อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 455 ที่แท้ก็เป็นเจ้า

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 455 ที่แท้ก็เป็นเจ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 455 ที่แท้ก็เป็นเจ้า

ตอนที่ 455 ที่แท้ก็เป็นเจ้า

หนานหนานชะงัก แอบอุทานในใจว่า ‘ซวยแล้ว’ รีบยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าตนเอง หมุนกายคิดจะแอบเดินออกไป

ถึงกระนั้น ฉีหานเทียนกลับตาไวมือไว ใช้มือจับดึงตัวหนานหนานกลับมา

“เจ้ายังคิดจะหนีอีกรึ? ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้”

หนานหนานออกแรงสะบัดมือ คนคนนี้น่ารำคาญชะมัด เขาจะอยู่หรือไปมันไปเกี่ยวอะไรกับเจ้านี่? ที่นี่คือตำหนักอ๋องซิว เป็นเรือนของเขา ใช่เรื่องที่เขาผู้นั้นจะมายุ่งรึ?

เขาตบหลังมือของฉีหานเทียนทันใด อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บจึงปล่อยนิ้วมือทั้งห้านิ้ว หนานหนานได้รับอิสระก็รีบวิ่งย้อนกลับไปยังฝั่งตรงกันข้ามทันที

เพียงแต่ ตอนที่เขาลงมือตีฉีหานเทียนเมื่อครู่อยู่ในสายตาของฉีหานเว่ยพอดี เมื่อเห็นว่าเจ้าสิบสามขมวดคิ้วร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่หยุด สีหน้าของฉีหานเว่ยถึงกับเคร่งขรึมลงอย่างห้ามไม่อยู่ พลันกระโดดดีดตัวขึ้นย้ายไปตรงหน้าหนานหนานเพื่อขวางทางเขา

“เจ้าเป็นใคร? เจ้า…” เสียงของฉีหานเว่ยถึงกับหยุดชะงักตอนที่เห็นรูปร่างหน้าตาของหนานหนาน ใบหน้าสกปรกมอมแมมจนน่าขัน ทำให้เขาหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในชั่วพริบตาเดียว

เด็กคนนี้ไปกลิ้งบนพื้นโคลนที่ไหนมา? เหตุใดซื่อจื่อของตำหนักอ๋องคนหนึ่งถึงได้ทำให้ตนเองอยู่ในสภาพน่าอเนจอนาถเช่นนี้

หนานหนานไม่รู้จักฉีหานเทียน แต่กลับคุ้นตาฉีหานเว่ยที่เป็นรัชทายาทของอาณาจักรหลิวอวิ๋น

เมื่อเห็นอีกฝ่ายเข้ามาขวางตนเอง ความรู้สึกไม่พอใจพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้า “โถ่เอ๊ย ท่านหลีกทางหน่อย อย่ามาขวางข้า”

ฉีหานเว่ยเลิกคิ้วขึ้น เขาจับสีหน้าตื่นตระหนกคิดจะหลบหนีของหนานหนานได้ จึงลอบแค่นเสียงหนึ่งเสียง ขยับตัวขวางด้านข้าง ปิดกั้นแน่นหนามากยิ่งขึ้น

โม่เสียนเดินมายืนข้าง ๆ ฉีหานเทียนก่อน หลังจากเห็นอีกฝ่ายปลอดภัยไร้กังวลจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก จะปล่อยให้เกิดเรื่องกับองค์ชายของอาณาจักรหลิวอวิ๋นภายในตำหนักอ๋องซิวไม่ได้ โดยเฉพาะองค์ชายน้อยผู้นี้ที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้

ฉีหานเทียนรู้สึกเจ็บที่หลังมือ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเด็กคนนั้นที่มีรูปร่างเล็กกว่าตนเองกลับมีพละกำลังมากขนาดนั้น ตบหลังมือของเขาจนแดงแจ๋แล้ว

ไม่รอให้โม่เสียนพูดอะไร ฉีหานเทียนก็ก้าวเท้าวิ่งสองสามก้าวย้ายไปยืนข้างหนานหนานทันที

โม่เสียนชะงักไปครู่หนึ่ง รีบวิ่งตามไป ทว่าตอนที่สายตาประสานเข้ากับดวงตากลมโตคู่นั้นของหนานหนาน ร่างกายของเขาถึงกับสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง

“หนาน…หนานหนาน? เหตุใดเจ้าถึงอยู่ในสภาพนี้?” โม่เสียนแอบกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เจ้าตัวเล็กคนนี้ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ของตนเองมากที่สุดมาโดยตลอดมิใช่รึ? เหตุใดวันนี้เขาถึงได้แต่งกายราวกับขอทานตัวน้อยที่มาจากด้านนอก?

หนานหนานเบี่ยงตัวหลบฉีหานเว่ยที่เข้ามาขวางทางไม่พ้น ทั้งยังถูกโม่เสียนจับได้อย่างซึ่ง ๆ หน้า เขาจึงถลึงตาใส่รัชทายาทฉีที่กำลังยิ้มตาหยีด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด

“หนานหนาน มีคนรังแกเจ้าใช่หรือไม่?” โม่เสียนถามเขาด้วยความกังวล รีบย่อตัวลงพร้อมกับสำรวจหนานหนานตั้งแต่หัวจรดเท้าสลับไปมา

หนานหนานรีบถอยหลังออกไปสองก้าว ยิ้มเจื่อนพลางเงยหน้าขึ้นฟ้า พูดอย่างเป็นธรรมชาติว่า “ไม่มีใครรังแกข้าหรอก ก็แค่…ก็แค่หกล้มเท่านั้นเอง”

หกล้ม? โม่เสียนไม่เชื่อหรอก

ฉีหานเว่ยก็ไม่เชื่อเช่นเดียวกัน

ทว่าฉีหานเทียนกลับหัวเราะร่า ชี้หน้าหนานหนานด้วยความดูหมิ่น “โตขนาดไหนแล้ว ยังล้มอีกรึ? ทั้งยังล้มจนตัวเองอยู่ในสภาพเช่นนี้อีก จุ๊ ๆ ช่างน่าอายจริง ๆ”

เจ้าคนคนนี้นี่มันน่ารังเกียจจริง ๆ เขาล้มแล้วมันเกี่ยวอะไรกับอีกฝ่ายไม่ทราบ?

“เจ้าป่วยหรืออย่างไรกัน ต่อให้ข้าโตก็ยังเด็กกว่าเจ้า เจ้ามันไม่รู้จักการวางตัวเอาเสียเลย”

“ข้าไม่รู้จักการวางตัว? เมื่อครู่เจ้าตบมือข้าข้ายังไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าเลย ข้าไม่รู้จักวางตัว?”

“ก็เจ้ามาจับข้าก่อน เจ้ามาจับข้าแบบไร้เหตุผล จับจนข้อมือของข้าปวดไปหมดแล้ว”

“ก็เป็นเพราะเจ้าทำตัวน่าสงสัย เข้ามาในตำหนักอ๋องด้วยท่าทางหลบ ๆ ซ่อน ๆ ลับ ๆ ล่อ ๆ เจ้า…” เดี๋ยวก่อนนะ ฉีหานเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าเมื่อครู่ผู้อารักขาโม่จะเรียกชื่อเด็กคนนี้ด้วย

เขาหันไปจ้องหน้าโม่เสียนพลางอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจขณะเอ่ยถาม “เจ้า…เจ้ารู้จักเด็กคนนี้?”

โม่เสียนแอบรู้สึกอึดอัดใจ เด็กสองคนนี้ไปๆ มาๆ ก็ทะเลาะกันเสียแล้ว ขณะที่รัชทายาทฉียืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยอาการสงบและผ่อนคลาย ไม่ได้มีความคิดจะเข้าไปขัดขวางแม้แต่น้อย เขารู้จักนิสัยของหนานหนานดี อีกฝ่ายไม่เคยยอมเสียเปรียบให้ใคร ทว่าองค์ชายสิบสามของอาณาจักรหลิวอวิ๋นก็ถูกทำร้ายร่างกายมา เขาจึงต้องดูแลให้ดี จากนิสัยของทั้งสองคนนี้ที่ดูศีลเสมอกัน เขาจะขวางได้อย่างไร

ตอนนี้ได้ยินฉีหานเทียนหันมาถามโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ถึงคราวที่เขาจะพูดได้แล้ว

โม่เสียนลอบถอนหายใจ รีบแย้มยิ้มออกมา “องค์ชายสิบสาม นี่คือหนานหนาน ซื่อจื่อน้อยของตำหนักอ๋องซิวพ่ะย่ะค่ะ”

ฉีหานเทียนชะงัก “ซื่อจื่อน้อยของตำหนักอ๋องซิว? หมายความว่าเป็น…ลูกชายคนนั้น…ของ…ท่านอ๋องซิว?”

โม่เสียนพยักหน้ายืนยัน สีหน้าของฉีหานเทียนแปรเปลี่ยนเป็นซับซ้อนภายในพริบตาเดียว

เด็กคนนี้คือลูกชายของท่านอ๋องซิว เช่นนั้นก็หมายความว่าเป็นลูกชายของแม่นางชิง? คือหนานหนานเด็กคนนั้นที่เป็นผู้มีความโดดเด่นในช่วงนี้ที่แม้แต่พี่ใหญ่ของเขาก็คิดว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ?

ได้ยินมาว่าเขามีชื่อเสียงในการแข่งวรยุทธ์ ทั้งยังเอาชนะคู่ต่อสู้ของอาณาจักรหลิวอวิ๋นและอาณาจักรจิงเหลยได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าอายุจะน้อยแต่วรยุทธ์กลับลึกล้ำยากเกินกว่าจะหยั่งถึง

ฉีหานเทียนลูบหลังมือของตนเองด้วยท่าทางอึดอัดใจ ไม่แปลกใจเลยที่เมื่อครู่ตอนที่อีกฝ่ายตีเขาจะมีแรงมหาศาลขนาดนั้น ไม่แปลกใจเลยที่ตอนที่อีกฝ่ายพลิกตัวเหนือศีรษะของเขาจะดูองอาจขนาดนั้น ที่แท้เขาก็คือเด็กคนนั้นนี่เอง

ลูกชายของแม่นางชิง…

เช่นนั้นเขา…ก็ควรจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายให้ดีสักหน่อย วางท่าให้ดีสักหน่อยถึงจะถูกมิใช่รึ?

ทว่าเมื่อครู่เพิ่งจะทะเลาะกัน หากจะให้ตีสนิทตอนนี้ก็คงดูไม่ดีเท่าไรนัก อีกอย่าง…อีกฝ่ายก็กำลังมองมาที่เขาด้วยความเกลียดชัง

ฉีหานเทียนเกิดความรู้สึกยุ่งเหยิง ยุ่งเหยิงมากด้วย ภายในใจสับสนวุ่นวายไปหมด

หนานหนานเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดไม่จา ตอนที่กำลังจะแค่นเสียงเยาะใส่อีกฝ่ายด้วยความภาคภูมิใจ โม่เสียนตาไวมือไวรีบเข้ามาดึงมือเขา ก่อนจะแนะนำว่า “หนานหนาน นี่คือรัชทายาทของอาณาจักรหลิวอวิ๋น เจ้าเคยเจอใช่หรือไม่?”

เมื่อเห็นหนานหนานพยักหน้า โม่เสียนก็รีบชี้ไปที่ฉีหานเทียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “นี่คือองค์ชายสิบสามของอาณาจักรหลิวอวิ๋น วันนี้ติดตามท่านอ๋องมาเป็นแขกที่ตำหนัก แล้วก็…ลุงเหวินเทียนของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว ต้องขอบคุณรัชทายาทฉีและองค์ชายสิบสามที่ช่วยออกหน้าเป็นพยานให้ รวมถึงสะกดรอยตามอาฝูที่ทำตัวน่าสงสัยผู้นั้นด้วย ดังนั้นลุงเหวินเทียนจึงได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่องค์ชายสิบสามได้รับบาดเจ็บเพราะอาฝู ดังนั้นจึงมาที่ตำหนักอ๋องซิวเพื่อให้ท่านแม่ของเจ้าช่วยดูอาการให้”

โม่เสียนรีบอธิบายต้นสายปลายเหตุถึงการปรากฏตัวของพวกเขาที่นี่ไปหนึ่งครั้ง เพราะหวังว่าหนานหนานจะไม่เก็บความโกรธแค้นที่มีต่อองค์ชายสิบสามมากเกินไป หวังว่าหนานหนานจะเข้าใจถึงความหวังดีขององค์ชายสิบสามว่าได้ช่วยเหลือเหวินเทียนไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กทั้งสองคนนี้ทะเลาะกันต่อไปจนเกิดปัญหาใหญ่โต

ทว่าเขาพูดอยู่นาน หนานหนานกลับได้ยินแค่คำพูดประโยคแรกสุด

องค์ชายสิบสาม…องค์ชายสิบสามของอาณาจักรหลิวอวิ๋น

ดวงตาของหนานหนานเป็นประกายอย่างฉับพลัน เขานึกออกแล้ว คราวก่อนดูเหมือนว่าจะเคยเห็นคนคนนี้หน้าประตูเรือนรับรองของอาณาจักรหลิวอวิ๋น

“ข้ารู้แล้ว ที่แท้เจ้าก็คือองค์ชายสิบสามคนนั้นที่รังแกท่านน้าเป่าเอ๋อร์คราวก่อน ทั้งยังถูกตาต้องใจท่านแม่ของข้าจนอยากจะแต่งงานกับนางนี่เอง”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

หนานหนานยังแค้นฝังหุ่นอยู่ ต่อให้พูดว่าเป็นองค์ชายน้อยก็ไม่ยอม เรารู้

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *