อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 729 แพงหูฉี่

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 729 แพงหูฉี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 729 แพงหูฉี่

ตอนที่ 729 แพงหูฉี่

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงนั้น และมองเห็นร่างคนสองสามคนกำลังเร่งรุดเดินมาอยู่ไม่ไกล

คนเฝ้าประตูเถี่ยชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนรีบดึงภรรยาและลูกชายไปยืนอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับเบิกตากว้าง “ท่านประมุข”

ผู้อาวุโสสกุลเยว่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา พร้อมกับถามเย้ย “ข้าถามอีกครั้ง เจ้าคิดจะลงมือทำร้ายใคร?”

“นั่น…” เหงื่อเย็นผุดขึ้นบนหน้าผากของคนเฝ้าประตูเถี่ย พลางลอบมองเหมิงเคอที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้อาวุโสสกุลเยว่

ใบหน้าของเหมิงเคอซีดเผือด และยังคงจ้องมองไปที่เขา

หัวใจของคนเฝ้าประตูเถี่ยเต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นไปได้หรือไม่ว่าสตรีผู้นี้จะเป็นแขกผู้มีเกียรติ?

เขากลอกตา แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้ตัวทันที “ท่านประมุขเข้าใจผิดแล้วขอรับ ข้าน้อยไม่ได้คิดจะลงไม้ลงมือกับใคร เพียงแค่เด็กไร้เดียงสาเล่นซนเสียงดังเกินไป ข้าน้อยจึงต้องขู่เขาเท่านั้นขอรับ”

ผู้อาวุโสสกุลเยว่หรี่ตาลง คนเฝ้าประตูเถี่ยคนนี้ฉลาดนัก

แต่อวี้ชิงลั่วโบกมืออย่างเย็นชา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขู่หรือ? คนเฝ้าประตูเถี่ยแค่ต้องการปัดความรับผิดชอบด้วยคำพูดไม่กี่คำ เหตุใดข้าจึงไม่คิดว่านั่นเป็นการขู่เลย? หากเป็นการขู่เด็กจริง แล้วเจ้ากับภรรยาและลูกด่าใครว่าเป็นหญิงสารเลว?”

นางพูดด้วยเสียงดังฟังชัด ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็กลายเป็นเคร่งขรึมเล็กน้อย ซึ่งทำให้คนเฝ้าประตูเถี่ยตัวสั่นสะท้านด้วยความวิตกกังวล

เขามองไปที่เหมิงเคอโดยไม่รู้ตัวอีกครั้ง เหมิงเคอหรี่ตาขณะกำมือแน่น

หมอเฒ่าฉยงซานรีบไปยืนข้างหน้าอวี้ชิงลั่ว ก่อนชี้หน้าคนเฝ้าประตูเถี่ยและตวาดด้วยความโกรธว่า “เจ้าคนไม่รู้ดีชั่ว เจ้าเรียกใครว่าหญิงสารเลว เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดกับลั่วลั่วเช่นนี้?”

หมอเฒ่าฉยงซานนึกขึ้นได้ว่าเขามีเรื่องบางอย่างที่จำเป็นต้องถามอวี้ชิงลั่ว ดังนั้นเมื่ออวี้ชิงลั่วจากมา เขาก็รีบตามหลังมาทันที

ใครจะรู้ว่าเมื่อเขามาถึงประตูคฤหาสน์แล้ว กลับพบว่าตนตามอวี้ชิงลั่วไม่ทัน เมื่อคนเฝ้าประตูบอกว่าไม่เห็นลั่วลั่วออกจากคฤหาสน์ เขาก็รู้สึกกังวล และคิดว่าเหมิงเคอผู้ร้ายกาจอาจเล่นงานลั่วลั่วไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงกลับไปบอกอาวุโสสกุลเยว่ทันที

คาดไม่ถึงว่าจะเจอเหมิงเคออยู่ข้างกายผู้อาวุโสสกุลเยว่ เหมิงเคอบอกว่าตนได้แยกจากอวี้ชิงลั่วมานานแล้ว บางทีนางอาจหลงทางอยู่ในคฤหาสน์ ดังนั้นทุกคนจึงมาที่นี่เพื่อตามหานาง คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอกับครอบครัวอันยอดเยี่ยมของเถี่ยชิวเอ๋อร์

เมื่อพิจารณาจากนิสัยชั่วร้ายของพวกเขาแล้ว ใคร ๆ ก็รู้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

คนเฝ้าประตูเถี่ยรู้สึกไม่พอใจที่หมอเฒ่าฉยงซานมาชี้หน้าด่าตน แต่ไม่กล้าพูดอะไรเพราะมีผู้อาวุโสสกุลเยว่อยู่ที่นี่ด้วย ได้แต่คิดในใจว่าควรจะตอบอย่างไรดี บางทีหากตบหน้าตัวเองสักสองทีเป็นการขอโทษจะดีหรือไม่?

ขณะที่เขากำลังคิดจะทำเช่นนั้นอยู่ เถี่ยฟู่ซุ่นที่อยู่ข้างเขาก็อดไม่ได้ที่จะกระทืบเท้า แล้วกระโดดเข้าไปเตะหมอเฒ่าฉยงซาน “นางเป็นหญิงสารเลว เจ้าไม่มีสิทธิ์มาด่าพ่อข้า นางเป็นคนทำให้ข้าล้มลงจนเสื้อผ้าใหม่ของข้าเปื้อนหมด เสื้อผ้าใหม่ที่ข้าเพิ่งซื้อมาวันนี้แพงหูฉี่ และข้าก็… อุ๊บ”

คนเฝ้าประตูเถี่ยโกรธมาก เขารีบปิดปากลูกไว้และขอโทษผู้อาวุโสสกุลเยว่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ผู้อาวุโสสกุลเยว่ เจ้าเด็กคนนี้ยังไร้เดียงสา ปากจึงไม่มีหูรูด เมื่อกลับไปแล้วข้าน้อยจะตีเขาทันที ข้าน้อยจะตีเขาแน่นอนขอรับ”

ตายแน่ ปกติลูกชายของเขาถูกเขาและแม่ตามใจอยู่เสมอ เด็กชายอาศัยอยู่ในบริเวณแคบ ๆ จึงไม่เคยเจอผู้อาวุโสสกุลเยว่มาก่อน เมื่อก่อนเถี่ยชิวเอ๋อร์ต้องคอยรับใช้เขา และเขาได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นนายน้อย ยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ครอบครัวเขาได้รับเงินจำนวนมาก จึงทำให้เขายิ่งมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม

คาดไม่ถึงว่านิสัยไม่สนกฎเกณฑ์เช่นนี้จะเป็นการข้ามศีรษะผู้อาวุโสสกุลเยว่

แน่นอนว่าสีหน้าของผู้อาวุโสสกุลเยว่มืดมนลงเรื่อย ๆ

เหมิงเคอกัดฟันด้วยความขุ่นเคือง พวกไร้ประโยชน์ แม้แต่เด็กก็ยังควบคุมไม่ได้ เจ้าเถี่ยฟู่ซุ่นผู้นี้พูดโดยไม่ใช้สมอง หากเผลอพูดบางสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา ความพยายามทั้งหมดของนางก็จะไร้ประโยชน์

นางควรจะจัดการกับครอบครัวนี้ตั้งนานแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้

สายตาแฝงคำเตือนของเหมิงเคอจ้องตรงไปยังคนเฝ้าประตูเถี่ย ทำให้เหงื่อเย็นไหลโซมกายของเขาขณะปิดปากลูกชายไว้แน่น แม้มือของเขาจะถูกกัด เขาก็ไม่กล้าปล่อย

อวี้ชิงลั่วดูเรื่องตลกฉากนี้ เมื่อเห็นว่ามือของคนเฝ้าประตูเถี่ยถูกกัดจนเลือดไหล นางก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เสื้อผ้าใหม่หรือ? แพงหูฉี่หรือ? ปรากฏว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในบ้าน แต่พวกเจ้ายังคงสามารถเดินไปรอบ ๆ ด้วยเสื้อผ้าใหม่ที่มีสีสันสดใสได้”

สิ่งที่อวี้ชิงลั่วพูดถึงคือเรื่องการสังหารเถี่ยชิวเอ๋อร์

คนไม่กี่คนเหล่านี้ช่างไร้ค่ายิ่งนัก เมื่อรู้ว่าบุตรสาวของตนถูกฆ่าตาย พวกเขาก็ไม่ได้เศร้าโศกแม้แต่น้อย และแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะใช้เงินที่แลกด้วยชีวิตไปซื้อเสื้อผ้าใหม่

ถ้านางไม่สอนบทเรียนที่ดีให้พวกเขาในวันนี้ ชื่อของนางคงถูกเขียนกลับหัว

ผู้อาวุโสสกุลเยว่นึกเย้ยหยันครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์เป็นบุตรสาวของคนเฝ้าประตูเถี่ย เขาก็ดูถูกพฤติกรรมของคนครอบครัวนี้มาก แต่ครั้งนี้เขามีเหตุผลชอบธรรมที่จะสอนบทเรียนให้พวกเขา

“พ่อบ้าน…”

“ผู้อาวุโสสกุลเยว่เจ้าคะ” อวี้ชิงลั่วขัดจังหวะผู้อาวุโสสกุลเยว่ แล้วยกยิ้ม “เรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเองได้หรือไม่เจ้าคะ?”

ผู้อาวุโสสกุลเยว่พยักหน้า “พวกเขาทำให้แม่นางถังขุ่นเคือง จึงขึ้นอยู่กับแม่นางถังว่าจะจัดการคนเหล่านี้อย่างไร”

อวี้ชิงลั่วหันไปถามเหมิงเคออีกครั้ง “ฮูหยินน้อยเล่าคิดอย่างไร?”

เหมิงเคอหัวเราะแห้ง “ในเมื่อท่านพ่อสามีเห็นด้วยแล้ว เหตุใดแม่นางถังยังถามข้าอีกเล่า?”

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะบอก เมื่อสักครู่นี้ครอบครัวนี้บอกว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากฮูหยินน้อย พวกเขาคิดหรือว่าเป็นคนของฮูหยิน แล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไร? แต่สุดท้ายจากคำพูดที่ฮูหยินน้อยพูดก่อนหน้านี้ก็ทำให้ข้ารู้สึกกังวล ข้าจึงไม่กล้าข้ามหน้าฮูหยินน้อยจริง ๆ”

ใบหน้าของเหมิงเคอแข็งทื่อ นางรีบหันไปมองผู้อาวุโสสกุลเยว่ ซึ่งผู้อาวุโสสกุลเยว่ก็รู้สึกงงงวยมาก “ก่อนหน้านี้เจ้าพูดอะไร?”

หัวใจของเหมิงเคอตึงเครียด นางรีบพูดทันทีว่า “แม่นางถังกังวลเกินไป พวกเขาเป็นคนรับใช้ของคฤหาสน์ แม่นางถังเป็นผู้มีพระคุณของคฤหาสน์ผู้อาวุโสสกุลเยว่ และเป็นแขกผู้มีเกียรติ หากคนรับใช้ชนแขกผู้มีเกียรติ ต่อให้พวกเขาจะถูกซ้อมจนตายมันก็ยังไม่สาสม ข้าจะสนับสนุนคนเช่นนี้ได้อย่างไร?”

อวี้ชิงลั่วถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วจ้องมองคนเฝ้าประตูเถี่ยด้วยสายตาแข็งกร้าว “ในเมื่อฮูหยินน้อยพูดเช่นนั้น ข้าก็สบายใจ”

คนเฝ้าประตูเถี่ยและภรรยาเบิกตากว้าง หมายความว่าอย่างไร? ฮูหยินน้อยไม่ได้ตั้งใจจะช่วยพวกเขาเลยหรือ? และไม่สำคัญว่าพวกเขาจะถูกฆ่าตายหรือไม่อย่างนั้นหรือ?

หากหญิงคนนี้ทุบตีพวกเขาจนตายจริง ๆ ใครจะร้องไห้ให้พวกเขา?

คนเฝ้าประตูเถี่ยยังคงอดทนได้ แต่ภรรยาของเขาทนไม่ได้อีกต่อไป นางคุกเข่าลงตรงหน้าเหมิงเคอ “ฮูหยินน้อย ท่านจะปล่อยพวกเราไว้ไม่ได้นะเจ้าคะ…”

เหมิงเคอกำมือแน่น นางหญิงสารเลวแซ่ถังจงใจพูดเช่นนี้เพื่อสร้างความบาดหมางจริงๆ ให้ตายเถอะ สมาชิกทั้งสามคนในครอบครัวเถี่ยไม่ใช่คนปากหนัก ดังนั้นพวกเขาจึงน่าจะไม่อาจอดทนได้ และคงจะหลุดปากบอกทุกอย่างออกมา

อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วและโบกมือให้หงเย่ที่อยู่ข้างหลังนาง นางไม่ได้ต้องการให้พ่อแม่ลูกสกุลเถี่ยพูดอะไร หากตอนนี้พวกเขาบอกความจริงที่ว่าเถี่ยชิวเอ๋อร์เป็นคุณหนูสกุลเหมิงตัวปลอมต่อหน้าผู้อาวุโสสกุลเยว่ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ แล้วพรุ่งนี้… จะมีการแสดงดี ๆ ให้ชมได้อย่างไร?

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

บ่าวเล่นนอกบทนายเสียแล้วสิ รับส่งคิวกันไม่ดีเลย

ไหหม่า(海馬)

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *