อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 828 เส้นตายของเย่ซิวตู๋

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 828 เส้นตายของเย่ซิวตู๋ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 828 เส้นตายของเย่ซิวตู๋

ตอนที่ 828 เส้นตายของเย่ซิวตู๋

เย่ซิวตู๋หรี่ตามองดูพวกเขาพูดคุยกัน ดูทั้งสองคนแลกกระดาษข้อความและเงิน มองพวกเขาแยกย้ายกันไปคนละทางหลังผ่านไปสิบห้านาที

เย่ซิวตู๋เม้มปาก จากนั้นก็ตามชายคนเดิมไป

ทว่าเมื่อออกจากสระน้ำเล็กมาไม่ไกล ชายคนนั้นก็รู้สึกถึงลมกรรโชกที่ข้างหู ทันใดนั้นตรงหน้าก็มีชายคนหนึ่งยืนอยู่

“เจ้า…” เขามองไปยังเย่ซิวตู๋ที่สีหน้าเฉยเมยด้วยความตกใจ ทันใดนั้นก็ถอยหลังไปสองก้าว

จากนั้นก็เริ่มวิ่งหนีไปด้านหลังอย่างสุดชีวิต

เย่ซิวตู๋ไม่ได้กล่าวอะไรแม้เพียงประโยคเดียว แตะปลายเท้าแล้วกวาดไปที่ด้านหลังเขา คว้าตรงท้ายทอยของเขาทันที

เกิดเสียงดัง ‘ปึก’ พร้อมกับที่ชายคนนั้นรู้สึกว่าแข้งขาอ่อนแรง ทั้งร่างล้มตึงลงกับพื้นแล้วหมดสติไป

เย่ซิวตู๋ลากเขาไปที่มุมกำแพง ก่อนพบกระดาษข้อความและเงินสองสามเหรียญจากด้านในอกเสื้อของเขา

หลังจากยืนยันแล้วว่าบนร่างของเขาไม่มีสิ่งที่ตนต้องการอีกก็มองลงไปที่เขาและสะบัดนิ้วเล็กน้อย จนที่ลำคอของชายผู้นั้นมีรอยเลือดไหลออกมา และลมหายใจก็ค่อยๆ อ่อนลง

เย่ซิวตู๋ไม่แม้แต่จะมองเขา หันหลังเดินออกจากกำแพง

เขาเก็บกระดาษข้อความไว้ จากนั้นก็กวาดของอีกสองสามชิ้นทิ้งไป

ใบหน้าที่เขาคุ้นเคยนั้นอยู่ไม่ไกล กำลังเดินอยู่ท่ามกลางฝูงชนในตลาดกลางคืนที่คึกคัก ท่าทางดูสงบนิ่ง เพียงแต่สายตาหวาดระแวงของเขาก็ยังคงมองกวาดโดยรอบอย่างระมัดระวัง

เย่ซิวตู๋เอามือไพล่หลัง จ้องมองด้านหลังของเขาเขม็ง

เมื่อคิดถึงผู้อาวุโสสกุลหมิงที่ตอนนี้ยังคงหมดสติอยู่ เขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง อยากจะฉีกร่างของผู้บงการอยู่เบื้องหลังออกเป็นชิ้นๆ

หลังจากคนผู้นั้นค่อยๆ ฝ่าฝูงชนไปจนถึงตรอกที่ไร้คนแห่งหนึ่ง ก็เริ่มเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

เย่ซิวตู๋แค่นหัวเราะ โทสะพลุ่งพล่านขึ้น

คนผู้นั้นขมวดคิ้วเล็กน้อย หยุดฝีเท้าอย่างรวดเร็วแล้วหันหลังกลับมา ถามออกมาในความว่างเปล่ายามราตรีด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “นั่นใคร?”

“ข้าเอง!!” เย่ซิวตู๋กระโดดลงมาจากหลังคา มองเขาอย่างเย็นชา “ไม่เจอกันนานนะ องครักษ์ชี”

ชีเถิง หัวหน้ากลุ่มผู้พิทักษ์ทมิฬข้างกายของเหมิงกุ้ยเฟยที่มีอำนาจมากที่สุด หลายปีมานี้คอยช่วยเหลือเหมิงกุ้ยเฟยทำเรื่องชั่วร้ายมามากมาย แค่เพียงที่ไล่ฆ่าเขาอย่างเดียวนั้นก็ไม่ต่ำกว่าสามครั้งแล้ว

ตอนนี้จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวที่นี่ จู่ๆ ก็สื่อสารกับคนที่คอยปล่อยข่าวลือ เรื่องนี้จะต้องเป็นคำสั่งจากเหมิงกุ้ยเฟยเป็นแน่

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้เย่ซิวตู๋ผิดหวังก็คือ เหมิงกุ้ยเฟยกล้าลงมือกับผู้อาวุโสสกุลหมิง

นั่นคือบิดาแท้ๆ ของนาง ถึงนางจะไม่ชอบตนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ผู้อาวุโสสกุลหมิงก็ยังเป็นบิดาที่เลี้ยงดูนางและใจดีกับนางเป็นอย่างมาก

เย่ซิวตู๋สูดหายใจเข้าลึกๆ เหมิงกุ้ยเฟยมาแตะต้องเส้นตายของเขาเสียแล้ว

ครั้งนี้เขาจะไม่สนใจความสัมพันธ์แม่ลูกอีกต่อไป

ชีเถิงก้าวถอยหลังในทันใด แต่แววตาของเขายังคงสงบนิ่ง มองเย่ซิวตู๋อย่างใจเย็น “ท่านอ๋องซิว คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเพียงนี้ถึงได้มาพบท่านที่นี่”

“ไม่บังเอิญหรอก” เย่ซิวตู๋หยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาจากกลางอก ทันใดนั้นก็คลี่มันออกต่อหน้าเขา ยิ้มแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “องครักษ์ชีรู้จักสิ่งนี้หรือไม่”

“ท่าน…” รูม่านตาของชีเถิงหดตัว จ้องมองกระดาษแผ่นนั้นเขม็ง

เย่ซิวตู๋นำกระดาษเก็บไว้ สีหน้ายังคงเดิม เพียงแต่เส้นประสาทในร่างกายกลับตึงเครียดขึ้นมา

เขาไม่กล่าวอันใดทั้งนั้น หันหลังกลับในทันใด แล้วพุ่งโจมตีชีเถิงจากด้านหน้า

ชีเถิงเอียงคอหลบมือของเขา จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ท่านอ๋องซิว ถึงแม้วิชาของท่านจะสูงส่ง แต่หากต้องการจะจัดการข้าก็ไม่ง่ายขนาดนั้นกระมัง อย่าคิดจะขโมยไก่จนต้องเสียข้าวสารเลย ตรงกันข้าม ท่านจะต้องลำบากเสียเอง”

“อย่างนั้นหรือ?” เย่ซิวตู๋หัวเราะเย้ยหยันความมั่นใจที่อธิบายไม่ได้ของเขา “ทักษะของเจ้า เทียบกับเหมิงพั่วแล้วเป็นอย่างไร?”

“หมายความว่าอย่างไร” ชีเถิงผงะ

รอยยิ้มเย้ยหยันของเย่ซิวตู๋ยิ่งกว้างขึ้น “เจ้าตามฆ่าข้าตั้งหลายครั้ง ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ข้ากล่าวอีกหรือ ในเมื่อฝีมือของเจ้าเก่งกาจนัก เหตุใดพยายามมาหลายครั้งก็ยังฆ่าข้าไม่ได้อีกเล่า?”

“แต่ท่านได้รับบาดเจ็บ ข้ากลับอยู่ในสภาพดีเยี่ยม” ชีเถิงขมวดคิ้ว ในความทรงจำของเขา เย่ซิวตู๋รอดจากการลอบสังหารทุกครั้งได้อย่างหวุดหวิด มีอาการบาดเจ็บในร่างกายไม่มากก็น้อย

แต่ตนกลับล่าถอยได้อย่างปลอดภัยทุกครั้ง

เย่ซิวตู๋ส่ายหน้า รู้สึกว่าเขายิ่งทำตัวเด็กลงเรื่อยๆ

หลายปีมานี้เขาอยู่ข้างกายเหมิงกุ้ยเฟย ทุกอย่างราบรื่นน่าภาคภูมิใจ มีคนมากมายใต้บังคับบัญชา ทุกครั้งล้วนทำภารกิจสำเร็จอย่างราบรื่น ดูเหมือนจะทำให้เขามั่นใจในตนเองมากขึ้น ในใจก็มีอัตตาพองโตขึ้น

“องครักษ์ชีกลับไปอย่างไร้บาดแผลได้ ก็ควรขอบคุณข้าจึงจะถูก”

“หากข้าไม่บาดเจ็บเสียบ้าง ความระมัดระวังขององครักษ์ชีจะลดลงได้อย่างไร”

“หากข้าไม่ยอมถอยให้บ้าง พวกเจ้าจะรุกแล้วถอยได้อย่างไร”

“จริงสิ ข้าลืมบอกเจ้าไปเรื่องหนึ่ง”

“เหมิงพั่วได้รับบาดเจ็บ และคนที่ทำให้เขาบาดเจ็บก็คือข้าเอง”

ชีเถิงถอยเท้าหนึ่งก้าวทันที เขารู้ถึงทักษะของเหมิงพั่ว ถึงแม้ตนจะเป็นองครักษ์ที่แข็งแกร่งข้างกายเหมิงกุ้ยเฟย แต่ในใจของเหมิงกุ้ยเฟยแล้ว คนที่นางไว้ใจและพึ่งพามากที่สุดก็คือเหมิงพั่ว

เขาเองก็เคยไม่ยอมรับ แต่เมื่อลองประมือกับเหมิงพั่วแล้ว ก็พบว่าทั้งสองคนนั้นยังห่างชั้นกันมาก

ว่ากันว่าวรยุทธ์ของดินแดนเหมิงนั้นพิสดารเสียจนยากจะเรียนรู้ หลังจากเขาได้ประมือกับเย่ซิวตู๋สองสามครั้งก็รู้สึกว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เป็นการกล่าวกันเกินจริงจนไม่สามารถเชื่อถือได้

แต่เมื่อได้ประมือกับเหมิงพั่วแล้วจึงได้รู้ ว่ามีเหตุผลให้ดินแดนเหมิงอยู่อย่างเป็นอิสระได้ เขายิ่งรู้สึกว่าการฝึกฝนของเย่ซิวตู๋ยังไม่ดีพอ ไม่สามารถเรียนรู้วรยุทธ์ของดินแดนเหมิงได้ จึงแพ้ให้กับตน

แต่ดูท่าตอนนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของเย่ซิวตู๋ที่ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น

ตั้งแต่แรกนั้น เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะต่อสู้กับตนอย่างจริงจัง เดิมทีไม่เคยเห็นเขาในสายตาเลย

เหมิงพั่วบาดเจ็บ เขารู้ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้สติ และไม่มีใครรู้ว่าใครทำร้ายเขา

แต่ชีเถิงคิดไม่ถึงจริงๆ ตอนนี้มือสังหารอยู่ตรงหน้าเขา อีกทั้งหลังจากประมือกับเหมิงพั่วแล้ว ร่างกายก็ยังสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลแม้แต่น้อย

เย่ซิวตู๋หัวเราะออกมา รอยยิ้มของเขาเย็นชา พลังที่แผ่ออกมาเพิ่มขึ้นในทันที

ชีเถิงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าตนหยิ่งยโสเกินไปแล้ว

เขาเริ่มรู้สึกกลัว ถอยหลังไปทีละก้าว

เย่ซิวตู๋เองก็เข้าใกล้ไปทีละก้าว เพียงก้าวเล็กๆ ก็เข้าโจมตีเขาอีกครั้ง

ชีเถิงรีบยกมือขึ้นป้องกัน ไม่กล้าประมาทอีกแม้แต่นิดเดียว ใช้กำลังทั้งหมดเพื่อรับมือกับการโจมตีของเย่ซิวตู๋

ทั้งสองคนต่อสู้กันในตรอกเล็กเงียบสงัดอย่างรุนแรงเป็นพิเศษ

ถึงแม้ฝีมือของชีเถิงจะยังอ่อนกว่าเหมิงพั่วหน่อย แต่อย่างไรก็ยังเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ทมิฬของเหมิงกุ้ยเฟย จะจัดการเขาในทันทีนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

แต่เย่ซิวตู๋ไม่มีเวลามาเสียไปกับเขา เขาจะต้องรีบสู้ให้จบเสีย

ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจ เย่ซิวตู๋ก็เร่งความเร็วขึ้นมาก

ชีเถิงรู้สึกว่าดวงตาเริ่มวิงเวียน ร่างของคนข้างหน้าเริ่มปรากฏเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน

ชีเถิงรู้ว่านี่คือวรยุทธ์ของดินแดนเหมิง เมื่อก่อนเหมิงพั่วก็เคยแสดงให้เขาเห็น เพียงแต่ความเร็วนั้น… ยังห่างไกลจากความเร็วของเย่ซิวตู๋นัก ทั้งยังไม่… งดงามเช่นนี้อีกด้วย

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ศัตรูเก่าที่เคยตามฆ่าท่านอ๋องตั้งแต่เด็กนี่เอง ว่าแต่ทำไมเหมิงกุ้ยเฟยต้องพยายามฆ่าลูกในไส้ด้วยนะ?

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *