อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว [ 坑爹儿子鬼医娘亲 ] 974 มีธุระสำคัญบางอย่าง
ตอนที่ 974 มีธุระสำคัญบางอย่าง
ตอนที่ 974 มีธุระสำคัญบางอย่าง
หนานหนานดวงตาเป็นประกาย เร็วเพียงนี้เลยหรือ?
เขารีบเดินไปหา “ดอกไม้เล่า?”
“นี่ขอรับ” คนรับใช้ผู้นั้นหยิบเอา… กระเป๋าใบเล็กออกมา ในกระเป๋านั้นมีดอกไม้ที่เรียบง่ายและหยาบกระด้างถูกปักอย่างบิดเบี้ยวอยู่ด้านบน
หนานหนานหยิบเอามา เป็นฝีมือการปักของท่านแม่จริงๆ ด้วย
แค่กๆ ถึงแม้มันจะน่าเกลียดไปหน่อย แต่อย่างไรก็เป็นของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเลียนแบบได้ไม่ใช่หรือ?
เย่หลานเฉิงเองก็รวมตัวเข้ามา เพียงแต่มองแวบหนึ่งก็ขมวดคิ้วขึ้นมา “นี่ช่างปักที่ไหนปักหรือ นี่คือดอกไม้หรือ? ดูแล้วเป็นของที่แปลกประหลาดอย่างมาก”
หนานหนานรีบซ่อนกระเป๋าใบเล็กไว้ข้างหลังตน หัวเราะแห้งๆ แล้วกล่าว “คือว่า เช่นนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามันพิเศษอย่างไรเล่า ทำให้คนมองแวบเดียวก็ดูออกเลยใช่หรือไม่? ไอ้หยา เจ้าอย่าสนใจว่าใครปักเลย ข้ายังมีธุระ เสี่ยวเฉิงเฉิงกลับห้องไปพักผ่อนก่อนเถิด ข้าไปเดี๋ยวเดียวก็กลับ”
“นี่… หนานหนาน” เย่หลานเฉิงอยากจะเอื้อมมือไปจับเขาไว้ แต่ด้วยฝีเท้าของหนานหนานแล้ว อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่พวกโม่เสียนเสิ่นอิงเองก็ไม่แน่ว่าจะตามทัน
เขาเพียงแต่ลอบถอนหายใจ จากนั้นก็มองไปยังเรือนของอวี้ชิงลั่วด้วยแววตาเป็นกังวล เอาแต่รู้สึกว่าต้องเกิดเรื่องกับเป่าเอ๋อร์แล้ว ไม่อย่างนั้นเหตุใดเขาจึงไม่ได้กลับมาพร้อมท่านน้าชิงเล่า?
คิ้วของเย่หลานเฉิงแทบจะขมวดเป็นปม เขารู้ว่าตอนนี้วังหลวงอยู่ในภาวะฉุกเฉิน แม้แต่บรรยากาศในตำหนักท่านอ๋องซิวก็แปลกประหลาดไปมาก เดิมทีท่านอาห้ารับปากว่าเขาจะได้กลับไปพบท่านแม่ทุกวัน ตอนนี้กลับไม่สามารถออกจากตำหนักได้เลยด้วยซ้ำ เขารู้สึกว่าท้องฟ้าของเมืองหลวง… กำลังจะเปลี่ยนไป
เย่หลานเฉิงลอบถอนหายใจ หมุนตัวกลับไปยังเรือนของตนเอง
หนานหนานวิ่งไปถึงประตูใหญ่ของเรือนอย่างเรียบร้อย ทันทีที่วิ่งขึ้นบันไดก็เห็นคนสองคนหันหลังให้เขา กำลังพูดคุยกันเสียงพึมพำ
“ท่านน้าอวิ๋น ท่านลุงเฟิงหรือ?” หนานหนานสงสัย ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือคนที่มาถึงตำหนักท่านอ๋องซิวได้เร็วที่สุดกลับเป็นพวกเขาสองคน
ทั้งสองคนที่กำลังหันหลังให้เขาและพูดคุยกันอยู่หันหน้ามาในทันใด เมื่อเห็นหนานหนาน ทั้งคู่ก็มาถึงตรงหน้าเขาในทันใด
เด็กรับใช้ตรงประตูรู้สึกเพียงว่ามีลมพัดผ่านหูไป จนกระทั่งได้สติกลับมา ทั้งสองคนก็อุ้มหนานหนานขึ้นมาชูขึ้นสูงแล้ว
ช่างว่องไวเหลือเกิน มองตามไม่ทันเลยทีเดียว
เสิ่นอิงที่เดิมทียืนอยู่ตรงประตูก็อดประหลาดใจไม่ได้ นี่มันคือ… เคล็ดวิชาฝ่าเท้าของตระกูลลู่หรือ?
ชายผู้นั้นใช้เคล็ดวิชาฝ่าเท้าตระกูลลู่จริงๆ ส่วนหญิงผู้นั้นถึงแม้จะด้อยกว่าเล็กน้อย เหมือนจะแตกต่างไปบ้าง แต่ก็ใกล้เคียงกับเคล็ดวิชาฝ่าเท้าตระกูลลู่มาก และการเคลื่อนไหวก็รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน
ฝีเท้าของทั้งสองคนนี้ดีกว่าหนานหนานเสียอีก
หรือว่าพวกเขาเป็นคน… จากตระกูลลู่หรือ?
ลู่หลานเฟิงแบกหนานหนานเอาไว้บนไหล่ทันที มองเขาด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอกันนานเลยนะเด็กน้อย คิดถึงท่านลุงเฟิงและท่านน้าอวิ๋นของเจ้าหรือไม่?”
“คิดถึงขอรับ” หนานหนานยิ้มตาหยี ท่าทางดีใจอย่างมาก “ท่านลุงเฟิง พวกท่านมาที่นี่ได้อย่างไร พวกท่านอยู่ที่อาณาจักรเทียนอวี่ไม่ใช่หรือ?”
ลู่หลานเฟิงและลู่หลานอวิ๋นสบตากัน กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เดิมทีพวกเรามาที่นี่เพื่อมาหาเจ้าและท่านแม่ของเจ้า องค์ชายรองบอกว่าท่านแม่ของเจ้าจะแต่งงาน พวกท่านพ่อมาไม่ได้ ท่านแม่ของเจ้าก็ไม่แม้แต่จะส่งจดหมายมาให้พวกเรา พวกเราจึงทำได้เพียงมากันเอง คิดไม่ถึงเลย เพิ่งจะมาถึงได้สองวันก็เห็นแม่ของเจ้าใช้หงหลินเยียนแล้ว ว่าอย่างไร มีปัญหาเข้าแล้วหรือ?”
หนานหนานพยักหน้า “มีปัญหาแล้วขอรับ แต่มีท่านลุงเฟิงและท่านน้าอวิ๋นอยู่ ไม่ว่าจะมีปัญหาใหญ่เพียงใดก็ไม่นับเป็นปัญหาแล้วขอรับ”
เขาหัวเราะออกมาอีกครั้ง ดิ้นรนลงมาจากไหล่ของลู่หลานเฟิง “ท่านลุงเฟิง ข้าขอให้คนจัดเตรียมที่ให้พวกท่านพักเสียก่อน ตอนนี้ท่านแม่ข้ากำลังพูดคุยเรื่องสำคัญอย่างมากกับท่านพ่ออยู่ อีกเดี๋ยวข้าจะมาคุยกับพวกท่านนะขอรับ”
จริงๆ แล้วท่านแม่กับท่านพ่อกำลังจู๋จี๋กันต่างหาก เขารู้สึกว่าอย่าเพิ่งไปรบกวนพวกเขาดีกว่า ตนจะได้ไม่ต้องถูกโยนลงพื้นอีกครั้ง
“ได้สิ” ทั้งสองคนเองก็มีความสุข ถูกหนานหนานพาไปพักผ่อนที่ห้องพัก
กว่าอวี้ชิงลั่วได้รับข่าวและรู้ว่าพวกเขาทั้งคู่มาที่ตำหนักท่านอ๋อง เวลาก็ผ่านไปกว่าสองชั่วยามแล้ว
นางมองไปยังหนานหนานที่ดูไร้เดียงสาพร้อมกับขีดสีดำบนใบหน้า “ท่านแม่ นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับข้านะ”
อวี้ชิงลั่วเขกศีรษะของเขาอย่างแรง สบตากับเย่ซิวตู๋แวบหนึ่ง กล่าว “พวกเราไปดูที่ห้องพวกเขาหน่อยเถิด”
“ได้สิ”
ทั้งสองคนกำลังจะเดินไป กลับถูกหนานหนานรั้งเอาไว้
อวี้ชิงลั่วหรี่ตามองเขา “มีอะไรหรือ?”
“ท่านลุงเฟิงและท่านน้าอวิ๋นรู้ว่าท่านแม่เรียกพวกเขามาเพราะเรื่องอะไร ดังนั้นหลังจากดื่มชาจอกหนึ่งแล้ว ก็ให้ท่านลุงโม่พาพวกเขาไปที่จวนอวี้ บอกว่าจะไปหาเบาะแสขอรับ”
อวี้ชิงลั่วถอนหายใจโล่งอก จากนั้นก็จ้องหนานหนานเขม็ง “เจ้าก็ไม่บอกแต่แรก”
“ท่านแม่ ข้าน่ะนะ ถึงแม้จะอายุยังน้อย แต่ก็รู้ว่าเรื่องใดสำคัญเร่งด่วน ข้ารู้ ตอนนี้ท่านน้าเป่าเอ๋อร์สำคัญที่สุด ย่อมต้องบอกเรื่องนี้กับท่านน้าเฟิงและท่านน้าอวิ๋นอย่างไม่รอช้าอยู่แล้ว” หนานหนานเชิดคาง เอ่ยปากอย่างภาคภูมิใจเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วจนปัญญา ลูบหัวของเขา จากนั้นก็เป็นกังวลและร้อนรนขึ้นมาอีกครั้ง
อวี้เป่าเอ๋อร์ไม่ใช่หนานหนาน เขาไม่ได้มีทักษะที่ยืดหยุ่นอย่างหนานหนาน และไม่ได้มีนิสัยที่ยืดหยุ่นเช่นหนานหนานด้วย นางได้สอนวิธีเอาตัวรอดเมื่อตกอยู่ในอันตรายให้กับหนานหนานมากมาย แต่กลับไม่เคยบอกอวี้เป่าเอ๋อร์มาก่อนเลยว่าหากตกไปอยู่ในมือของคนร้ายควรตอบสนองเช่นไร
เดิมทีนิสัยของเป่าเอ๋อร์ก็เป็นคนดื้อรั้นอย่างมาก เช่นเดียวกับตอนที่เขาถูกแม่ลูกเฉินจีซินขังเอาไว้ในห้องเล็กๆ นั้นมาหลายปีก็ยังไม่เคยประนีประนอม ความดื้อรั้นของเขานั้นเป็นมาแต่กำเนิด นิสัยดื้อดึงของเขาเช่นนั้นจะทำให้เจ็บปวดได้ง่ายดายที่สุด
เพียงอวี้ชิงลั่วคิดถึงนิสัยที่ยอมตายดีกว่ายอมจำนนของเป่าเอ๋อร์ คิดได้ว่าเขาอาจจะต้องพบกับการทรมานอันเจ็บปวดของเขาเพราะเรื่องนั้น ในใจก็ราวกับขมวดเป็นปมแน่น
ถ้าหาก ถ้าหากเกิดเรื่องเพราะแบบนั้น นางไม่รู้เลยจริงๆ ว่าควรทำอย่างไร
“ต้องไม่เป็นอะไรแน่” น้ำเสียงเบาๆ ของเย่ซิวตู๋ดังขึ้นข้างหูของนาง “พวกเขาจับเป่าเอ๋อร์ไป น่าจะเป็นเพราะต้องใช้ข่มขู่เราเมื่อจำเป็น ดังนั้นเป่าเอ๋อร์จะต้องไม่เป็นอะไรแน่ ว่าอย่างไร?”
อวี้ชิงลั่วสูดหายใจลึกๆ ทำได้เพียงพยักหน้า
อารมณ์ของหนานหนานพลอยหดหู่ไปด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านลุงเฟิงและท่านน้าอวิ๋นจะหาเบาะแสของท่านน้าเป่าเอ๋อร์พบ และช่วยเขาออกมาได้โดยเร็วที่สุด
เขาเองก็กลัวเป็นอย่างมากว่าท่านน้าเป่าเอ๋อร์จะถูกทรมาน จะต้องเจ็บมากเป็นแน่
ขณะเขากำลังคิด พ่อบ้านหยางทางด้านนั้นก็มาแล้วกล่าว “นายน้อยลู่และคุณหนูลู่กลับมาแล้วขอรับ”
อวี้ชิงลั่วรีบเงยหน้าขึ้น สบตากับเย่ซิวตู๋
“ไปกัน เราไปดูเสียหน่อย” เย่ซิวตู๋จับมือของนาง เดินไปยังเรือนด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ทว่าเพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสิ่นอิงก็มาอีกครั้ง “ท่านอ๋อง องค์ชายหกมาขอรับ บอกว่ามีเรื่องสำคัญ”
อวี้ชิงลั่วผลักเย่ซิวตู๋ “ท่านรีบไปเถิด เกรงว่าองค์ชายเจ็ดจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหม่แล้ว”
“เช่นนั้น… เจ้าดูแลคุณชายกับคุณหนูตระกูลลู่ดีๆ ล่ะ หากต้องการสิ่งใดก็สั่งให้พ่อบ้านไปจัดการเป็นใช้ได้”
“ท่านวางใจเถิด ข้ามีวิธีของข้า” อวี้ชิงลั่วผลักเขาอีกครั้ง
จากนั้นเย่ซิวตู๋จึงจากไปพร้อมเสิ่นอิง ฝีเท้าหนักอึ้ง สีหน้าดูเคร่งขรึมเล็กน้อย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คนตระกูลลู่สองคนนี้จะช่วยเหลือชิงลั่วอย่างไรบ้างนะ แล้วองค์ชายหกมาทำอะไร?
ไหหม่า(海馬)
Comments