อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 811 เกลียดชังอวี้ชิงลั่ว

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 811 เกลียดชังอวี้ชิงลั่ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 811 เกลียดชังอวี้ชิงลั่ว

ตอนที่ 811 เกลียดชังอวี้ชิงลั่ว

ห้องที่อวี้ชิงลั่วเลือกล้วนเป็นห้องที่ดีที่สุด อย่างไรเสียซ่างกวนจิ่นก็เป็นผู้จ่ายอยู่ดี

หลังจากแบกซ่างกวนจิ่นเข้าไปในห้อง ผู้อารักขาก็ปิดประตูอย่างเงียบเชียบ

อวี้ชิงลั่วนั่งอยู่ในห้องพักหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ลงไปชั้นล่าง นั่งอยู่ไม่ไกลจากสองสามคนที่คุยกันเมื่อครู่นัก เม้มปากจิบชาเงียบๆ

การเคลื่อนไหวของเย่ซิวตู๋ช่างรวดเร็วฉับไว ยังไม่ทันจะพ้นช่วงเวลาเช้า ข่าวที่ว่าผู้อาวุโสสกุลหมิงฟื้นขึ้นมาก็แพร่ไปทั่วเมืองหลวง ตอนนี้ทุกที่ต่างก็พูดคุยกันเรื่องนี้

“ผู้อาวุโสสกุลหมิงฟื้นขึ้นมาก็ดีแล้ว ช่วงนี้ทั่วดินแดนเหมิงบรรยากาศไม่ดีนัก คนจำนวนไม่น้อยกล่าวว่าคนที่ลงมือคือท่านประมุข ซึ่งข้าคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ ผู้อาวุโสสกุลหมิงจะต้องรู้เป็นแน่ว่าใครคือมือสังหาร ขอเพียงเขาชี้ตัว ก็จะเปิดเผยความจริงทุกอย่างได้แล้ว”

“แต่ข้าได้ยินมาว่า คนของท่านประมุขคอยคุ้มกันจวนผู้อาวุโสสกุลหมิงอยู่ หากเป็นฝีมือของท่านประมุขจริง เช่นนั้นต่อให้ผู้อาวุโสสกุลหมิงฟื้นขึ้นมา ก็ไม่สามารถบอกอันใดได้หรอกกระมัง”

“เฮ้อ ไม่ว่าจะอย่างไร ในจวนนั้นก็ยังมีครอบครัวของผู้อาวุโสสกุลหมิงอยู่ อย่างไรก็ต้องมีข่าวออกมาเสมอๆ”

“พวกเจ้าอย่าไร้เดียงสากันไปหน่อยเลย ข้าได้ยินมาว่าสมาชิกครอบครัวผู้อาวุโสสกุลหมิงคนอื่นๆ ล้วนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเขา และไม่รู้ว่าการที่ผู้อาวุโสสกุลหมิงฟื้นขึ้นมาถือเป็นเรื่องดีหรือไม่”

อวี้ชิงลั่วรู้สึกว่าที่พวกเขาพูดคุยกันนั้นก็ล้วนมีเหตุผล หากไม่ใช่เพราะนางมีส่วนเกี่ยวข้อง ตนก็คงได้รับอิทธิพลจากข้อความเหล่านี้ และในใจจะต้องนึกสงสัยท่านประมุขเป็นแน่

แต่น่าเสียดาย ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว เหมิงลู่คงไม่อาจยับยั้งได้มากนัก ไม่อย่างนั้นสถานการณ์คงเป็นไปในทางตรงกันข้าม ทำให้ทุกคนยิ่งรู้สึกว่าท่านประมุขกำลังร้อนตัว

ตอนนี้จึงทำได้เพียงต้องตามหามือสังหารให้เร็วที่สุดเท่านั้น

อวี้ชิงลั่วจิบชาอีกอึก แล้วหันหลังกลับขึ้นชั้นบนไป

เมื่อเดินมาถึงตรงมุม ก็ได้เห็นผู้อารักขาคนก่อนหน้าพาสตรีนางหนึ่งเดินเข้าไปในห้องของซ่างกวนจิ่นพอดี

อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว หญิงสาวหรือ? ดูจากเสื้อผ้าของหญิงผู้นั้นแล้วเหมือนจะเป็นชุดของชาวอาณาจักรจิงเหลยเสียด้วย ก็จริง…ตอนนี้อวี้ชิงลั่วรู้ว่าข้างกายเขามีผู้อารักขา มีคนคอยดูแลแล้ว ก็ย่อมไม่จำเป็นต้อง ‘อดทนทำงานหนัก’ ดั่งเช่นก่อนหน้า แม้แต่ยาก็ต้องให้นางต้มให้ไปวางตรงหน้าเขา

ผู้อารักขาเหล่านั้นล้วนสะเพร่า หากจะให้ไปดูแลคนป่วยย่อมไม่เหมาะ ทำได้เพียงหาคนรับใช้มาคอยรับใช้เท่านั้น

ซ่างกวนจิ่นมาเยือนดินแดนเหมิง ย่อมได้รับการต้อนรับอย่างดีจากท่านประมุข สถานที่พักผ่อนย่อมต้องดีกว่าที่นี่มาก ครั้งนี้เขามาช่วยนางและร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงไม่ได้กลับไปยังที่พักเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น เช่นนั้นคนรับใช้ของเขาก็ต้องยังอยู่ที่เดิมด้วย

ซ่างกวนจิ่นผู้นี้เป็นคนรอบคอบระมัดระวัง ไม่มีทางใช้งานคนรับใช้แปลกหน้า ดังนั้นทำได้เพียงส่งคนไปยังที่พักของเขาแล้วพาสาวใช้ของตนมา

อวี้ชิงลั่วยักไหล่ กลับไปที่ห้องของตน

เย่ซิวตู๋ให้เวลานางเพียงสองวัน สองวัน… คนผู้นั้นช่างขี้งกเสียจริง ให้เวลาเพิ่มอีกไม่กี่วันจะเป็นไรไป เรื่องนี้หนักหนาสาหัสมาก นางต้องจัดการให้ชัดเจนจึงจะถูก

เสียงเคาะประตูดัง ‘ก๊อกๆ’ มาจากด้านนอก อวี้ชิงลั่วหันหน้าไปถาม “นั่นใคร?”

“แม่นางอวี้ นายท่านขอเชิญแม่นางไปพบขอรับ” ยังคงเป็นผู้อารักขาเย็นชาที่ไม่เป็นมิตรกับนางผู้นั้น

อวี้ชิงลั่วยักไหล่ คนผู้นี้ช่างขัดลูกตาเสียจริงๆ นางจึงเปิดประตูห้องโดยไม่มองเขาแม้แต่แวบเดียว เดินผ่านเขาตรงไปยังห้องของซ่างกวนจิ่น

หลังเรียกสาวรับใช้มาทำความสะอาด ห้องนั้นก็ดูสะอาดเอี่ยมกว่าเดิมมากยิ่งขึ้น บนโต๊ะมีกระถางธูปหอมตั้งอยู่ ทำให้ในห้องมีกลิ่นหอมสะอาดของมะลิอบอวล

ซ่างกวนจิ่นเอนกายอยู่บนเก้าอี้ยาว สาวใช้ที่อยู่ด้านข้างกำลังป้อนยาให้เขา เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา ก็ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามามอง

อวี้ชิงลั่วเองก็รู้ดีว่าต้องทำเช่นไร รินน้ำให้ตนเองดื่มจอกหนึ่งอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อนแม้แต่น้อย จนกระทั่งซ่างกวนจิ่นค่อยๆ ดื่มยาจนหมดถ้วย นางจึงวางจอกลง ถามเขาด้วยเสียงต่ำ “เรียกข้ามามีเรื่องอันใดหรือ?”

ซ่างกวนจิ่นโบกมือให้สาวใช้ไปอยู่ด้านข้าง ผ่านไปครู่หนึ่งจึงหรี่ตาแล้วกล่าว “เมื่อครู่ตอนอยู่ชั้นล่างเจ้าน่าจะได้ยินแล้ว ผู้อาวุโสสกุลหมิงฟื้นแล้ว เจ้าคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร”

อวี้ชิงลั่วกะพริบตา “คิดเห็นอย่างไรหรือ? ผู้อาวุโสสกุลหมิงเป็นท่านตาทวดของหนานหนาน ได้ยินข่าวนี้แล้ว ข้ายังไม่ทันแม้แต่จะดีใจ แล้วยังต้องคิดเห็นอย่างไรอีกหรือ?”

“เจ้าเชื่อจริงหรือว่าจู่ๆ เขาจะฟื้นขึ้นมา” เขาจงใจเน้นคำว่า ‘จู่ๆ’ จ้องมองนางเขม็ง

อวี้ชิงลั่วนิ่งไปแล้วขมวดคิ้ว “ก็คงไม่ใช่ว่าจู่ๆ กระมัง ข้ารู้จักฝีมือของหมอเฒ่าฉยงซานดี หากเขารักษาคนไข้มานานแต่ยังไม่ดีขึ้นก็คงจะเสียชื่อ ข้าคิดว่ามีหมอเฒ่าฉยงซานอยู่ อย่างไรผู้อาวุโสสกุลหมิงก็ต้องฟื้นอย่างแน่นอน”

ซ่างกวนจิ่นมองนางอยู่นานอีกครั้ง จากนั้นก็หลับตา ไม่กล่าวอันใดอีก

ในใจอวี้ชิงลั่วกลับกำลังคิดถึงแผนการของเย่ซิวตู๋อยู่ เขาพูดไว้ไม่ผิด แผนการเช่นนี้ตื้นเขินเกินไป คนทั่วไปย่อมสงสัยเอาได้

แต่ไม่ว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ มือสังหารย่อมต้องส่งคนไปตรวจสอบเผื่อเอาไว้ เป้าหมายของเย่ซิวตู๋ในครั้งนี้คงไม่ใช่ผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง ขอเพียงจับหนูทรยศหนึ่งหรือสองตัวให้ได้เท่านั้น วิธีการเช่นนี้ก็ถือว่าใช้ได้อยู่

“ไปเอาอาหารมาเสีย”

อวี้ชิงลั่วกำลังจมอยู่ในห้วงความคิด อยู่ดีๆ ซ่างกวนจิ่นก็เอ่ยปากสั่งสาวรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง

สาวรับใช้พยักหน้า รีบเปิดประตูเดินออกไป

หนึ่งก้านธูปหลังจากนั้น อาหารและเครื่องดื่มดีๆ ก็ถูกยกมาวาง

อวี้ชิงลั่วกระตุกมุมปาก กล่าวอย่างเรียบๆ “ไปเอาโจ๊กและเครื่องเคียงมาอีกหน่อยเถิด”

สาวใช้ผู้นั้นมองนางอย่างแปลกใจเล็กน้อย จากนั้นก็มองซ่างกวนจิ่น หลังจากอีกฝ่ายพยักหน้า นางก็ออกจากห้องแล้วนำอาหารอีกชุดเข้ามา

อวี้ชิงลั่วหยิบตะเกียบขึ้นมา มองไปยังอาหารหรูหราบนโต๊ะดวงตาเป็นประกาย โรงเตี๊ยมไหลฝูไม่ถือว่าเป็นโรงเตี๊ยมชั้นดีอันใดนัก อาหารก็ธรรมดา พอตอนนี้มาถึงที่นี่ คุณภาพชีวิตก็ดีขึ้นอย่างมากในพริบตา

สาวใช้เห็นนางคีบอาหารก่อนก็ขมวดคิ้ว ไม่พอใจเล็กน้อย

นายท่านยังไม่ทันขยับตะเกียบ นางกลับไม่สนใจกฎอันใด กับหญิงเช่นนี้ นายท่านกลับยอมอดทนอดกลั้น ไม่ได้ไล่นางออกไป

หญิงรับใช้ถอนหายใจ จัดแจงอาหารให้ซ่างกวนจิ่น

แต่ชามนั้นยังไม่ทันได้ถูกยกไป ก็ถูกอวี้ชิงลั่วหยุดไว้เสียก่อน

“แม่นาง นี่…”

“เขาต้องกินอันนั้น” อวี้ชิงลั่วชี้ไปยังโจ๊กและเครื่องเคียงด้านข้าง หัวเราะแล้วกล่าว “เขาบาดเจ็บ ของพวกนี้ล้วนเป็นเนื้อปลาเนื้อสัตว์ ทำได้เพียงให้ข้ากินเท่านั้นแล้วล่ะ”

สาวใช้รู้สึกเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก เมื่อครู่นางสั่งให้ตนไปเอาโจ๊กและเครื่องเคียงมา ก็เพราะจะให้นายท่านกินจริงๆ น่ะหรือ คนผู้นี้จะใจร้ายเกินไปแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ควรบอกนางไว้แต่เนิ่นๆ นางจะได้ตัดคนผู้นี้ออกไปจากโต๊ะอาหารเสีย

แต่ดูตอนนี้สิ นางกินดื่มอย่างเอร็ดอร่อยเพียงคนเดียว กลับจะให้นายท่านคอยดูอยู่ข้างๆ เช่นนั้น มีหญิงสาวไร้ยางอายเช่นนางอยู่ด้วยหรือ

ซ่างกวนจิ่นกลับไม่มีปัญหาอันใด ที่ผ่านมาเขาก็เคยชินกับการ ‘ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างโหดร้าย’ ของอวี้ชิงลั่วแล้ว

“เอาโจ๊กมานี่เสีย”

สาวใช้กัดฟัน แต่ก็ช่วยยื่นอาหารให้ซ่างกวนจิ่น เห็นท่าทางซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัดของเขาแล้วก็รู้สึกปวดใจอย่างมาก

ในดวงตาคู่นั้นที่มองอวี้ชิงลั่วเต็มไปด้วยความเกลียดชังและไม่พอใจ

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ชิงลั่วคงเป็นผู้หญิงแบบที่อุปราชชอบแหละ ประเภทมีฝีมือแต่พยศจนเอาไม่ลง มันน่าจะท้าทายคนอย่างอุปราชไม่น้อย แต่ชิงลั่วมีท่านอ๋องซิวแล้ว

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *