อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด 316 เมื่อได้ยินเสียงเขาก็คิดถึงเขาขึ้นมาทันที
ตอนที่ 316 เมื่อได้ยินเสียงเขาก็คิดถึงเขาขึ้นมาทันที
เสียงกระซิบทุ้มต่ำจากปลายสายผ่านเข้ามาในหูของเธอ “อย่างแรกก็โทรศัพท์หาเธอก่อนเลย”
ตอนแรกเธอไม่ได้โกรธ เมื่อได้ยินเสียงแบบนี้ของเขากลับหัวเราะออกมา
ภายในห้องนอนขนาดใหญ่มีเพียงเธอคนเดียว เมื่อได้ยินเสียงเขาก็คิดถึงเขาขึ้นมาทันที
น้ำเสียงที่แผ่วเบา “นายคงเหนื่อยน่าดูเลย ตอนนี้ไปกินข้าวแล้วก็พักผ่อนเถอะ รีบกลับมาไว ๆ นะ”
“อืม ราตรีสวัสดิ์”
เขากำโทรศัพท์ไว้แน่น ตอนนี้เธอควรจะนอนได้แล้ว
“ราตรีสวัสดิ์” หลังจากที่พูดออกไปเสียงฟู่ ๆ จากเครื่องทำความเย็นก็ดังขึ้น เขากำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงฉีเซิ่งเทียนเรียกเขาก็หันกลับไปมองทันที
ผ่านไปสามวันกับการที่จิ่งเป่ยเฉินเดินทางนอกสถานที่ หิมะที่ตกอยู่นอกหน้าต่างได้หยุดลงแล้ว
วันนี้เธอได้รับโทรศัพท์จากเหอเหมียวที่ต้องการนัดเจอกัน สถานที่คือร้านอาหารไทยที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทจิ่ง
เนื่องจากอยู่ห่างกันไม่ไกลมากนัก เพราะงั้นเธอจึงไม่ได้ขับรถมา แต่เลือกที่จะเดินไปแทน
เธอเดินลงมาจากชั้นบนของบริษัท การเดินทางใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ทันใดนั้นข้างกายเธอก็มีรถหนึ่งคันเข้ามาจอดเทียบ เธอที่ยังไม่ทันจะตอบสนองอะไรก็ถูกกระชากเข้าไปในรถอย่างแรง
“ปล่อยฉันนะ!” เธอร้องตะโกน!
“โหรวโหรว ฉันเอง!” เสียงของโอวหยางลี่ดังเข้ามาในหูของเธอ
ทั้งสองคนปล่อยมือของเธอออก เธอยังคงไม่ได้มองหน้าเขาอย่างชัดเจน “นายจะทำอะไร? ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!”
“ฉันจะทำอะไรได้ ฉันรักเธอมากขนาดนี้ จะทำอะไรเธอได้ ฉันเพียงแค่ได้รับข้อความมาเพราะงั้นเลยอยากจะมาบอกเธอเท่านั้นเอง” โอวหยางลี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพลางจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลา
“นายมีอะไรจะบอกฉัน? เรื่องแย่ ๆ ที่พวกนายทำไว้กับพ่อของฉันเมื่อห้าปีก่อนอย่างนั้นเหรอ?” เธอยิ้มอย่างเย็นชา สายตาจับจ้องมองไปที่วิวด้านนอกที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ความเร็วของรถแบบนี้ ถ้าหากเธอกระโดดลงจากรถไปต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่
ไม่คุ้มค่า!
“นอกจากครอบครัวของเธอยังมีเรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นอีก” โอวหยางลี่ชูโทรศัพท์ในมือขึ้นมา แต่ว่ากลับไม่ได้ให้เธอดูในทันที “โหรวโหรว เธอชอบจิ่งเป่ยเฉินจริง ๆ งั้นเหรอ?”
“นายจะทำอะไร?” จู่ ๆ เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
หยางหยางกับหน่วนหน่วนอยู่ที่บ้าน คงไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ส่วนจิ่งเป่ยเฉินอยู่ต่างประเทศ ตอนนี้เธออยู่ในมือของเขาแล้ว แต่สิ่งที่เธอกำลังให้ความสนใจก็คือโทรศัพท์ของเขาในตอนนี้
“ดูเหมือนเธอจะชอบเขามากจริง ๆ สินะ แต่ว่าหลังจากนี้พวกเธอไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้หรอก ถึงแม้ฉันจะเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่ผ่านมา แต่ฉันก็หวังว่าเธอจะมีความสุขได้จริง ๆ เสียที” โอวหยางลี่เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะพูดต่อว่า “ก็แค่ความสุข ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะให้กับเธอได้ เมื่อครู่นี้ฉันเพิ่งจะได้รับข่าวมา”
อันโหรวมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเขา เห็นรถโรลส์-รอยซ์สีดำขับอยู่บนถนน แต่จู่ ๆ ก็พุ่งพลิกคว่ำตกลงข้างทาง
ตูม!! ในไม่ช้าก็เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น เปลวเพลิงลุกโชนราวกับจะทะลุออกมานอกจอ
“ล้อเล่นอะไรอยู่? มีหลักฐานบ้างไหมว่ารถคันนี้เป็นของเขา?” อันโหรวละสายตาจากหน้าจอ ก่อนจะมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มที่เยาะเย้ย “คิดเหรอว่าแค่วิดีโอเดียวจะสามารถหลอกฉันได้”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ลองโทรหาเขาดูสิ จะได้รู้กันไปเลย” โอวหยางลี่เก็บโทรศัพท์ลง ก่อนจะมองไปที่ตัวเธอ
ใช่แล้ว ตอนนี้ขอเพียงแค่เธอโทรศัพท์ไปเท่านั้น เธอก็จะรู้ว่าสิ่งที่โอวหยางลี่พูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่
แต่ทำไมกันนะ ทำไมหัวใจของเธอถึงรู้สึกประหม่าขึ้นมา!
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้มองโทรศัพท์เขาอีกแล้ว แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าข้างในรถที่มีเปลวไฟลุกโชนนั้นมีใบหน้าที่เธอคุ้นเคย และมันติดอยู่ในใจของเธอ
หัวใจของเธอในตอนนี้เต้นโครมครามไม่หยุด จิ่งเป่ยเฉินคงไม่มีทางเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ คนแบบเขาเนี่ยนะจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น?
มือของเธอสั่นเทาเล็กน้อย ก่อนจะกดหมายเลขโทรศัพท์ของเขา เมื่อกดโทรออกก็มีเสียงเครื่องทำความเย็นดังขึ้นมา ตอนนั้นหัวใจของเธอก็พลอยเต้นแรงไปด้วย รู้สึกว่าทั้งร่างชาวาบขึ้นมาทันที
“ขอโทษด้วย หมายเลขที่คุณโทรศัพท์เข้ามาปิดเครื่องไปแล้ว”
ปิดเครื่อง…..
หมายความว่ายังไง ปิดเครื่อง?
เขาคงน่าจะประชุมอยู่แน่ ๆ
อันโหรวพยายามสงบสติอารมณ์และบอกตัวเองว่าจิ่งเป่ยเฉินจะต้องไม่เป็นอะไร
เธอกดโทรศัพท์หาฉีเซิ่งเทียนอีกครั้ง แต่ก็ได้รับผลลัพธ์แบบเดียวกัน โทรศัพท์ของทั้งสองคนปิดเครื่องทั้งคู่
“โหรวโหรว เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ เดิมทีก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้ เธอไม่ต้องเศร้า แม้ว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ว่าฉันยังอยู่ข้างเธอนะ” โอวหยางลี่มองเธอที่กำโทรศัพท์จนสั่น ก่อนจะพูดออกมาอย่างอ่อนโยน
“หยุดรถ!” เธอจ้องเขาเขม็ง
“โหรวโหรว เธอใจเย็นหน่อย!”
“ฉันบอกให้นายจอดรถ โอวหยางลี่ นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง? ไม่ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ฉันก็จะใช้ชีวิตม่าย ไม่มีวันอยู่กับนายเด็ดขาด ไปตายที่ไหนก็ไป!” ตอนนี้เธออยากรู้แค่ว่าเขายังสบายดีอยู่หรือเปล่า
เธอกังวลใจมาก ภายในใจนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวแบบนี้มานานแล้ว
“โหรวโหรว เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาตายแล้ว? จิ่งเป่ยเฉินมันตายแล้ว! ตายนอกประเทศ และจะกลับมาไม่ได้อีกตลอดไป!” โอวหยางลี่ไม่กล้าที่จะคำรามออกมาเสียงดัง เขาเพียงแค่ใช้น้ำเสียงเบาคล้ายอยากปลอบใจเธอ
“แล้วยังไง? เขาไม่กลับมาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายงั้นเหรอ?” เธอตอบกลับอย่างเย็นชา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับตัวไปติดกับกระจกหน้าต่าง อยู่ให้ห่างจากตัวเขาและมองหน้าเขาอย่างเยือกเย็น
“โอวหยางลี่ เมื่อก่อนในสายตาของฉันนายไม่ใช่คนแบบนี้ เมื่อก่อนนายเคยอ่อนโยนและใจดีกับคนอื่นมาก เกิดเรื่องอะไรก็ช่วยฉันคิด ไม่เคยเป็นคนที่ขาดความรับผิดชอบและอ่อนไหว แล้วตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้วงั้นเหรอ?”
“ความชอบทั้งหมดของนายไม่มีใครรับได้หรอก ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว อคติ ไม่สนใจแม้กระทั่งคนใกล้ชิดของตัวเอง นายลองคิดดูว่านานเท่าไรแล้วที่ไม่ได้กลับไปหาเหอเหมียว หลังจากที่เหลียวเว่ยติดคุกอยู่ นายได้ไปเยี่ยมเธอบ้างหรือเปล่า?”
แม้จิ่งเป่ยเฉินจะประสบอุบัติเหตุจริง ๆ นายก็ไม่มีโอกาสได้มาแทนที่เขาหรอก นอกเสียจากเขาเกิดอุบัติเหตุและเป็นนายที่ทำ โอวหยางลี่ ตระกูลโอวหยางของพวกนายติดค้างฉัน ฉันยังไม่เอาคืน นายติดหนี้ฉันมากเกินไปแล้ว!
“อย่างไรก็ตาม ระหว่างนายกับฉันไม่มีอะไรอื่น นอกจากการตั้งถิ่นฐานของครอบครัวเมื่อห้าปีที่แล้ว บางที…” เธอเหลือบไปมองโทรศัพท์ของเขา “โทรศัพท์ของนายอาจจะมีอีกหนึ่งชีวิต?”
และชีวิตคนคนนั้น เธอเองก็ไม่อยากจะคิด
เจ็บปวดและทรมานเหลือเกิน
จิงเป่ยเฉิน ทำไมนายไม่รับโทรศัพท์ ทำไมต้องปิดเครื่อง ทำไมต้องทำให้เธอตกใจแบบนี้!
โอวหยางลี่อดทนฟังจนประโยคสุดท้ายของเธอ ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาและกำโทรศัพท์ไว้แน่น “ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบร้อน เขาไม่อยู่แล้ว หลังจากนี้พวกเราจะมีเวลาให้กันมากขึ้น รอให้ความทรงจำที่แสนงดงามในอดีตของพวกเรากลับคืนมา เธอจะรู้เองว่าในโลกใบนี้ คนที่รักเธอที่สุดก็คือฉัน! ไม่ใช่เขา!”
เขาเกือบจะหลุดคำรามออกมาในประโยคสุดท้าย
เมื่อเห็นความโกรธของเขา อันโหรวก็เริ่มสงบสติอารมณ์ลง คนบนรถทั้งหมดเป็นคนของเขา เธอไม่สามารถต่อรองกับเขาได้ ตอนนี้ต้องหาโอกาสหนีออกไป
รถวิ่งอยู่แบบนี้หนีออกไปไม่ได้แน่
จำเป็นต้องรอหลังจากนั้น
“นายจะพาฉันไปไหน?”
“แน่นอนว่าจะพาไปที่ที่เราเคยอยู่ด้วยกันครั้งแรก โหรวโหรว ความทรงจำของพวกเราหากเธอจำมันไม่ได้ ฉันคงจะโกรธน่าดู” โอวหยางลี่กระตุกปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้เธอ “ถ้าหากว่าฉันโกรธแล้วจะทำไงนะ? โหรวโหรว ฉันก็ทนไม่ไหวที่จะขย้ำเธอไง”
“นายไม่ต้องห่วง ฉันจำมันได้แม่นยำ เพียงแต่เมื่อก่อนพวกเราไปตั้งหลายที่ ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหน?” เธอมองถนนด้านนอก ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางผ่านเขตมหาวิทยาลัยและก็ผ่านสถานที่อื่น ๆ ด้วย
เมื่อก่อนพวกเขาเดินจูงมือกันเดินบนถนนเซียงเจียง………
ภายในใจของเธอนั้นหัวเราะเยาะไม่หยุด ความทรงจำของโอวหยางลี่ทำเอาเธอนั้นทำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ แม้จะนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่เธอเคยโง่เง่าจนเห็นตาปลาเป็นไข่มุก
Comments