อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด 269 ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด

Now you are reading อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด Chapter 269 ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 269 ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด

  

ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด

  

ทันทีที่ขึ้นไปบนรถ อันโหรวที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา เธอหลับตาลงช้า ๆ ดูเหมือนจะง่วงเอามาก ๆ

  

“นอนเถอะ!” จิ่งเป่ยเฉินลูบไปที่ผมของเธอก่อนจะก้มมองไปที่เธอ

  

“ฉันไม่ง่วง” เธอแค่ต้องการนอนอยู่ในท่านี้ หลับตาลงเพื่อผ่อนคลายสักหน่อย “วันเกิดของนายใกล้จะมาถึงแล้ว อยากได้อะไรเป็นของขวัญ?”

  

วันเกิดของเขางั้นเหรอ?

  

อีกตั้งยี่สิบวัน!

  

จิ่งเป่ยเฉินคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะก้มหน้าลงไปที่ข้างหูของเธอและพูดขึ้นมาหนึ่งคำอย่างนุ่มนวล “เธอ”

  

อันโหรวหมดคำพูดขึ้นมาทันที เรียกเธอคืออะไร?

  

“พวกเราแต่งงานกันแล้วไง หรือว่านายอยากจะหย่ากับฉันแล้วค่อยแต่งกันใหม่?” ถ้าหากเป็นแบบนั้นเธอจะไม่ยอมให้ใบสมรสกับเขาอย่างง่ายดายเด็ดขาด

  

จะทำให้เขาลำบากใจแน่นอน!

  

“ฉันหมายความว่าการได้อยู่กับเธอก็คือของขวัญที่ดีที่สุด” ส่วนเรื่องของขวัญอย่างอื่นเขาไม่ต้องการ

  

การเลือกของขวัญให้ผู้ชายนี่ช่างยากเหลือเกิน โดยเฉพาะคนอย่างจิ่งเป่ยเฉินที่เป็นคนไม่เคยขาดอะไรตั้งแต่เด็กจนโต

  

ตอนนี้เขาแต่งงานแล้ว ภรรยาและลูกก็มีแล้ว เขายังอยากได้อะไรกันอีกนะ?

  

อะไรที่สามารถทำให้เขามีความสุขได้?

  

ลูกแฝด?

  

เธอคิดอย่างจริงจัง ทันใดนั้นมือของเขาก็เอื้อมมากุมที่บนมือของเธอ “หนาวท้องเหรอ?”

  

“ไม่หนาวสักหน่อย!” ถือว่าหนาว ตอนนี้บนมือทั้งสองมีอีกมือหนึ่งมากุมไว้ก็ไม่รู้สึกหนาวแล้ว

  

แต่มือของจิ่งเป่ยเฉินยังคงไม่ยอมปล่อยออก อันโหรวเองก็ไม่ได้ใส่ใจและยังคงนอนท่าเดิมไปจนถึงบ้าน

  

วันที่สอง เมื่อพนักงานมาทำงานที่บริษัทจิ่งก็พบว่าประตูหน้าทางเข้าของบริษัทมีสุนัขพันธุ์ฮัสกี้กำลังจ้องมองและกระโดดโลดเต้นไปมาอยู่

  

พนักงานต่างทยอยกันเข้ามามุงดูข่าวที่รายงานเมื่อวาน คำพูดที่เกี่ยวกับสุนัขที่ดีไม่ขวางทางนั้นเป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก

  

เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ดังไปถึงหูของโอวหยางลี่ เขาโกรธมากจนเขวี้ยงเอกสารที่อยู่บนโต๊ะลงบนพื้น

 

“จิ่งเป่ยเฉิน นายรังแกกันเกินไปแล้ว!”

  

เลขาที่ก้มตัวลงเพื่อเก็บเอกสารสะดุ้งตกใจเสียงของโอวหยางลี่ เธอจึงรีบคว้าเอกสารนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

  

นับตั้งแต่วันนี้ตระกูลจิ่งกับโอวหยางกรุ๊ปต้องพิจารณากันใหม่อีกครั้ง ตระกูลจิ่งเป็นองค์กรหุ้นชั้นนำในเมือง A ตระกูลจิ่งเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมศิลปะด้านเครื่องหยก แหล่งลูกค้าจำนวนมาก รวมถึงกระแสเงินทุนที่เข้ามาต่างก็ต้องพึ่งพาตระกูลจิ่ง

  

ส่วนโอวหยางกรุ๊ปเป็นผู้นำหลักในพื้นที่หยก เมื่อเทียบกับตระกูลอันเมื่อห้าปีก่อนที่พัฒนาไปอย่างมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายโอวหยางกรุ๊ปได้หมดในคราเดียว

  

อันโหรวเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟ ก่อนจะมองไปที่จิ่งเป่ยเฉินที่กำลังจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่ละสายตา เธอก้าวฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง

  

“มีชีวิตชีวาหน่อย” เธอยื่นแก้วกาแฟไปวางที่ด้านหน้าของเขา “หรือว่านายอยากจะไปนอนพักผ่อนสักหน่อยก็ได้นะ”

  

“ป้อนฉัน” จิ่งเป่ยเฉินยังคงจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างขะมักเขม้น “โอวหยางกรุ๊ปลดราคาอย่างหนัก เขาลดราคาลงถึงห้าเปอร์เซ็นต์”

  

อันโหรวยกแก้วกาแฟขึ้นมา “หรือว่าเขาคิดว่านายจะทำสงครามลดราคาเหมือนกัน? คอลเลกชันเครื่องประดับอัญมณีที่วิเวียนออกแบบนั้นวางตลาดแล้วใช่ไหม? เมื่อถึงเวลานั้นโอวหยางกรุ๊ปต้องถูกกดราคาอย่างต่ำแน่นอน”

  

อันโหรวเดินไปตรงหน้าจิ่งเป่ยเฉิน เขาจึงดึงตัวเธอให้นั่งลงบนตักของเขา ทำให้กาแฟที่ถืออยู่ในมือนั้นเกือบจะหก

  

จิ่งเป่ยเฉินโอบเอวเธอและก้มหน้ามองเธอ “ฉันไม่คิดว่าโหรวโหรวของฉันจะเก่งกาจขนาดนี้ ผลงานที่ออกแบบมานั้นได้รับความนิยมอย่างมาก”

  

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่นายยังไม่รู้!” เธอยกแก้วกาแฟยื่นไปที่ริมฝีปากของเขา “ดื่มสิ”

  

จิ่งเป่ยเฉินกลับไม่ได้เปิดปาก แต่เลื่อนหน้าไปกระซิบที่ใบหูของเธอแทน “ยังมีเรื่องอะไรอีกที่ฉันยังไม่รู้ หือ?”

  

อันโหรวเบี่ยงตัวเข้าไปในอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย “เลิกเล่นได้แล้ว กาแฟหกหมดแล้ว!”

  

“เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าเธอปิดบังอะไรฉันอยู่” ตอนนี้เขาเริ่มสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว

  

“อย่าขยับนะ! อ้าก…..” เธอร้องโวยวายขึ้นมาทันที แก้วในมือนั้นก็เอียงไปทางจิ่งเป่ยเฉิน

  

กาแฟหกไปที่ตัวของเขาอย่างจัง เลอะไปบนเสื้อผ้าของเขา

  

“จิ่งเป่ยเฉิน! ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าเล่น” เธอวางแก้วกาแฟที่เหลือกาแฟอยู่เพียงเล็กน้อยนั้นลง

  

จิ่งเป่ยเฉินก้มลงมองไปที่คราบกาแฟที่หกใส่บนตัวเอง ก่อนจะมองไปที่หน้าอกของเธอ คราบจุดกาแฟเลอะบนเสื้อเชิ้ตสีขาว เขายื่นมือไปเช็ด “ในเมื่อเปื้อนแล้ว…….”

  

“หยุด!” เธอจ้องมองไปที่เขา เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้!

  

“เธออยาก……” จิ่งเป่ยเฉินกุมมือของเธอมาที่กระดุมเสื้อสูทของเขา และเขาก็เอื้อมมือไปที่กระดุมเสื้อของเธออย่างรวดเร็ว

  

อันโหรวมองมือของเธอ ก่อนจะดึงมือกลับมาเหมือนว่าถูกขโมยไป “ในห้องรับรองมีเสื้อผ้าของฉันไหม?”

 

“มี”

  

“จิ่งเป่ยเฉิน หยุดนะ!”

  

จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้ฟังคำพูดของเธอเลยแม้แต่น้อย

 

“……”

  

เดิมทีเธอแค่จะเข้ามาเสิร์ฟกาแฟ แต่ทำไมกลับพาตัวเองเข้ามาติดกับได้กันนะ?

  

จิ่งเป่ยเฉินกอดเธอให้ลุกขึ้น เธอพูดสาปแช่งขึ้นมา “ฉันจะไม่เข้ามาเสิร์ฟกาแฟให้นายอีก!”

  

“เสิร์ฟชาแทนก็ได้นะ” จิ่งเป่ยเฉินกระซิบไปที่หูของเธอ

 

“นาย……” ฝีมือของเธอยังอ่อนหัดนัก ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของจิ่งเป่ยเฉินได้เลย

 

“จิ่งเป่ยเฉิน! ฉันจะไม่เข้ามาในห้องทำงานของนายอีกแล้ว!” เธอตะโกน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด