อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 774 พยายามฟื้นฟูความรู้สึกของการมีอยู่

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 774 พยายามฟื้นฟูความรู้สึกของการมีอยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 774 พยายามฟื้นฟูความรู้สึกของการมีอยู่

ตอนที่ 774 พยายามฟื้นฟูความรู้สึกของการมีอยู่

อวี้ชิงลั่วกระแอมเบาๆ เห็นท่าทางห่อเหี่ยวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ราวกับว่าเห็นชัดแจ้งถึงความเป็นตายแล้ว ในใจก็แทบทนไม่ได้

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะแห้งๆ กล่าวอย่างอายๆ “คือว่า ผู้อาวุโสสกุลเยว่เจ้าคะ จริงๆ แล้ว… นายน้อยเหมิง… ยังมีลูกได้เจ้าค่ะ”

“…” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตะลึงงัน ทันใดนั้นก็หันมามองนาง

อวี้ชิงลั่วลูบจมูก ถอนหายใจแล้วกล่าว “ตอนนั้นเป็นเพราะไม่มีทางเลือกเจ้าค่ะ ข้ารู้เรื่องที่เกี่ยวกับเหมิงเคอ หากข้ากล่าวออกไปท่านคงไม่เชื่อ จึงต้องโกหกด้วยการบอกต่อหน้าท่านรองอูว่านายน้อยเหมิงไม่สามารถมีบุตรได้อีกแล้ว ให้เขามาบอกท่าน อย่างไรเสียคำพูดของเขาก็น่าเชื่อถือกว่าข้านัก”

ผู้อาวุโสสกุลเยว่ตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่งก็กะพริบตา “เช่นนั้นแล้ว เช่นนั้นแล้ว… ต่อไปหรงเอ๋อร์ก็สามารถมีทายาทได้หรือ?”

อวี้ชิงลั่วพยักหน้า นางคิดว่าหากรู้ว่าเหมิงหรงจะมีภรรยาอีกคน การมีลูกก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่แน่นอน

ผู้อาวุโสสกุลเยว่ค่อยๆ คลี่ยิ้ม ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา

เขาหมุนตัวเดินไปสองสามก้าวแล้วก็เดินกลับมา ถูมือของตน ดูท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย

ผ่านไปนานเขาก็กลับมายืนตรงหน้าอวี้ชิงลั่วอีกครั้ง กล่าวยิ้มๆ “แม่นางถัง ขอบคุณเจ้าจริงๆ”

“เอ่อ ท่านไม่โทษที่ข้าโกหกท่านหรือเจ้าคะ?” อวี้ชิงลั่วมีสีหน้าประหลาดใจ นี่ยังจะมาขอบคุณนางอีกหรือ นางคิดว่าตนจะถูกไล่ออกไปข้างนอกเสียมากกว่า

“ตอนได้ยินครั้งแรกก็โทษอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อกลับมาคิดดูก็รู้สึกว่าเรื่องมันสมเหตุสมผล ตอนนั้นหากเจ้าไม่กล่าวเช่นนั้น บอกตามตรง ข้าก็คงไม่ตั้งใจตามหาเสี่ยวอวี้เพียงนี้ อย่างไรเหมิงเคอก็อยู่ที่จวนมาหลายปี ข้าก็ไม่จำเป็นต้องต่อกรกับผู้อาวุโสสกุลลี่เพียงเพื่อเสี่ยวอวี้”

กล่าวถึงตรงนี้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็ละอายใจเล็กน้อย หากไม่ได้เข้าใจว่าเสี่ยวอวี้เป็นหลานสาวคนเดียวของเขา เขาคงไม่พยายามร่วมมือกับอวี้ชิงลั่วอย่างเต็มที่ วางแผนต่อต้านเหมิงเคอ ให้ชิวเอ๋อร์แกล้งตาย

“ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ได้ยินข่าวนี้แล้ว สำหรับข้ามันเป็นเรื่องน่ายินดีนัก” ผู้อาวุโสสกุลเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก กล่าวพลางยิ้ม “ก่อนหน้านี้ข้ายังครุ่นคิดอยู่ว่าจะบอกหรงเอ๋อร์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรดี ตอนนี้ดูท่าแล้วคงไม่จำเป็น แต่เรื่องที่จะให้หรงเอ๋อร์รับชิวเอ๋อร์เป็นบุตรบุญธรรม การตัดสินใจนี้จะยังไม่เปลี่ยน”

อารมณ์เปลี่ยนแปลงไป เรื่องบางเรื่องก็ย่อมถูกมองข้าม

ผู้อาวุโสสกุลเยว่เริ่มมีความคิดเช่นเดียวกับผู้อาวุโสสกุลเซิ่งในทันที เขาเองก็อยากออกจากตำแหน่งผู้อาวุโส เพื่อมาจัดการเรื่องราวในจวนผู้อาวุโสสกุลเยว่ ใช้เวลากับเสี่ยวอวี้ให้มากๆ เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ สอนทุกสิ่งที่รู้มาตลอดชีวิตให้กับนาง แบ่งปันความสุขกับครอบครัว

แต่เขาก็เข้าใจ ตอนนี้ยังคงเป็นไปไม่ได้เท่าไรนัก ผู้อาวุโสสกุลลี่เพิ่งจะล้มลงทำให้ขาดผู้อาวุโสไปหนึ่งคน ตอนนี้ภาระงานจึงตกมาที่บ่าของเขามากยิ่งขึ้น

อวี้ชิงลั่วลอบถอนหายใจโล่งอก นางไม่สนใจว่าผู้อาวุโสสกุลเยว่จะคิดกับนางเช่นไร แต่กลัวว่าถึงตอนนั้นเขาจะบาดหมางกับเหมิงหลัวอวี้อีกครั้ง โชคดีที่ทุกอย่างราบรื่น และผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ใช่คนใจแคบ

“ท่านแม่ ชิวเอ๋อร์ฟื้นแล้วขอรับ”

จู่ๆ เสียงประหลาดใจของหนานหนานก็ดังมาจากในห้อง อวี้ชิงลั่วและผู้อาวุโสสกุลเยว่สบตากันแล้วพากันเดินเข้าไป

เหมิงหลัวอวี้จับมือเถี่ยชิวเอ๋อร์ไว้ กล่าวเสียงเบาจนไม่รู้ว่านางพูดอะไร

อวี้ชิงลั่วเดินเข้าไปใกล้ ก็ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ของนาง “ชิวเอ๋อร์ ข้าเป็นคนทำร้ายเจ้า”

เถี่ยชิวเอ๋อร์คลี่ยิ้มซีดเซียว “คุณหนูเล็ก ในที่สุดท่านก็กลับมา ท่านยังมีชีวิตอยู่ ดีเหลือเกิน ข้านึกว่า นึกว่าพวกเขาทำร้ายท่านไปแล้ว ชิวเอ๋อร์ไร้ความสามารถ ช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย”

อวี้ชิงลั่วสะเทือนใจเล็กน้อย มิตรภาพของเด็กๆ นั้นบริสุทธิ์ที่สุด หวังว่าพวกเขาจะรักษามิตรภาพอันบริสุทธิ์นี้ไว้ได้ตลอดไป

“ชิวเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง”

“ท่านน้าชิง ข้า ข้าสบายดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เจ็บเล็กน้อย” แผลที่หลังยังไม่หายดี เมื่อขยับก็จะดึงไปโดนแผลเสมอๆ บางครั้งไม่ทันระวังก็จะมีเลือดไหล

อวี้ชิงลั่วป้อนยาให้นางแล้วปลอบเบาๆ “นี่เป็นยาแก้ปวด เจ้ากินแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้นมาก วางใจเถิด ขอเพียงดูแลอย่างดีก็จะไม่เป็นไร ไม่นานก็จะหายดี”

“เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านน้าชิง” เถี่ยชิวเอ๋อร์หรี่ตายิ้ม รู้สึกได้จริงๆ ว่าความเจ็บปวดเมื่อครู่ไม่อยู่แล้ว

เมื่อเห็นเหมิงหลัวอวี้ นางมีความสุขมาก มือเล็กๆ ของทั้งสองคนจับกันไว้แน่นตลอดเวลา

หนานหนานที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเบ้ปาก พวกนางสองคนจับมือกันเหมือนเป็นพี่น้อง กลับไม่สนใจการมีอยู่ของหนุ่มน้อยที่หล่อเหลาหาตัวจับยากคนนี้โดยสิ้นเชิง

เขาทำเสียงฮึดฮัด พยายามดึงดูดความสนใจของเหมิงหลัวอวี้ แต่นางกำลังคุยกับเถี่ยชิวเอ๋อร์เกี่ยวกับสิ่งที่ได้ยินและได้เห็นมาโดยตลอด จึงไม่ได้ยิน

หนานหนานหายใจถี่ กระแอมอย่างหนักอีกครั้ง

อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก หันหน้าไปเงียบๆ สบตากับผู้อาวุโสสกุลเยว่ที่อดหัวเราะไม่ได้ ช่างหมดหนทางแล้วจริงๆ

เหมิงหลัวอวี้ยังคงไม่ได้ยินเสียงของหนานหนาน นางไม่ได้เจอกับเถี่ยชิวเอ๋อร์หลายวัน ตอนนี้เป็นเพราะนางบาดเจ็บ ในใจย่อมต้องสนใจแต่นางเท่านั้น

หนานหนานเม้มปาก เดินไปตรงหน้า มือเล็กนิ่มๆ นั้นวางไปบนมือเล็กสองข้างที่กุมกันอยู่

ทั้งสองคนที่กำลังคุยกันผงะไป เถี่ยวชิวเอ๋อร์มองเด็กผู้ชายแปลกหน้าตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ รู้สึกว่า… เด็กคนนี้รูปร่างหน้าตาละเอียดอ่อนมาก ดูหน้าตาดีกว่าเด็กผู้ชายทั้งหมดที่นางเคยพบเจอมา เขาเป็นใครกัน เหตุใดจึงปรากฏตัวที่นี่ได้

เหมิงหลัวอวี้กะพริบตา มองมือเล็กๆ ที่วางบนหลังมือพวกนางอย่างงงงวย “หนานหนาน”

หนานหนานฉีกยิ้มให้นางด้วยใบหน้าไร้เดียงสาอย่างมาก จากนั้นก็ยิ้มให้เถี่ยชิวเอ๋อร์ จากนั้นก็รีบกล่าวอย่างมีความสุข “เมื่อวานข้าได้ของดีมา จะเอาให้พวกเจ้าดู มันชื่อว่าโร่วโร่ว แปลว่าข้าอยากให้มันรีบกินเนื้อได้เร็วๆ…”

หนานหนานกล่าวพลางหยิบกรงขึ้นมาแล้วยกผ้าคลุมสีดำออก

อวี้ชิงลั่วสีหน้าเคร่งเครียด บุตรชายของนางผู้นี้ขวนขวายหาการมีตัวตนได้เก่งจริงๆ

นางหัวเราะแห้งๆ กล่าวกับผู้อาวุโสสกุลเยว่ “นิสัยของหนานหนานมีชีวิตชีวามาก ถูกหัวเราะเยาะเสียแล้วเจ้าค่ะ”

“แม่นางถังกล่าวอะไรเช่นนั้น นิสัยเช่นนี้สิจึงจะดี ข้าหวังอยู่ว่าเสี่ยวอวี้เองก็จะมีชีวิตชีวาขึ้นหน่อย” เขากังวลมากว่าหลังจากเหมิงหลัวอวี้ต้องพบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดต่อกันนี้ นางจะปิดกั้นไม่ยอมเปิดใจให้ใคร

ขณะที่ทั้งสองคนพูดคุยกัน พ่อบ้านก็รีบเดินเข้ามาจากด้านนอก สาวเท้าก้าวใหญ่อย่างเร่งรีบ บนใบหน้ามีเหงื่อไหลย้อย

“ท่านผู้อาวุโส ท่านประมุขส่งคนมา กล่าวว่ามีเรื่องต้องการพูดคุยกับท่านผู้อาวุโสขอรับ”

ผู้อาวุโสสกุลเยว่อึ้งงัน พยักหน้าให้อวี้ชิงลั่วทันที “แม่นางถัง ข้าขอตัวก่อน ทางด้านนี้คงต้องขอฝากเจ้าดูแลแล้ว”

“เจ้าค่ะ” อวี้ชิงลั่วอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เหมิงลู่ส่งคนมาตอนนี้ คิดจะทำอันใดกันแน่?

นางยังไม่ทันได้คิดหาเหตุผลออก ทางด้านนอกก็มีเสียงดังเข้ามาทันที “ผู้อาวุโสสกุลเยว่ไม่ต้องไปแล้ว ข้ามาที่นี่โดยตรงแล้ว”

สองสามคนตะลึงไป จากนั้นก็เห็นร่างหนึ่งก้าวเข้ามาจากทางประตู

อวี้ชิงลั่วมองเห็นร่างที่คุ้นเคยของผู้มาเยือนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ เหตุใดคนที่มาจึงเป็นเขา?

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หาแสงเก่งมากเลยหนานหนาน วอแวจนได้อะ

ใครมาหาน่ะ?

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *