อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด 346 ครอบครัวคนไข้
ตอนที่ 346 ครอบครัวคนไข้
เมื่อโอวหยางคิดจะพูดอะไรบางอย่าง จู่ ๆ ไฟในห้องผ่าตัดก็ได้ดับลง ในที่สุดประตูห้องผ่าตัดก็ได้เปิดออกมา คุณหมอที่สวมหน้ากากอนามัยกำลังเดินออกมา
“ใครคือครอบครัวคนไข้ครับ?”
“ฉันเอง!” เฉาลี่เฟยรีบร้อนก้าวเดินไปที่ข้างหน้า
“ครั้งหน้าระวังด้วยนะครับ! ถ้าเกิดอยากทำแท้งละก็ อย่าไปซื้อยาทำแท้งที่ร้านขายยาเด็ดขาด เลือดที่ไหลออกมาถ้าเกิดทำแท้งไม่ถูกลักษณะละก็ โอกาสตั้งท้องในครั้งหน้าจะไม่มีเลยนะครับ ดูจากพวกคุณแล้วน่าจะเป็นคนที่มีเงินไม่ใช่เหรอครับ ไปซื้อยาขับเลือดเพื่อให้แท้งแบบนั้นไม่ดีเลยนะ ใช้เงินแก้ปัญหาน่าจะง่ายกว่านะครับ” หมอพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง ทั้งยังบ่นให้เฉาลี่เฟยฟังอีก
“คุณหมอหมายความว่ายังไงเหรอคะ?” เฉาลี่เฟยจับไปที่เสื้อคลุมสีขาวที่เปื้อนเลือดของหมอด้วยท่าทีที่ร้อนรน เมื่อครู่เธอได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า?
“หมายความว่ายังไงเหรอ? หมายความว่าคนไข้กินยาเพื่อทำแท้งมาแล้วตั้งสามวันไงครับ!” คุณหมอเหลือบมองไปที่เธอ ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าและพูดขึ้นว่า “ไม่มีเด็กแล้ว หนึ่งเดือนนี้ก็ดูแลร่างกายด้วยนะครับ!”
เมื่อออกไปได้สักพัก พยาบาลก็ได้นำตัวเหอเหมียวที่กำลังนอนหลับอยู่ออกมา คำพูดที่หมอได้พูดไปนั้นยังคงดังกึกก้องอยู่ในหูของเธอ
เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
ทำไมต้องกินยาด้วย ทำไมถึงต้องกินยาขับเลือดเอาหลานของเธอออกมาด้วย?
ผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?
“แม่ อย่าหุนหันไป!” โอวหยางลี่มองไปที่ตัวเธอ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปข้าง ๆ เธออย่างรวดเร็ว
“แกบอกกับฉันทีสิว่าเธอไม่ดีพออย่างนั้นเหรอ? ทำไมกัน ทำไมแกจะต้องฆ่าหลานของฉันด้วย แกมันไร้จิตสำนึกความเป็นคน!”
“ผมทำกับเธอไม่ดีเอง ไม่เกี่ยวข้องกับแม่ แม่ควรใจเย็นลงหน่อยนะ” โอวหยางลี่ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตอนที่ได้ยินเรื่องเหล่านั้น หัวใจของเขาก็อยู่ไม่เป็นสุขเช่นกัน
เหอเหมียวอยู่ข้าง ๆ ตัวเขามาโดยตลอด แต่เขากลับไม่เคยสังเกตเห็นอะไรแปลก ๆ เลยสักครั้ง
“แน่นอนว่าไม่สมควรเข้าบ้านตระกูลโอวหยางของพวกเรา ทำอะไรแบบนั้นลงไป ไม่รู้จักคิดเอาเสียเลย!” เฉาลี่เฟยหัวใจของเธอเต้นไม่สงบเลยสักนิดเดียว เมื่อเห็นเตียงของเธอที่ค่อย ๆ ห่างออกไปเรื่อย ๆ หัวใจของเธอก็เหมือนกับถูกบีบรัด มันเจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออก
เมื่ออารมณ์ของเฉาลี่เฟยเริ่มเบาลง พวกเขาหันหลังกลับไปก็พบว่าจิ่งเป่ยเฉินและคนอื่น ๆ ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
เมื่อครู่คำพูดที่หมอพูดออกมา พวกเขามั่นใจว่าทางนั้นก็คงได้ยินหมดแล้ว อีกอย่างเรื่องแบบนี้ยังมาเกิดขึ้นอีก
การที่เหอเหมียวทำอะไรแบบนั้น เพื่อหวังที่จะทำให้นักข่าวใส่ร้ายบริษัทจิ่งอย่างนั้นเหรอ? หรือว่าเธอคิดอยากจะเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเขาจริง ๆ
เมื่อโอวหยางลี่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ก็บอกกับเฉาลี่เฟย เพื่อหวังให้ใจของเธอรู้สึกดีขึ้นบ้าง
“แล้วมันยังไง หลานของฉันไม่มีอีกแล้ว! แกรู้บ้างไหมว่าฉันรอมานานแค่ไหน ทั้งหมดเป็นเพราะแกไม่เคยหยุดกับผู้หญิงคนนั้นสักครั้ง นั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้โอวหยางกรุ๊ปต้องเจอกับเหตุการณ์พวกนี้ ต้องชดใช้ในสิ่งต่าง ๆ ถ้าหากแกคิดอยากจะให้ผู้หญิงคนคนหนึ่งยืนหยัดเพื่อแกแล้วละก็ แกคงไม่ใช่ผู้ชายอีกต่อไปแล้ว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับคำดุด่าของเฉาลี่เฟย โอวหยางลี่ก็ไม่ได้โต้เถียงเลยสักคำ
“วันนี้แกก็เห็นแล้ว พวกเขาแสดงความรักต่อหน้าพวกเราเสียขนาดนั้น มันหมายความว่ายังไง มันก็หมายความว่าหัวใจของเธอไม่มีแกอยู่แล้วไง!”
“แม่ ผมแค่อยากรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ที่อันโหรวพูดเมื่อกี้เป็นความจริงหรือเปล่า?” โอวหยางลี่มองดูเธออย่างจริงใจ คาดหวังกับคำตอบที่เธอจะพูดออกมา
“ผมขอถามเป็นครั้งสุดท้ายนะแม่ มันเป็นความจริงหรือเปล่า? แม่ตอบผมทีเถอะ แล้วผมจะให้คำตอบแม่อย่างจริงจังบ้าง” โอวหยางลี่มองไปที่เธอและพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง
“ไม่ใช่ความจริง พวกเขาคบกันตอนไหนแม่จะรู้ได้ยังไง แกลองคิดดูดี ๆ ว่ามันเป็นความจริงหรือเปล่า ในคืนนั้นแกก็จำได้นี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง จู่ ๆ จิ่งเป่ยเฉินก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับถอดเสื้อคลุมของเขาให้กับเธอและอุ้มเธอเดินออกไป!”
“ถ้าหากพวกเขาไม่มีขา แล้วจิ่งเป่ยเฉินจะเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ? ทั่วทั้งเมือง A ใครกันที่จะสามารถทำแบบเขาได้อีก เว้นเสียแต่ตัวเขาอยากจะทำเองทั้งนั้น ดูยังไงก็ไม่เหมือนครั้งแรกที่พวกเขาพบกันด้วยซ้ำ! ลูกชาย ช่วยได้สติสักทีเถอะ! หัวใจของเธอไม่มีแกอยู่แล้ว เธอไม่ได้รักแกแล้ว แม่คนนี้ทำทุกอย่างก็เพื่อแกนะลูกชาย”
เฉาลี่เฟยต้องพูดจาโกหก ตอนนี้เธอมีแต่ลูกชาย ถ้าหากแม้แต่ลูกชายยังไม่เชื่อแล้วละก็ เธอจะทำอะไรได้อีกกัน
ชั่วชีวิตของเธอมีแต่เขาไม่ใช่หรือไง?
ทุกอย่างที่เธอทำก็เพื่อปูทางให้เขาเดิน ไม่อย่างนั้นเมื่อห้าปีก่อนเรื่องพวกนั้นก็คงไม่เกิดขึ้นแน่ ๆ
“แม่ ผมรู้แล้ว!” โอวหยางลี่กำหมัดแน่น บาดแผลที่มือขวาเริ่มรู้สึกเจ็บแผลเก่าที่เคยเกิดขึ้น มันเจ็บปวด เจ็บปวดจนทำให้เขาได้สติมากขึ้น
ในอินเทอร์เน็ตตอนนี้มีวิดีโอที่เหอเหมียวและอันโหรวเกิดเรื่องบาดหมางแพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง มีคำด่าทอมากมายเกิดขึ้น หลายคนต่างก็บอกว่าอันโหรวเหมือนกับงูพิษ แสร้งใจดีต่อผู้อื่น แต่ไม่เคยมีหัวใจให้เลยสักครั้ง
ไม่นานเท่าไร เอกสารการรักษาด้านการแพทย์ของเหอเหมียวและเอกสารใบสั่งยา รวมถึงรายงานการตรวจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหอเหมียวก็ถูกเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตเช่นกัน
ไม่นานมันก็แพร่กระจายไปทั่ว ความคิดทั่วไปที่เคยเกิดขึ้น ที่เคยด่าทออันโหรว พวกเขาเริ่มกลับไปอยู่ข้างอันโหรวอีกครั้ง และบอกว่าอันโหรวเป็นคนจิตใจดี ไม่เหมือนคนชั่วช้าที่ทำแบบนั้น หลายคนเปิดวิดีโอขึ้นมาดูอีกครั้งก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเธอผลักเลยสักนิดเดียว เห็นได้ชัดว่าเป็นเหอเหมียวที่ทำตัวเธอเองชัด ๆ
สรุปเรื่องพวกนี้มันส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อบริษัทจิ่ง ไม่นานข่าวพวกนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง A ผู้คนก็ได้รับรู้ว่าบริษัทจิ่งกำลังจะปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถเดินไปซื้อได้แล้ว
โฆษณาง่าย ๆ ทั่วไป พวกเขาคงไม่สนใจไยดีแน่ ๆ
เมื่อออกจากโรงพยาบาล หลินจือเซี๋ยวก็ได้เกาะไปที่แขนของอันโหรวและพูดขึ้นว่า “โหรวโหรว ฉันไม่ได้เจอหน้าหยางหยางกับหน่วนหน่วนนานแล้ว คืนนี้ฉันไปนอนที่บ้านเธอดีไหม?”
อันโหรวยิ้มตอบกลับ “ได้สิ!”
ฉีเซิ่งเทียนที่กำลังเดินอยู่ข้างหลังพวกเขาจ้องไปที่แผ่นหลังของเธอ ก่อนจะพูดด้วยท่าทีผ่อนคลายออกมา
“ฉันไปด้วยนะ!” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างจงใจ
“พวกนายสองคน…..” จิ่งเป่ยเฉินที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้า ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “ไปได้แค่คนเดียว”
“ทำไม?” ฉีเซิ่งเทียนก้าวเท้าไปข้างหน้า ก่อนจะเดินไปที่ด้านข้างของจิ่งเป่ยเฉิน “พี่เฉิน!”
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้สนใจเขา ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ
แต่เดิมเขาก็ไม่คิดอยากจะให้ใครไปที่บ้านของเขาอยู่แล้ว……..
อันโหรวเหลือบสายตามองไปที่ฉีเซิ่งเทียน ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถเช่นกัน
หลินจือเซี๋ยวรีบเดินขึ้นรถอย่างรวดเร็ว พลางเหลือบสายตามองไปที่เขา พร้อมกับเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงที่ด้านหลังของบิ๊กบอสทันที
ฉีเซิ่งเทียนได้แต่ยืนนิ่งมองดูพวกเขาที่ค่อย ๆ ขับรถออกไป ทั่วทั้งตัวเขาตอนนี้ราวกับระเบิดที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา
เนื้อถึงในปากแบบนั้น จู่ ๆ กลับบินหนีออกไปเฉย!
เนื้อของเขาเลยนะ!
หลินจือเซี๋ยว ต่อให้ครั้งนี้จะหนีรอดไปได้ แต่เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะจับเธอไม่ได้!
บอกว่าจะนอนด้วยกันทั้งชีวิต แต่ดูท่าได้นอนด้วยกันแค่ครั้งเดียวเมื่อตอนนั้น น่าเสียดายที่เขาไม่เคยหลับนอนกับเธอแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยสักครั้ง!
เขาเริ่มจะห้ามตัวเองไม่อยู่แล้ว ไม่คิดจะทนได้ไหวอีกต่อไป!
วันนี้แค่เขาเห็นเธอมันก็ทนไม่ไหวแล้วด้วยซ้ำไป!
ในห้องผู้ป่วย กลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อลอยฟุ้งรุนแรงเป็นอย่างมาก ภายในห้องผู้ป่วยเงียบสงบมาก แสงสีขาวอุ่น ๆ ยังคงส่องไปทั่วทั้งห้อง
เหอเหมียวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอซีดเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากเหี่ยวแห้ง ดูเหมือนกับว่าตอนนี้เธอเป็นคนป่วยที่ไร้เรี่ยวแรงใด ๆ
“น้ำ………..”
“อยากดื่มน้ำก็ลุกขึ้นมาทำเองสิ!” เฉาลี่เฟยอดไม่ได้ที่จะพูดแบบนั้นออกไป เธอรู้สึกโกรธมากเมื่อได้ยินเสียงของเธอ “ที่เธอทำเรื่องแบบนั้นลงไป เธอกล้ามากนะ กล้าที่จะเอาหลานของฉันออกไปแบบนั้น!”
เหอเหมียวเมื่อได้ยินเสียงของเฉาลี่เฟย เธอก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเต็มที่ จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ น้ำเสียงของเธอค่อย ๆ สะอื้นเบา ๆ
“ฉันไม่ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ แต่พี่โอวหยางเขาไม่ยอมให้เขาเกิดมา ถึงแม้ว่าเขาจะเกิดมาแล้วแต่พ่อไม่รักไม่ชอบแบบนี้ ฉันก็ไม่คิดอยากให้ลูกของฉันต้องใช้ชีวิตแบบนั้น อีกอย่างฉันก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องเสียเปล่านะ” เพราะตัวเธอวางแผนเอาไว้หมดแล้ว
ก่อนหน้านั้นเธอได้ยินเรื่องที่บริษัทจิ่งคิดจะทำอะไรอยู่ เธอเลยกินยาล่วงหน้าเป็นเวลากว่าสามวัน ก่อนจะไปที่แห่งนั้นในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดี ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าท้องช่วงล่างของเธอนั้นปวดมากขึ้นเรื่อย ๆ
Comments