อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 555 ท่านแม่มีใช่หรือไม่
ตอนที่ 555 ท่านแม่มีใช่หรือไม่
ตอนที่ 555 ท่านแม่มีใช่หรือไม่
“เอ๊ะ?” อวี้ชิงลั่วประหลาดใจ “ผู้ใดกัน?”
“เป็นคนจากเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลย เขาบอกว่าตนเป็นองครักษ์พยัคฆ์ข้างกายอุปราช ชายคนนั้นบอกว่าอาการของอุปราชทรุดหนักอย่างกะทันหัน และชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย เขาจึงมาขอให้แม่นางชิงรีบกลับไปที่เรือนรับรองเพื่อช่วยเขาเพคะ”
อวี้ชิงลั่วลุกขึ้นจากเตียงทันที “ทรุดหนักหรือ? เป็นไปได้อย่างไร? อาการของเขาดีขึ้นอย่างมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา และพิษส่วนใหญ่ก็ถูกกำจัดไปแล้ว”
“หม่อมฉันก็ไม่ทราบเช่นกันเพคะ ชายผู้นั้นดูรีบร้อน องค์หญิง ท่าน…”
อวี้ชิงลั่วเม้มริมฝีปากแน่น และลุกจากเตียงทันที “กว่าจะยื้อชีวิตเขากลับคืนมาได้นั้นยากนัก หากข้าทำให้สูญไปในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ มันจะไม่ล้มเหลวหรือ?”
เดิมทีหนานหนานต้องการจะหยุดนางไว้ แต่หลังจากได้ยินนางพูดเช่นนั้น เขาก็ปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง
เขารู้ว่าอุปราชผู้น่ารังเกียจราวกับอสรพิษร้ายผู้นั้นไม่อาจมาตายในอาณาจักรเฟิงชางได้
เด็กน้อยก็กระโดดลงจากเตียง และหลังจากเท้าของเขาแตะพื้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก เมื่อม่านประตูถูกเปิดออก คิ้วขมวดของฮองเฮาก็ปรากฏขึ้นทันที “องค์หญิง อุปราชแห่งอาณาจักรจิงเหลย…”
“ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันกำลังจะรีบไปยังเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลยเดี๋ยวนี้ ต้องขอรบกวนฮองเฮาแล้วเพคะ”
ฮองเฮาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วส่ายหน้า “องค์หญิงไม่ต้องห่วงเรื่องที่นี่ รบกวนองค์หญิงเรื่องอุปราชด้วย”
แตกต่างจากเหมิงกุ้ยเฟย ความคิดของฮองเฮาเหมือนกับอวี้ชิงลั่ว พระนางคิดว่าจะปล่อยให้อุปราชสิ้นชีพที่นี่ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นทั้งอาณาจักรเฟิงชางจะประสบปัญหาใหญ่ พระนางเป็นฮองเฮาแห่งอาณาจักรเฟิงชาง และจะเจริญรุ่งเรืองและย่อยยับไปพร้อมกับราชวงศ์ของอาณาจักรเฟิงชาง
อวี้ชิงลั่วรีบสวมเสื้อคลุมออกจากเรือนพำนัก
หนานหนานกระโดดตามไปทันที “ท่านแม่ ข้าไปด้วย”
แม่ของเขายังคงบาดเจ็บอยู่ หากไม่ตามไปเขาจะกังวลมาก
อวี้ชิงลั่วไม่ได้คัดค้าน และทั้งสองก็รีบไปที่รถม้าที่จอดรออยู่นอกวัด
คนที่มาจากกลุ่มองครักษ์พยัคฆ์คือกวนอู๋ ทันทีที่อวี้ชิงลั่วเห็นเขา นางก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ แม้แต่กวนอู๋ก็ยังถูกส่งมาที่นี่ อาการของซ่างกวนจิ่นเลวร้ายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
“อาการของอุปราชพวกเจ้าเป็นอย่างไร?” รถม้าแล่นไปตลอดทาง อวี้ชิงลั่วเปิดม่านรถม้าขึ้น และมองไปยังกวนอู๋ที่มาพร้อมกับรถม้า
กวนอู๋เม้มปาก สีหน้าของเขาเคร่งขรึมผิดปกติ และทั้งตัวของเขาก็มีรัศมีที่ทำให้คนแปลกหน้าไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อได้ยินคำถามของอวี้ชิงลั่ว ใบหน้าของเขาพลันชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “กระหม่อมไม่รู้เรื่องนี้ แต่กระหม่อมได้ยินเสียงสั่นเครือของท่านอ๋อง ใบหน้าของท่านซีดเผือด และริมฝีปากก็ยังคงเป็นสีม่วงราวกับว่ากำลังเผชิญความเจ็บปวดที่ไม่อาจทนได้ หมอหลวงหลูไม่มีทางระงับอาการเจ็บปวดเช่นนี้ได้ กระหม่อมจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรีบมาเชิญแม่นางชิง”
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้วมากขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ว่ากระบวนการล้างพิษของนางมีบางอย่างผิดปกติ? นางทำให้พิษในร่างกายของเขารุนแรงขึ้นหรือไม่?
อวี้ชิงลั่วปิดม่านลงและไม่ได้พูดอะไรอีก และพยายามนึกถึงวิธีการล้างพิษอื่น ๆ ในใจ
ก่อนที่นางจะนึกได้ รถม้าก็แล่นไปตามถนนอันพลุกพล่านแล้ว เนื่องจากองครักษ์พยัคฆ์เป็นผู้เปิดทาง ทุกคนจึงหลีกทางให้ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
เสียงฝูงชนพูดคุยกันจอแจดึงความคิดของอวี้ชิงลั่วกลับมา นางเม้มริมฝีปากแน่น และดูเหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะหันศีรษะหาหนานหนานและกระซิบว่า “หนานหนาน เจ้ากลับไปวันนี้ ห้ามบอกพ่อของเจ้าเรื่องอาการบาดเจ็บของแม่นะ รู้หรือไม่?”
หนานหนานกำลังไม่สบายใจ เขาคิดว่าอุปราชช่างน่ารำคาญนัก รู้สึกไม่อยากพบหน้าเขาแม้แต่น้อย
ตลอดการเดินทางเขาก็ได้คิดหาวิธีจับสังเกตซ่างกวนจิ่นเป็นพันหมื่นวิธี เมื่อจู่ ๆ ก็ได้ยินคำพูดของอวี้ชิงลั่ว เขาก็ตกตะลึงไป แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ท่านแม่โง่เขลาหรือไม่ ต่อให้ข้าจะไม่พูด เรื่องวันนี้ก็ใหญ่มาก เสด็จปู่และคนอื่น ๆ ต่างก็ทราบกันแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ท่านพ่อจะไม่รู้ ท่านยังคิดอีกหรือว่าจะสามารถปกปิดได้?”
ความเฉลียวฉลาดของท่านแม่ตอนนี้ ต้องได้รับการพัฒนาจริง ๆ
อวี้ชิงลั่วเคาะศีรษะของเขา และจ้องมองเขา “เช่นนั้นก็บอกพ่อของเจ้าว่าอาการบาดเจ็บของแม่เป็นเรื่องเสแสร้ง มันเป็นเพียงแผนการตบตาคนอื่นเท่านั้น เข้าใจหรือไม่?”
หนานหนานยังคงมองนางด้วยสายตาดูหมิ่น “ท่านพ่อไม่ได้โง่เหมือนท่าน”
“อวี้ฉิงหนาน!!”
หนานหนานตัวสั่นสะท้านทันที เขารีบเลิกคิ้วขึ้นและก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว และตอบอย่างสุภาพว่า “ก็ได้ ก็ได้ ข้าเป็นลูกชายสุดที่รักของท่านไม่ใช่หรือ? ในเมื่อท่านอ้อนวอนข้าเช่นนั้น ข้าก็จำต้องยอมท่าน”
“…” อวี้ชิงลั่วต้องการจะตีเขาสักทีจริง ๆ
หงเย่ที่อยู่ด้านข้างหัวเราะ จากนั้นก็เม้มปากและชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดอย่างกะทันหันว่า “องค์หญิง เมื่อท่านเสิ่นและพวกของเขาเข้าไปในวัดหลิงไท่ พวกเขาก็เข้าไปมีส่วนพัวพันด้วย แต่คนเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจสังหารพวกเขา หลังจากเรื่องขององค์หญิงคลี่คลายลง ท่านเสิ่นก็กลับไปยังตำหนักอ๋องซิวแล้วเพคะ”
อวี้ชิงลั่วตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “อืม พวกเขาจะไม่เป็นอะไร”
หงเย่หัวเราะอีกครั้ง ก่อนส่ายศีรษะและไม่พูดอะไร
แม่นมเซียวเหลือบมองอวี้ชิงลั่วด้วยสายตาว่างเปล่า และทันใดนั้นก็เข้าใจในสิ่งที่หนานหนานพูด อันที่จริงบางครั้งองค์หญิงก็…โง่เขลาเล็กน้อย
“หงเย่หมายความว่าเมื่อท่านเสิ่นกลับไปยังตำหนักอ๋องซิว ในไม่ช้าท่านอ๋องซิวก็จะรู้เรื่องวัดหลิงไท่ และ… ท่านอ๋องซิวก็น่าจะทราบว่าตอนนี้องค์หญิงกำลังเสด็จไปยังเรือนรับรองของอาณาจักรจิงเหลย”
“…” อวี้ชิงลั่วปิดหน้าของนางเงียบ ๆ หงเย่พูดได้ชัดเจนนัก แต่นางกลับนึกไม่ถึง
หนานหนานถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนส่ายหน้าอย่างอารมณ์ดี “ข้าบอกแล้วว่าช่วงนี้ท่านแม่ของข้าไม่ค่อยสบาย แม่นมเซียว ข้าได้ยินมาว่าหญิงตั้งครรภ์จะกลายเป็นคนโง่เขลา ท่านคิดว่าท่านแม่ของข้ามีหรือไม่?”
แม่นมเซียวเหลือบมองท้องของอวี้ชิงลั่ว และครุ่นคิด
อวี้ชิงลั่วทำหน้าไม่ถูกเล็กน้อย และจ้องหนานหนานด้วยสายตาดุร้าย “พ่อของเจ้ากับแม่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วจะไปมีเด็ก…”
“ตอนนี้ข้ากำลังภาวนาให้แม่ของข้าให้กำเนิดน้องสาว” หนานหนานไม่สนใจสิ่งที่อวี้ชิงลั่วพูด และขัดจังหวะนางด้วยการพูดต่อ “ข้าคิดว่าน้องสาวดีกว่า เพราะทำให้ข้าต้องการปกป้อง อ่า ตอนนี้มีเด็กผู้ชายห้อมล้อมรอบตัวข้าแล้ว แต่ยังไม่มีตุ๊กตาเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่จะมาเติมเต็มหัวใจของข้าเลย”
อวี้ชิงลั่วคิดว่าคนที่ควรหนักใจที่สุดก็คือนางไม่ใช่หรือ?
“หนานหนาน เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว แม่ยัง…”
“นอกจากนี้น้องสาวของข้าจะไม่ป่าเถื่อน หุนหันพลันแล่น และโรคจิตเหมือนพี่ชายอย่างข้า ในอนาคตข้าจะสอนน้องสาวของข้าให้กลายเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในอาณาจักรเฟิงชาง ไม่สิ นางต้องได้เป็นสตรีที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยวิธีนี้ก็จะมีบุรุษมากมายมาสู่ขอ และข้าก็จะมีเงินมหาศาล”
“…” อวี้ชิงลั่วไม่เข้าใจ “เกิดมางามหรือไม่งามแล้วอย่างไร? เกี่ยวอะไรกับการศึกษาของเจ้าหรือ? และการมีคนมาสู่ขอเกี่ยวอะไรกับการทำเงินของเจ้าด้วย?”
“แต่ท่านพ่อของข้าหล่อมาก หากไม่เหมือนท่านแม่มากเกินไป น้องสาวของข้าจะต้องเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในโลกแน่”
อวี้ชิงลั่วคิดว่านางไม่อาจทนไหวอีกต่อไปและต้องตีเขาให้ได้ นางจึงกำหมัดแน่นขณะคิดเช่นนั้น และกำลังจะลงมือจัดการทันที
เพียงแต่ว่ารถม้าที่แล่นไปอย่างราบรื่นนั้นกลับหยุดลงกะทันหันก่อนที่นางจะทันได้เริ่มลงมือ
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานเอ๊ย อยากมีน้องทั้งทีก็ไม่พ้นใช้น้องเป็นคนหาเงินให้ตัวเองนะ แถมยังดวงดีอีกต่างหาก ท่านแม่จะลงโทษก็มีเหตุมาขัดอยู่ตลอด
ไหหม่า(海馬)
Comments