อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 790 สารเลวจริงๆ

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 790 สารเลวจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 790 สารเลวจริงๆ

ตอนที่ 790 สารเลวจริงๆ

ซ่างกวนจิ่นไอออกมาอย่างหนัก กล่าวอย่างยากลำบาก “ข้าจะช่วยเจ้าออกไปเอง”

อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่น รับกุญแจที่เขาส่งให้มา สีหน้าดูสับสน

เหมิงพั่วที่ยืนอยู่อีกด้านของห้องลับพลันก้มหน้าลงสัมผัสร่างกายของตน จากนั้นสีหน้าก็ดูเคร่งเครียด “ที่แท้ก็มีแผนเช่นนี้เอง”

ซ่างกวนจิ่นหัวเราะออกมา หรี่ตาเล็กน้อย “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าจะสู้เจ้าไม่ได้”

เขากล่าว จากนั้นก็กุมหน้าอกแล้วไอเบาๆ ใช้มือยันพื้นแล้วลุกขึ้น

“สู้ได้แล้วอย่างไรเล่า เจ้าบาดเจ็บหนักเพียงเพื่อจะเอากุญแจ ต่อให้แก้โซ่ที่ข้อเท้าของนางออกแล้วอย่างไร สุดท้ายแล้วก็ต้องตายอยู่ที่นี่อยู่ดี” เหมิงพั่วหัวเราะเย็นชา เขาไม่เชื่อหรอกว่าชายที่บาดเจ็บหนักนี้จะเป็นคู่ประมือของเขาได้

กล่าวจบก็พุ่งเข้ามาใส่คนทั้งคู่อย่างรวดเร็ว

ซ่างกวนจิ่นผลักอวี้ชิงลั่วออกไปแล้วตรงเข้าหาเขาอีกครั้ง

เพียงแต่เขาบาดเจ็บอยู่ การเคลื่อนไหวของมือและเท้าจึงช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ฝ่ามือวายุของเหมิงพั่วนั้นรุนแรงไร้ปรานียิ่งขึ้น พลังทั้งหมดถูกฟาดลงที่ศีรษะของซ่างกวนจิ่น

ดาบในมือของซ่างกวนจิ่นถูกปัดทิ้งไปแล้ว เขาในตอนนี้ไม่มีข้อได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย

อวี้ชิงลั่วมองอย่างกระวนกระวายและเหงื่อออก พลางใช้กุญแจไขโซ่ที่ข้อเท้า พลางมองดูว่าจะสามารถช่วยอะไรได้บ้าง

แต่ถึงแม้ทักษะของนางจะยืดหยุ่น แต่หากเทียบกับซ่างกวนจิ่นและเหมิงพั่วแล้วก็ยังแตกต่างกันอยู่มาก หากหุนหันพลันแล่นเข้าไปร่วมวง ก็ไม่แน่ว่าจะทำให้เรื่องยิ่งวุ่นวาย

อวี้ชิงลั่วกำมือแน่น เมื่อเห็นซ่างกวนจิ่นถูกฝ่ามือของเหมิงพั่วซัดไปสองครั้ง ทั้งตัวและหัวใจก็รู้สึกเจ็บปวด

ไม่ได้การแล้วๆ เสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ดีกับพวกเขาเป็นอย่างมาก

อวี้ชิงลั่วกัดฟัน ทันใดนั้นก็วิ่งออกไปนอกประตูหิน

เหมิงพั่วยิ้มออกมา “ดูท่าหญิงคนนั้นจะห่วงแต่ชีวิตของตน ไม่สนใจเจ้าเลยสักนิด”

ซ่างกวนจิ่นหัวเราะเย็นชา ไม่คิดจะพูดไร้สาระกับเขา ความเจ็บปวดในร่างกายเขารุนแรงขึ้น การเคลื่อนไหวก็ช้าลงเรื่อยๆ เลือดและลมปราณพลุ่งพล่าน พร้อมจะล้มลงได้ทุกเมื่อ

แต่เขารู้ ว่าอวี้ชิงลั่วหญิงผู้นั้นไม่มีทางหนีออกไปเช่นนั้น เขายังเข้าใจในจุดนี้ของนางอยู่ อย่างไรนางก็เป็นคนที่เขาชื่นชอบ

เพียงอวี้ชิงลั่ววิ่งออกมาจากประตูหิน ก็รู้สึกคลื่นไส้เพราะกลิ่นโลหิตคาวคลุ้งด้านนอก ก้มหน้าอาเจียนในทันที

ห้องลับที่นางอยู่นั้นอยู่ด้านหลังสวนหิน ต้องเดินขึ้นบันไดหินจึงจะเห็นลานภายใน ข้างนอกมืดมิดมาก อวี้ชิงลั่วเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็สะดุด กว่าจะเดินออกจากสวนหินได้นั้นยากเย็นนัก

เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าเต็มไปด้วยทหารติดอาวุธอยู่เต็มลาน คนชุดดำสิบกว่าคนและผู้อารักขายี่สิบกว่าคนกำลังสู้กัน สีหน้าของแต่ละคนล้วนดูอาฆาต มีเจ็ดแปดคนนอนอยู่ที่พื้น ดูท่าทางเหมือนจะหมดลมหายใจไปแล้ว

อวี้ชิงลั่วดูสถานการณ์แล้ว พบว่าคนที่ซ่างกวนจิ่นพามานั้นว่องไวกว่าหน่อย น่าจะช่วยสนับสนุนได้ระยะหนึ่ง

นางกังวลว่ากองกำลังทั้งหมดของเขาจะถูกฆ่า ดูท่าแล้ว สถานการณ์ดีกว่าที่นางคาดไว้หน่อย

อวี้ชิงลั่วไม่กล้าชักช้า รีบวิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว

หญิงใบ้เคยบอกไว้ สมบัติของนางอยู่ในห้องทางด้านซ้าย มียามสองคนคอยเฝ้าอยู่ หญิงใบ้ไม่สามารถเข้าไปได้ และนำออกมาไม่ได้ด้วย

ตอนนี้ นางดูจากสถานการณ์แล้ว คนที่คอยเฝ้าอยู่น่าจะช่วยได้

แน่นอน จนกระทั่งอวี้ชิงลั่วเดินไปถึงด้านหน้าห้องนั้น มีผู้อารักขาเพียงคนเดียวที่ดูยังอายุไม่บรรลุนิติภาวะยืนอยู่ตรงนั้น กำลังเกาคอราวกับอยากจะเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่สามารถละเลยหน้าที่ได้

อวี้ชิงลั่วรีบวิ่งไปด้านหลังเขา ฉวยโอกาสตอนเขาไม่ตั้งตัว ตวัดมีดของซ่างกวนจิ่นปาดคอของเขาทันที

จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ผลักประตูเดินเข้าไป

ในห้องนั้นตกแต่งเรียบง่ายมาก อวี้ชิงลั่วกวาดตามอง แต่ไม่เห็นห่อสัมภาระของตนก็ขมวดคิ้ว ทำได้เพียงเริ่มค้นหาอย่างละเอียด

ทันใดนั้นก็มีเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านนอก มีสองคนเห็นนางและรีบวิ่งมาทางด้านนี้

อวี้ชิงลั่วลอบสบถในใจ รีบหลบโดยการพลิกตัว ชนเข้ากับตู้เล็กด้านข้าง ทำให้ถุงบรรจุของหล่นออกมาจากตู้

แววตาอวี้ชิงลั่วเป็นประกายทันที หยิบถุงแล้วหลบไปทางด้านข้าง กลิ้งลงบนพื้นสองครั้งพลางหยิบขวดสีแดงในถุงออกมา ถอดจุกออกแล้วสาดไปที่สองคนนั้นโดยตรง

สองคนนั้นตกใจ ยกมือขึ้นบังโดยไม่รู้ตัว แต่ที่อวี้ชิงลั่วสาดออกไปนั้นคือผงยาซึ่งกระจายอยู่ในอากาศ ไม่นานก็ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ทั้งสองคนต่างรู้สึกว่าดวงตาพร่ามัวไป

อวี้ชิงลั่วไม่รอให้พวกเขาตอบสนอง ก้าวไปข้างหน้า ปิดจมูกแล้วแทงพวกเขาทีละคน

ขอโทษทีนะน้องชาย ใครให้พวกเจ้าต้องตามข้ามาด้วยเล่า

อวี้ชิงลั่วชักมีดออก กุมถุงไว้แน่นแล้วรีบออกจากห้องไป

เมื่อมาถึงสวนหินอีกครั้ง คนที่นอนอยู่บนพื้นก็เพิ่มขึ้นมาสองสามคน ยังดีที่พวกเขาล้วนเป็นผู้อารักขาของฝั่งเหมิงพั่ว ดังนั้นสถานการณ์จึงถือว่าดีแล้วสำหรับนาง

อวี้ชิงลั่วรีบลงบันไดแล้วเข้าไปในประตูหินอีกครั้ง

แต่เทียบกับด้านนอกแล้ว สถานการณ์ของซ่างกวนจิ่นเห็นได้ชัดว่าหนักหนากว่ามาก ก่อนหน้านี้เพื่อจะเอากุญแจ เขาจึงจงใจเผยช่องโหว่ของตน รับฝ่ามือของเหมิงพั่วไว้ หลังจากนั้นก็ยังต่อสู้แล้วตกเป็นรอง ตอนนี้…

อวี้ชิงลั่วโกรธแค้นมาก บรรจุเข็มบางๆ ลงไปในปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นเอง ครั้งนี้เข็มนั้นไม่เพียงแต่อาบไปด้วยยา นางยังใส่ยาพิษเข้าไปด้วย จากนั้นก็ตะโกนใส่ซ่างกวนจิ่น “ถอยไป”

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มุมปากของซ่างกวนจิ่นก็ยิ้มออกมาทันที รีบวิ่งมาข้างกายอวี้ชิงลั่วอย่างรวดเร็ว

เหมิงพั่วดวงตาเฉียบคม เหลือบมองมายังสิ่งของในมืออวี้ชิงลั่ว มุมปากกระตุก ทันใดนั้นก็จับเอาหญิงใบ้ที่อยู่ข้างๆ มาขวางหน้าตนไว้

หญิงใบ้ตกใจมาก เงยหน้าขึ้นทันใด

“สารเลวจริงๆ” อวี้ชิงลั่วลอบสบถ วางมือลงอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

ซ่างกวนจิ่นเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าอยากจะกำจัดเหมิงพั่วในตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ รีบจับแขนอวี้ชิงลั่วแล้วกล่าว “เราไปเถิด”

“อืม” อวี้ชิงลั่วมองหญิงใบ้ด้วยความกังวลแวบหนึ่ง หญิงใบ้ยิ้มให้นาง ปลอบโยนนางอย่างเงียบๆ

อวี้ชิงลั่วกัดฟัน หันหลังกลับทันที ออกจากห้องลับไปพร้อมซ่างกวนจิ่น

เหมิงพั่วผลักหญิงใบ้ออกในทันที รีบตามไปสองสามก้าว

ถึงแม้ซ่างกวนจิ่นจะบาดเจ็บ แต่การเคลื่อนไหวก็ไม่ชักช้า หลังออกจากสวนหินแล้วก็กล่าวกับเหล่าชายชุดดำใส่หน้ากากที่ต่อสู้กับผู้อารักขาอยู่ “ถอนกำลัง”

คนเหล่านั้นเคลื่อนไหวทันที เริ่มล่าถอยกันอย่างถูกฝึกมาอย่างดี คอยขวางเหล่าผู้อารักขาที่ไล่ตามมา คอยปกป้องซ่างกวนจิ่นและอวี้ชิงลั่วออกไปจากสวนหิน

ที่นี่ดูห่างไกลมาก ราวกับว่าเป็นจวนที่พักแถบชานเมือง

หลังอวี้ชิงลั่วพยุงซ่างกวนจิ่นออกมาจากประตูใหญ่ ก็ต้องกระตุกมุมปากเมื่อเห็นทุ่งนาและป่าไม้อยู่ตรงหน้า

ไม่แปลกใจเลยที่ทั้งเรือนวุ่นวายเช่นนั้น แต่กลับไม่มีใครมาดู ที่นี่ไม่มีใครอยู่เลย เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฆ่าคนอย่างที่สุด

“ม้าของข้าอยู่ทางนั้น” ซ่างกวนจิ่นชี้ไปทางขวามือ กล่าวเสียงต่ำ “วางใจเถิด ถึงแม้ที่นี่จะห่างไกล แต่ก็ห่างจากตัวเมืองไม่ไกล ใช้ม้าเร็วเพียงครึ่งชั่วโมงก็ถึง”

อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ไม่แปลกใจเลยว่าตอนเหมิงพั่วไปเอายาให้นาง จึงใช้เวลาไปกลับไม่นานนัก

ทั้งสองคนหาม้าเจออย่างรวดเร็ว ตอนนี้อวี้ชิงลั่วก็ไม่สนใจความแตกต่างของเพศชายหญิงแล้ว ขึ้นไปในทันที ซ่างกวนจิ่นก็นั่งข้างหลังนางบนหลังม้า

แต่ก่อนที่จะได้นั่งให้ดี ด้านหลังก็มีเสียงหัวเราะเยาะของเหมิงพั่วดังลอยมา

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เหมิงพั่วสารเลวมาก กำจัดมันไม่ได้สักที

ที่หัวเราะเยาะนี่ไม่ใช่ว่าวางกับดักไว้นะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *