่น ก็จะได้เลือกยาเหล่านั้นด้วยตัวเอง ซึ่งสำหรับนางแล้วมันสะดวกกว่ามาก

หมอเฒ่าฉยงซานต้องการให้นางไปที่โรงเตี๊ยมของเขา ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นไม่ใช่หรือ

“คุณหนู ดูเหมือนโรงเตี๊ยมของหมอเฒ่าฉยงซานจะไม่ได้มาทางนี้นะเจ้าคะ” หงเย่เงยหน้ามอง เมื่อเห็นอวี้ชิงลั่วเพียงแต่ก้มหน้าไม่แม้แต่จะดูทาง หันไปทางขวาราวกับว่าเหม่อลอยอยู่ นางจึงเอ่ยเตือนเสียงต่ำ

ฝีเท้าของอวี้ชิงลั่วไม่ได้หยุดลงเลยแม้แต่ชั่วขณะ เพียงแต่ยิ้ม “ข้ารู้ นี่คือทางไปยัง ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ ถึงแม้หนานหนานจะให้เสี่ยวไป๋เหอมา แต่เขาก็ไม่กลับมาทั้งคืน ข้าเลยแวะมาดูเสียหน่อยจะดีกว่า”

ถึงแม้นางจะมั่นใจในความฉลาดของหนานหนานเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรเขาก็เป็นบุตรชายตน ควรรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนถึงจะสบายใจได้อย่างเต็มที่

บางทีบ่ายเมื่อวาน หนานหนานอาจจะมาที่ ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ อาจจะดื่มสุราไปบ้าง เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาจะเมาหลับอยู่ข้างทางหรือไม่ เจ้าเด็กนั่นเพียงได้ดื่มสุราชั้นดีก็ยั้งปากตนไว้ไม่ไหวแล้ว เช่นเดียวกับครั้งก่อนที่เจียงเฉิง ตอนที่เขาดื่มสุราของโม่เสียนนั่นล่ะ

หงเย่เข้าใจในทันที พยักหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ กล่าว “ที่แท้คุณหนูก็รักหนานหนานมาก ข้างหน้าเป็น ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ แล้ว คุณหนูอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวข้าไปถามให้นะเจ้าคะ”

“เดี๋ยวข้าไปกับเจ้าด้วย” อวี้ชิงลั่วบอก หากหงเย่ถามแล้วค่อยมาบอกนางจะเสียเวลามาก นางยังต้องไปหาหมอเฒ่าฉยงซานอีก ทั้งยังต้องไปจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ด้วย

หงเย่พยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็ขึ้นบันไดไปยังหน้าประตูของ ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’

ตอนนี้ยังเช้าอยู่ เสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมยังคงทำความสะอาดโต๊ะต้อนรับ เมื่อเห็นสตรีสองคนสวมอาภรณ์งดงามก็โยนไม้กวาดแล้ววิ่งเข้ามาถามในทันที “เชิญคุณหนูด้านในขอรับ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังไม่เริ่มการชิมสุรา แต่คุณหนูสามารถจองห้องก่อนได้ เดี๋ยวข้านำชาและของว่างมาให้เป็นอย่างไรขอรับ”

หงเย่ยัดพวงเงินเล็กๆ ไว้ในมือของเขา ยิ้มเบาๆ กล่าว “พี่ชาย ข้าขอถามอะไรท่านหน่อยสิ”

เมื่อรู้ว่าพวกนางไม่ได้มาที่นี่เพื่อใช้จ่าย เสี่ยวเอ้อก็ไม่ค่อยพอใจนัก แต่เพียงมองเงินที่อยู่ในมือ ก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง อย่างไรเสียเงินของคนที่มาดื่มกินในโรงเตี๊ยมนี้ก็เป็นของเจ้าของร้าน ส่วนเงินจำนวนนี้เขาคงเก็บเอาไว้ได้

เสี่ยวเอ้อมองไปรอบๆ จากนั้นก็เก็บเงินเข้าไป ยิ้มกล่าว “คุณหนูอยากรู้เรื่องอะไรขอรับ หากข้ารู้ข้าจะบอกทุกอย่างเลยขอรับ”

“ขอถามหน่อยว่าเมื่อวานนี้มีเด็กมาดื่มเหล้าที่นี่หรือไม่ สูงเท่านี้ หน้าตาดูดีมาก ทั้งยังดูฉลาดมากอีกด้วย”

เสี่ยวเอ้อชะงักไป จากนั้นก็เอียงศีรษะคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเป็นประกายขึ้น ยิ้มพลางพยักหน้า “มี มีขอรับ มีเด็กคนหนึ่งมาจริงๆ ทั้งยังมีวรยุทธ์ด้วยใช่หรือไม่?”

“ใช่”

“เฮ้อ เด็กคนนั้นมีวรยุทธ์ก็ย่อมดีอยู่แล้ว แต่ทว่าเขาไปทำคนไม่พอใจเข้า เมื่อวานนี้…” กล่าวถึงตรงนี้ เสี่ยวเอ้อก็ลดเสียงลงต่ำ “เถ้าแก่เห็นเด็กคนนั้นแล้วขัดตา จึงส่งคนไปจัดการจับตัวเขา แต่หลังจากนั้นก็มีคนคนหนึ่งโผล่มา คนผู้นั้นเป็นผู้อารักขาของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง เขาหยุดเถ้าแก่ไว้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเพียงเด็กคนนั้นเห็นผู้อารักขาผู้นั้นก็หนีไปในทันใด”

“ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงหรือ?” อวี้ชิงลั่วมุ่นคิ้ว นางรู้จักคนผู้นี้ ดูเหมือนจะเป็นคนที่อายุมากที่สุดในหมู่ผู้อาวุโสของดินแดนเหมิง มีบารมีที่สุด

หงเย่เองก็ตะลึงไป ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั้นไม่ใช่… อาจารย์ของท่านอ๋องซิวหรอกหรือ

“แล้วต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น?”

พนักงานยิ้มแล้วกล่าว “พวกท่านถามถูกคนแล้ว ข้าน่ะ เมื่อวานทำงานเสร็จพอดี จึงตามไปดูเสียหน่อย คิดไม่ถึงว่าผู้อารักขาผู้นั้นไม่ได้มาคนเดียว เขาผิวปากแล้วอีกคนก็เข้ามา ทั้งสองคนก็ขวางเด็กคนนั้นไว้ได้”

“เขาถูกจับหรือ?” หงเย่ถามอย่างเป็นกังวล

อวี้ชิงลั่วเม้มปาก ไม่ได้กล่าวอันใด หนานหนานให้ต้าไป๋เหอมา เห็นได้ว่าสถานการณ์ไม่ได้ร้ายแรง

พนักงานส่ายหัว มุ่นคิ้วแล้วกล่าว “แต่ก็ไม่ดูเหมือนถูกจับนะขอรับ ตอนนั้นข้าอยู่ไกล เห็นไม่ชัดเท่าไร แต่รู้สึกได้ว่าเด็กคนนั้นตามไปเอง ผู้อารักขาทั้งสองคนนั้นก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างดี ทั้งยังให้คนไปเอาเกี้ยวมา พาเด็กคนนั้นไปเหมือนเป็นแขกคนหนึ่ง ส่วนเถ้าแก่ของเราน่ะหรือ ก็ตกใจประมาณหนึ่ง เกรงว่าตนเองจะไปทำให้แขกคนสำคัญของผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไม่พอใจเข้าแล้ว”

หนานหนานคิดจะตามไปเองหรือ? เอาเกี้ยวมารับไปหรือ? เหตุใดหนานหนานจึงรู้จักผู้อาวุโสเผ่าเหมิงคนนั้นได้?

อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ข่าวที่ควรรู้ก็ได้รู้หมดแล้ว จึงพาหงเย่ไปจากที่นี่

กับผู้อาวุโสเผ่าเหมิงนั้น อวี้ชิงลั่วไม่ได้คุ้นเคยนัก แต่หมอเฒ่าฉยงซานน่าจะรู้จัก อีกเดี๋ยวจะไปถามข่าวคราวจากเขาเสียหน่อย

ส่วนหนานหนาน… อวี้ชิงลั่วเดินไปตรงหัวมุม แล้วปล่อยแมงป่องตัวหนึ่งออกมา ให้มันไปหาหนานหนาน

หากเสี่ยวไป๋เหอกลับมาแล้วบนตัวยังมีผงสีเขียวอยู่ เช่นนั้นก็แปลว่าไปเป็นแขกที่นั่นจริงๆ เจ้าเด็กนั่น หากมีของดีๆ กิน จะไม่กลับมาทั้งคืนก็เป็นเรื่องปกติ

แต่หงเย่ที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับขมวดคิ้ว นางเคยเจอผู้อาวุโสเผ่าเหมิงเพียงครั้งเดียว รู้สึกว่าคนผู้นั้นไม่ใช่คนพูดจาเก่งนัก

อีกทั้งผู้อาวุโสเผ่าเหมิงอยู่ในตำแหน่งสูงส่งมาหลายปี ท่าทางของเขาก็ไม่ใช่คนต่ำต้อย ให้คนอย่างเขามาปฏิบัติต่อเด็กที่ไม่รู้จักเหมือนกับแขกคนหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็หาเหตุผลไม่ได้

หรือว่า ผู้อาวุโสเผ่าเหมิงรู้ว่าหนานหนานเป็นบุตรชายของท่านอ๋องซิว?

หงเย่คิด เรื่องนี้นางจะต้องคุยกับท่านอ๋องซิวจึงจะใช้ได้ อย่างไรท่านอ๋องซิวก็เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสเผ่าเหมิง มีเขาอยู่ หนานหนานจะต้องไม่เป็นอะไรแน่

แต่นางจะไปบอกท่านอ๋องซิวได้อย่างไรเล่า?

ขณะหงเย่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จู่ๆ ก็เห็นร่างของคนที่คุ้นเคยแวบผ่านไปไม่ไกล

ดวงตาของนางเป็นประกาย รีบกล่าวกับอวี้ชิงลั่ว “คุณหนู เมื่อครู่เหมือนว่าข้าจะทำของตกที่โรงเตี๊ยมนั้นเจ้าค่ะ เป็นของที่เหนียงเหนียงมอบให้ ข้า…”

“เจ้าไปหาเถอะ อย่างไรข้างหน้านี่ก็เป็นโรงเตี๊ยมหมอเฒ่าฉยงซานแล้ว เจ้าหาเจอแล้วค่อยมาก็ได้”

“เจ้าค่ะ” หงเย่พยักหน้า รีบหันหลังวิ่งไปทาง ‘เซียงเว่ยซื่ออี้’ เพียงแต่หลังจากเลี้ยวตรงหัวมุม นางก็เปลี่ยนทิศทาง ตรงไปยังทางที่เห็นร่างคนผู้นั้นเมื่อครู่

แต่หลังจากตามไปไม่กี่ก้าว คนผู้นั้นก็มาปรากฏต่อหน้านางทันที “หงเย่”

ใบหน้าของหงเย่ตกใจเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ยิ้มตรงมุมตา “เหวินเทียน เป็นท่านจริงๆ ด้วย… อ๋า จริงสิ ข้ามาหาท่านเพราะมีธุระ”

หงเย่เองก็ไม่มีเวลาจะกล่าวอะไรมากนัก นำเรื่องที่พนักงานร้านเมื่อครู่กล่าว เล่าให้เขาฟังอีกรอบ

เหวินเทียนขมวดคิ้ว ครู่หนึ่งจึงกล่าว “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไปบอกนายท่านเดี๋ยวนี้ เจ้ากลับไปอยู่กับแม่นางอวี้เถิด และระวังตัวด้วย”

หงเย่พยักหน้า เหวินเทียนยิ้มให้นางครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หันหลังกลับโรงเตี๊ยมไป นำเรื่องที่หนานหนานอยู่จวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงไปบอกเย่ซิวตู๋

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ว่าแต่ตอนนี้หนานหนานออกจากค่ายกลไผ่ได้หรือยังเถอะ ไม่ใช่ว่ายกพลไปรวมที่จวนผู้อาวุโสเผ่าเหมิงแล้วยังไม่เจอตัวนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *