อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 377 บุตรชายของเรา
ตอนที่ 377 บุตรชายของเรา
หยางหลินแอบสูดหายใจเข้าลึก ๆ คิ้วพลันขมวดมุ่นกลายเป็นปม
บัดซบ เมื่อครู่ตอนที่กลิ้งตัว เขาดันทำข้อเท้าของตนเองพลิกเสียแล้ว
หนานหนานเห็นสีหน้าของหยางหลินดูผิดปกติ จึงมองเขาด้วยความประหลาดใจ แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น? บาดเจ็บแล้วรึ?”
“เปล่า” หยางหลินตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็ชี้ไปยังด้านหลังพร้อมกล่าวว่า “ระวัง ลูกหนังมาแล้ว”
หนานหนานรีบหันกลับไป หลบหลีกขาทั้งสองข้างของหัวหน้ากลุ่มผู้นั้นที่คิดจะเตะเขา จากนั้นจึงหนีบลูกหนังไว้และเบี่ยงกายวิ่งออกห่างจากหยางหลิน เขาออกแรงเตะลูกหนังจนกลิ้งเข้าประตู ทำให้อาณาจักรเฟิงชางได้รับคะแนนอีกหนึ่งแต้ม
หยางหลินถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้เขาจะทำให้คนอื่นรู้ว่าขาเขากำลังพลิกไม่ได้ มิเช่นนั้นหากเขาต้องออกจากสนาม เขาคงช่วยเหลืออะไรไม่ได้แล้ว
อย่างน้อย ๆ…อย่างน้อย ๆ ก็ต้องทนจนกว่าการแข่งขันจะสิ้นสุดลง ก็แค่ข้อเท้าพลิกเท่านั้น มิใช่เรื่องใหญ่อันใด
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด หยางหลินก็อดทนต่อเหงื่อเย็นที่หน้าผาก วิ่งเข้าไปในกลุ่มผู้เล่นด้วยย่างก้าวที่แอบเป๋ไปเล็กน้อย
หนานหนานนำอยู่ด้านหน้า ทว่าความตื่นเต้นของเขากลับสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขาทั้งสองข้างที่ขยับก้าวเดินแทบจะไม่มีใครเทียบชั้นได้
ผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นของอาณาจักรเฟิงชางรู้สึกหงุดหงิด ทรมานมานานขนาดนี้ กลับมิอาจทำให้เจ้าตัวเล็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย หากกลับไปแล้วถูกเย่หลานเวยถามถึง คงต้องถูกด่าว่าไร้ประโยชน์เป็นแน่
พวกเขากำลังคิดเช่นนี้ จู่ ๆ ผู้เข้าแข่งขันงูพิษของอาณาจักรจิงเหลยก็วิ่งมาข้าง ๆ หัวหน้ากลุ่ม แล้วรีบกระซิบประโยคหนึ่งว่า “หากเจ้าคิดจะจัดการเขา ข้าช่วยเจ้าได้”
หัวหน้ากลุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง ก็พบว่าผู้เข้าแข่งขันงูพิษวิ่งเข้าไปหาหนานหนานแล้ว
เขาขบฟันกรอด เหอะ ตอนนี้จัดการกับเจ้าตัวเล็กนั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ขอแค่เจ้าตัวเล็กนั่นได้รับบาดเจ็บจนต้องออกจากสนาม พวกเขาก็กลับมาแข่งกับอาณาจักรจิงเหลยอย่างจริงจังก็สิ้นเรื่องแล้ว
เมื่อคิดคำนวณเช่นนี้ กลับทำให้ดวงตาสว่างวาบขึ้น หันไปพยักหน้าให้กับผู้เข้าแข่งขันอาณาจักรจิงเหลย
ทุกคนมุ่งเป้าหมายไปที่หนานหนาน ทั้งผลักเบียดและชนจนการแข่งขันยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น
นี่ดูคล้ายกับการแข่งการละเล่นชู่จวีที่ไหนกัน ลูกหนังลูกนั้นไม่รู้ว่าถูกเตะไปไหนแล้ว บัดนี้เป้าหมายของทุกคนเปลี่ยนมาเป็นหนานหนานอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ก่อกวน…ก่อกวนจริง ๆ” ฮ่องเต้ใช้ฝ่าพระหัตถ์ทุบลงบนโต๊ะ เหลือบมองผิงหยวนโหวปราดหนึ่ง ก่อนจะหันมองไปทางซ่างกวนจิ่นด้วยสีพระพักตร์ที่นิ่งสงบ
ซ่างกวนจิ่นจิบน้ำชาหนึ่งคำอย่างไม่สะทกสะท้าน มองดูการแข่งขันภายในสนามต่อไป ทว่านัยน์ตานั้นแอบฉายแววเย็นเยือกออกมา ดูกระหายเลือดจนน่าตกใจยิ่งนัก
เป้าหมายของเขาไม่ได้มีแค่ชนะการแข่งขันสนามนี้เท่านั้น เขายังต้องการชีวิตของเด็กที่ชื่ออวี้ฉิงหนานนั่นด้วย เด็กคนนี้ฉลาดและมีพรสวรรค์เกินไป หากเก็บไว้ในอาณาจักรเฟิงชางย่อมเป็นหายนะ หากไม่ทำลายตั้งแต่ตอนที่เขาอายุยังน้อย หลังจากนี้ย่อมกลายเป็นดั่งหอกข้างแคร่ของอาณาจักรจิงเหลย
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะลงสนามแข่งขัน เขาได้กำชับผู้เข้าแข่งขันงูพิษผู้นั้นไว้แล้วว่าให้ฆ่าหนานหนานทิ้ง จะชนะการแข่งขันหรือไม่นั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพรากชีวิตของอวี้ฉิงหนาน
ทว่า เรื่องกลับดำเนินไปในทางที่น่าสนใจเสียแล้วสิ คิดไม่ถึงเลยว่าอาณาจักรเฟิงชางจะเกิดความบาดหมางภายใน สิ่งนี้กลับเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพวกเขา
เพียงแต่…เด็กคนนั้นคล่องแคล่วจริง ๆ
หนานหนานหัวเราะเยาะหึหึ หลบหลีกคนที่จะจัดการกับเขา ถึงอย่างไรกฎของการแข่งการละเล่นชู่จวีในตอนนี้ก็ไม่ได้เข้มงวดเป็นพิเศษ การผลักกันแบบลับ ๆ จึงไม่ได้มีความสำคัญอะไร
หนานหนานก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย เมื่อเห็นคนเหล่านี้เข้ามา เขาก็ยิ่งมีกำลังใจสูงขึ้น
หยางหลินขมวดคิ้วมุ่น เกิดความคิดอยากเข้าไปช่วยเหลือ เพียงแต่เท้าของเขาได้รับบาดเจ็บแล้ว หากเข้าไปอาจเป็นการเพิ่มภาระให้หนานหนาน
อย่างไรก็ตาม ตอนที่เขาเพิ่งจะคิดเช่นนี้ วินาทีต่อมากลับถูกคนเพ่งเล็งเข้าแล้ว ผู้เข้าแข่นขันงูพิษผู้นั้นยิ้มด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย หันกลับมาโจมตีเข้าใส่หยางหลิน
“หยุด” หนานหนานขมวดคิ้วมุ่น ตระหนักได้แล้วว่าเมื่อครู่ตอนที่หยางหลินปกป้องเขาและกลิ้งไปนั้น เขาคงได้รับบาดเจ็บเป็นแน่ เพียงแต่เขาไม่ได้พูดออกมา และตนเองก็ไม่ได้เอ่ยถาม
ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าคนของอาณาจักรจิงเหลยจะเลวทรามเช่นนี้ ถึงได้คิดจะลงมือกับหยางหลิน
หนานหนานรู้สึกหงุดหงิดมาก ทางฝั่งนี้กำลังเล่นอย่างสนุกสนาน ทว่าทางฝั่งหยางหลินกลับเจอกับวิกฤต
หนานหนานสะบัดตัวออกจากการถูกพันธนาการจากหัวหน้ากลุ่ม รีบพุ่งตัวเข้าหาหยางหลิน
เขาเพิ่งจะได้เห็นอย่างแจ่มชัด ตอนนี้ผู้เข้าแข่งขันงูพิษนั่นไม่ได้ซ่อนงูพิษด้านในแขนเสื้อ แต่กลับซ่อนใบมีดที่ทั้งบางและคมไว้ในนั้น อีกทั้งยังเล็งเป้าไปที่คอของหยางหลินด้วย
หนานหนานรีบพุ่งเข้าประชิด ปรี่ตัวเข้าหาหยางหลินโดยไม่คิด
หยางหลินรอดการโจมตีไปหนึ่งครั้ง ทว่าหนานหนานกลับมิอาจหนีพ้น ใบมีดนั้นจึงปาดเข้าที่แขนของหนานหนานที่เข้ามาช่วยขวางไว้ เลือดสีแดงสดพลันไหลออกมาเปื้อนแขนเสื้อสีขาว
ผู้เข้าแข่งขันของอาณาจักรเฟิงชางถึงกับตกใจ ร่างกายที่จากเดิมกำลังพุ่งเข้ามาถึงกับหยุดชะงัก พวกเขาแค่คิดอยากทำให้หนานหนานได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้คิดจะทำร้ายเขาจนถึงแก่ชีวิตสักหน่อย
หยางหลินเบิกตาโต รูม่านตาหดเล็กลงโดยพลัน เขามองดูหนานหนานที่มีเหงื่อชุ่มออกมาจากหน้าผาก รีบถามด้วยความกังวลใจ “เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”
หนานหนานส่ายหน้า ตอนที่กำลังจะลุกขึ้นยืน กลับพบว่าผู้เข้าแข่งขันงูพิษผู้นั้นหัวเราะออกมา “ขอโทษด้วย ชีวิตของเจ้าคงต้องฝากไว้ที่นี่แล้ว”
ครั้นกล่าวจบ แขนเสื้อของเขาก็พลิกตลบอีกหน ก่อนจะปาดเข้าที่ด้านหลังลำคอของหนานหนาน
เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นหนึ่งเสียง แขนเสื้อของผู้เข้าแข่งขันคนนั้นยังไม่ทันขยับลง ร่างกายของเขาก็กระเด็นออกไปกระแทกเข้ากับประตูลูกหนังอย่างแรง ร่างนั้นกระตุกแรง ๆ สองหน ก่อนจะเป็นลมหมดสติไป
ทุกคนที่อยู่ในสนามยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา หนานหนานก็ถูกคนอุ้มไว้ หลังจากม้วนกายหนึ่งตลบก็ลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคง
เย่ซิวตู๋มีสีหน้าแข็งทื่อ ดวงตาสีแดงก่ำคู่นั้นฉายแววโกรธจัด ครั้นเห็นเลือดที่เปื้อนอยู่บนแขนเสื้อของหนานหนาน เส้นประสาททั้งหมดบนร่างกายก็ถึงกับตึง
“หนานหนาน เป็นอะไรหรือไม่?”
หนานหนานมองบาดแผลบนแขนของตนเองปราดหนึ่ง บาดแผลถูกกรีดค่อนข้างลึกจึงทำให้เลือดยังไหลอยู่ แต่ยังดีที่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต เพียงแต่…
“เจ็บมาก” หนานหนานน้ำตาไหล ทำปากแบนมองเย่ซิวตู๋ด้วยท่าทางน่าสงสาร
เย่ซิวตู๋รู้สึกกลัวขึ้นมา จึงรีบอุ้มร่างเล็ก ๆ ของเขาไว้พลางกระซิบปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว”
ทั่วทั้งสนามแข่งขันเข้าสู่ความยุ่งเหยิงเพราะการบุกรุกของเย่ซิวตู๋ ทุกคนที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์ทยอยลุกขึ้นยืน พวกเขาเห็นว่ามีบุรุษปรากฏตัวขึ้นภายในสนามแข่งขันอย่างฉับพลัน สีหน้าและน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเขา ทำให้ทุกคนแทบไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น
นั่นเป็นถึงท่านอ๋องซิวเชียวนนะ ท่านอ๋องผู้เลื่องชื่อเรื่องความเย็นชาและเฉยเมยของอาณาจักรเฟิงชาง บัดนี้กลับเป็นห่วงเป็นใยเด็กคนหนึ่งเช่นนี้ หรือว่า…เป็นเพราะสอนวรยุทธ์ให้เด็กคนนี้มาครึ่งเดือน ทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันได้อย่างลึกซึ้งเช่นนี้?
ซ่างกวนจิ่นเห็นว่าแผนการของตนเองล้มเหลว เขาจึงลุกขึ้นพร้อมกล่าวอย่างขัดใจ “ท่านอ๋องซิว ตอนนี้เป็นช่วงการแข่งขันของสองอาณาจักร ท่านบุกเข้าสู่สนามแข่งขันอย่างไร้กฎเกณฑ์เช่นนี้ ไม่เห็นการแข่งขันใหญ่ของสี่อาณาจักรอยู่ในสายตามากเกินไปหน่อยกระมัง?”
เย่ซิวตู๋เหลือบตามองก็พบว่าอวี้ชิงลั่วพลิกตัวลงมาจากที่นั่งบนอัฒจันทร์และกำลังวิ่งมาทางนี้ เขาจึงเงยหน้ายิ้มเยาะ “ความหมายของอุปราชคือ อยากให้เรามองดูบุตรชายของตนเองถูกคนอื่นทำร้ายจนตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นรึ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โหดร้ายมาก ถึงขนาดลอบสังหารในการแข่งขันเลย
ไม่ต้องรอใครประกาศ ท่านพ่อประกาศเองเลยว่าหนานหนานเป็นลูก ประกาศต่อหน้าสี่อาณาจักรมันนี่แหละ
ไหหม่า(海馬)
Comments