อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด 303 เธอเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้ามาทำกับเด็กได้ลงคออีกเหรอ?
ตอนที่ 303 เธอเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว ยังมีหน้ามาทำกับเด็กได้ลงคออีกเหรอ?
เธอเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาทำกับเด็กได้ลงคออีกเหรอ?
เหลียวเว่ยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ใบหน้าที่ซีดเซียวของเธอนั้นดูเหมือนกับคนป่วยเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นเองจู่ ๆ เธอก็หยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาจากกระเป๋าของเธอ แผ่นกระดาษนั้นยับเยินพอสมควร ก่อนจะถูกโยนไปให้โอวหยางลี่ “โอวหยางลี่ นายดูมันสิ!”
โอวหยางลี่หยิบกระดาษที่ยับเยินออกมากางออกอย่างรวดเร็ว แผ่นแรกเป็นหลักฐานการตั้งครรภ์ ส่วนแผ่นที่สองเป็นหลักฐานการแท้ง ชื่อที่เขียนด้านบนคือชื่อของเหลียวเว่ย
ช่วงเวลาก็เป็นหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
“นายไม่เชื่อฉันใช่ไหมว่าตั้งท้อง คงไม่คิดว่าจะแท้งเพราะล้มลงหรอกนะ นี่ไงหลักฐาน ลูกของพวกเราถูกผู้หญิงที่เลวชั่วช้าจ้างคนมาทำร้ายฉัน! ฉันได้ยินมากับหูของตัวเอง! ตอนนั้นถึงแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ก็ยังจำได้ว่าคนพวกนั้นพูดว่าอันอีหาน!” เหลียวเว่ยพูดออกมาด้วยอารมณ์และจ้องไปที่อันโหรวด้วยท่าทีที่โมโห
เธอรู้ว่าอันโหรวคงไม่มีทางมาอยู่กับโอวหยางลี่ได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ต้องทำให้โอวหยางลี่เกลียดเธอให้ได้ ไม่ต้องชอบเธอสิดี!
“โหรวโหรว ที่เธอพูดมาเป็นความจริงงั้นเหรอ?” โอวหยางลี่หันหน้าไปมองอันโหรว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“นายถามฉันด้วยทัศนคติแบบไหนกัน? เรื่องที่ฉันไม่เคยทำจะอธิบายให้นายเข้าใจได้ยังไง?” เธอพูดโดยไม่หันไปมองโอวหยางลี่เลยแม้แต่น้อย
พอพูดจบก็ก้มหน้าลงไปมองเหลียวเว่ย “ถ้าเธอกังวลเรื่องลูกขนาดนั้นก็ควรจะเข้าใจความรู้สึกของฉันบ้างนะ ฉันเองก็เป็นแม่คน ฉันมีลูกมาตั้งห้าปีก็รักลูกมากเหมือนกัน แล้วในฐานะคนเป็นแม่จะไปทำร้ายเด็กบริสุทธิ์ที่ยังไม่ทันลืมตาดูโลกได้ยังไง แต่เพราะเธอทำให้หยางหยางกับหน่วนหน่วนต้องนอนที่โรงพยาบาลอยู่แบบนี้ ถ้าหากไม่พาเธอเข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วละก็ หัวใจฉันที่เกลียดเธอก็คงไม่มีทางลบเลือนหายไปได้หรอก”
เมื่อโอวหยางลี่ได้ฟังสิ่งที่อันโหรวพูด เป็นไปได้ไหมที่หน่วนหน่วนกับหยางหยางจะถูกเหลียวเว่ยจัดการทุกอย่างจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น?
“ทำไมเธอถึงได้ทำเรื่องโหดร้ายแบบนี้!?” โอวหยางลี่ก้มหน้าลงและพูดอย่างรุนแรงใส่
“ฉันจะกลายเป็นคนที่โหดร้ายก็ต่อเมื่อคนคนนั้นทำร้ายลูกของฉัน เธอฆ่าลูกของฉันก็สมควรแล้วนี่ โชคดีที่เด็กคนนั้นไม่ได้เกิด ไม่อย่างนั้นเขาคงเป็นทุกข์แน่ที่พ่อของเขากลายเป็นคนแบบนาย!”
“แน่นอน ถ้าหากฉันรู้ว่าเธอตั้งท้อง ฉันเองก็ไม่อยากให้เขาเกิดมาเหมือนกัน!”
อันโหรวแทบจะหมดคำพูด “ลูกของเธอไม่ใช่ฉันฆ่าหรอก นี่ไงหลักฐาน”
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ในนั้นมีวิดีโอของเหอเหมียว
“เธอเลิกเสแสร้งได้แล้ว เธอรู้ว่าฉันจ้างคนให้ไปฆ่าเด็กในท้องของเหลียวเว่ย! เธอคิดจะทำอะไรกันแน่? ถือว่าฉันขอร้อง อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่โอวหยางนะ!”
ทันทีที่เสียงของเหอเหมียวเริ่มเบาลง เหลียวเว่ยก็รีบหันหน้าไปมองเหอเหมียวที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูด้วยท่าทีเกลียดชัง ตัวที่ผอมเพรียวของเธอแนบชิดติดกับประตู เพราะเธอได้ยินเสียงที่พวกเขาทะเลาะกันอย่างรุนแรง และได้ยินอันโหรวพูดถึงหลักฐาน เธอก็แทบจะทนไม่ไหว คิดจะออกจากที่แห่งนี้ในทันที
ส่วนเฉาลี่เฟยที่อยู่ไม่ไกลก็ยินเรื่องพวกนี้เข้าโดยบังเอิญ “เหมียวเหมียว!”
เหอเหมียวในตอนนี้ดูคล้ายกับคนโง่ สถานการณ์ก่อนหน้านั้นเธอก็แทบจะทนรับไว้ไม่ไหว เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก
“ไม่ใช่ฉันนะ ฉันถูกใส่ร้าย วิดีโอนี้ต้องถูกตัดต่อแน่ ๆ” เหอเหมียวพูดออกมาด้วยท่าทีที่ร้อนรน “เธอเป็นคู่หมั้นของประธานจิ่ง การตัดต่อวิดีโอก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยนิดเดียวด้วยซ้ำ ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นแน่ ๆ พี่โอวหยาง พี่ต้องเชื่อฉันนะ!”
โอวหยางลี่หันหน้าไปมองเธอ ก่อนจะพูดด้วยท่าทีที่ไม่แยแส “ผู้หญิงแบบเธอก็อย่ามาตั้งท้องลูกของฉันเลย”
“พี่โอวหยาง ฉันบริสุทธิ์ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คืออะไร มันเป็นความผิดของเธอนะ เธอขู่ให้ฉันพูดไปแบบนั้น ไม่ใช่ความจริงเลย!” เหอเหมียวเดินไปตรงหน้าของโอวหยางลี่ ใบหน้าของเธอดูขาวซีดและดูน่าสงสารไม่ใช่น้อย
เหอเหมียวเมื่อเห็นว่าโอวหยางลี่ไม่มีทางเชื่อเธอ เธอก็ได้แต่คิดอยากจะเปลี่ยนคำพูด
“ฉันดูเธอผิดไปจริง ๆ” โอวหยางลี่ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะเดินไปทางอันโหรวสองสามก้าว
แต่เมื่อเขาเดินมาแบบนี้ อันโหรวที่ยืนอยู่ก็ถอยหลังห่างออกไปทันที
ภาพเหตุการณ์ตรงนี้ช่างเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมหาที่ใดเปรียบเทียบไม่ได้ อันโหรวคิดว่าตัวเองเป็นคนนอกอยู่ แม้ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร แต่เหตุการณ์พวกนี้เหมือนจะอยากให้เธอมีส่วนร่วมด้วยจริง ๆ
โอวหยางลี่ที่ก้าวเดินมา เขาเผลอคลายเท้าที่เหยียบมีดเอาไว้ เขาคิดจะพูดคุยกับเหลียวเว่ย แต่ก็ลืมสนใจว่าตัวของเหลียวเว่ยนั้นนั่งอยู่ที่พื้น เธอจึงหยิบมีดที่เพิ่งถูกคลายจากการเหยียบขึ้นมาทันที
“พี่โอวหยาง ไม่ใช่ฉันนะ ฉันจะทำร้ายลูกของพี่ได้ยังไง ฉันบริสุทธิ์จริง ๆ นะ ฉันไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ พี่ต้องเชื่อฉันนะ นะ พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้ว พี่น่าจะรู้ว่าฉันเป็นคนแบบไหน” เหอเหมียวยืนอยู่ใกล้ ๆ โอวหยางลี่ พยายามเรียกให้เขาสนใจ
“ฉันอาจจะไม่รู้จักคนอย่างชัดเจนมากพอ” จากคำพูดของเหอเหมียวที่พูดออกมา เขาเต็มใจที่จะเชื่ออันโหรวมากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นในวิดีโอนี้การแต่งตัวก็มีมากกว่าหนึ่งเดียว และยังมีวิดีโออีกหลายไฟล์ ดูแล้วนี่น่าจะเป็นเรื่องจริงแน่ ๆ
มันไม่มีทางที่วิดีโอนี้จะถูกตัดต่อแน่ ๆ
“พี่โอวหยาง ฉันตั้งท้องลูกของพี่อยู่นะ ทำไมพี่ถึงได้พูดแบบนี้……..” เหอเหมียวรู้สึกเสียใจที่โอวหยางลี่ไม่เชื่อคำพูดของเธอ
“ก่อนหน้านั้นฉันเคยเชื่อมั่น เชื่อใจ แต่ตอนนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้ว” โอวหยางลี่มองเธออย่างเหม่อลอยและไม่แยแส เขาเคยคิดว่าการมองคนของเขาถือว่าค่อนข้างแม่นยำมาตลอดชั่วชีวิต แต่สุดท้ายเขาก็พบว่าตัวของเขานั้นดูผู้หญิงไม่เป็นเลยและไม่มีทางเข้าใจด้วย
“พี่โอวหยาง ฉันมีแต่พี่เท่านั้นนะ อีกทั้งยังมีลูกกับพี่จริง ๆ นะ ทำไมพี่ถึงได้พูดแบบนี้?” เหอเหมียวเริ่มรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น ไม่ว่ายังไงพี่โอวหยางก็ดูเหมือนจะไม่เชื่อใจเธอ
อันโหรวมองดูโอวหยางลี่และเหอเหมียวพูดคุยกัน เธออยากจะดูว่าพวกเขาสองคนจะเล่นกันแบบไหนต่อไป
ปัง!
แต่ทันใดนั้นจู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น
ก่อนจะตามด้วยเสียงมีดที่หล่นลงสู่พื้น
“อ้ากกก……..”
อันโหรวชายตามองไปดูต้นเสียง ก็เห็นมือของเหลียวเว่ยมีรูทะลุ เลือดไหลออกมาเป็นทาง ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนน่าตกใจเป็นอย่างมาก ส่วนเท้าของเธอนั้นก็เกือบจะถูกมีดแทงเข้าไป
จู่ ๆ เอวของเธอก็ถูกรัดแน่นจากข้างหลัง เธอหันหน้าไปมองก็พบว่าเป็นจิ่งเป่ยเฉินที่ตอนนี้มีใบหน้าที่เคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยว่า “โหรวโหรว เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ฉันไม่เป็นไร”
แต่นายกล้ายิงคนในโรงพยาบาลแบบนี้จะไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ?
เหลียวเว่ยยังคงกรีดร้องโวยวายไม่หยุด ทางด้านจิ่งเป่ยเฉินเองก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ไม่มีใครคิดกล้าช่วยเธอเลยสักคน ราวกับยืนดูอยู่เพื่อรอคำสั่ง
“ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉันด้วย!” เหลียวเว่ยตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด เลือดที่ไหลออกมาราวกับจะไหลออกให้หมดตัวด้วยความรวดเร็ว
ก่อนหน้านั้นแม้จะเคยคิดเรื่องความตายมาก่อน แต่เมื่อได้มาเผชิญหน้ากับมันจริง ๆ เธอกลับไม่คิดอยากจะตายเลยสักนิด
จิ่งเป่ยเฉินหลับตาที่เย็นชาของเขาลง ก่อนจะเอ่ยปากพูดเบา ๆ ว่า “เธอ…สมควรตาย”
“บ้าเอ๊ย!” ฉีเซิ่งเทียนจู่ ๆ ก็ตะโกนเสียงดังมาจากด้านหลัง เขาวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เส้นผมยังคงกระเซอะกระเซิงไม่เป็นทรง
อันโหรวเงยหน้าขึ้นไปมองที่จิ่งเป่ยเฉิน ดูเหมือนว่าเขาเองก็รีบวิ่งมาอย่างรวดเร็วเหมือนกัน การที่เขาโผล่มาอย่างรวดเร็วแบบนี้ทำให้จิตใจของเธอสงบขึ้นมาก รวมถึงรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
มีเขาอยู่ข้าง ๆ เธอก็รู้สึกสบายใจ
“ฉันตามหาเธออยู่ต่างประเทศตั้งนาน ที่แท้ก็อยู่ที่นี่เองเหรอ ก็ดี ในเมื่อที่ที่อันตรายที่สุดก็ถือเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด” ฉีเซิ่งเทียนพูดจบ จิ่งเป่ยเฉินก็ลดปืนลง ตอนนี้เขาถือมันแน่นอยู่ในมือของตัวเอง
“โหรวโหรว เธอใจเย็นลงบ้างหรือยัง?” จิ่งเป่ยเฉินก้มมองอันโหรว เสียงของเขาที่เอ่ยถามนั้นฟังดูนุ่มนวลเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าเหลียวเว่ยจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่หยางหยางกับหน่วนหน่วนจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน
ตอนนี้เธอจึงคิดอยากจะกลับไปดูหยางหยางและหน่วนหน่วนแล้ว ไม่อยากจะคุยกับพวกเขาที่นี่เลยสักนิดเดียว อีกทั้งยังไม่อยากเห็นคนอื่นที่นี่ด้วยเช่นกัน
Comments