อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 625 เดินผ่านระยะประชิด

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 625 เดินผ่านระยะประชิด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 625 เดินผ่านระยะประชิด

ตอนที่ 625 เดินผ่านระยะประชิด

“ท่านอ๋อง” เสิ่นอิงตกใจและรีบลุกขึ้นยืนตัวตรง

เย่ซิวตู๋หายใจเข้าลึก ๆ ก่อนกระโดดลงมาจากชั้นสองโดยไม่ลังเลจนผู้คนด้านล่างตื่นตกใจ และก่อนที่พวกเขาจะทันได้ด่า เขาก็วิ่งไปทางที่เงาร่างเล็ก ๆ เมื่อสักครู่นี้วิ่งหนีไปโดยไม่หันกลับมามอง

เสิ่นอิงและเผิงอิงที่ชั้นสองมองหน้ากัน แล้วรีบตามลงไปชั้นล่าง

ทว่าร่างเล็ก ๆ ที่กระโดดโลดเต้นไปมาอย่างปราดเปรียวเมื่อครู่นี้ได้หายไปนานแล้ว

เย่ซิวตู๋มองซ้ายขวา แล้วขมวดคิ้วอย่างดุดัน เสิ่นอิงและเผิงอิงได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว “ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“เสิ่นอิงไปทางซ้าย เผิงอิงไปทางขวา มองหาหนานหนาน” หลังจากที่เย่ซิวตู๋พูดจบ เขาก็เม้มปากแล้วก้าวไปข้างหน้าทันที

เสิ่นอิงและเผิงอิงหันมามองหน้ากัน จากนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง ท่านอ๋องหมายความว่าเพิ่งเห็นหนานหนานเมื่อสักครู่นี้หรือ? หนานหนานมาถึงเผ่าเหมิงแล้วหรือ? มาถึงค่อนข้างเร็วมาก เร็วกว่าโม่เสียนและคนอื่น ๆ เสียอีก

ทั้งสองคนไม่ลังเลอีกต่อไป คนหนึ่งไปทางซ้ายและอีกคนไปทางขวา ค้นหาทุกตรอกซอกซอยด้วยดวงตาดั่งไฟลุกโชน

ทว่าครึ่งชั่วยามต่อมา พวกเขาทั้งสามก็กลับมาที่ร้านอาหารร้านเดิม พวกเขาทุกคนต่างขมวดคิ้วเคร่งขรึม

“ท่านอ๋อง…” เสิ่นอิงต้องการถามองค์ชายว่าเมื่อสักครู่นี้เขามองผิดไปหรือไม่ เพราะจากการค้นหาเมื่อสักครู่ แน่นอนว่าเขาเห็นเด็กหลายคนที่มีขนาดตัวไล่เลี่ยกับหนานหนาน ซึ่งค่อนข้างคล้ายเขาเมื่อมองจากด้านหลัง แต่ก็ไม่ใช่หนานหนาน เขาจึงสงสัยว่าเจ้านายของเขาเห็นร่างที่คล้ายกันจากด้านหลังหรือไม่

เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว หนานหนานต้องมาถึงเผ่าเหมิงแล้วแน่นอน ดูจากที่ที่เขาวิ่งออกไปนั้น ที่พักของเขาก็ไม่น่าจะอยู่ไกลนัก มิฉะนั้นชิงเอ๋อร์จะกังวลว่าเขาอยู่ไกลเกินไป

เสิ่นอิงและเผิงอิงมองหน้ากันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องเงียบไป พวกเขาก็ไม่ได้เอ่ยคำใดอีก

จากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงแผ่วเบาของเย่ซิวตู๋ “พวกเจ้าไปที่โรงเตี๊ยมใกล้ ๆ แถวนี้ แล้วถามว่ามีสตรีกับเด็กมาพักหรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ” ทั้งสองพยักหน้า และจากไปอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันนั้น หนานหนานก็หลบฉากเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาเบียดเสียดตัวเองเข้าไปในฝูงชนที่ส่งเสียงดัง และจ้องมองไปยังคนที่กำลังตะโกนเสียงดังอยู่ตรงกลางด้วยตาเบิกกว้าง

“… วันนี้สุราของข้าทั้งหมดวางอยู่ตรงนี้แล้ว รสชาติดีหรือไม่ มาลองลิ้มรสสุรา” ทันทีที่ชายคนนั้นพูดจบก็มีคนหยิบชามหลายสิบใบมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วรอบโต๊ะก็เต็มไปด้วยความคึกคัก

เมื่อเปิดฝาจอกสุราออก กลิ่นหอมก็พลันอบอวลไปทั่วทั้งร้านอาหาร สุราทั้งหมดถูกเทลงในชามเหล่านั้น ดูน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ดวงตาหนานหนานเป็นประกาย ตั้งแต่มาที่นี่เขาเพิ่งได้กลิ่นสุรา และเขาไม่คิดว่าจะมีสุราที่นี่

อืม กลิ่นหอมมาก กลิ่นหอมมาก เขาไม่ได้ดื่มมานานแล้ว คอแห้งยิ่งนัก

ชายที่พูดเมื่อสักครู่นี้ผายมือออก แล้วบอกกับทุกคนว่า “เชิญมาลิ้มลอง สุราซูหยางของเราไม่ธรรมดา รับประกันว่าได้ว่าทุกคนดื่มแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน”

“ซูหยางหรือ?” คนรอบข้างเริ่มพูดคุยกัน “ข้าได้ยินมาว่าสุราซูหยางของร้านจิ่งนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว แม้แต่แขกที่มาร่วมงานเลี้ยงในวังของอาณาจักรหลิวอวิ๋นก็ยังเลือกสุราของพวกเขา”

“ไม่แปลกใจเลย สุรานี้หอมยิ่งนัก”

“งานประชุมชิมสุราครั้งนี้ เหล่านักชิมสุราชื่อดังต่างเดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง และร้านที่มาล่าสุดเมื่อวานนี้คือร้านฟ่านจากอาณาจักรจิงเหลย”

หนานหนานฟังด้วยความกระหาย รูม่านตาของเขาหดลงครั้งแล้วครั้งเล่า มือก็กำแน่น และต้องการจะเอื้อมไปหยิบชามบนโต๊ะหลายครั้ง แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครออกไปหยิบ เขาจึงกระวนกระวายขึ้นมาทันที

หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนก้าวไปข้างหน้า แล้วหยิบสุราในชามใบหนึ่งเทใส่ปาก

ทันใดนั้นผู้คนก็เดินไปข้างหน้าทีละคน ดวงตาของหนานหนานเป็นประกาย และเขาก็แอบย่องไปหยิบชามในขณะที่คนอื่นไม่ทันได้สนใจ ก่อนไปนั่งที่มุมโต๊ะแล้วดื่มอึกใหญ่สองสามอึก

สุรารสชาติดีจริง ๆ แต่… เหมือนจะยังขาดอะไรบางอย่างไป

เขาขมวดคิ้ว หลังจากจิบอีกครั้ง เขาก็วางชามเปล่าไว้ที่เดิม

สุราบนโต๊ะถูกดื่มหมดแล้ว คนส่วนใหญ่ต่างพยักหน้าพร้อมชมเชยว่าสุรานั้นดี

แต่ก็มีบางคนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และไม่ได้เอ่ยคำใดออกมา พวกเขาเพียงแค่วางชามไว้ แล้วหันหลังเดินจากไป

เมื่อได้ยินคำชมเหล่านั้น ชายร่างใหญ่คนเดิมก็เต็มไปด้วยความสุข แล้วพูดด้วยความยินดีว่า “สุราซูหยางนี้เป็นของร้านหลิว ซึ่งมีชื่อเสียงมากกว่าร้านจิ่ง”

คนไม่กี่คนที่ยังคงเฝ้าดูและพูดคุยกันอยู่เมื่อสักครู่นี้ตกตะลึงเล็กน้อย ร้านหลิวหรือ? เช่นนั้นก็ไม่ใช่ร้านจิ่งน่ะสิ

หลายคนมองหน้ากันแล้วแอบส่ายหน้า

หนานหนานรู้สึกเบื่อ สุรานี้ไม่ค่อยดีนัก แม้ว่าจะมีกลิ่นหอมมาก แต่สุดท้ายก็ยังคงมีข้อบกพร่อง

เขาลุกขึ้นจากพื้นแล้วเบียดตัวออกจากฝูงชน และเดินไปที่ข้างประตู จากนั้นจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ ในร้านอาหารนี้มีคนเยอะเกินไป ร้อนเกินไปสำหรับเขา

หนานหนานเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก ถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินออกไป

ทันใดนั้นเอง ขณะที่เขาก้าวออกไป เขาก็ได้ยินเสียงเถ้าแก่พูดว่า “สุรานี้ดีกว่าของเมื่อวาน”

ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเถ้าแก่พยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “มันต้องกลมกล่อมกว่านี้อีกหน่อย แต่เทียบกับสุราซูหยางของร้านจิ่งแล้ว ก็ยังนับว่าค่อนข้างห่างชั้น เอ๊ะ ปีนี้ร้านจิ่งจะมาด้วยหรือไม่?”

“บัดนี้ร้านจิ่งกลายเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ และเข้ารอบห้าอันดับแรกในการประชุมชิมสุราเมื่อสองปีที่แล้ว ครั้งนี้พวกเขาอาจได้ไปเปิดร้านที่โรงเตี๊ยมแล้ว คงจะไม่มาที่ร้านของข้าหรอก แต่ก็เป็นเพราะเขานำสุรามาให้คนลองชิมที่ร้านของข้าเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ข้าจึงโชคดีที่มีสุราเหล่านั้นมาขายทุกวัน แต่พรุ่งนี้ร้านถานจากอาณาจักรเฟิงชางจะนำสุรามาให้ทุกคนได้ลิ้มลอง ซึ่งค่าธรรมเนียมที่จะได้รับนั้นสูงกว่าของร้านหลิวเมื่อสักครู่นี้นัก”

“ร้านถานหรือ? ที่กำลังเป็นที่สนใจในตอนนี้ใช่หรือไม่?”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเถ้าแก่ “ใช่หรือไม่งั้นหรือ? มีคนมาบอกข้าเมื่อสองวันก่อน และข้าตั้งหน้าตั้งตารอที่จะได้ลิ้มลองมันในวันพรุ่งนี้ อีกไม่กี่วันข้างหน้าก็จะถึงงานประชุมชิมสุรา ข้าเกรงว่าคงจะมีแขกมาลองดื่มสุรานี้ในร้านของข้าทุกวันแน่”

ทันใดนั้นดวงตาของหนานหนานก็เป็นประกาย ลองดื่มหรือ? ชิมสุราทุกวันหรือ? จะมีสุรารสเลิศที่แตกต่างกันให้ผู้คนได้ลิ้มลองหรือ?

หนานหนานเริ่มน้ำลายสอเต็มปาก เมื่อเขายกมือขึ้นเช็ด ฝ่ามือของเขาก็เปียกชื้น

เขารีบหันหลังเดินออกจากร้าน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองป้ายของร้านอาหาร แล้วจดจำไว้ในใจ ก่อนเดินไปที่โรงเตี๊ยมที่เขาพักอยู่อย่างสบายอารมณ์

ทว่าทันทีที่เขาออกจากร้านอาหาร เสิ่นอิงก็ก้าวเข้ามาในร้าน แล้วถามเถ้าแก่ที่ยังคงคุยกับคนผู้นั้นอยู่ว่า “สองวันนี้มีสตรีคนหนึ่งกับเด็กอายุราวสี่หรือห้าขวบมาพักที่นี่หรือไม่?”

หลังจากหยุดชะงักไปชั่วคราว เขาก็กังวลว่าอวี้ชิงลั่วจะปลอมตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนคำถามเป็น “ข้าหมายความว่ามีผู้ใหญ่กับเด็กมาพักที่นี่หรือไม่?”

เถ้าแก่หันไปพลิกสมุดบันทึก แล้วถามเสี่ยวเอ้อที่อยู่ข้าง ๆ ก่อนส่ายหน้า

เสิ่นอิงจึงกำลังจะหันหลังเดินกลับออกไปด้วยความผิดหวัง ทว่าเมื่อเขาหันหลัง ทันใดนั้นร่างเล็ก ๆ ก็เดินผ่านหน้าเขาไป

!!

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หนานหนานกินเหล้าแต่เล็กแต่น้อยแบบนี้ไม่ตับแข็งตอนโตเหรอ

คลาดกันนิดเดียวเอง โธ่ ไม่งั้นก็บันเทิงแล้ว

ไหหม่า(海馬)

……………………………………………………………………………….

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *