อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น

เพราะมีงานงานอดิเรกที่คล้ายคลึงกัน มู่เถาเยากับถังถังจึงคุยกันตั้งแต่บ่ายจรดค่ำ แต่ถึงอย่างน้้นพวกเธอก็ยังมีเรื่องให้พูดคุยกันอีกมาก

ตามที่คาดไว้ ถังถังเกิดในตระกูลถังที่มีชื่อเสียงเรื่องพิษตระกูลนั้นจริงๆ มุมมองของถังถังเกี่ยวกับพิษทำให้เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอสองคนยังมีธุระที่ต้องทำ พวกเธอคงได้คุยกันยาวตลอดทั้งคืน

“เสี่ยวเยาเยา ชาของเธอดีมากจริงๆ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในหมู่บ้านของเธอเองก็ดีมากด้วย หากเธอยินดีเรียกฉันว่าพี่สาว ฉันจะโฆษณาผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้านเธอให้ฟรีเลย!”

“พี่สาว” มู่เถาเยาเรียกโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

“ฮ่าๆๆ …โอเค เรียกอย่างกับเอาน้ำมาสาด ฉันขอเช็กกำหนดการก่อนแล้วกัน แล้วจะจัดเวลาออกมาให้เธอโดยเร็วที่สุด”

“อืม ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะ ไว้ค่อยโฆษณาทีเดียวหลังจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราผ่านการทดสอบแล้ว”

“เสี่ยวเยาเยา ฉันเชื่อใจเธอ และด้วยความสามารถของเธอ เธอจะไม่มีวันผลิตสินค้าที่มีข้อบกพร่องออกมาอย่างแน่นอน”

“อืม” แหงอยู่แล้วสิ!

ถังถังสวมหน้ากาก สวมหมวก ฯลฯ และหลังจากติดอาวุธครบมือแล้ว เธอก็หันไปพูดกับมู่เถาเยาว่า “ไปกันเถอะ พี่สาวแจกันจะส่งน้องสาวตาแก่ตัวน้อยกลับบ้าน ฮ่าๆๆ …”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับได้”

“ได้ไง! จะให้ฉันปล่อยเด็กสาวตัวน้อยกลับบ้านมืดๆ ค่ำๆ เพียงลำพังได้ยังไง แบบนั้นฉันไม่วางใจหรอกนะ”

มู่เถาเยาคว้าถ้วยชาใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะมาแล้วกำไว้บนฝ่ามือของเธอ ออกแรงบีบเล็กน้อย และเมื่อเธอคลายมือออกอีกครั้ง ถ้วยชาก็หายไปและเหลือแต่กองฝุ่นผง

“เธอๆๆ …” ถังถังเบิกตากว้าง ดวงตาลูกพีชทรงเสน่ห์ของหญิงสาวแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

“อืม ฉันมีกำลังภายในค่ะ”

“ว้าว! เสี่ยวเยาเยา ฉันเคยคิดมาก่อนว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นหมอและเพื่อปรุงยาพิษเท่านั้น! แต่ไม่คิดเลยว่ากำลังภายในของเธอจะลึกล้ำขนาดนี้! น่าทึ่งมาก!” ทรงพลังยิ่งกว่าพ่อของเธอที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธเสียอีก!

ตระกูลถังเองก็มีคนที่เลือกเดินบนเส้นทางของการฝึกวรยุทธด้วยเหมือนกัน แต่พวกเขาเชี่ยวชาญด้านยาพิษมากกว่า

เป็นเพราะคุณพ่อและคุณปู่ของเธอต่างก็มีพรสวรรค์ในด้านยาพิษปานกลาง ปู่ทวดของเธอจึงต้องการให้เธอ เหลนสาวผู้มีความสามารถในด้านพิษสูงสุดเหนือพ่อและปู่รับช่วงต่อตระกูลถัง

ตระกูลถังมักจะส่งต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับใครก็ตามที่มีความสามารถมากที่สุด

มู่เถาเยามองไปที่ถังถังและพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ ฉันน่าทึ่งมาก!”

ตระกูลซย่าโหวของอาจารย์เล็ก เป็นตระกูลที่นั่งตำแหน่งประมุขนิกายอันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณมาช้านาน ไม่ต้องคิดก็พอจะจินตนาการถึงความทรงพลังของมันได้ ยิ่งผนวกรวมเข้ากับทักษะยุทธที่ผลักให้เธอก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าในชาติที่แล้ว ทักษะยุทธชุดใหม่ที่ผสานทั้งสองทักษะเข้าด้วยกันที่เธอสร้างขึ้นจึงมีความอัศจรรย์ล้ำลึก ทำให้เธอในชาติภพนี้ก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่วัยเยาว์ได้อย่างง่ายดาย

ในด้านทักษะวรยุทธ เธอไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง

แถมร่างกายนี้ยังใช้งานได้ดีกว่าชาติที่แล้วของเธอเป็นร้อยเท่า!

ทุกครั้งที่มู่เถาเยาทะลวงระดับ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของร่างนี้ หรือเธอเกิดมาเพื่อฝึกยุทธจริงๆ !

หากจัดอันดับความรู้ทั้งหมดที่เธอมี ทักษะยุทธครองอันดับที่หนึ่งได้อย่างชนะขาดไม่ต้องสงสัย ความรู้ในด้านยาพิษเป็นอันดับสอง และทักษะทางการแพทย์เป็นอันดับสาม…

“ฮ่าๆๆ…” ถังถังหัวเราะจนตัวสั่น เธออดไม่ได้ที่จะถูแก้มซาลาเปาเนื้อของมู่เถาเยาอย่างเอ็นดู

“เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะ!”

มู่เถาเยาปัดมือของเธอลง “อย่าหยิกแก้มฉัน”

“ฮ่าๆ …นุ่มดีจัง!”

มู่เถาเยาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเสิร์ชหาราคาตลาดของถ้วยชาในห้องชงชาพิเศษที่เธอเพิ่งเปลี่ยนมันเป็นเศษผงไป จากนั้นก็สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน

“ฉันจะกลับแล้ว”

“เฮ้ๆๆ รอฉันด้วยสิ” ถังถังรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามไป

“เสี่ยวเยาเยา หรือไม่ขอฉันติดตามเธอแทนได้ไหม”

“คุณอยากเรียนแพทย์เหรอ”

“เอ่อ…งั้นก็ช่างมันเถอะ” เป็นนักแสดงก็ดี ทำไมเมื่อกี้นี้ถึงคิดสั้นกันนะ!

ทั้งสองคนเดินออกไปข้างนอก มู่เถาเยาเรียกรถคันหนึ่งแล้วขึ้นไปนั่ง

“ฉันขอตัวก่อน อีกไม่กี่วันคุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากหมู่บ้านเถาหยวนของฉัน”

“อืม รอฉันหาเวลาว่างได้แล้วจะไปหา หรือถ้าเธอว่างก็แวะมาคุยกันที่กองถ่ายได้ ยิ่งเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงด้วยกันเลยก็ยิ่งดี!”

มู่เถาเยาโบกมือลาเธอ ปิดประตูรถแท็กซี่และออกไป หลังจากกลับถึงบ้าน เธอก็ได้รับสายวิดีโอคอลจากอาจารย์ใหญ่

“เยาเยา เอ็งลงจากภูเขามาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ชินกับชีวิตตรงโน้นหรือยัง”

หยวนเหยี่ยกังวลมากว่าลูกศิษย์ตัวน้อยผู้เฉยชาต่อโลกของเขาจะเข้ากับคนอื่นๆ ที่ด้านล่างภูเขาไม่ได้ กังวลว่าเธอจะปรับตัวเข้ากับชีวิตเป็นกลุ่มในมหาวิทยาลัยไม่ได้ กังวลว่า…สรุปคือเขากังวลทุกเรื่อง!

“อาจารย์ใหญ่ หนูสบายดีค่ะ เพื่อนร่วมชั้นปีก็อบอุ่นและเป็นกันเองมาก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว อาจารย์อาเล็กของเอ็งบอกกับข้าว่าเอ็งไปมหา’ลัยแค่สองวันก็ขอลาหยุดไปสามวัน ข้าเลยคิดว่าเอ็งอาจไม่ชอบชีวิตในมหา’ลัย”

หยวนเหยี่ยไม่ได้ถามเธอว่าทำไมถึงขอลาหยุด ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาทั้งว่าง่ายและเชื่อฟัง เหตุผลที่ขอลาจะต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ !

“อาจารย์ใหญ่ อาจารย์เล็ก อาจารย์แม่เล็ก ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ แต่ทุกคนที่อยู่ทางนั้นห้ามเข้าไปในส่วนลึกของป่าดึกดำบรรพ์โดยไม่มีหนูเด็ดขาด! ถ้าอาจารย์ใหญ่ขาดสมุนไพรตัวไหน แค่ขอให้ชาวบ้านไปเก็บมันรอบๆ ป่าก็พอ หรือถ้าไม่มีจริงๆ และยังไม่รีบใช้รอหนูกลับไปก่อนแล้วหนูจะไปเก็บมาให้”

มีสมุนไพรมากมายในป่าส่วนนอกซึ่งสามารถใช้รักษาโรคทั่วไปได้

“เสี่ยวเยาเยาวางใจเถอะ เราผู้เฒ่าสองคนจะไม่เข้าไปในส่วนลึกของป่าตามอำเภอใจแน่นอน เอ็งอยู่ทางโน้นก็ดูแลตัวเองให้ดี ถ้ามีใครรังแกเอ็งให้บอกอาจารย์ แล้วอาจารย์จะรีบไปจัดการให้”

“อื้ม อาจารย์ใหญ่คะ อาจารย์รู้จักดอกไม้สองชีวิตไหมคะ” ใกล้ๆ กับแหล่งเติบโตของดอกไม้สองชีวิตจะมีหญ้าจื่อหยางขึ้นแซมอยู่ด้วย

หญ้าจื่อหยางหาได้ไม่ยาก สามารถพบได้ในป่าดึกดำบรรพ์ด้านหลังหมู่บ้านเถาหยวนซาน ถ้าไม่ใช่เพราะดอกไม้สองชีวิต หญ้าจื่อหยางที่ทั้งจืดชืด กินไม่ได้ คงเป็นเพียงสมุนไพรทั่วไปที่ขึ้นอยู่ริมทางรอให้ไก่มาคุ้ยเขี่ย น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอเห็นบ่อยแต่ไม่เคยเด็ดเก็บไว้เลย

“รู้สิรู้ แต่อาจารย์ไม่เคยเห็นมันมาก่อนหรอกนะ ได้ยินว่ามันเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์สำหรับการล้างพิษ เคยได้ยินอาจารย์ปู่เล่าให้ฟังว่าบรรพบุรุษเราเคยมีมันอยู่ต้นหนึ่ง แต่ภายหลังนำไปใช้เพื่อช่วยชีวิตบรรพบุรุษของตระกูลถัง”

“ตระกูลถังแห่งเมืองเซียงเฉิงน่ะเหรอคะ”

“ใช่ บรรพบุรุษของตระกูลถังเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ปู่ของเอ็ง”

“เอ่อ…” ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้! เธอเพิ่งพบกับคนตระกูลถังมา!

“เยาเยา เอ็งอยากได้ดอกไม้สองชีวิตเหรอ”

“อาจารย์ใหญ่คะ จู่ๆ หนูก็นึกขึ้นได้ว่าการไหลออกของพลังชีวิตของตี้อู๋เปียน สามารถระงับได้ด้วยการใช้ดอกไม้สองชีวิตและหญ้าจื่อหยางเป็นตัวเสริม ประกอบกับทักษะหุยหยาง หนูคาดเดาคร่าวๆ ว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างน้อยสิบปี ปัญหาคือดอกไม้สองชีวิตเองก็หาได้ไม่ง่ายเลย”

“…อู๋เปียน เป็นเด็กน้อยที่น่าสงสาร”

มู่เถาเยาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

ในฐานะ ‘เจ้าชาย’ ชะตาชีวิตของตี้อู๋เปียนนั้นไม่ค่อยดีจริงๆ

“อาจารย์ใหญ่ หญ้าพิษชีวิตกับดอกไม้สองชีวิตล้วนไม่จำเป็นต้องรีบหาพร้อมกันเสียเดี๋ยวนี้ แค่ภายในเวลาห้าปีหาดอกไม้สองชีวิตให้เจอ และภายในเวลาสิบปีหาหญ้าพิษชีวิตให้เจอก็พอ หรือแม้ว่าเราจะหามันไม่เจอ หนูก็อาจจะคิดหาวิธีอื่นได้แล้วหลังจากนี้”

“อืม เยาเยาทำให้ดีที่สุดก็พอ เอ็งยังเด็กนัก สิ่งใดที่ควรออกไปสัมผัสก็ไปเล่นสนุกให้เต็มที่ อย่าได้เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงาน”

“ค่ะ อาจารย์ใหญ่ อาจารย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรพบุรุษของตระกูลถังหรือเปล่าคะ”

“เยาเยาคิดจะทำอะไรเหรอ อาจารย์ปู่ของเอ็งมีบุญคุณช่วยชีวิตบรรพบุรุษตระกูลถัง ถ้ามันไม่ใช่คำขอร้องที่มากเกินไป ล้วนสามารถเอ่ยขอได้”

“หนูขอเลือดหนึ่งหยดมาทำการวิจัยได้ไหมคะ”

“ได้ งั้นเดี๋ยวอาจารย์จะไปที่ตระกูลถังในเมืองเซียงเฉิงเพื่อไปขอเข้าพบบรรพบุรุษตระกูลถังแล้วขอเลือดมาให้เอ็ง”

“อาจารย์ใหญ่คะ หนูหาเวลาไปเองดีกว่าค่ะ” เหตุผลหลักคือเธออยากสนทนาเรื่องพิษกับบรรพบุรุษของตระกูลถังด้วย

ถังถังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ แก่เธอได้ บางทีบรรพบุรุษของตระกูลถังอาจทำให้เธอทะลวงผ่านคอขวดได้

ตอนนี้เธอกำลังศึกษาวิธีการใช้พิษต้านพิษเพื่อป้องกันโรคระบาด

ในชาติที่แล้ว มีโรคระบาดร้ายแรงในแผ่นดินจงโจวและผู้คนหลายหมื่นคนได้เสียชีวิตลง

ในเวลานั้น เธอในฐานะทั้งจักรพรรดินีและหมอเทวดา มุ่งหน้าไปยังเมืองที่เกิดโรคระบาดด้วยความกระวนกระวายใจโดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมของตัวเอง และในที่สุดเธอก็ควบคุมโรคระบาดได้ แต่อาจารย์ที่เปรียบเสมือนดั่งมารดาของเธอก็ได้เสียชีวิตลงเพื่อเธอ

“ก็ดี ถ้าเอ็งมีเวลาควรออกไปเดินดูรอบๆ มากกว่านี้ เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือโลกหน้ายังมีปุถุชน”

ลูกศิษย์ตัวน้อยมีความสามารถสูงส่ง แต่อายุยังน้อยเกินไป ออกไปพบเจอกับบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ จะทำให้เธอก้าวต่อไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น

“อืม อาจารย์ทั้งสองคน อาจารย์แม่ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนรีบเข้านอนพักผ่อนนะคะ”

“เอ็งก็เช่นกัน อย่านอนดึกล่ะ!”

“…ค่ะ”

เธออายุเพียงสิบแปดปี ยังเด็กมาก และมีกำลังภายในที่ลึกล้ำ ทำให้การอดนอนแค่สองสามวันไม่นับเป็นอะไรมาก และเธอก็สามารถฟื้นตัวได้ทันทีหลังจากหลับไปหนึ่งตื่น

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีธุระอะไรเธอก็ไม่คิดจะอดนอน นอนหลับไม่ดีเหรอ!

เพียงแต่ว่าวันนี้เธอยังมีงานช่วยแก้ปัญหาอีกเล็กน้อยบนแพลตฟอร์มที่ยังไม่ได้ทำ เงินปึกน้อยๆ เหล่านั้นกำลังรอให้เธอไปเก็บเข้ากระเป๋าอยู่นะ!

นอนหลับดีก็จริง แต่การหาเงินเล็กๆ น้อยๆ ก็ฟินเช่นกัน!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 26 เธอไม่ยอมก้มหัวใครทั้งนั้น

เพราะมีงานงานอดิเรกที่คล้ายคลึงกัน มู่เถาเยากับถังถังจึงคุยกันตั้งแต่บ่ายจรดค่ำ แต่ถึงอย่างน้้นพวกเธอก็ยังมีเรื่องให้พูดคุยกันอีกมาก

ตามที่คาดไว้ ถังถังเกิดในตระกูลถังที่มีชื่อเสียงเรื่องพิษตระกูลนั้นจริงๆ มุมมองของถังถังเกี่ยวกับพิษทำให้เธอรู้สึกตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ

ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเธอสองคนยังมีธุระที่ต้องทำ พวกเธอคงได้คุยกันยาวตลอดทั้งคืน

“เสี่ยวเยาเยา ชาของเธอดีมากจริงๆ ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในหมู่บ้านของเธอเองก็ดีมากด้วย หากเธอยินดีเรียกฉันว่าพี่สาว ฉันจะโฆษณาผลิตภัณฑ์ในหมู่บ้านเธอให้ฟรีเลย!”

“พี่สาว” มู่เถาเยาเรียกโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

“ฮ่าๆๆ …โอเค เรียกอย่างกับเอาน้ำมาสาด ฉันขอเช็กกำหนดการก่อนแล้วกัน แล้วจะจัดเวลาออกมาให้เธอโดยเร็วที่สุด”

“อืม ไม่ต้องรีบก็ได้ค่ะ ไว้ค่อยโฆษณาทีเดียวหลังจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราผ่านการทดสอบแล้ว”

“เสี่ยวเยาเยา ฉันเชื่อใจเธอ และด้วยความสามารถของเธอ เธอจะไม่มีวันผลิตสินค้าที่มีข้อบกพร่องออกมาอย่างแน่นอน”

“อืม” แหงอยู่แล้วสิ!

ถังถังสวมหน้ากาก สวมหมวก ฯลฯ และหลังจากติดอาวุธครบมือแล้ว เธอก็หันไปพูดกับมู่เถาเยาว่า “ไปกันเถอะ พี่สาวแจกันจะส่งน้องสาวตาแก่ตัวน้อยกลับบ้าน ฮ่าๆๆ …”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับได้”

“ได้ไง! จะให้ฉันปล่อยเด็กสาวตัวน้อยกลับบ้านมืดๆ ค่ำๆ เพียงลำพังได้ยังไง แบบนั้นฉันไม่วางใจหรอกนะ”

มู่เถาเยาคว้าถ้วยชาใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะมาแล้วกำไว้บนฝ่ามือของเธอ ออกแรงบีบเล็กน้อย และเมื่อเธอคลายมือออกอีกครั้ง ถ้วยชาก็หายไปและเหลือแต่กองฝุ่นผง

“เธอๆๆ …” ถังถังเบิกตากว้าง ดวงตาลูกพีชทรงเสน่ห์ของหญิงสาวแทบไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

“อืม ฉันมีกำลังภายในค่ะ”

“ว้าว! เสี่ยวเยาเยา ฉันเคยคิดมาก่อนว่าเธอเกิดมาเพื่อเป็นหมอและเพื่อปรุงยาพิษเท่านั้น! แต่ไม่คิดเลยว่ากำลังภายในของเธอจะลึกล้ำขนาดนี้! น่าทึ่งมาก!” ทรงพลังยิ่งกว่าพ่อของเธอที่มีพรสวรรค์ด้านวรยุทธเสียอีก!

ตระกูลถังเองก็มีคนที่เลือกเดินบนเส้นทางของการฝึกวรยุทธด้วยเหมือนกัน แต่พวกเขาเชี่ยวชาญด้านยาพิษมากกว่า

เป็นเพราะคุณพ่อและคุณปู่ของเธอต่างก็มีพรสวรรค์ในด้านยาพิษปานกลาง ปู่ทวดของเธอจึงต้องการให้เธอ เหลนสาวผู้มีความสามารถในด้านพิษสูงสุดเหนือพ่อและปู่รับช่วงต่อตระกูลถัง

ตระกูลถังมักจะส่งต่อตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับใครก็ตามที่มีความสามารถมากที่สุด

มู่เถาเยามองไปที่ถังถังและพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่ ฉันน่าทึ่งมาก!”

ตระกูลซย่าโหวของอาจารย์เล็ก เป็นตระกูลที่นั่งตำแหน่งประมุขนิกายอันดับหนึ่งในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณมาช้านาน ไม่ต้องคิดก็พอจะจินตนาการถึงความทรงพลังของมันได้ ยิ่งผนวกรวมเข้ากับทักษะยุทธที่ผลักให้เธอก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าในชาติที่แล้ว ทักษะยุทธชุดใหม่ที่ผสานทั้งสองทักษะเข้าด้วยกันที่เธอสร้างขึ้นจึงมีความอัศจรรย์ล้ำลึก ทำให้เธอในชาติภพนี้ก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่วัยเยาว์ได้อย่างง่ายดาย

ในด้านทักษะวรยุทธ เธอไม่ยอมก้มหัวให้ใครทั้งนั้นนอกจากตัวเอง

แถมร่างกายนี้ยังใช้งานได้ดีกว่าชาติที่แล้วของเธอเป็นร้อยเท่า!

ทุกครั้งที่มู่เถาเยาทะลวงระดับ เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของร่างนี้ หรือเธอเกิดมาเพื่อฝึกยุทธจริงๆ !

หากจัดอันดับความรู้ทั้งหมดที่เธอมี ทักษะยุทธครองอันดับที่หนึ่งได้อย่างชนะขาดไม่ต้องสงสัย ความรู้ในด้านยาพิษเป็นอันดับสอง และทักษะทางการแพทย์เป็นอันดับสาม…

“ฮ่าๆๆ…” ถังถังหัวเราะจนตัวสั่น เธออดไม่ได้ที่จะถูแก้มซาลาเปาเนื้อของมู่เถาเยาอย่างเอ็นดู

“เสี่ยวเยาเยา ทำไมเธอถึงน่ารักขนาดนี้นะ!”

มู่เถาเยาปัดมือของเธอลง “อย่าหยิกแก้มฉัน”

“ฮ่าๆ …นุ่มดีจัง!”

มู่เถาเยาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและเสิร์ชหาราคาตลาดของถ้วยชาในห้องชงชาพิเศษที่เธอเพิ่งเปลี่ยนมันเป็นเศษผงไป จากนั้นก็สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระเงิน

“ฉันจะกลับแล้ว”

“เฮ้ๆๆ รอฉันด้วยสิ” ถังถังรีบหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามไป

“เสี่ยวเยาเยา หรือไม่ขอฉันติดตามเธอแทนได้ไหม”

“คุณอยากเรียนแพทย์เหรอ”

“เอ่อ…งั้นก็ช่างมันเถอะ” เป็นนักแสดงก็ดี ทำไมเมื่อกี้นี้ถึงคิดสั้นกันนะ!

ทั้งสองคนเดินออกไปข้างนอก มู่เถาเยาเรียกรถคันหนึ่งแล้วขึ้นไปนั่ง

“ฉันขอตัวก่อน อีกไม่กี่วันคุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากหมู่บ้านเถาหยวนของฉัน”

“อืม รอฉันหาเวลาว่างได้แล้วจะไปหา หรือถ้าเธอว่างก็แวะมาคุยกันที่กองถ่ายได้ ยิ่งเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงด้วยกันเลยก็ยิ่งดี!”

มู่เถาเยาโบกมือลาเธอ ปิดประตูรถแท็กซี่และออกไป หลังจากกลับถึงบ้าน เธอก็ได้รับสายวิดีโอคอลจากอาจารย์ใหญ่

“เยาเยา เอ็งลงจากภูเขามาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ชินกับชีวิตตรงโน้นหรือยัง”

หยวนเหยี่ยกังวลมากว่าลูกศิษย์ตัวน้อยผู้เฉยชาต่อโลกของเขาจะเข้ากับคนอื่นๆ ที่ด้านล่างภูเขาไม่ได้ กังวลว่าเธอจะปรับตัวเข้ากับชีวิตเป็นกลุ่มในมหาวิทยาลัยไม่ได้ กังวลว่า…สรุปคือเขากังวลทุกเรื่อง!

“อาจารย์ใหญ่ หนูสบายดีค่ะ เพื่อนร่วมชั้นปีก็อบอุ่นและเป็นกันเองมาก”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว อาจารย์อาเล็กของเอ็งบอกกับข้าว่าเอ็งไปมหา’ลัยแค่สองวันก็ขอลาหยุดไปสามวัน ข้าเลยคิดว่าเอ็งอาจไม่ชอบชีวิตในมหา’ลัย”

หยวนเหยี่ยไม่ได้ถามเธอว่าทำไมถึงขอลาหยุด ลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาทั้งว่าง่ายและเชื่อฟัง เหตุผลที่ขอลาจะต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ !

“อาจารย์ใหญ่ อาจารย์เล็ก อาจารย์แม่เล็ก ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ แต่ทุกคนที่อยู่ทางนั้นห้ามเข้าไปในส่วนลึกของป่าดึกดำบรรพ์โดยไม่มีหนูเด็ดขาด! ถ้าอาจารย์ใหญ่ขาดสมุนไพรตัวไหน แค่ขอให้ชาวบ้านไปเก็บมันรอบๆ ป่าก็พอ หรือถ้าไม่มีจริงๆ และยังไม่รีบใช้รอหนูกลับไปก่อนแล้วหนูจะไปเก็บมาให้”

มีสมุนไพรมากมายในป่าส่วนนอกซึ่งสามารถใช้รักษาโรคทั่วไปได้

“เสี่ยวเยาเยาวางใจเถอะ เราผู้เฒ่าสองคนจะไม่เข้าไปในส่วนลึกของป่าตามอำเภอใจแน่นอน เอ็งอยู่ทางโน้นก็ดูแลตัวเองให้ดี ถ้ามีใครรังแกเอ็งให้บอกอาจารย์ แล้วอาจารย์จะรีบไปจัดการให้”

“อื้ม อาจารย์ใหญ่คะ อาจารย์รู้จักดอกไม้สองชีวิตไหมคะ” ใกล้ๆ กับแหล่งเติบโตของดอกไม้สองชีวิตจะมีหญ้าจื่อหยางขึ้นแซมอยู่ด้วย

หญ้าจื่อหยางหาได้ไม่ยาก สามารถพบได้ในป่าดึกดำบรรพ์ด้านหลังหมู่บ้านเถาหยวนซาน ถ้าไม่ใช่เพราะดอกไม้สองชีวิต หญ้าจื่อหยางที่ทั้งจืดชืด กินไม่ได้ คงเป็นเพียงสมุนไพรทั่วไปที่ขึ้นอยู่ริมทางรอให้ไก่มาคุ้ยเขี่ย น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอเห็นบ่อยแต่ไม่เคยเด็ดเก็บไว้เลย

“รู้สิรู้ แต่อาจารย์ไม่เคยเห็นมันมาก่อนหรอกนะ ได้ยินว่ามันเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์สำหรับการล้างพิษ เคยได้ยินอาจารย์ปู่เล่าให้ฟังว่าบรรพบุรุษเราเคยมีมันอยู่ต้นหนึ่ง แต่ภายหลังนำไปใช้เพื่อช่วยชีวิตบรรพบุรุษของตระกูลถัง”

“ตระกูลถังแห่งเมืองเซียงเฉิงน่ะเหรอคะ”

“ใช่ บรรพบุรุษของตระกูลถังเป็นเพื่อนสนิทกับอาจารย์ปู่ของเอ็ง”

“เอ่อ…” ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้! เธอเพิ่งพบกับคนตระกูลถังมา!

“เยาเยา เอ็งอยากได้ดอกไม้สองชีวิตเหรอ”

“อาจารย์ใหญ่คะ จู่ๆ หนูก็นึกขึ้นได้ว่าการไหลออกของพลังชีวิตของตี้อู๋เปียน สามารถระงับได้ด้วยการใช้ดอกไม้สองชีวิตและหญ้าจื่อหยางเป็นตัวเสริม ประกอบกับทักษะหุยหยาง หนูคาดเดาคร่าวๆ ว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างน้อยสิบปี ปัญหาคือดอกไม้สองชีวิตเองก็หาได้ไม่ง่ายเลย”

“…อู๋เปียน เป็นเด็กน้อยที่น่าสงสาร”

มู่เถาเยาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

ในฐานะ ‘เจ้าชาย’ ชะตาชีวิตของตี้อู๋เปียนนั้นไม่ค่อยดีจริงๆ

“อาจารย์ใหญ่ หญ้าพิษชีวิตกับดอกไม้สองชีวิตล้วนไม่จำเป็นต้องรีบหาพร้อมกันเสียเดี๋ยวนี้ แค่ภายในเวลาห้าปีหาดอกไม้สองชีวิตให้เจอ และภายในเวลาสิบปีหาหญ้าพิษชีวิตให้เจอก็พอ หรือแม้ว่าเราจะหามันไม่เจอ หนูก็อาจจะคิดหาวิธีอื่นได้แล้วหลังจากนี้”

“อืม เยาเยาทำให้ดีที่สุดก็พอ เอ็งยังเด็กนัก สิ่งใดที่ควรออกไปสัมผัสก็ไปเล่นสนุกให้เต็มที่ อย่าได้เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำงาน”

“ค่ะ อาจารย์ใหญ่ อาจารย์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรพบุรุษของตระกูลถังหรือเปล่าคะ”

“เยาเยาคิดจะทำอะไรเหรอ อาจารย์ปู่ของเอ็งมีบุญคุณช่วยชีวิตบรรพบุรุษตระกูลถัง ถ้ามันไม่ใช่คำขอร้องที่มากเกินไป ล้วนสามารถเอ่ยขอได้”

“หนูขอเลือดหนึ่งหยดมาทำการวิจัยได้ไหมคะ”

“ได้ งั้นเดี๋ยวอาจารย์จะไปที่ตระกูลถังในเมืองเซียงเฉิงเพื่อไปขอเข้าพบบรรพบุรุษตระกูลถังแล้วขอเลือดมาให้เอ็ง”

“อาจารย์ใหญ่คะ หนูหาเวลาไปเองดีกว่าค่ะ” เหตุผลหลักคือเธออยากสนทนาเรื่องพิษกับบรรพบุรุษของตระกูลถังด้วย

ถังถังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ แก่เธอได้ บางทีบรรพบุรุษของตระกูลถังอาจทำให้เธอทะลวงผ่านคอขวดได้

ตอนนี้เธอกำลังศึกษาวิธีการใช้พิษต้านพิษเพื่อป้องกันโรคระบาด

ในชาติที่แล้ว มีโรคระบาดร้ายแรงในแผ่นดินจงโจวและผู้คนหลายหมื่นคนได้เสียชีวิตลง

ในเวลานั้น เธอในฐานะทั้งจักรพรรดินีและหมอเทวดา มุ่งหน้าไปยังเมืองที่เกิดโรคระบาดด้วยความกระวนกระวายใจโดยไม่คำนึงถึงสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมของตัวเอง และในที่สุดเธอก็ควบคุมโรคระบาดได้ แต่อาจารย์ที่เปรียบเสมือนดั่งมารดาของเธอก็ได้เสียชีวิตลงเพื่อเธอ

“ก็ดี ถ้าเอ็งมีเวลาควรออกไปเดินดูรอบๆ มากกว่านี้ เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือโลกหน้ายังมีปุถุชน”

ลูกศิษย์ตัวน้อยมีความสามารถสูงส่ง แต่อายุยังน้อยเกินไป ออกไปพบเจอกับบุคคลชั้นนำที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ จะทำให้เธอก้าวต่อไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น

“อืม อาจารย์ทั้งสองคน อาจารย์แม่ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ทุกคนรีบเข้านอนพักผ่อนนะคะ”

“เอ็งก็เช่นกัน อย่านอนดึกล่ะ!”

“…ค่ะ”

เธออายุเพียงสิบแปดปี ยังเด็กมาก และมีกำลังภายในที่ลึกล้ำ ทำให้การอดนอนแค่สองสามวันไม่นับเป็นอะไรมาก และเธอก็สามารถฟื้นตัวได้ทันทีหลังจากหลับไปหนึ่งตื่น

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีธุระอะไรเธอก็ไม่คิดจะอดนอน นอนหลับไม่ดีเหรอ!

เพียงแต่ว่าวันนี้เธอยังมีงานช่วยแก้ปัญหาอีกเล็กน้อยบนแพลตฟอร์มที่ยังไม่ได้ทำ เงินปึกน้อยๆ เหล่านั้นกำลังรอให้เธอไปเก็บเข้ากระเป๋าอยู่นะ!

นอนหลับดีก็จริง แต่การหาเงินเล็กๆ น้อยๆ ก็ฟินเช่นกัน!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+