อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 233 ผิดหวังในตัวท่านมาก
ตอนที่ 233 ผิดหวังในตัวท่านมาก
ตอนที่ 233 ผิดหวังในตัวท่านมาก
เย่ฮ่าวหรานเข้าใจในทันที คนเหล่านี้คงเป็นคนรับใช้ของจวนอวี้ อวี้เป่าเอ๋อร์คงใช้โอกาสตอนที่คนในจวนไม่ทันได้สังเกตในการแอบหนีออกมา
คนคนนี้คือน้องชายของอวี้ชิงลั่ว ซึ่งถือเป็นอาของหนานหนานด้วย ดูเหมือนว่าเขาคงยืนดูอีกฝ่ายตายโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้เสียแล้ว
หนานหนานกวาดตาสำรวจอวี้เป่าเอ๋อร์ หันซ้ายมองขวาก็มองไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นบ้าตรงไหนกัน จึงส่ายหน้าด้วยความมั่นใจ “ข้าเห็นเขาก็ปกติดีนี่”
“โถ่ คุณชายน้อย คุณชายน้อยตระกูลเราสติไม่ดีจริง ๆ ขอรับ หมอเคยมาตรวจดูอาการแล้ว เขาเป็นบ้ามาหลายปีแล้ว ตอนนี้ที่ยังดูปกติก็เป็นเพราะอาการยังไม่กำเริบ แต่ถ้าอาการกำเริบเมื่อใด เขาก็จะลงมือทำร้ายคนอื่น ในจวนของเรามีหลายคนที่ถูกนายน้อยกัดและข่วนจนได้รับบาดเจ็บ คุณชายน้อยอยู่ให้ห่างสักหน่อยเถิด มิเช่นนั้นหากได้รับบาดเจ็บขึ้นมา คงกลายเป็นตราบาปของข้าน้อย”
คนรับใช้คนนั้นก็ช่างเจรจา เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของหนานหนาน จึงพยายามทำให้หนานหนานกลัว
น่าเสียดาย เพราะสำหรับหนานหนานแล้วการไม่ได้กินข้าว ไม่ได้ดื่มสุราและไม่ได้เล่นต่างหากล่ะคือเรื่องที่น่ากลัวอย่างแท้จริง ส่วนเรื่องป่วยนี้น่ะหรือ…
“อ้อ เช่นนั้นก็ไม่ยาก ท่านแม่ของข้าเป็นหมอ ทักษะทางการแพทย์ของนางสุดยอดมาก ข้าจะพาเขาไปพบท่านแม่ ต้องรักษาให้หายได้เป็นแน่”
คนรับใช้เหล่านั้นถึงกับตกตะลึงทันใด รีบแย้มยิ้มพูดประจบสอพลอ “คุณชายน้อย เรื่องนี้คงไม่รบกวนท่านแล้ว โรคของนายน้อยรักษาให้หายไม่ได้แล้ว มีแต่จะเสียเวลาอันล้ำค่าของคุณชายน้อยเสียเปล่า ๆ ข้าน้อยจะพานายน้อยกลับไปแล้ว ตอนนี้ฮูหยินและนายท่านกำลังรอนายน้อยอยู่ที่จวนขอรับ”
คิ้วของหนานหนานขมวดเข้าหากันในทันที “พวกเจ้านี่ก็แปลก ข้าก็บอกแล้วไงว่าท่านแม่ของข้าเก่งมาก อีกอย่างนางยังไม่ทันได้ดูอาการของนายน้อยพวกเจ้าเลย เหตุใดพวกเจ้าถึงรู้ว่ารักษาให้หายไม่ได้ล่ะ? ต่อให้รักษาไม่หาย ก็ควรลองก่อนมิใช่รึ?”
เย่ฮ่าวหรานแย้มยิ้ม อันที่จริงหนานหนานก็มีความฉลาดและไหวพริบดีมากเหมือนกันแฮะ
“เรื่องนี้…” คนรับใช้เหล่านั้นหันไปสบตากัน ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะคัดค้านคำพูดของหนานหนานได้ชั่วขณะหนึ่ง สมองของผู้เป็นหัวหน้าคิดอย่างรวดเร็ว ก่อนก้าวเท้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าว กล่าวเคล้ารอยยิ้มว่า “คุณชายน้อย นายท่านของพวกเรายังรอนายน้อยอยู่ ต่อให้รักษาได้จริง ๆ ก็ต้องให้นายท่านและฮูหยินเป็นคนตัดสินใจถึงจะถูก พวกเราเป็นแค่คนรับใช้ คงมิกล้าพานายน้อยไปโดยไม่ได้รับอนุญาต”
หนานหนานเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง เขารู้สึกได้ว่าคำพูดของคนคนนี้ไม่มีความจริงใจเอาเสียเลย รอยยิ้มนั้นดูประสบประแจงและจงใจเกินไป ดูไม่ปกติเลย
ในเวลานี้เอง อวี้เป่าเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังก็ยื่นมือมาดึงแขนเสื้อของหนานหนาน รีบพูดว่า “ข้าไม่ได้ป่วยจริง ๆ นะ และข้าก็ไม่ได้บ้าด้วย ข้ารู้ดีว่าตนเองกำลังทำอะไร พวกเขาไม่ใช่คนดี นายท่านกับฮูหยินอะไรกัน พวกเขาต่างก็คิดจะทำร้ายข้ากันทั้งนั้น ดังนั้นจึงพาข้ากลับเข้าไปกักขังไว้ คุณชายน้อย พาข้าออกไปจากที่นี่ด้วยเถอะ”
หนานหนานได้ยินคำพูดของเขาอย่างชัดเจน ความมั่นคงในจิตใจจึงเอนเอียงมาทางฝั่งนี้ในทันที
ทว่าคนรับใช้เหล่านั้นกลับเริ่มร้อนใจแล้ว ก้าวเท้ามาด้านหน้าหนึ่งก้าว มองเย่ฮ่าวหรานด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “ท่านอ๋องแปด ท่านเป็นผู้สูงศักดิ์ ให้พวกเราพานายน้อยกลับไปเถิด เช่นนี้ข้าน้อยถึงจะไปรายงานกับนายท่านที่จวนได้ขอรับ”
อวี้เป่าเอ๋อร์รีบหันกลับมา จ้องมองเย่ฮ่าวหรานด้วยความประหม่า
เย่ฮ่าวหรานถึงกับเดาะลิ้น ยกมือขึ้นมาลูบคางด้วยความลำบากใจ “เราเองก็อยากให้พวกเจ้ากลับไปรายงานเช่นกัน แต่พวกเจ้าต่างคนต่างบอกเหตุผลของตนเอง ระยะเวลาสั้น ๆ คงเป็นเรื่องยากที่เราจะเชื่อว่าคำพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ อีกอย่าง คุณชายน้อยคนนั้น เฮ้อ ตอนนี้มีมีอำนาจตัดสินใจมากกว่าเราเสียอีก เราเองก็จนปัญญาที่จะทำอะไรเขาได้ หากเขายืนกรานจะพาเด็กคนนั้นไป เราเองก็จนปัญหา”
ดวงตาของหนานหนานเป็นประกายอย่างเข้าใจได้ในทันที จึงพยักหน้าจับมืออวี้เป่าเอ๋อร์ เชิดค้างพูดว่า “แค่เห็นท่าทางดุร้ายของพวกเจ้าก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนดี ข้าเป็นพวกที่ทนเห็นความอยุติธรรมไม่ได้และต้องยื่นมือช่วยเหลือเป็นที่สุด ดังนั้นข้าไม่ยอมปล่อยให้พวกเจ้าพาตัวพี่ชายท่านนี้กลับไป อีกอย่างเขาก็ไม่ยินดีที่จะกลับไปพร้อมกับพวกเจ้าด้วย พวกเจ้าอยากจะพาตัวเขาไป ก็เอาสิ กลับไปบอกฮูหยินนายท่านอะไรนั่นของพวกเจ้าซะ บอกให้พวกเขาไปรับตัวที่ตำหนักของท่านอ๋องแปดก็แล้วกัน ท่านอ๋องแปดจะตรวจสอบให้ชัดเจนว่าพี่ชายคนนี้คือนายน้อยของจวนพวกเจ้าหรือไม่”
เย่ฮ่าวหรานแย้มยิ้ม ยักไหล่มองคนรับใช้เหล่านั้น “ดูสิ เราเองก็บอกแล้วว่าเราจนปัญญา ในเมื่อพวกเจ้าได้ยินชัดเจนแล้ว เช่นนั้นก็กลับไปรายงานเถอะ อย่าได้กังวลใจ พวกเราจะดูแลเด็กคนนี้อย่างดี หลานเฉิง พาเขาขึ้นรถม้า”
อวี้เป่าเอ๋อร์รู้สึกดีใจ รีบจับมือหนานหนานและเย่หลานเฉิงเพื่อลุกขึ้นยืน หันมองคนรับใช้เหล่านั้นด้วยความระมัดระวังก่อนจะเดินไปยังรถม้าอย่างช้า ๆ
คนรับใช้เหล่านั้นคิดจะยื่นมือห้าม ทว่าคำพูดของเย่ฮ่าวหรานกลับทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะขัดขืน ท่านอ๋องพูดเช่นนี้แล้ว หากพวกเขายังลงมือโดยไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เกรงว่าคงทำให้ลำบากไปทั้งจวนอวี้
หัวหน้าคนนั้นถอนหายใจอย่างหนัก ก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้อีกคนที่อยู่ด้านหลัง “เจ้ารีบกลับไปรายงานฮูหยิน บอกว่านายน้อยถูกท่านอ๋องแปดพาตัวไปแล้ว เรื่องคงยุ่งยากมากขึ้นแล้ว”
“พ่ะย่ะค่ะ” คนคนนั้นพยักหน้า ถอยหลังไปสองสาวก้าวและวิ่งกลับไปที่จวนอวี้
เย่ฮ่าวหรานขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของคนคนนั้นที่วิ่งออกไปไกล ก่อนจะดึงม่านรถปิดลงมาอย่างช้า ๆ และสั่งให้คนขับรถม้าเริ่มออกเดินทาง
ทว่าตอนที่รถม้าเพิ่งจะออกตัว อวี้เป่าเอ๋อร์ก็รีบโขกศีรษะลงต่อหน้าเย่ฮ่านหรานทันที “ท่านอ๋อง ข้าไม่ได้บ้าจริง ๆ นะ”
“…เรารู้” เย่ฮ่าวหรานรีบประคองเขาให้ลุกขึ้น ถึงอย่างไรเด็กคนนี้ก็เป็นน้องชายของอวี้ชิงลั่ว หากอวี้ชิงลั่วรู้ว่าน้องชายของนางมาโขกศีรษะลงตรงหน้าเขา กลับไปอาจถูกนางเล่นงานก็เป็นได้
อวี้เป่าเอ๋อร์เห็นว่าอีกฝ่ายเชื่อตนเอง จึงรู้สึกมีความสุข และรีบพูดอีกว่า “เช่นนั้นท่านอ๋อง ช่วยพาข้าไปส่งที่จวนเสนาบดีฝ่ายขวาได้หรือไม่?”
“จวนเสนาบดีฝ่ายขวา?” เย่ฮ่าวหรานมองเขาด้วยความประหลาดใจ “เจ้าจะไปทำอะไรที่จวนเสนาบดีฝ่ายขวา?”
อวี้เป่าเอ๋อร์เม้มปาก ส่ายหน้ากล่าวว่า “ข้ามีธุระ” ทว่าเขามิอาจบอกอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าอย่างไร เรื่องภายในจวนอวี้เหล่านั้นจะให้ตระกูลราชวงศ์รับรู้ได้อย่างไรกัน?
เย่ฮ่าวหรานหัวเราะเบา ๆ ครั้งก่อนเขาและจินหลิวหลีแอบไปซ่อนตัวอยู่ในห้องเก็บฟืนของจวนอวี้ก็ได้ยินเรื่องราวมาไม่น้อยแล้ว ต่อให้อวี้เป่าเอ๋อร์ไม่บอก เขาก็พอจะเดาได้
เพียงแต่…
จวนเสนาบดีฝ่ายขวาเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากเข้าไปยุ่ง
“ขอโทษด้วย วันนี้ข้ายังมีธุระ เกรงว่าคงไม่ได้…”
“เอาสิ ๆ ไปจวนเสนาบดีฝ่ายขวาสินะ ลุงคนขับ กลับรถ ๆ ไปจวนเสนาบดีฝ่ายขวา” หนานหนานพูดแทรกคำพูดของเย่ฮ่าวหราน ก่อนจะหันไปสั่งคนขับรถด้วยท่าทางตื่นเต้น
เย่ฮ่าวหรานถึงกับขบฟันแน่น พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทีละคำ “หนานหนาน พวกเราต้องเข้าวังแล้ว”
หนานหนานหันหน้ากลับมาในทันที เอ่ยปากพูดด้วยท่าทางจริงจังและระมัดระวังอย่างมากว่า “ท่านอาแปด พวกเราออกมาข้างนอก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมีจิตใจแห่งความเมตตาและชอบธรรม ท่านเป็นถึงองค์ชายเชียวนะ ครึ่งหนึ่งขององค์ชายก็ต้องตรวจสอบความรู้สึกของพลเมือง ท่านในฐานะขององค์ชายก็ควรจะลงมือช่วยเหลือมิใช่หรือ? การกระทำเช่นนี้ของท่าน ข้ายังดูหมิ่นเลยรู้บ้างหรือไม่? แม้ว่าหนานหนานอย่างข้าอายุยังน้อย แต่ก็รู้จักเหตุผลที่บอกว่ามีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ท่านอายุมากกว่าข้าตั้งหลายเท่าแล้ว เหตุผลง่าย ๆ แค่นี้ยังไม่เข้าใจ ท่านทำให้ข้าผิดหวังเกินไปแล้ว”
“…” อะไรที่เรียกว่ามีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น คำพูดคำจาพูดไว้เสียสวยหรู ทั้งหมดนี้ก็เพราะอยากเที่ยวต่อและไม่อยากกลับวังมิใช่หรือ? ช่างเป็นเรื่องยากเสียจริงที่นึกคำพูดที่ชอบธรรมและน่าเกรงขามเช่นนี้ออกมา
………………………
สารจากผู้แปล
จริงๆ ก็คืออยากเล่นต่อว่างั้นเถอะหนานหนาน
จวนเสนาบดีฝ่ายขวาเกี่ยวข้องกับจวนอวี้ยังไงกันหนอ
ไหหม่า(海馬)
Comments