อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 782 ไม่มีหวัง

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 782 ไม่มีหวัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 782 ไม่มีหวัง

ตอนที่ 782 ไม่มีหวัง

ทุกคนในห้องประหลาดใจ หันไปมองหนานหนานทันที

เย่ซิวตู๋ได้สติกลับมาทันที ใช่แล้ว ชิงเอ๋อร์เคยใช้โอสถหยาดน้ำค้างเพื่อช่วยชีวิตเผิงอิงและล้างพิษให้เขา ในเมื่อนางใช้ยาสำคัญกับเผิงอิงที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงคนแปลกหน้าได้ เช่นนั้นก็จะต้องมียาอีกเม็ดเก็บไว้

หมอเฒ่าฉยงซานจับไหล่ของหนานหนานทันที แววตาเป็นประกาย “เจ้า เจ้ามีโอสถหยาดน้ำค้างจริงหรือ?”

ของชิ้นนั้นเป็นของหายากและราคาแพงมาก

ก่อนหน้านี้เขาก็มีอยู่เม็ดหนึ่ง เพียงแต่ว่าเอามาใช้ช่วยชีวิตคนแล้ว ตอนนั้นเมื่อใช้โอสถหยาดน้ำค้างไป ในใจของเขาแทบจะแตกสลายทันที

หนานหนานพยักหน้า ถอดชุดคลุมด้านนอกออกทันทีและนำกระเป๋าใบเล็กๆ ในเสื้อผ้าออกมา ออกแรงดึงกระเป๋าที่อยู่ด้านในสุดด้วยความพยายามอย่างมาก จากนั้นก็หยิบถุงกระดาษเล็กๆ ออกมา

มันเป็นถุงกระดาษที่เล็กมาก หนานหนานไม่รอช้านำถุงกระดาษส่งให้หมอเฒ่าฉยงซาน “ท่านแม่ให้ข้าไว้ บอกว่าให้ใช้ช่วยชีวิตคนขอรับ ท่านปู่ฮั่ว ท่านรีบให้ท่านปู่ทวดกินเถิดขอรับ”

แววตาของหมอเฒ่าฉยงซานเปล่งประกายสว่างวาบ เปิดถุงกระดาษ วางไว้บนฝ่ามือแล้วลองดู เป็นโอสถหยาดน้ำค้างจริงๆ เจ้าเด็กนี่มาเพื่อช่วยชีวิตจริงๆ

เขาไม่กล้าลังเล รีบหันไปแล้วนำโอสถหยาดน้ำค้างใส่ปากผู้อาวุโสสกุลหมิง ยกศีรษะของเขาขึ้นและตบหลังเบาๆ

เม็ดยาไหลลงคอของเขาไป แววตาของหมอเฒ่าฉยงซานจดจ้องมองการเปลี่ยนแปลงของผู้อาวุโสสกุลหมิง

โอสถหยาดน้ำค้างเป็นยาล้างพิษที่น่าอัศจรรย์จริงๆ หลังจากผู้อาวุโสสกุลหมิงกลืนลงไป สีของริมฝีปากของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากที่เคยเป็นสีดำอมม่วงค่อยๆ กลับมาเป็นสีแดงดังเดิม

ถึงแม้สีหน้าจะยังขาวซีดอยู่มาก แต่เลือดสีดำที่ไหลออกมาจากบาดแผลกลับค่อยๆ จางลง

หมอเฒ่าฉยงซานกลั้นหายใจอยู่หนาน จากนั้นก็เอื้อมมือไปจับชีพจรที่ข้อมือของผู้อาวุโสสกุลหมิง

รูม่านตาเย่ซิวตู๋หดลงเล็กน้อยขณะถาม “เป็นอย่างไรบ้าง”

หมอเฒ่าฉยงซานขมวดคิ้ว ใบหน้ายังคงเคร่งขรึม ผ่านไปครู่หนึ่งก็ชักมือกลับ หลังจากมองสองสามคนแล้วก็ส่ายหน้าอย่างเงียบๆ

“มีโอรสหยาดน้ำค้างแล้วก็ยังไม่ได้ผลหรือ” เหมิงลู่ถามอย่างกังวล ผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่เป็นเพียงผู้อาวุโสที่เป็นที่นับถืออย่างมากของดินแดนเหมิง แต่ยังเป็นศิษย์พี่ที่คอยดูเขาเติบโต ความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายย่อมไม่ธรรมดา

หมอเฒ่าฉยงซานถอนหายใจ ยืนขึ้นมา “โอสถหยาดน้ำค้างได้ผล พิษในร่างของผู้อาวุโสสกุลหมิงถูกล้างไปแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้พิษกระจายตัว เพื่อควบคุมไม่ให้พิษไหลเข้าสู่อวัยวะสำคัญ ข้าจึงใช้วิธีฝังเข็มลงไป ทำให้เลือดของผู้อาวุโสสกุลหมิงไม่ไหลเวียน วิธีนี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียง อีกทั้งเขายังได้รับบาดเจ็บภายใน กระดูกหลายชิ้นในร่างกายเสียหาย ศีรษะกระแทกพื้นทำให้เกิดลิ่มเลือด แม้ว่าพิษจะถูกล้างไปแล้วแต่อาการก็ยังคงไม่ดีนัก ถึงแม้ตอนนี้จะช่วยชีวิตเอาไว้ได้ แต่อาจจะไม่ฟื้นขึ้นมา ยังไม่รู้ว่านานเพียงใด”

อีกทั้งผู้อาวุโสสกุลหมิงยังอายุมากแล้ว ถึงแม้พื้นฐานร่างกายของเขายังดีอยู่ แต่อวัยวะก็ฝืนความจริงที่ว่ามันแก่ตัวลงไม่ได้ ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หากอยากจะหายดีก็คงเป็นเรื่องยากมาก

แม้จะมีชื่อเสียงของหมอเฒ่าฉยงซานเป็นประกัน แต่เขาก็ไม่ใช่เทพเซียน และทำได้เพียงถึงจุดนี้เท่านั้น

หนานหนานยืนอยู่ตรงขอบเตียง แววตาดูเจ็บปวดไม่สบายใจ “หากข้ารีบมา รีบให้โอสถหยาดน้ำค้าง ท่านปู่ก็คงฟื้นแล้ว”

“หนานหนาน นี่ไม่เกี่ยวกับโอสถหยาดน้ำค้างของเจ้าเลย” หมอเฒ่าฉยงซานเห็นเขาหดหู่ใจ เมื่อนึกว่าเขาเพิ่งจะเสียลั่วลั่วที่หายตัวไป ตอนนี้ต้องมาพบเรื่องเช่นนี้อีก ก็สงสารเขาจับใจ รีบเข้าไปกอดเขา “หนานหนาน เจ้าจะร้องไม่ได้นะ ตาเจ้าบวมเช่นนี้ หากร้องอีก ตาจะทนไม่ไหวเอา”

หนานหนานพยักหน้า “ท่านปู่ฮั่ว ข้ารู้แล้วขอรับ ข้ายังมียาทาอยู่ เดี๋ยวกลับไปข้าจะทายา ข้ารู้ว่าตอนนี้สถานการณ์เร่งด่วน ข้าจะเป็นภาระของคนอื่นอีกไม่ได้ ข้าจะดูแลตนเองให้ดีขอรับ”

“เด็กดี” หมอเฒ่าฉยงซานถอนหายใจเบาๆ

ลั่วลั่วสอนเขาได้ดีมาก ปกติแล้วต่อให้หนานหนานจะซุกซนไปหน่อย แต่ในเวลาเช่นนี้ เขากลับตระหนักถึงสถานการณ์ได้ดี

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ จะมาดูแลเขาไม่ได้จริงๆ เย่ซิวตู๋ต้องรีบตามหาลั่วลั่ว ทั้งยังต้องไปตามจับคนร้ายที่ลอบสังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง เกรงว่าจะยุ่งตัวเป็นเกลียว

เย่ซิวตู๋และหนานหนานสบตากันด้วยแววตาอ่อนโยน เพียงแต่ต่อจากนั้นเมื่อหันไปมองผู้อาวุโสสกุลหมิงที่นอนอยู่บนเตียง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นความแค้นเคืองในทันที

เรื่องนี้ เขาจะต้องสืบให้รู้แน่ชัดให้ได้ จะไม่ยอมปล่อยคนที่ลอบสังหารท่านอาจารย์ไปแน่

“ท่านประมุข ข้าอยากไปพบจื่อเชียนเพื่อถามสถานการณ์เสียหน่อยขอรับ”

เย่ซิวตู๋สูดหายใจลึกๆ ขณะมองเหมิงลู่ “อีกอย่าง ให้หนานหนานไปอยู่ที่จวนของเผ่าชั่วคราว ต้องขอรบกวนท่านด้วย”

เหมิงลู่พยักหน้า “เจ้าวางใจเถิด ข้าจะให้คนคุ้มกันหนานหนานอย่างดี” กล่าวจบ เขาก็ออกไปเรียกเหมิงจื่อเชียนเข้ามา

เหมิงจื่อเชียนไม่ได้เข้าไป เพียงแต่ยืนอยู่ในห้องข้างๆ ทั้งสองมือยังคงจับกันแน่น เขาเกรงว่าหากเห็นสภาพของผู้อาวุโสสกุลหมิงแล้วจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้

เย่ซิวตู๋เดินไปตบหลังของเขา กล่าวเบาๆ “คงไม่เป็นไรหรอก”

“ท่านพี่ ข้ารู้ว่าท่านอยากถามอันใด” เหมิงจื่อเชียนสูดหายใจลึก ค่อยๆ เล่าสิ่งที่ตนเห็นออกมาอย่างละเอียด “ท่านปู่ถูกลอบสังหารที่เรือนอีกหลัง เที่ยงวันนี้ ท่านปู่คิดได้ว่าผู้อาวุโสสกุลลี่เคยมอบบัญชีรายชื่อเล่มหนึ่งไว้ที่นี่ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของเหล่าผู้อาวุโสแห่งดินแดนเหมิงในยุคที่ผ่านๆ มา เดือนที่แล้วท่านปู่มีผื่นคันขึ้นตามตัว มีหมอคนหนึ่งบอกว่าผื่นนั้นติดต่อได้ ท่านปู่จึงอยากย้ายไปอยู่ที่เรือนอีกหลังหนึ่ง ดังนั้นจึงนำบัญชีรายชื่อนั้นรวมไปถึงของอื่นๆ ย้ายไป ใครจะรู้ว่าผื่นนั้นจะหายภายในไม่กี่วัน ท่านปู่ยังไม่ทันได้ไปพัก ของเหล่านั้นก็ยังไม่ทันได้เอากลับมา ตอนนี้เกิดเรื่องกับผู้อาวุโสสกุลลี่ ท่านปู่จึงต้องการนำบัญชีรายชื่อมาส่งมอบให้ท่านประมุข ถึงตอนนั้นค่อยส่งมอบให้ผู้อาวุโสคนใหม่ที่ได้รับเลือก”

“เดิมทีท่านปู่ต้องการไปด้วยตนเอง แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใด จึงเรียกข้าไปด้วยกัน”

เย่ซิวตู๋ชะงัก น่าจะเพราะท่านอาจารย์ฟังคำพูดของเขา รู้ว่ามีคนต้องการลอบสังหารตน จึงพาเหมิงจื่อเชียนไปด้วย

เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเขาตัดสินใจถูกต้อง หากเหมิงจื่อเชียนไม่ได้อยู่ที่นั่นในตอนนั้น เขาคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

“หลังจากเราไปที่อีกเรือนหนึ่ง ท่านปู่ก็เข้าไปในห้องเก็บของคนเดียว ข้าเดินไปมาอยู่ด้านนอก แต่นานแล้วก็ไม่เห็นท่านปู่ออกมา ข้าจึงเดินเข้าไปดูในห้องเก็บของนั้น เพิ่งจะเดินไปถึงประตู จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงโจมตีหนักๆ ตอนนั้นจึงรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ข้าตะโกนอยู่ด้านนอกสองสามคำ ไม่ได้ยินการตอบรับใดๆ จึงรีบรุดเข้าไป ตอนที่เปิดประตูก็เห็นเงาคนกระโดดออกไปทางหน้าต่าง ตอนนั้นข้าทำได้เพียงตะโกนเรียกเจ้ามือสังหาร เห็นท่านปู่อยู่ที่พื้นก็ไม่สามารถทำอันใดได้ เพราะการรีบช่วยคนสำคัญกว่า”

เขากล่าวถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมองเย่ซิวตู๋แวบหนึ่ง กล่าวเบาๆ “เดิมทีอยากจะเชิญแม่นางอวี้มาช่วยวินิจฉัยอาการท่านปู่ แต่เมื่อกลับมาก็ได้ยินว่านางหายตัวไป ข้าเกรงว่ามือสังหารจะยังอยู่ใกล้ๆ เรือน การคุ้มกันที่เรือนนั้นอ่อนแอ จึงทำได้เพียงพาท่านปู่กลับมาที่เรือนใหญ่”

เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว ห้องเก็บของหรือ? มือสังหารปรากฏตัวที่ห้องเก็บของหรือ?

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หรือจะเกี่ยวกับคนในจวนนี้หนอ? เพราะดูชำนาญทางเหลือเกิน รู้ด้วยว่าผู้อาวุโสหมิงจะต้องไปที่ห้องเก็บของ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *