อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 221 ท่านอ๋องซิวดูแปลกไป

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 221 ท่านอ๋องซิวดูแปลกไป at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 221 ท่านอ๋องซิวดูแปลกไป
ตอนที่ 221 ท่านอ๋องซิวดูแปลกไป

เย่ซิวตู๋หัวเราะขึ้นมา ชายหนุ่มปล่อยมือออกราวกับว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น และเอ่ยขึ้นอย่างคนไร้ความผิด “ข้าถูกเจ้าพาเข้ามา เวลานั้นข้าไม่ได้ระวังตัวด้วยซ้ำ”

อวี้ชิงลั่วจ้องมองเขาอย่างอาฆาต หากนางเชื่อคำพูดหลอกลวงพวกนี้ก็แปลกแล้ว นางหรี่ตาพิจารณามองการแสดงออกของอีกฝ่าย

“ดูเหมือนว่าไท่จื่อเฟยจะป่วยหนัก เจ้าไม่ได้สัญญากับหลานเฉิงว่าจะไปช่วยดูอาการให้กับนางหรอกหรือ?” เย่ซิวตู๋เบี่ยงเบนความสนใจของหญิงสาวได้ถูกเวลา เขาเรียกให้หนานหนานเข้ามา ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็เดินออกจากห้องอย่างรวดเร็วแล้วนั่งดื่มชาอยู่บริเวณด้านนอก

เย่ซิวตู๋ไม่ถือสาที่จะสาบานกับผู้อื่นว่าอวี้ชิงลั่วนั้นเป็นสตรีในอธิปไตยของตน ชายหนุ่มรอคอยไม่ไหวที่จะให้ผู้คนรับรู้ว่าเย่ซิวตู๋มีสตรีในใจแล้ว และหญิงสาวผู้นี้ก็คือหมอปีศาจอวี้ชิงลั่ว

เย่หลานเฉิงและไท่จื่อเฟยพูดคุยสนทนากันและได้ยินเสี่ยงของเย่ซิวตู๋ จู่ ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ จึงได้รีบลุกขึ้นและรีบวิ่งไปหาอวี้ชิงลั่วที่อยู่ด้านข้าง “ท่านป้าชิง ท่านช่วยดูท่านแม่ให้ข้าด้วยขอรับ”

“อื้ม” อวี้ชิงลั่วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา ก่อนตรงไปที่ขอบเตียงของไท่จื่อเฟย

ไท่จื่อเฟยมีสีหน้าแปลกใจอย่างมาก “ท่านป้าชิง? หลานเฉิงนี่เจ้ารู้จัก…แม่นางอวี้?”

หลานเฉิงไม่สามารถให้คำตอบกับนางได้ เพราะท่านป้าชิงคือท่านแม่ของหนานหนาน เด็กชายได้แต่พยักหน้าเงียบ ๆ “ท่านป้าชิงเป็นคนดีมาก ๆ นางช่วยถอนพิษในร่างกายหลานเฉิง”

ไท่จื่อเฟยตกใจ ริมฝีปากที่ไร้เลือดของนางนั้นเผยอออก ที่แท้แล้วอวี้ชิงลั่วเป็นคนถอนพิษให้กับหลานเฉิงนี่เอง

“ไท่จื่อเฟย ถ้าหากท่านไม่รังเกียจ ให้ข้าดูบาดแผลบนตัวท่านเถิด”อวี้ชิงลั่วเดินเข้าไปใกล้จึงพบว่าอาการนั้นรุนแรงมากกว่าที่นางคาดเอาไว้เป็นอย่างมาก เย่หลานเฉิงอาจจะมองไม่เห็นบาดแผลนั่น แต่ว่าเด็กชายก็สามารถเข้าใจได้ว่าสภาพแขนที่ซ่อนอยู่ภายใต้แขนเสื้อนั้นย่ำแย่เพียงใด

ไท่จื่อเฟยสับสนอยู่สักครู่แล้วจึงหันไปยิ้มกับเย่หลานเฉิง “หลานเฉิงเจ้าออกไปพูดคุยกับท่านลุงห้าของเจ้าก่อนนะ”

“…พ่ะย่ะค่ะ” เย่หลานเฉิงจ้องมองไท่จื่อเฟยหลังจากนั้นก็หันไปมองอวี้ชิงลั่ว เมื่อเห็นว่านางพยักหน้าภายในใจของเด็กน้อยก็ผ่อนคลายลงมาครึ่งหนึ่ง จึงเดินหันหลังออกจากห้องไป

เมื่อแผ่นหลังของเขาเกือบจะหายออกไปจากม่านลูกปัด ไท่จื่อเฟยก็เงยหน้าขึ้นแล้วกลับขึ้นไปเอนกายลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ราวกับว่าพลังในร่างกายถูกสูบออกไปจนหมด แม้แต่การหายใจยังต้องหายใจเข้าไปลึก ๆ จึงจะรู้สึกดี

อวี้ชิงลั่วยื่นมือไปจับชีพจรของนาง จึงพบว่าชีพจรของนางนั้นอ่อนแรงเป็นอย่างมาก การสนทนากับเย่หลานเฉิงเมื่อชั่วครู่นั้นเห็นได้ชัดว่านางต้องใช้กำลังทั้งหมดของนาง

“เหตุใดจึงเปลี่ยนเป็นเช่นนี้?” อวี้ชิงลั่วไม่เข้าใจ หญิงสาวขมวดคิ้วสักครู่ “รัชทายาทให้คนมาทำร้ายท่านหรือ?”

“อืม” ไท่จื่อเฟยพนักหน้า ริมฝีปากที่ขาวซีดยิ้มขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรง “วันนั้นกลับมา องค์รัชทายาทกล่าวว่าข้านั้นไม่ปฏิบัติตามคุณธรรมของสามีภรรยา ข้าโต้แย้งท่านตอนอยู่ด้านนอก เป็นความผิดที่โดนต่อว่าอยู่พอสมควร ผนวกกับมีจ้าวผิงคอยใส่สีตีไข่อยู่ข้าง ๆ ท่านก็เลยกริ้วขึ้นมา สั่งให้คนมาจับข้าเอาไว้แล้วเฆี่ยนตีข้าสิบกว่ารอบ ”

ตั้งแต่กลับมาในวันนั้นก็ถูกเฆี่ยนตีจนเป็นเช่นนี้เลยหรือ?

อวี้ชิงลั่วเม้มปากแน่นก่อนจะใช้มือเปิดแขนเสื้อของนางขึ้น เมื่อเห็นบาดแผลน้ำร้อนลวกใหญ่บนแขน นางก็เริ่มหายใจหนักหน่วงดูตึงเครียดขึ้น “ผู้ใดเป็นคนทำ?”

“จ้าวผิง” เมื่อเอ่ยถึงสองพยางค์นี้ ไท่จื่อเฟยก็ตัวสั่นขึ้นมา ความเกลียดชังในดวงตาฉายแววรุนแรงเป็นอันมาก

อวี้ชิงลั่วข่มความกลัดกลุ้มของตนเอาไว้ และค่อย ๆ พลิกตัวของไท่จื่อเฟย แล้วถอดเสื้อผ้าของนางออกอย่างระมัดระวัง ต่อมานางก็ต้องสูดหายใจลึก แววตาตกตะลึงฉายวาบกับบาดแผลฉกรรจ์ยุ่งเหยิงบนแผ่นหลังที่เริ่มจะเน่าเปื่อย

“แผลนี่ท่านไม่เคยรักษามาก่อนเลยหรือ?”

ไท่จื่อเฟยยิ้มอย่างขมขื่น ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างเหน็ดเหนื่อย “องค์รัชทายาทไม่อนุญาตให้ผู้ใดตามหมอ และไม่อนุญาตให้ผู้อื่นช่วยเหลือข้า ไม่กี่วันมานี้จ้าวผิงมาสร้างเรื่องให้ข้าอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้แผลเปิดอยู่หลายครั้ง หญิงรับใช้ที่คอยอยู่ข้างกายก็ถูกจ้าวผิงนำตัวไป ส่วนคนรับใช้ที่เหลือทั้งหมดก็ถูกนำตัวไปเสียหมด ข้าคิดอยากจะเอาตัวรอดแต่ก็ไม่มีอำนาจ โชคดีหญิงรับใช้คนเก่าของข้านั้นซื่อสัตย์ นางคอยแอบเอายากับอาหารมาให้ข้า ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย แต่ก็สามารถประทังชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าทั้งชาตินี้ของข้าก็คงจะได้พบกับหลานเฉิงเป็นครั้งสุดท้าย”

เกิดเสียงดัง ‘เพล้ง’ อวี้ชิงลั่วปัดแจกันดอกไม้ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วรีบผุดลุกขึ้นทันที

เสียงนี้ทำให้หนานหนานและเย่หลานเฉิงที่สนทนากันอยู่ข้างนอกตกใจจนแทบจะกระโดด ใบหน้าของเย่หลานเฉิงยามนี้ซีดเซียว เขารีบกระโดดลงอยากเก้าอี้โดยไม่พูดไม่จาและตรงเข้าไปในห้อง

เย่ซิวตู๋รีบไปพาเด็กน้อยกลับมานั่งบนม้านั่งใหม่อีกครั้ง “อย่าเข้าไปรบกวน ท่านป้าชิงของเจ้ากำลังจัดการอยู่”

“แต่ว่า…” เย่หลานเฉิงรู้สึกไม่วางใจเล็กน้อย อยู่ดี ๆ เหตุใดท่านป้าชิงจึงทำแจกันแตกล่ะ?

เย่ซิวตู๋ส่ายศีรษะ ใบหน้าสงบเยือกเย็น เมื่อเห็นการแสดงออกของชายหนุ่ม เด็กชายจึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาจึงได้แต่นั่งอย่างเชื่อฟังอยู่ข้าง ๆ และไม่พูดอะไร

หนานหนานกระพริบตาอย่างไม่รู้เรื่องราว เสี่ยวเฉิงจะเร่งรีบไปทำอะไร? ท่านแม่ของเขานั้นอารมณ์รุนแรงไปแล้ว เพียงแค่ทำแจกันแตก…เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

หนานหนานไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้ เด็กชายก้มศีรษะลงแล้วเอ่ยกับเย่หลานเฉิงเบา ๆ เพื่อไม่ให้เขาเคร่งเครียดและรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

เย่ซิวตู๋หันไปมองร่างอันเลือนรางที่อยู่หลังม่าน หนานหนานและเย่หลานเฉิงนั้นยังเด็ก จึงกลับมากระซิบพูดคุยกันอีกครั้ง จึงไม่ได้ยินว่าในห้องของไท่จื่อเฟยนั้นสนทนาอะไรกัน แต่ชายหนุ่มกลับได้ยินอย่างชัดเจน และรู้ว่าเหตุใดอวี้ชิงลั่วจึงโมโหถึงขนาดทำแจกันตกแตกเช่นนี้

เย่ซิวตู๋ค่อย ๆ ขมวดคิ้ว จู่ ๆ ชายหนุ่มก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาที่พาอวี้ชิงลั่วมาในวันนี้ หวังว่าไท่จื่อเฟยผู้นี้คงจะไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์โกรธของนางนะ

เมื่อเย่ซิวตู๋คิดได้เช่นนี้ ก็มีเสียงของอวี้ชิงลั่วกัดฟันดังออกมา “รัชทายาทผู้นี้ไม่ใช่คน ลูกหลานของราชวงศ์ล้วนจิตใจเหี้ยมโหดนัก”

เย่ซิวตู๋หลับตาลง ยังจะเอารัชทายาทชั่วช้าผู้นี้มาพัวพันกับเขาอีก

ไท่จื่อเฟยรู้สึกประหลาดใจ ริมฝีปากซีดเซียวของนางกระตุก “แม่นางอวี้ คำพูดนี้พูดต่อหน้าข้าก็พอแล้ว อย่าได้พูดไปทั่ว เกรงว่ามันจะไม่ดีต่อตัวแม่นางเอง” ผู้ใดจะกล้าเอ่ยถึงเหล่าอ๋องทั้งหลายเช่นนั้นกัน โดยเฉพาะคำพูดนี้ของอวี้ชิงลั่ว แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ยังต้องเรียกเข้าไปตำหนิ

แต่ว่า…

“แม่นางอวี้อย่าได้คิดเช่นนี้ รัชทายาทและน้องห้านั้นไม่เหมือนกัน น้องห้านั้นปฏิบัติต่อแม่นางอวี้อย่างจริงใจ ข้าดูออก”

อวี้ชิงลั่วสำลักไปครู่หนึ่ง จู่ ๆ ทำไมถึงเอ่ยถึงเย่ซิวตู๋เช่นนี้? ไท่จื่อเฟยไปเห็นมาจากไหนว่าเย่ซิวตู๋ปฏิบัติต่อนางอย่างจริงใจ

“ข้ารักษาบาดแผลบนตัวของท่านก่อนดีกว่า ถ้าขืนไม่รักษาต่อไป ท่านได้สิ้นชีวิตแน่ ๆ” อวี้ชิงลั่วกระแอมขึ้นเบา ๆ หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องและหยิบถุงยาออกมา

ผู้ใดจะไปรู้ว่าเมื่อเพิ่งจะวางของไว้ตรงขอบเตียงและอวี้ชิงลั่วก็ยังไม่ทันจะหยิบมีดออกมา นางก็ได้ยินเสียงของโม่เสียนดังเข้ามา “ท่านอ๋อง มีคนมาพ่ะย่ะค่ะ”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

อ๊ากกกก อิรัชทายาทชั่วววว ทุบตีชายาเอกกะเอาให้ตายเลยใช่ไหมเนี่ย

ใครเนี่ยมาได้จังหวะพอดีเลย นังขนมผิงตัวดีหรือเปล่า

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *