อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 951 พวกเจ้าทำอะไรกัน

Now you are reading อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] Chapter 951 พวกเจ้าทำอะไรกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 951 พวกเจ้าทำอะไรกัน

ตอนที่ 951 พวกเจ้าทำอะไรกัน

สีหน้าของอวี้ชิงลั่วประหลาดใจอย่างมาก กะพริบตาอย่างแรงสองครั้ง รีบย่อตัวลงแล้วหยิบเอาสมุดเล่มนั้นที่อยู่กับพื้นขึ้นมา จากนั้นก็อ่านอย่างละเอียดอยู่พักหนึ่ง

ครู่ใหญ่ผ่านไป สองขาของนางก็อ่อนแรงแล้วล้มลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด

สองมือของอวี้ชิงลั่วเริ่มสั่นเล็กน้อย ในหัวก็เริ่มว่างเปล่า

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงพูดคุยเบาๆ ดังมาจากไม่ไกล

นางตกใจในทันที รีบนำสมุดวางกลับไปในกล่องแล้วกอดเอาไว้ในอกแล้วเอนตัวหลบ

ไม่นานนักนอกลานก็มีคนที่ดูเหมือนสาวใช้สองคนเดินเข้ามา ในมือถือกล่องอาหาร เมื่อเข้าไปในลานบ้านก็ลดเสียงลงทันที

ทันทีที่ร่างของพวกเขาใกล้เข้ามา อวี้ชิงลั่วก็ฉวยโอกาสตอนที่พวกนางไม่ทันได้สนใจ รีบกอดเอากล่องออกไปจากเรือนเล็ก

นางรู้ว่าอีกไม่นานนี้จวนอวี๋จะต้องโกลาหลเป็นแน่ นางต้องถือโอกาสนี้ออกไปจากจวนอวี๋

เพียงแต่คิดถึงสิ่งของที่อยู่ในอ้อมแขน ฝีเท้าของนางก็วุ่นวายเล็กน้อย ในหัวช่างสับสน

แน่นอนว่าใช้เวลาเพียงไม่นาน จวนอวี๋ก็ตกอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก

อวี๋จั้วหลินตายแล้ว ฮูหยินใหญ่เศร้าโศกอย่างที่สุด แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้ ถึงขนาดต้องให้คนในจวนปิดปากเงียบไว้ ไม่อย่างนั้นทั้งจวนคงจะต้องถูกตรวจค้นและยึดทรัพย์ รวมไปถึงฆ่าล้างตระกูล ชั่วขณะนั้นนางจึงเศร้าโศกเสียจนหมดสติไป

จวนอวี๋ยิ่งมีบรรยากาศโศกเศร้ามืดมนยิ่งขึ้นไปอีก อวี้ชิงลั่วฉวยโอกาสในความวุ่นวายนี้หนีออกมาจากประตูใหญ่ของจวนอวี๋

แต่นางไม่มีใจจะไปคิดตรวจสอบการเคลื่อนไหวต่อๆ ไปของจวนอวี๋ และไม่มีใจจะไปหาข่าวว่าทางด้านเหมิงกุ้ยเฟยนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง

ในหัวของนางล้วนมีแต่เนื้อหาในสมุดเล่มนั้น ลมหายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้าเองก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าจะบินเช่นกัน

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นางก็เร่งรีบเข้าไปในตำหนักท่านอ๋องซิว

พ่อบ้านหยางและเสิ่นอิงที่กำลังพูดคุยกันอยู่ตรงประตูเห็นสีหน้าของนางก็พากันเรียก “แม่นางอวี้”

อวี้ชิงลั่วกลับไม่แม้แต่จะหยุด ถึงขนาดชนเข้ากับพ่อบ้านหยางเพราะฝีเท้าเร่งรีบ

ทั้งสองคนสบตากันแล้วขมวดคิ้วแทบจะพร้อมกัน ทั้งยังไม่สบายใจขึ้นมา “แม่นางอวี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือขอรับ”

อวี้ชิงลั่วยังคงไม่สนใจ ยิ่งกว่านั้นยังไม่หยุดฝีเท้า

เสิ่นอิงโบกมือให้พ่อบ้านหยางแล้วกล่าว “ท่านไปทำงานเถิด ข้าจะไปดูเสียหน่อย”

“ได้” พ่อบ้านหยางพยักหน้าให้เขา จากนั้นก็หมุนกายจากไป

เสิ่นอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วตามไปอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ยิ่งตามไปยิ่งรู้สึกผิดปกติ ทิศทางที่แม่นางอวี้มุ่งหน้าไปนั้น… กลับไม่ใช่เรือนของตน และไม่ใช่เรือนของท่านอ๋อง ทั้งยังไม่ใช่เรือนของหนานหนานอีกด้วย

เพียงแต่… เป็นเรือนที่เหมิงจื่อเชียนอาศัยอยู่

สีหน้าของเสิ่นอิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบเดินตามไปสองสามก้าว “แม่นางอวี้

ฝีเท้าของอวี้ชิงลั่วเร็วขึ้น เพียงสองสามก้าวใหญ่ๆ ก็มาถึงในเรือน เมื่อเห็นเหมิงจื่อเชียนที่ยืนอยู่ตรงทางเดินนอกเรือน แววตาก็เป็นประกาย

นางเดินตรงเข้าไป เหมิงจื่อเชียนเมื่อเห็นนาง กำลังจะเอ่ยปากทักทายอย่างประหลาดใจ “พี่สะใภ้… เอ๋…”

คำพูดของเขายังไม่ทันจบ จู่ๆ ก็มีแรงอันหนักหน่วงปรากฏขึ้นที่ข้อมือของเขา พร้อมกับอวี้ชิงลั่วดึงเขาเข้าไปในห้องทันที

เสิ่นอิงเบิกตากว้าง รีบก้าวเข้าไป แต่ขณะจะเดินไปถึงด้านนอกเรือน อวี้ชิงลั่วก็ปิดประตูดัง ‘ปัง’ ในทันใด

“…” เสิ่นอิงยืนอยู่ตรงประตู และประตูก็เกือบจะชนปลายจมูกของเขา

นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เกิดเรื่องอันใดกัน?

อีกอย่างๆ แม่นางอวี้และเหมิงจื่อเชียน… ฉุดลากกันก็แล้วไปเถิด แต่นี่ยังปิดประตูห้องอีก ชายโสดหญิงม่ายอยู่ในห้องเดียวกันสองต่อสอง หากท่านอ๋องรู้เข้าจะไม่แย่เอาหรือ?

เสิ่นอิงเปลี่ยนสีหน้าในทันใด หันกลับมาก็เห็นว่าในเรือนมีคนรับใช้สองสามคนกำลังชะเง้อมองอยู่ก็รีบโบกมือแล้วกล่าว “แยกย้ายไปทำงานเถิด อย่ามายืนอยู่ตรงนี้”

“เจ้าค่ะ ท่านเสิ่น” แววตาของทุกคนยังคงแสดงออกว่าไม่เข้าใจ แต่อย่างไรก็เป็นคนรับใช้ในตำหนักท่านอ๋องซิว จึงยอมถอยออกไปอย่างเงียบๆ

เสิ่นอิงกลับยืนอยู่นอกประตูด้วยสีหน้าวิตก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดแม่นางอวี้ถึงได้รีบร้อนเพียงนี้ รีบร้อนก็ช่างเถิด เหตุใดจึงไม่ไปหาท่านอ๋อง ต้องมาหาเหมิงจื่อเชียนเล่า?

เสิ่นอิงเกาศีรษะ กำลังพิจารณาว่าควรไปจากที่นี่ดี หรือว่าเฝ้าอยู่ที่นี่จะดีกว่า

ทางด้านอวี้ชิงลั่วกลับกำลังมองเหมิงจื่อเชียนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถามอย่างเคร่งขรึม “เจ้าบอกข้ามาที แม่ของเจ้าให้เจ้าตามมาที่เมืองหลวง เป็นเพราะอะไรกันแน่? เจ้าบอกเข้ามา เจ้ารู้ใช่หรือไม่ รู้ว่าเย่ซิวตู๋และเย่ฮ่าวถิง…”

เหมิงจื่อเชียนผงะ ไม่สนใจแม้แต่ว่าข้อมือของตนยังถูกนางจับเอาไว้อยู่ สีหน้าของเขาจริงจัง เอ่ยถาม “ท่าน ท่านรู้อะไรมา ประวัติของเย่ซิวตู๋กับเย่ฮ่าวถิง…”

“เช่นนั้นแล้ว แสดงว่าเป็นเรื่องจริงสินะ” อวี้ชิงลั่วเห็นสีหน้าของเขาแสดงออกถึงความประหม่า ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนหมดเรี่ยวแรง คลายมือที่จับเขาออกทันที หยิบจี้หยกสองอันที่วางไว้ในกล่องเดียวกับสมุดออกมา

แววตาของเหมิงจื่อเชียนจับจ้องไปที่จี้หยกทันใด รูม่านตาหดลง ก้าวไปข้างหน้าแล้วคว้ามาหนึ่งอันใดทันที ระหว่างเดินไม่ทันสนใจ หัวเข่าจึงชนเข้ากับโต๊ะข้างๆ กาน้ำชาบนโต๊ะจึงตกลงบนพื้นในทันทีโดยไม่ทันตั้งตัวจนเกิดเสียงดังเพล้ง

เหมิงจื่อเชียนกลับไม่สนใจ สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่จี้หยกนั้น

ทว่าทั้งสองคนที่อยู่ในห้องไม่สนใจการเคลื่อนไหวนี้ เสิ่นอิงที่อยู่นอกห้องกลับตกใจเมื่อได้ยิน

สีหน้าเปลี่ยนไป เขาอยากจะพุ่งเข้าไปทันทีเสียจริงๆ

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆ ก็มีร่างหนึ่งเดินมาจากไกลๆ เสิ่นอิงมุ่งความสนใจไปยังคนทั้งสองที่อยู่ในห้อง ไม่ทันได้สนใจ จนกระทั่งคนผู้นั้นเดินมาใกล้ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างทันที รีบร้อนอยากปิดบังบางอย่าง “ท่าน ท่านอ๋อง มาได้อย่างไรขอรับ”

เพียงเย่ซิวตู๋เห็นสีหน้าของเขาก็ขมวดคิ้ว

ตื่นตระหนกทั้งยังดูลับๆ ล่อๆ หากไม่ใช่ว่ามีเรื่องปิดบังแล้วจะเป็นอะไรไปได้?

“ทำไมหรือ ข้ามาไม่ได้หรือ”

“ไม่ใช่ขอรับ ไม่ใช่อย่างแน่นอน” เสิ่นอิงจงใจเพิ่มความดังของเสียง อยากให้ทั้งสองคนในห้องได้ยิน บางอย่างที่ควรทำและไม่ควรทำ ก็ควรหักห้ามในเสียหน่อย

เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น น้ำเสียงของเขาเคร่งขรึมลง “ชิงเอ๋อร์เล่า?”

เขาได้ยินพ่อบ้านหยางบอกว่าชิงเอ๋อร์กลับมาพร้อมสีหน้าที่ดูผิดปกติเล็กน้อย กลัวว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น จึงได้รีบรุดมาทางด้านนี้

แต่ชิงเอ๋อร์กลับหายไป ได้ยินว่าเสิ่นอิงที่ตามชิงเอ๋อร์มาตลอดทางกลับมีสีหน้าแปลกๆ

เสิ่นอิงลอบคร่ำครวญอยู่ในใจ ลดศีรษะลงเล็กน้อยแล้วกล่าวเบาๆ “ไม่ ไม่ทราบขอรับ”

เย่ซิวตู๋หรี่ตามองเขาอย่างลึกซึ้ง ส่งเสียงฮึดฮัด เดินไปทางห้องนั้น

เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงของอวี้ชิงลั่วดังมาจากข้างใน “จื่อเชียน จี้หยกนี้ข้าเพิ่งไปนำมา เย่ซิวตู๋ยังไม่เห็น ตอนนี้ข้ายังตัดสินใจไม่ได้ จี้หยกนี้… เอาไว้กับเจ้าที่นี่ก่อนเถิด”

อวี้ชิงลั่วเพิ่งกล่าวจบ ประตูห้องก็ถูกผลักออกดัง ‘ปัง’ ในทันที

“พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่!!!” เย่ซิวตู๋เงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่ามีคนสองคนอยู่ในห้อง ในมือถือจี้หยกคนละหนึ่งอันทั้งยังอยู่ใกล้กันมาก อวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตากับเหมิงจื่อเชียน ท่าทางของนางดูเหมือนสนิทสนม สีหน้าของเขา… มืดมนลงในทันใด

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

จังหวะนรกมาก มาเจอภาพที่ชวนเข้าใจผิดอีกแล้วท่านอ๋อง

ไม่ใช่ว่าเย่ฮ่าวถิงคือลูกนังกุ้ยเฟยกับพี่น้องตัวเองนะ? อันนั้นคืออย่างเชี่ยเลยนะ

ไหหม่า(海馬)

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด