อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 795 แด่เย่ซิวตู๋

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 795 แด่เย่ซิวตู๋ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 795 แด่เย่ซิวตู๋

ตอนที่ 795 แด่เย่ซิวตู๋

แด่ไป๋อีเฟิง แด่ไป๋อีเฟิง แด่ไป๋อีเฟิง

หญิงบ้าอวี้ชิงลั่วนั่น ซองจดหมายด้านนอกช่างสวยงามวิจิตรยิ่ง แต่เมื่อเปิดซองจดหมายออกก็พบว่าข้างในยังมีซองจดหมายประทับครั่งปิดผนึกอยู่ อีกทั้งบนซองมีคำที่เขียนเอาไว้อย่างบรรจงว่า “แด่เย่ซิวตู๋” ทำให้ไป๋อีเฟิงมองด้วยความหงุดหงิดเสียจนแทบจะกระอักเลือดออกมา

สุดท้ายเขาก็เป็นเพียงผู้ส่งสาร

เมื่อสักครู่นี้เขาร้อนใจมาก และคิดว่าอวี้ชิงลั่วส่งข้อความถึงเขาเป็นคนแรกทันทีที่นางพ้นขีดอันตราย

อวี้ชิงลั่วกำลังแก้แค้น แก้แค้นเรื่องที่เขาขังหงเย่ไว้ในกล่องครั้งที่แล้วกระมัง ใช่แล้ว มันต้องเป็นเช่นนี้แน่

ไป๋อีเฟิงคิดด้วยความโมโห และเกือบจะขยำซองจดหมายในมือ หลังจากผ่านไปนาน ในที่สุดก็โยนซองจดหมายลงบนโต๊ะ

ช่างมันเถิด ผู้ใหญ่ไม่ถือสาผู้น้อย เขาเป็นสุภาพบุรุษผู้มีเกียรติ ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกับสตรี

ไป๋อีเฟิงสูดหายใจเข้า เมื่อเก็บจดหมายเรียบร้อยแล้ว เขาก็จัดเสื้อผ้า แล้วหันหลังเดินลงไปชั้นล่าง

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขากับเย่ซิวตู๋ได้ติดต่อกันบ่อยเพราะเรื่องตามหาอวี้ชิงลั่วที่หายตัวไป และความสัมพันธ์ก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ดังนั้นเขาจะต้องไม่กระตุ้นความสงสัยของใคร หากเขาต้องการติดต่อกับเย่ซิวตู๋

อวี้ชิงลั่วขอให้ขอทานส่งจดหมายถึงเขาก่อน แสดงว่าต้องพิจารณามาอย่างดีแล้ว

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไป๋อีเฟิงก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น

ตอนนี้เย่ซิวตู๋อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของหัวหน้าเผ่า เพื่อความปลอดภัยของหนานหนานและคนอื่น ๆ และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น

เมื่อไป๋อีเฟิงมาถึงคฤหาสน์ เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองไปยังกำแพงประตูสูง เมื่อเทียบกับคฤหาสน์ของผู้อาวุโสของตระกูลทั่วไป คฤหาสน์ของหัวหน้าเผ่านั้นสูงกว่าและยิ่งใหญ่กว่ามาก ท่านประมุขมีสถานะอันสูงส่ง และเป็นผู้ปกครองชาวเหมิงทุกคน สถานะของเขาในเผ่าเหมิงเทียบเท่ากับฮ่องเต้ทีเดียว

ดังนั้นคฤหาสน์ที่นี่ย่อมมีลักษณะเหมือนกับพระราชวัง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือรูปแบบ มันแตกต่างจากคฤหาสน์ที่ผู้อาวุโสของตระกูลธรรมดาอาศัยอยู่

เพียงแค่ท่านประมุขแห่งเผ่าเหมิงไม่ได้เป็นเจ้าของสามพระตำหนักหกหมู่เรือนเหมือนฮ่องเต้ ดังนั้นพื้นที่ของคฤหาสน์จึงไม่ได้กว้างใหญ่เท่ากับพระราชวังของฮ่องเต้

ไป๋อีเฟิงยืนอยู่ที่ประตู แล้วยามหน้าประตูก็ขวางเขาไว้ทันที

แม้พวกเขาจะรู้จักหน้าตาของไป๋อีเฟิง แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้เขาเข้าไปได้หากไม่มีตราสัญลักษณ์

“ข้ามาหาเย่ซิวตู๋ โปรดแจ้งให้เขาทราบด้วย”

ยามทั้งสองมองหน้ากัน แล้วพูดเสียงเบาว่า “คุณชายไป๋ นายน้อยเย่ออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว และยังไม่กลับมาเลยขอรับ”

ออกไปแล้ว? ไป๋อีเฟิงขมวดคิ้วและคิดว่า ตอนนี้ยังไม่พบคนที่สังหารผู้อาวุโสสกุลหมิง อวี้ชิงลั่วก็มาหายตัวไปอีก เป็นไปไม่ได้ที่เย่ซิวตู๋จะเอาแต่นั่งรออยู่ในคฤหาสน์ใหญ่แห่งนี้ เขาคงวิ่งวุ่นไปทั่วเป็นแน่

เขาเงียบ แล้วถามอีกว่า “แล้วพวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาไปที่ใด?”

ผู้คุมคนหนึ่งส่ายหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่านายน้อยเย่อยู่ที่ใด?”

ไป๋อีเฟิงถอนหายใจ ใช่ เขาถามคำถามงี่เง่าเสียจริง

แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องส่งจดหมายที่อยู่ในอ้อมแขนเสื้อของเขาให้ได้ เพื่อให้เย่ซิวตู๋และหนานหนานรู้สึกสบายใจขึ้น

“แล้วหนานหนานเล่า? หนานหนานอยู่ในนั้นหรือไม่?”

“นายน้อยหนานหนานอยู่ที่นี่ ข้าจะเข้าไปแจ้งเดี๋ยวนี้ คุณชายไป๋โปรดรอสักครู่ขอรับ”

“ขอบคุณ”

ไป๋อีเฟิงพยักหน้า เขายืนพิงกำแพงสูงด้านข้าง พลางครุ่นคิดเรื่องอวี้ชิงลั่วอยู่ในใจ

ใครคือคนที่จับตัวอวี้ชิงลั่วไป แล้วเหตุใดหลังจากที่นางรอดพ้นจากอันตราย นางกลับไม่รีบไปพบเย่ซิวตู๋? แล้วนางหนีไปได้อย่างไร? มีคนช่วยนางไว้หรือนางหนีออกมาเอง?

ไป๋อีเฟิงรู้ว่าอวี้ชิงลั่วต้องเขียนเล่าเรื่องเหล่านี้ไว้ในจดหมาย

เขารู้สึกคันมือเล็กน้อย เพราะอยากจะเปิดซองอ่าน แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง

แต่เขาอยากรู้อยากเห็นมาก หากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข เขาจะนอนไม่หลับ

มือของไป๋อีเฟิงเริ่มขยับไปมา เขาล้วงเข้าไปในแขนเสื้อของตน แล้วสัมผัสมุมซองจดหมายและเกือบจะดึงมันออกมา

จะทำอย่างไรดี? จะทำอย่างไรดี? ต้องการจะอ่านมันจริงหรือ? ลองดูสิ หลังจากที่จดหมายถูกยื่นให้หนานหนานแล้ว เขาก็จะต้องเปิดมันออกอ่านแน่นอน ตราบใดที่เขาเปิดอ่านแล้วเก็บไว้ให้เป็นรูปร่างเดิม หนานหนานก็จะไม่มีทางรู้แน่นอน

ไม่ได้ๆๆ แม้หนานหนานจะตัวเล็ก แต่เขาก็ฉลาดเป็นกรด แตกต่างจากเด็กทั่วไปที่ถูกหลอกได้ง่าย

“ท่านอาไป๋ ท่านอาไป๋ ท่านอา ท่านอาไป๋!!!”

ไป๋อีเฟิงกำลังคิดเรื่องความเป็นความตายอยู่ ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นข้างหลังเขา

เขาสะดุ้งเฮือกจนแทบกระโดดโหยง เมื่อหันกลับมาเห็นท่าทางที่ไม่ปรานีของหนานหนาน เขาก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น กระแอมเบา ๆ แล้วถามด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ ว่า “อะไร เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น หนานหนาน” มาหาข้ามีอะไรหรือ?”

ให้ตายเถิด หนานหนานมาเร็วถึงเพียงนี้ได้อย่างไร? เขาพยายามชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง และเกือบจะจนปัญญาแล้ว

สีหน้าของหนานหนานมืดมนลงทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นท่านอาไป๋เองที่เป็นฝ่ายมาหาเขา แต่ตอนนี้กลับมาถามเขาว่ามีอะไรหรือไม่?

“ท่านอาไป๋ ถ้าท่านไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับข้า ข้าจะกลับเข้าไปแล้ว ข้ากำลังคุยเรื่องท่านแม่ของข้ากับน้องอวี้ และข้าก็ถูกขัดจังหวะเพราะท่าน” หนานหนานทำหน้ามุ่ย เมื่อสักครู่นี้เขากำลังช่วยน้องอวี้วิเคราะห์ว่าใครคือคนที่จับตัวแม่ของเขาไป

น้องอวี้ฉลาดมาก พวกเขาทั้งสองพูดคุยถกเถียงกันเรื่องต่าง ๆ มาระยะหนึ่งแล้ว และพวกเขาก็พยายามจะคิดให้ออก

น้องอวี้หรือ? ไป๋อีเฟิงกะพริบตา แล้วทันใดนั้นก็ตระหนักได้ โอ้ ที่แท้ก็เป็นหลานสาวของผู้อาวุโสสกุลเยว่ ที่ช่วยให้นางสามารถจัดการผู้อาวุโสสกุลลี่และเหมิงเคอได้นั่นเอง และเขาก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน

ดูเหมือนเขาจะเคยได้ยินเย่ซิวตู๋เล่าว่าเหมิงหลัวอวี้ถูกท่านประมุขพาตัวไปอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ แม้นางจะค้นพบเรื่องใหญ่ของท่านประมุขก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ผู้อาวุโสสกุลเยว่จึงรู้สึกสบายใจ และอุทิศตนเพื่อค้นหามือสังหารที่มาฆ่าผู้อาวุโสสกุลหมิงได้เต็มที่

ไป๋อีเฟิงมองไปยังสายตาเหยียดหยามของหนานหนานที่จ้องมองมา แล้วจับจมูกตนเองเบา ๆ ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ามาที่นี่ เพราะข้ามีบางอย่างจะบอกเกี่ยวกับแม่ของเจ้า”

“จริงหรือ?” หนานหนานตะโกน ดวงตาของเขาเป็นประกายทันที “ท่าน ท่านรู้แล้วหรือว่าแม่ของข้าอยู่ที่ใด?”

“เบา ๆ” ไป๋อีเฟิงรีบดึงเขาออกไปสองสามก้าวไปยังมุมหนึ่ง ก่อนมองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่าไม่มีใครอยู่ จากนั้นดึงจดหมายออกมาจากแขนเสื้อของเขาอย่างระมัดระวัง และส่งให้เขาด้วยรอยยิ้ม “นี่ แม่ของเจ้าสั่งให้ขอทานเอามาให้ข้า เดิมทีข้าต้องการมาหาพ่อของเจ้า แต่เขาไม่อยู่ที่นี่ ข้าจึงนำมาให้เจ้าก่อน เพื่อให้เจ้าสบายใจเมื่อรู้ว่าแม่ของเจ้าอยู่ที่ใด”

หนานหนานคว้าซองจดหมายมาฉีกออกอย่างกระตือรือร้น แล้วคลี่จดหมายออก

เขาอ่านแค่บรรทัดแรกก็เห็นว่าแม่ของเขาบอกว่านางหนีไปแล้ว เขาจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความดีใจทันที

ไป๋อีเฟิงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมาก เขาฉวยโอกาสที่หนานหนานเผลอ เขาหันศีรษะไปทางอื่นและแตะไหล่ของหนานหนาน ในที่สุดเขาก็เห็นสามคำที่เขียนว่า “เย่ซิวตู๋”

คาดไม่ถึงว่าขณะที่เขามองลงไปนั้น หนานหนานก็พับกระดาษจดหมายแล้วยัดกลับเข้าไปในซองจดหมายอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ไป๋อีเฟิงยังไม่ทันได้ตอบสนอง เขาก็หันหลังวิ่งหนีไปแล้ว

……………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

โอ้น่าสงสารคนส่งสารจริงๆ อยากรู้ตั้งนานว่าในจดหมายมีอะไรก็ไม่ได้รู้สักข้อความ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *