อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 355 พยายามอย่างสุดความสามารถ
ตอนที่ 355 พยายามอย่างสุดความสามารถ
ตอนที่ 355 พยายามอย่างสุดความสามารถ
“อีกอย่างหนึ่ง หม่อมฉันไม่ได้หักนิ้วของฮูหยินเฉียนผู้นี้นะเพคะไทเฮา ฮูหยินเฉียนไม่เพียงแต่ดูหมิ่นผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมการแข่งขันใหญ่ แต่ยังกุเรื่องหลอกไทเฮาถึงขั้นไร้มนุษยธรรมเพื่อเล่นงานหม่อมฉัน วิธีการเช่นนี้ ทำให้หม่อมฉันผิดหวังและเศร้าใจจริง ๆ หากมีฮูหยินเฉียนผู้เอ่ยวาจาและกระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความไม่แน่ไม่นอนและไม่เป็นความจริงเช่นนี้คอยพูดอยู่ข้าง ๆ ใต้เท้าเฉียนสักสองสามประโยค จะไม่กระทบต่อความเป็นธรรมในการตัดสินเรื่องต่าง ๆ ภายในราชสำนักหรือเพคะ?”
ฮูหยินเฉียนสูดหายใจเข้าปอดไปเฮือกใหญ่ ไทเฮาหรี่พระเนตร จ้องมองอวี้ชิงลั่วอย่างลึกซึ้งปราดหนึ่ง จากนั้นจึงสั่งให้ลวี่ฝูเข้ามาตรวจสอบนิ้วมือของฮูหยินเฉียน
ตอนที่ลวี่ฝูกลับมา นางพยักหน้าให้เพียงเล็กน้อย
เสียง “ปัง” ดังขึ้นหนึ่งเสียง พระหัตถ์ของไทเฮาตบฉาดลงบนโต๊ะข้างพระวรกาย “กล้าหาญนัก ฮูหยินเฉียน เจ้าสาปแช่งผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วมวรยุทธ์ให้ตายตกในเร็ววัน นี่มิเท่ากับเป็นการสาปแช่งให้อาณาจักรเฟิงชางพ่ายแพ้การแข่งขันวรยุทธ์สนามนี้หรอกหรือ? ความคิดเช่นนี้ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง ทหาร นำตัวออกไป ตบปากนาง ทำให้นางเข้าใจว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด”
“เพคะ” ลวี่ฝูขานตอบหนึ่งเสียง รีบเรียกคนให้เข้ามาลากฮูหยินเฉียนออกไป
ฮูหยินเฉียนหน้าขาวซีดในพริบตา รีบโขกศีรษะลงบนพื้นดัง ‘ปึก ๆ ๆ’ “ไทเฮาไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว ไทเฮาไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วยเพคะ”
ไทเฮาไม่แม้แต่ชายพระเนตรมองนาง เพียงแค่โบกพระหัตถ์ ให้คนนำตัวฮูหยินคนอื่น ๆ ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นออกไปด้วย
ฮูหยินเหล่านั้นตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้นตั้งแต่แรก ทำให้ลุกขึ้นยืนก็ไม่ไหว จนต้องถูกลากตัวออกไปทั้งหมด
อวี้ชิงลั่วค้อมกายให้ไทเฮาเล็กน้อย “ไทเฮาทรงปราดเปรื่องและตัดสินพระทัยได้อย่างเด็ดขาด หม่อมฉันชื่นชมยิ่งนัก หม่อมฉันได้รู้จักกับเฉิงซื่อจื่อและหนานหนานขณะอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิวแล้ว ได้ยินเฉิงซื่อจื่อและหนานหนานเล่าให้ฟังว่าไทเฮาไม่เพียงแต่สง่างามเท่านั้น แต่ยังมีความยุติธรรมและเคร่งครัด เป็นผู้อาวุโสที่พวกเขาเคารพรักมากที่สุด วันนี้หม่อมฉันรู้สึกโชคดีที่ได้เข้าเฝ้าไทเฮา นับเป็นความโชคดีที่หาได้ยากยิ่งจริง ๆ เพคะ”
คำพูดประจบประแจงมีใครบ้างที่พูดไม่เป็น? อวี้ชิงลั่วผู้นี้ดูคล้ายกับนกสองหัวอยู่เหมือนกัน
ครั้นไทเฮาได้สดับคำพูดนี้ก็ย่อมอารมณ์ดีขึ้น กวาดสายพระเนตรมองอวี้ชิงลั่วอย่างละเอียด แม้ว่านางคือคนของเย่ซิวตู๋ แต่เมื่อเห็นนางปกป้องหลานเฉิงและหนานหนาน พระนางก็พึงพอพระทัย
สายพระเนตรของฮองเฮาจ้องมองที่อวี้ชิงลั่วเช่นกัน ผ่านไปครู่หนึ่ง จึงเหลือบมองไปยังเหมิงกุ้ยเฟยด้วยท่าทีกึ่งยิ้มกึ่งบึ้งตึง
เหมิงกุ้ยเฟยกลับนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีเรียบเฉย ไม่พูดไม่จา ทว่าสายตากลับลุ่มลึกยิ่งขึ้น สายตาที่มองอวี้ชิงลั่วก็แฝงด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
“แม่นางชิง เราได้ยินมาว่าเจ้ามีทักษะทางการแพทย์ไม่ธรรมดา วันหลังหากเข้าวัง ก็เชิญมาจับชีพจรให้เราสักหน่อย”
อวี้ชิงลั่วค้อมกายคารวะเล็กน้อยอีกหน “หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชาไทเฮาเพคะ”
“อืม กลับไปเถิด” ไทเฮาโบกพระหัตถ์ ก่อนจะเลื่อนสายพระเนตรกลับไปยังลานแข่งขันอีกหน
ลานแข่งขันทางฝั่งนั้นยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ผู้เข้าแข่งขันในการแข่งขันฝ่ายบู๊เดินผ่านทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ไปยืนรวมกันอยู่ที่กลางลาน สีหน้าของพวกเขาขณะมองไปยังตำแหน่งที่ฮ่องเต้ประทับอยู่ช่างดูจริงจัง
สายพระเนตรของไทเฮามองไปที่หนานหนานโดยไม่ได้ตั้งใจ ครั้นแลเห็นเด็กน้อยที่กำลังทำท่าทางตื่นเต้นจนดวงตาลุกวาว พระนางก็แอบเม้มพระโอษฐ์แย้มสรวลเล็ก ๆ ออกมา
เด็กคนนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกโปรดปรานจริง ๆ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเขาเป็นใครกันแน่ เหตุใดจึงได้อบรมสั่งสอนให้เด็กคนนี้ดูชาญฉลาดและซุกซนเช่นนี้?
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองไทเฮาปราดหนึ่ง ก่อนจะถอยออกไปอย่างเนิบช้า กลับมานั่งที่ตำแหน่งเดิมอีกหน นางรู้สึกโล่งขึ้นมาในพริบตา ตำแหน่งด้านหลังไม่มีใครแล้ว นางครอบครองพื้นที่เล็ก ๆ ตรงนี้คนเดียวก็รู้สึกได้ว่าโลกทั้งใบกว้างขึ้น
ฮูหยินเฉียนผู้นั้นจะมาโทษนางก็ไม่ถูก อวี้ชิงลั่วยอมรับว่าไม่ใช่คนชอบสร้างปัญหา เพียงแต่หนานหนานเป็นบุตรชายของนาง เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง นางจะปล่อยให้คนอื่นมาสาปแช่งหนานหนานให้ตายต่อหน้าตนเองได้อย่างไรกัน?
ไม่ว่าแม่คนใด ล้วนไม่มีทางปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น
อวี้ชิงลั่วแค่นเสียงเบา ๆ ก่อนจะมองไปยังตำแหน่งของเย่ซิวตู๋ คิดไม่ถึงว่าบุรุษผู้นั้นกำลังมองมาทางนี้พอดี ราวกับเห็นว่านางไม่เป็นอะไร เขาจึงเบือนสายตาไปทางอื่นอีกหน
“เจ้าคือแม่นางชิงรึ?” อวี้ชิงลั่วเพิ่งดึงสายตากลับมา จู่ ๆ ข้างกายก็มีเสียงอันไพเราะดังขึ้น
นางชะงักไปเล็กน้อย ครั้นหันมองก็พบสตรีผู้มีดวงหน้างดงามนั่งอยู่ข้าง ๆ ตนเอง
สตรีผู้นั้นกลับรู้จักประมาณตนเหลือคณา หรี่ตาลงพลางแย้มยิ้มให้อวี้ชิงลั่ว “ข้ามีนามว่าเย่หว่านเยียน เจ้าคือแม่นางชิง หมอปีศาจผู้มีทักษะทางการแพทย์ชั้นสูง ทั้งยังโค่นหมอเสิ่นตัวปลอมผู้นั้นจนหมดสภาพใช่หรือไม่?”
เย่หว่านเยียน? อวี้ชิงลั่วชะงัก นางจำชื่อนี้ได้…ดูเหมือนว่าจะเป็นองค์หญิงในราชวงศ์กระมัง
นางคือองค์หญิงที่ฮ่องเต้ทรงหวงแหนมากที่สุดมิใช่รึ? ตอนแรกเริ่มนางหลอกให้แม่ของอวี๋จั้วหลินเข้าใจผิด ด้วยการใช้สถานะของเย่หว่านเยียน ฮูหยินใหญ่ในตอนนี้จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่านางคือองค์หญิงเย่หว่านเยียนผู้ที่ฮ่องเต้รักและทะนุถนอมมากที่สุด
นี่ช่างบังเอิญเสียจริง
อวี้ชิงลั่วอดยิ้มออกมาไม่ได้
เย่หว่านเยียนเอียงศีรษะมองนางด้วยความฉงน “เจ้าขำอะไรรึ?”
“อ๋อ หม่อมฉันแค่รู้สึกว่าองค์หญิงชมกันเกินไปแล้ว สิ่งเหล่านั้นเป็นแค่เพียงข่าวลือจากภายนอก แอบพูดเกินจริงไปสักหน่อย”
เย่หว่านเยียนแค่นเสียงเบา ๆ “เจ้าอย่าได้พูดจาขอไปทีกับข้านักเลย และอย่าแทนตนเองว่าหม่อมฉันอะไรนั่นด้วย เจ้าเรียกข้าว่าหว่านเยียนเถอะ อันที่จริงข้ารู้สึกชื่นชมเจ้ามากจริง ๆ เจ้าเป็นสตรีนางหนึ่ง แต่กลับได้ท่องยุทธภพทั้งยังมีความสามารถดี ๆ ติดตัว แตกต่างจากข้า วัน ๆ ได้แต่ขลุกตัวอยู่ในวังเพื่อเรียนสิ่งนี้สิ่งนั้น ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน”
อวี้ชิงลั่วเพียงแค่ยิ้ม แต่มิได้ตอบกลับไป นางรู้สึกได้ว่าองค์หญิงผู้นี้พูดคุยได้น่าสนใจนัก ไม่ได้มีท่าทีระมัดระวังตัวเหมือนกับคนอื่น ๆ ในวัง
“จริงสิ เจ้าช่วยเล่าเรื่องยุทธภพให้ข้าฟังหน่อยเถิด ข้าสงสัยใคร่รู้นัก”
“หากองค์หญิงอยากฟังเรื่องเล่าก็ถามท่านอ๋องซิวได้ ท่านอ๋องซิวออกจากเมืองหลวงนานถึงสี่ปี ย่อมต้องเจอเรื่องที่น่าสนใจมากโข เขาเป็นพี่ห้าขององค์หญิง ย่อมต้องรักองค์หญิงมาก”
เย่หว่านเยียนได้ยินนางพูดเช่นนี้ มุมปากถึงกับคว่ำลง มือขวาประคองศีรษะพลางส่งเสียง “อย่าไปพูดถึงเลย พี่ห้าทำตัวเย็นชาตลอดทั้งวัน แม้แต่ข้ายังไม่กล้าเข้าใกล้ จะกล้าไปพูดคุยกับเขาได้อย่างไรกัน ทุกครั้งที่ข้าเดินข้าง ๆ เขา มีแต่จะหดตัวให้เล็กลง”
อวี้ชิงลั่วถึงกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ คนเหล่านี้ดูเหมือนจะกลัวเย่ซิวตู๋มาก ก่อนหน้านี้เย่หลานเฉิงก็เป็นเช่นนี้ เย่หลานเว่ยและซื่อจื่อเองก็เช่นกัน และตอนนี้ยังมีเย่หว่านเยียนเพิ่มเข้ามาอีกคน
ทว่าเย่ซิวตู๋ผู้นี้…อันที่จริงก็น่ารักมาก
อวี้ชิงลั่วแอบรู้สึกมีความสุขอยู่ภายในใจ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะความกล้าของนาง จึงทำให้นางไม่เคยหวาดกลัวเย่ซิวตู๋มาก่อน
“แม่นางชิง ท่านช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยเถิด อยากอยากรู้ยิ่งนัก” ดูเหมือนเย่หว่านเยียนจะเป็นมิตรกับนางอย่างมาก สายตาคู่นั้นเป็นประกายสดใสราวกับกวางตัวน้อย
อวี้ชิงลั่วเพิ่งจะอ้าปากตอบ จู่ ๆ ภายในลานก็มีเสียงดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
“เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อให้การแข่งขันใหญ่สี่อาณาจักรสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”
อวี้ชิงลั่วถึงกับตกใจ นางพบว่าการแข่งขันใหญ่สี่อาณาจักรเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ครั้นฮ่องเต้ตรัสจบ เหล่าผู้เข้าแข่งขันก็เริ่มเข้าประจำตำแหน่ง
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
นับถือสกิลปากชิงลั่วมาก ๆ ค่ะ ได้อัพเกรดที่นั่งกว้างขึ้นอย่างไม่คาดคิดเลย
ตัวละครใหม่มาอีกแล้ว จะเกี่ยวข้องกับใครอย่างไรบ้างนะ
ไหหม่า(海馬)
Comments