อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 493 สิ่งที่สำคัญที่สุด

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 493 สิ่งที่สำคัญที่สุด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 493 สิ่งที่สำคัญที่สุด

ตอนที่ 493 สิ่งที่สำคัญที่สุด

อวี้ชิงลั่วเหลือบมองโม่เสียนอย่างมีเลศนัย แล้วเลิกคิ้วขึ้นขณะถามเขาว่า “เจ้าต้องการไปจวนอวี้ด้วยหรือ? ว่าอย่างไร ท่านอ๋องของเจ้าอนุญาตหรือ?”

“ท่านอ๋องตรัสว่าแล้วแต่พ่ะย่ะค่ะ” โม่เสียนหัวเราะและเดินไปข้างนางช้า ๆ หลังจากมองเยว่ซินแล้ว เขาก็พูดอย่างจริงใจว่า “กระหม่อมมีความเข้าใจสถานการณ์ในจวนอวี้ แม้เยว่ซินจะเคยอยู่ที่จวนอวี้มาก่อน แต่สุดท้ายแล้วนางก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาหลายปี ตอนนี้ท่านเป่าเอ๋อร์ยังมีจิตใจไม่เข้มแข็งพอ และใต้เท้าอวี้ก็ป่วยหนักอยู่บนเตียง หากไม่มีใครคอยอารักขาจวนอวี้ ท่านเป่าเอ๋อร์ก็อาจถูกโจมตีได้ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ว่ากันว่าบ่าวปีนเกลียวนายไม่ใช่เรื่องแปลกในโลกนี้

อวี้เป่าเอ๋อร์ยังเด็กและเยว่ซินก็ไม่ค่อยกล้ามากนัก หากมีกันเพียงสองคนในจวนอวี้ พวกเขาก็จะถูกคนที่เคยทำงานรับใช้เฉินจีซินรังแกจนตาย

แต่ความกังวลของโม่เสียนมีเป็นพันเป็นหมื่นสิ่ง หากเยว่ซินถูกทำร้ายในจวนอวี้ เขาก็เกรงว่านางจะไม่พูดเมื่อนางกลับมา

แม้อวี้ชิงลั่วจะรู้สึกว่าโม่เสียนหลงประเด็นไปเล็กน้อย โดยพูดในเชิงว่าอวี้เป่าเอ๋อร์เห็นแก่ตัว แต่ก็มีความจริงบางอย่างในสิ่งที่เขาพูด แม้ว่านางจะสั่งพ่อบ้านเหอและกำชับท่านลุงเสียงไว้แล้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาทำอะไรในที่ลับตา คนรับใช้ส่วนใหญ่ในจวนอวี้เป็นคนของเฉินจีซิน และมีคนไม่น้อยที่แอบสร้างปัญหา โม่เสียนเป็นคนฉลาด หากมีเขาคอยดูแลก็จะช่วยแก้ปัญหาได้มากจริงๆ

ทว่า…

“เจ้าต้องการจะเข้าไปอยู่ในจวนอวี้ในฐานะอะไร?” อวี้ชิงลั่วถาม

สุดท้ายโม่เสียนก็เป็นองครักษ์แห่งตำหนักอ๋องซิว หากบอกว่าไปอยู่ในจวนอวี้เพราะเยว่ซิน เยว่ซินจะไม่ถูกติฉินนินทาแย่หรือ? แม้ทั้งสองจะรักกัน แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานกัน อีกทั้งเยว่ซินยังเป็นคนหน้าบางไม่เหมือนนางด้วย

“กระหม่อมจะไปในฐานะอาจารย์ของท่านเป่าเอ๋อร์พ่ะย่ะค่ะ” การที่อาจารย์พักอยู่ที่บ้านของศิษย์ชั่วคราวเพื่อสอนศิลปะการต่อสู้ให้นั้นเป็นเรื่องปกติ

แม่นมเซียวหน้าตาเรียบเฉย ขณะสูดหายใจอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าท่านโม่จะวางแผนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว”

โม่เสียนแตะจมูกของเขาพลางหัวเราะแห้ง แม่นมเซียวเป็นคนที่แม้แต่แม่นางอวี้ก็ยังไม่กล้าขัดใจ เขาจึงอยากจะเลี่ยงการสนทนากับนางหากทำได้ ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะต้องลำบากใจ

อวี้ชิงลั่วครุ่นคิดแล้วตอบตกลง

“เอาล่ะ เจ้าไปเก็บของแล้วไปจวนอวี้กับเยว่ซิน”

“คุณหนู” เยว่ซินกระทืบเท้า ใบหน้าของนางแดงก่ำ “ให้เขาไปที่จวนอวี้ด้วย เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรเจ้าคะ?”

อวี้ชิงลั่วพ่นลมหายใจ “ทำไม เจ้ามีความสามารถในการต่อกรกับพวกคนรับใช้ในจวนอวี้หรือ?” ถ้าเป็นหงเย่ก็คงไม่มีปัญหา

เยว่ซินเงียบ จริงด้วย นางยอมรับว่านางไม่มีความสามารถเช่นนั้น

สีหน้าของนางบึ้งตึงอีกครั้ง นางส่ายตัวไปมาและกระทืบเท้าอย่างแรง แล้วพูดกำชับด้วยความหงุดหงิด “เยว่ซินจะไปแล้วนะเจ้าคะ คุณหนูต้องดูแลตัวเองให้ดี แม้ว่าตอนนี้อากาศจะร้อน แต่คุณหนูก็ต้องระวังไม่ให้เป็นหวัด และคุณหนูควรเข้านอนให้เร็วขึ้นในตอนกลางคืน ไม่เช่นนั้นจะไม่สวยนะเจ้าคะ หนานหนานคงจะยังไม่กลับมา แต่หากเขากลับมาแล้ว คุณหนูต้องบอกเขาว่าเยว่ซินจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ และจะกลับมาเล่นกับเขาและ…”

“เยว่ซิน จวนอวี้และตำหนักอ๋องซิวอยู่ไม่ไกลกัน ดังนั้นไปกลับได้สะดวกมาก” ดังนั้นก็ไม่ต้องพูดพล่ามซ้ำไปมาอย่างไม่รู้จบเหมือนยายแก่ นางฟังจนหูจะชาอยู่แล้ว

“แม้จะสะดวก แต่หากไม่มีคนคอยดู คุณหนูก็จะไม่ใส่ใจร่างกายตัวเอง ข้ารู้ว่าคุณหนูรำคาญข้า ฮึ่ม” ในที่สุดเยว่ซินก็ทำแก้มป่องและเดินจากไปอย่างแง่งอน

โม่เสียนโค้งคำนับทำความเคารพ แล้วรีบตามออกไป

แม่นมเซียวยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ เมื่อร่างของพวกเขาลับสายตาไป นางก็พูดด้วยความไม่พอใจว่า “องค์หญิงตามใจเยว่ซินมากเกินไป นางจึงไม่เคารพกฎเกณฑ์เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเจ้านาย จะปล่อยให้แสดงกิริยาเช่นนี้ต่อไปไม่ได้นะเพคะ”

อวี้ชิงลั่วอยากจะร้องไห้ คนที่ปฏิบัติต่อนางในฐานะเจ้านาย แต่มักจะทำให้นางพูดไม่ออกอยู่เสมอก็คือท่านไม่ใช่หรือแม่นมเซียว?

นางบ่นในใจเงียบ ๆ แต่นางก็ปิดปากสนิทอย่างเชื่อฟัง หลังจากเห็นท่าทางเคร่งขรึมของแม่นมเซียว “ฮ่า ๆ แม่นมเซียวพูดต้องแล้ว เมื่อเยว่ซินกลับมาในครั้งต่อไป ข้าจะต้องสั่งสอนนางแน่นอน”

แม่นมเซียวเหลือบมองไปทางด้านข้าง คิดว่านางไม่รู้จักนิสัยของอวี้ชิงลั่วดีพอหรือ? สุดท้ายก็เป็นเพียงคำพูดเอาใจนางเท่านั้น

เฮ้อ แม่นมเซียวถอนหายใจ นางเสียใจเล็กน้อยที่มีเจ้านายที่วางตัวไม่เหมือนเจ้านาย แต่โชคดีที่คนรับใช้ในตำหนักท่านอ๋องซิวมีระเบียบวินัยมาก และหงเย่ก็มีวินัยในตนเองมาโดยตลอด มีเพียงเยว่ซินคนนี้ที่ค่อนข้างจะงี่เง่า ก่อนที่นางจะจากไป นางยังคงพูดจาเล่นลิ้นกับผู้เป็นนายอยู่ ฉะนั้นนางต้องได้รับการฝึกฝนให้ดี

ในฐานะคนรับใช้ ความภักดีเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

แม่นมเซียวตกอยู่ในภวังค์ อวี้ชิงลั่วกลัวว่านางจะเริ่มเทศนาอีกครั้ง จึงดื่มชาเงียบ ๆ และไม่รบกวนนาง

ไม่มีใครพูดในห้องโถง แต่ชิวหลานที่คุกเข่าอยู่บนพื้น และมองเห็นทุกอย่างเริ่มกลอกตาไปมาอย่างลุกลี้ลุกลน

การทำงานในตำหนักท่านอ๋องซิวนั้นผ่อนคลาย และสะดวกสบายมาก

เพียงแค่มองท่าทางของแม่นมเซียวและเยว่ซินแล้ว นางก็เห็นได้ว่าการเป็นคนรับใช้ที่นี่สบายเพียงใด หึๆ ปรากฏว่าคุณหนูใหญ่ยังคงเหมือนเดิม มีนิสัยอ่อนโยนและถูกรังแกได้ง่าย ต่อให้จะมีใครมาปีนหัว นางก็ยังคงไม่กล้าพูดอะไรออกมา

ฮึ จะเกิดอะไรขึ้นหากมีการเปลี่ยนสถานะ? จะเป็นอย่างไรหากนางเป็นองค์หญิง ถ้านางถูกคนรับใช้วิ่งมาจากข้างนอกเพื่อพูดจายั่วโทสะนาง สุดท้ายแล้วจะไม่มีการลงโทษใด ๆ เลยหรือ? นางยังคงแสดงสีหน้ายิ้มแย้มเพื่อทำให้แม่นมเซียวพอใจ

เจ้านายเช่นนี้ด้อยกว่าฮูหยินและคุณหนูรอง

แม้แต่คนโง่เขลาอย่างเยว่ซิน ก็สามารถสร้างรายได้มหาศาลได้ในตำหนักท่านอ๋องซิว และยังมีองครักษ์ที่หล่อเหลาคนนั้นมาตกหลุมรักนางด้วย

ชิวหลานคิดว่าตนฉลาดและงดงามกว่าเยว่ซิน หากนางได้เป็นคนรับใช้ในตำหนักท่านอ๋องซิว ก็เกรงว่าอาจจะไม่ใช่แค่คนรับใช้ในจวนนี้เท่านั้นที่จะตกหลุมรักนาง บางทีวันหนึ่งท่านอ๋องอาจจะหันมามองนาง และเมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่คุณหนูใหญ่ก็ยังต้องถูกทิ้งเพราะนาง

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ชิวหลานก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะอยู่ที่นี่ต่อให้ได้

แต่ความปรารถนาในดวงตาของนางนั้นแรงกล้าเกินไป แม้แม่นมเซียวจะกำลังจมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่ แต่ก็ยังจับความปรารถนาของนางได้ทันที ไม่ต้องพูดถึงอวี้ชิงลั่วที่กระตือรือร้นมากอยู่แล้ว

ชิวหลานผู้นี้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงยิ่งกว่าท้องฟ้าจริง ๆ

“องค์หญิง” ชิวหลานเห็นว่าทั้งสองไม่ได้เอ่ยปากพูดมานานแล้วราวกับว่าจงใจเพิกเฉยตน นางจึงเริ่มบีบน้ำตาอีกครั้ง แล้วพูดอย่างน่าสงสาร “องค์หญิง เมื่อสักครู่นี้แม่นมเซียวบอกว่าองค์หญิงไม่ได้ขาดแคลนคนข้างกาย แต่ตอนนี้พี่เยว่ซินไปที่จวนอวี้เพื่อดูแลนายน้อย ดังนั้นหม่อมฉันก็สามารถรับใช้องค์หญิงแทนพี่เยว่ซินได้”

แทนที่เยว่ซินหรือ? ฮึ นางคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพออย่างนั้นหรือ?

อวี้ชิงลั่วใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ และมองไปยังสีหน้าของชิวหลัน สักพักนางก็หัวเราะและถามว่า “ชิวหลาน เจ้ารู้หรือไม่ว่าอะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเป็นคนรับใช้ในตำหนักท่านอ๋องซิว?”

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

หวังสูงไปแล้วนะเธอ คิดจะจับท่านอ๋องซิวเลยเหรอ ฝ่าด่านคนรับใช้ของตำหนักนี้ไปให้ได้ก่อนเถอะ แต่ละคนโหดอยู่นะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *