อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 947 ผิดปกติอย่างมาก

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 947 ผิดปกติอย่างมาก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 947 ผิดปกติอย่างมาก

ตอนที่ 947 ผิดปกติอย่างมาก

อวี้ชิงลั่วประหลาดใจมาก รีบเดินตรงไปแล้วถามเสียงต่ำ “มีอะไรหรือ?”

หรือทหารยามผู้นั้นช่างกล้ามาก กล้ายั่วอารมณ์ให้เย่ซิวตู๋กลายเป็นเช่นนี้

เย่ซิวตู๋มองไปทางเหล่าเด็กๆ แวบหนึ่ง จากนั้นก็หยุดฝีเท้า ลดเสียงลงต่ำแล้วกล่าว “เมื่อครู่ฟ่านผิงอวิ๋นมาบอกว่าพี่สามพี่สี่แอบไปที่ตำหนักของน้องเจ็ด” ไม่ว่าจะลดเสียงลงต่ำเพียงใด แต่น้ำเสียงกลับเย็นชาอย่างมาก

อวี้ชิงลั่วใจเต้นไม่เป็นจังหวะ องค์ชายสามและองค์ชายสี่… เป็นพันธมิตรกับองค์ชายเจ็ดแล้วหรือ?

ถึงแม้องค์ชายสามและองค์ชายสี่จะไม่ใช่ผู้ที่เหมาะสมจะชิงตำแหน่งรัชทายาท ทั้งยังเป็นองค์ชายประเภทที่มีใจทะเยอทะยานแต่ไม่มีอำนาจ แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น พวกเขาก็เคยเตรียมพร้อมเพื่อต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งนั้นมาก่อน ทั้งแผนการไปจนถึงผู้คนในมือที่ใช้ประโยชน์ได้นั้นล้วนมีไม่น้อย

ต่อให้พวกเขามีอำนาจเพียงน้อยนิด แต่เมื่อร่วมมือกับองค์ชายเจ็ดและเหมิงกุ้ยเฟย เช่นนั้นก็เป็นอำนาจที่ไม่อาจมองข้ามได้

อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วจนเป็นปม ช่วงที่พวกเขาไม่อยู่เมืองหลวง ดูเหมือนเหมิงกุ้ยเฟยและองค์ชายเจ็ดจะไม่ได้อยู่เฉยแม้แต่น้อย คงเตรียมการเอาไว้ไม่น้อยแล้วกระมัง

นางจับมือของเย่ซิวตู๋ กล่าวเบาๆ “เป้าหมายขององค์ชายเจ็ดเป็นท่านมาโดยตลอด ตอนนี้พวกเขาร่วมมือกัน เกรงว่าเพื่อต้องการจัดการท่าน ท่านคิดว่าควรไปหาท่านอ๋องเป่าหรือไม่ก็… องค์ชายหกบ้างดีหรือไม่?”

เย่ซิวตู๋เม้มปาก ผ่านไปครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า “ตัวน้องหกเองก็ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับข้า ตอนนี้เสด็จพ่อกระทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าผลักให้เขาตกเป็นเป้า เกรงว่าน้องหกและหมิ่นเฟยก็คงเข้าใจว่าเสด็จพ่อกำลังปูทางให้ข้า ไม่แน่ว่าในใจพวกเขาอาจจะเกลียดข้าไปแล้วก็เป็นได้”

เขากล่าวจบก็หยุดไป จากนั้นก็กล่าวเบาๆ อีกครั้ง “ต่อให้ไม่เกลียด แต่การมีความสัมพันธ์ซับซ้อนอยู่เช่นนี้ ทำให้ข้าไม่วางใจจะจับมือกับเขาอยู่ดี”

อวี้ชิงลั่วคิดๆ ดูก็จริงอยู่ นางเองก็สับสนเล็กน้อย

ดูท่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือต้องดึงเหมิงกุ้ยเฟยลงมาก่อน ขอเพียงนางล้ม การผูกมิตรขององค์ชายเจ็ดและพวกองค์ชายสามก็จะล้มเหลวไปด้วย

จริงสิ ก่อนอื่นก็ต้องหาจุดอ่อนของเหมิงกุ้ยเฟยก่อน จะช้าอยู่ไม่ได้แล้ว นางต้องรีบไปที่จวนอวี๋เพื่อหาสิ่งของที่แม่นมเก๋อกล่าวถึง

อวี้ชิงลั่วตัดสินใจ ดังนั้นเช้าตรู่วันต่อมา ระหว่างที่เย่ซิวตู๋เข้าวัง นางก็แอบไปที่จวนอวี๋อย่างเงียบๆ

นางเคยมาที่จวนอวี๋สองสามครั้ง รู้จักเส้นทางมานานแล้ว สำหรับนางแล้วไม่ถือว่าแปลกตา

เพียงแต่นางเหาะไม่ได้ จะเข้าจวนอวี๋ไปโดยที่ไม่มีใครรู้ได้อย่างไร ช่างเป็นปัญหาที่ยากจริงๆ หากเป็นไปได้นางก็อยากจะทำให้คนเฝ้าประตูหมดสติไปเสียเลย แต่ก็กลัวว่าจะทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น

อวี้ชิงลั่วยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่ห่างจากจวนอวี๋กว่ายี่สิบหมี่ เท้าคางแล้วจมอยู่ในห้วงความคิด

หลังจากอยู่เฉยๆ เกือบครึ่งชั่วยาม นางก็ยังคิดแผนการที่สมบูรณ์ไม่ออก หยุดไปครู่หนึ่ง ทำได้เพียงเดินอ้อมไปที่ประตูหลังอีกครั้ง

ประตูหลังอ้างว้างและเงียบงัน แต่ก็ยิ่งจนปัญญาเข้าไปใหญ่

หลังเงียบไปครู่หนึ่ง นางก็อ้อมไปที่ประตูหน้าอีกครั้ง ทันใดนั้นก็เห็นว่าใต้ต้นไม้ที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ มีเด็กห้าหกคนเล่นกันอยู่ทางด้านนั้น

แววตาของอวี้ชิงลั่วเป็นประกาย หยิบผ้าไหมพันคอออกจากแขนเสื้อมาปิดหน้าตนเอง จากนั้นก็เดินไปทางเด็กกลุ่มนั้นพร้อมรอยยิ้ม

“พี่สาวมีเรื่องอยากให้พวกเจ้าช่วยหน่อย”

เด็กๆ เหล่านั้นชะงักไป เอียงคอมองนาง เห็นว่านางไม่ได้มีท่าทีเลวร้ายอันใด เด็กชายหนึ่งในนั้นที่โตหน่อยก็เดินมาข้างหน้าแล้วถาม “ช่วยอันใดหรือขอรับ?”

อวี้ชิงลั่วชี้ไปที่ประตูใหญ่ของจวนอวี๋ กล่าวด้วยเสียงเบาๆ สองสามประโยค

จากนั้นก็หยิบลูกอมออกมาจากกระเป๋าที่พกติดตัวกำมือหนึ่ง “อันนี้ให้พวกเจ้าแบ่งกัน แล้วก็ยังมีเงินอีกคนละห้าเหรียญทองแดงด้วย”

ทันใดนั้นเหล่าเด็กๆ ก็ถูกดึงดูดสายตาด้วยลูกอมในมือนางที่ดูสวยงามน่าสนใจเป็นอย่างมาก แววตาของทุกคนล้วนดูปรารถนา

อวี้ชิงลั่วรู้ว่าพวกเขาล้วนเป็นเด็กๆ จากครอบครัวธรรมดา พี่น้องในครอบครัวมีหลายคน การจะซื้อขนมในยามปกตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

นางหยุดไป จากนั้นก็นำลูกอมในกระเป๋าเล็กๆ ออกมาทั้งหมด ทั้งยังมีขนมอบและผลไม้เชื่อมสองสามชิ้นที่หนานหนานเก็บเอาไว้ในกระเป๋าของนางด้วย

เด็กๆ เหล่านั้นตอบตกลงในทันที “พี่สาว ท่านวางใจเถิด พวกเราจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จเป็นแน่”

อวี้ชิงลั่วลูบศีรษะของพวกเขา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นต้องรบกวนพวกเจ้าแล้ว ระวังตัวด้วย”

เด็กเหล่านั้นพยักหน้า เก็บของทั้งหมดไว้ในอ้อมแขนอย่างระมัดระวังด้วยความยินดีปรีดา

ต่อจากนั้น เด็กสองสามคนที่โตหน่อยก็หาก้อนหินมาเล็กน้อย วิ่งไปที่ประตูใหญ่ของจวนอวี๋แล้วเริ่มขว้างมันใส่ประตูอย่างแรง

ไม่นานนักประตูจวนอวี๋ก็ถูกเปิดออก เด็กรับใช้ผู้ชายคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนคนเฝ้าประตูก็ออกมา กัดฟันต่อว่าเด็กกลุ่มนั้น “พวกเจ้าทำอะไรกัน อยากตายหรือ?”

“นี่เป็นบ้านของคนชั่ว เป็นบ้านของขุนนางกังฉิน พวกเราจะตีขุนนางกังฉิน”

เด็กที่โตที่สุดตะโกนเสียงดัง สองสามคนก็เขวี้ยงก้อนหินใส่ประตูใหญ่อีกครั้ง

เด็กรับใช้คนนั้นเบิกตากว้าง ยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีดุร้าย ชี้พวกเขาแล้วกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “หากยังพูดจาไร้สาระอีก ข้าจะไม่เกรงใจล่ะนะ”

เด็กกลุ่มนั้นหัวเราะแล้ววิ่งกระจายกันออกไปในทันที

เด็กรับใช้ถอนหายใจ จากนั้นก็เข้าประตูใหญ่ไปอีกครั้ง

ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะปิดประตู เด็กกลุ่มนั้นก็กลับมาอีก เขวี้ยงหินใส่ประตูใหญ่อีกครั้ง

เด็กรับใช้โกรธมาก กัดฟันเดินออกมา ด่าทอพวกเขาอีกชุดหนึ่ง ทำท่าเหมือนจะตีพวกเขา

เด็กกลุ่มนั้นก็วิ่งหนีเหมือนผึ้งแตกรังไปอีกครั้ง

เป็นเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเด็กรับใช้ผู้นั้นและคนเฝ้าประตูอีกคนหนึ่งก็ทนไม่ได้อีกต่อไป โน้มตัวไปหยิบไม้กวาดแล้ววิ่งไล่ออกมา

อวี้ชิงลั่วแววตาเป็นประกาย เห็นประตูใหญ่เปิดกว้างและช่องว่างที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนก็รีบแทรกตัวเข้าไปทันที

จากนั้นก็หามุมมุมหนึ่งเพื่อซ่อนตัว

ไม่นานนัก เด็กรับใช้สองคนที่วิ่งไล่ออกไปก็กลับเข้ามาพลางสบถไปด้วย

“โชคร้ายจริงๆ เพราะพวกมันวิ่งกันเร็วหรอกนะ ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยพวกมันไว้แน่”

“นั่นน่ะสิ ว่องไวอย่างกับลิง ครู่เดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว คราวหน้าอย่าให้ข้าจับได้เชียว ไม่อย่างนั้นข้าจะถลกหนังพวกมันไม่ให้เหลือแน่”

อวี้ชิงลั่วเงี่ยหูฟังอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก ดูท่าเด็กกลุ่มนั้นคงปลอดภัยแล้ว

จากนั้นนางก็มุ่งความสนใจไปที่จวนอวี๋ คอยหาเส้นทางที่ไม่มีคนไปยังเรือนที่นางเคยอาศัยอยู่ทีละก้าว

เพียงแต่ยิ่งเดินไป นางก็ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลก

นอกจวนอวี๋นั้นดูแล้วเงียบเหงา ราวกับว่าโดดเดี่ยว ท้อใจ หมดอาลัยตายอยากเพราะอวี๋จั้วหลินถูกจับ

นางนึกว่าเมื่อในจวนไม่มีเจ้านายแล้ว ก็ควรจะโกลาหลวุ่นวายจึงจะถูก

แต่ตลอดทางที่นางเดินมา พบว่าท่าทางของคนรับใช้นั้นดูเรียบร้อย ถึงขนาดที่ว่าดูเป็นระเบียบกว่าที่นางมาครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด

ดอกไม้พืชพันธุ์ในจวนเองก็ได้รับการดูแลจนงดงามเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะไปตรงไหนก็ดูเรียบร้อยไปหมด แม้แต่ตอนที่ข้ารับใช้พูดคุยกันระหว่างเดินก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มเลยแม้แต่น้อย

ผิดปกติ ผิดปกติอย่างมาก

เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี จวนอวี๋ช่างแปลกนัก

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ดูผิดปกติมาก ระวังกับดักนะชิงลั่ว

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด