อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร 457 เข้าใจกับผีสิ

Now you are reading อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร Chapter 457 เข้าใจกับผีสิ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 457 เข้าใจกับผีสิ

พอกลับถึงเมืองหลวง ใครที่ต้องเรียนหนังสือก็ไปเรียนหนังสือ ใครที่ต้องทำงานก็ไปทำงาน ใครต้องเลี้ยงเด็กก็ไปเลี้ยง แต่ละวันผ่านไปไม่ต่างกัน แต่กลับไม่เบื่อเลยสักนิด

ก็เหมือนน้ำเปล่า ข้าวเปล่า รสชาติจืดชืด แต่กลับจริงแท้และขาดไม่ได้

นี่คือชีวิตหลักของมนุษย์

วันนี้เป็นวันที่สิบพฤศจิกายน เซี่ยอวี่ฮว่าครบหนึ่งเดือน

คนตระกูลเซี่ยและเพื่อนสนิทมิตรสหายมากันเต็มบ้าน

พวกมู่เถาเยาที่เรียนหนังสือก็มาหลังจากเลิกเรียนแล้ว

ไม่เกินความคาดหมายเลยสักนิด ได้เจอคนตระกูลตี้อู่ที่นี่

สองผู้อาวุโสสูงวัยตระกูลตี้อู่กับภรรยาและลูกของตี้อู่เหลียนจิงก็มาด้วย

ก่อนหน้านี้ตอนตี้อู๋เสียคลอด คุณนายผู้เฒ่าตระกูลตี้อู่ป่วยพอดี ตี้อู่ลู่น่าคุณนายใหญ่ตระกูลเซี่ยที่เป็นลูกสาวแท้ๆ จึงไม่ได้ให้คนตระกูลตี้อู่มา

ตอนนี้หายป่วยแล้วจึงมากันทั้งครอบครัว

หลังจากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแล้ว ตี้อู่หลันฉือก็อุ้มเซี่ยอวี่ฮว่าลูกสาวของเซี่ยซิงเหยียนลูกพี่ลูกน้องของเธอมาให้มู่เถาเยาดู

เด็กน้อยเลี้ยงง่ายมาก ไม่ว่าใครอุ้มก็เอาแต่ยิ้มหวานชวนให้หัวใจละลาย

มู่เถาเยาเล่นด้วยสักพักก็หมั่นเขี้ยว อุ้มเอามาจากตี้อู่หลันฉือ

มู่หว่านยิ้มตาโค้งพลางพูด “เด็กคนนี้น่ารักจริงๆ เลย เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้”

ตี้อู่หลันฉือยิ้มหวาน “ย่าพี่เป็นลูกครึ่ง ถึงพ่อพี่กับอาจะคล้ายปู่มากกว่า แต่ป้าใหญ่คล้ายย่าครึ่งหนึ่ง พี่ชายสองคนที่เป็นญาติกันก็ไม่ได้สืบทอดพันธุกรรมนี้ กลายเป็นว่าเซี่ยอวี่ฮว่าได้หน้าตาแบบป้าใหญ่ไป…”

ทุกคนพยักหน้า

เจียงเฟิงเหมียนสังเกตดูใบหน้าที่งดงามของตี้อู่หลันฉือ “ถึงแม้ลักษณะภายนอกของพี่หลันฉือจะไม่เหมือนคนต่างชาติ แต่ดวงตากับจมูกก็แอบคล้ายอยู่นะคะ”

อวิ๋นสุ่ยเหยา “ฉันว่าพี่หลันฉือคล้ายคนชนเผ่ามากกว่า”

เถียนซิน “ฉันก็คิดแบบนั้น”

ตี้อู่หลันฉือยิ้มหวาน “ใช่จ้ะ หลายคนคิดว่าพี่เป็นคนชนเผ่า”

พวกเด็กสาวคุยกันตั้งแต่รูปลักษณ์ของเซี่ยอวี่ฮว่าไปจนถึงลักษณะของคนแต่ละชนเผ่า

เซี่ยซิงเหยียนผู้เป็นพ่อของเซี่ยอวี่ฮว่ามองพวกเธอ แต่กลับเอื้อมไม่ถึงลูกสาวสุดที่รัก

รู้แบบนี้ไม่จัดงานฉลองครบรอบหนึ่งเดือนดีกว่า ตอนนี้เขาไม่ได้อุ้มลูกสาวเลย!

ตี้อู๋เสียพูดด้วยความรู้สึกขำ “รีบเก็บสีหน้าบึ้งตึงของคุณเลยนะ เกิดใครมาเห็นเข้าจะคิดว่าคุณไม่ยินดีต้อนรับ”

“เดิมทีก็ไม่…” ต้อนรับ!

ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเสียง ‘หืม’ ที่ตี้อู๋เสียลากเสียงยาวกลบจนกลืนคำพูดไป

เซี่ยซิงเหยียนพูดอย่างน่าสงสาร “เมียจ๋า คุณไปอุ้มลูกกลับมาให้ผมได้ไหม”

ลูกสาวของเขาอยู่ท่ามกลางสาวๆ เขาเป็นผู้ชายจะเข้าไปแย่งก็คงไม่ดี

ตี้อู๋เสียหมดคำจะพูด

“อวี่ฮว่าเพิ่งตื่นนอนกินอิ่ม รอลูกหลับคุณค่อยอุ้ม”

ตาคนนี้แทบอยากอยู่เฝ้าลูกสาวยี่สิบสี่ชั่วโมง

“เมียจ๋า…”

“เอาล่ะ คุณไปดูหน่อยว่ากับข้าวขึ้นโต๊ะหรือยัง ทุกคนน่าจะหิวกันแล้ว”

เซี่ยซิงเหยียนก้าวขาออกจากห้องรับแขกไปห้องครัวอย่างไม่ยินยอมเท่าไร

ตี้อู๋เสียมองท่าทางของสามี ส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา จากนั้นก็เดินไปทางพวกผู้หญิง

คุณนายผู้เฒ่าเซี่ยเห็นหลานสะใภ้เข้ามาจึงยิ้มถาม “อู๋เสีย กับข้าวเสร็จหรือยัง”

“ย่าคะ หนูให้อาเหยียนไปดูแล้วค่ะ น่าจะเสร็จแล้วนะคะ”

พอตี้อู๋เสียพูดจบเซี่ยซิงซงกับภรรยาก็มาบอกทุกคนว่ากินข้าวได้แล้ว

คุณนายผู้เฒ่าเซี่ยกับย่าตี้จึงพาทุกคนไปที่ห้องอาหาร

ตี้อู๋เสียรับลูกสาวมาจากมู่เถาเยา

เดิมทีเด็กน้อยเจอใครก็ยิ้มอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นแม่ตัวเองก็ยิ่งยิ้มหวานใหญ่

อันที่จริงเด็กทารกที่เพิ่งเดือนเดียวจะยังไม่มีการรับรู้เป็นภาพ ย่อมแยกไม่ออกว่าคนในครอบครัวหรือคนแปลกหน้า

แต่ว่าเธอจะจำแม่ได้ผ่านทางเสียงและกลิ่นตัว อย่างเช่นแม่มีกลิ่นนมที่ตัวเองชอบติดตัว

นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกพึ่งพาพ่อแม่มาแต่กำเนิด ความใกล้ชิด ความอุ่นใจ และความปลอดภัย ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการรับรู้พื้นฐานของทารก

หวังซีพี่สะใภ้รองเดินข้างตี้อู๋เสีย พูดด้วยความอิจฉา “อวี่ฮว่าน้อยสวยจังเลย จมูกโด่ง ตาโต ผมหยิก เหมือนป้าใหญ่มากเลยนะ”

ตี้อู่ลู่น่าแม่ของเซี่ยซิงเหยียนมีสายเลือดของคนต่างชาติหนึ่งในสี่ งดงามเป็นอย่างมาก เหมือนภาพสีน้ำมันที่เต็มไปด้วยสีสัน

แม้ตอนนี้จะอายุมากแล้วก็ยังมองออกว่าสมัยสาวๆ งดงามขนาดไหน

ในบรรดาคนวัยเดียวกันที่อยู่ตรงนี้ เธอสวยที่สุดแบบที่ไม่ต้องถ่อมตัว

ทุกครั้งที่มองอวี่ฮว่าน้อย พี่สะใภ้รองก็จะอยากมีลูกสาวบ้าง!

แต่กลัวว่าคลอดออกมาจะเป็นลูกชายอีกคน! จึงไม่กล้าท้องอีกคน!

คุณนายใหญ่เซี่ยยิ้มพูด “เด็กหน้าเปลี่ยนทุกวัน รอโตก่อนถึงจะรู้ว่าหน้าตาเป็นยังไง”

น้ำเสียงเจือไปด้วยความถ่อมตน แต่ในใจกลับแน่ใจว่าถ้าหลานสาวตัวเองโตขึ้นจะต้องสวยกว่าแน่นอน!

คุณนายรองเซี่ยก็พูดด้วยความอิจฉา “พี่สะใภ้ใหญ่คะ อวี่ฮว่าตอนเด็กสวยขนาดนี้ โตไปยิ่งสวยแน่ค่ะ”

ไม่เพียงแต่เธอจะอิจฉาพี่สะใภ้ใหญ่ที่มีหลานสาว ยังอิจฉารูปร่างของพี่สะใภ้ใหญ่ด้วย

พี่สะใภ้ใหญ่เดินกับพี่ใหญ่เหมือนคนสองรุ่นเดินด้วยกัน

ถึงแม้อายุจริงของทั้งสองคนจะต่างกันไม่กี่ปี แต่พี่สะใภ้ใหญ่ฝึกยุทธมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายดีกว่าคนตระกูลเซี่ยที่เป็นสายการศึกษามากทีเดียว

แต่อิจฉาก็ส่วนอิจฉา เธอกลับไม่ริษยาเลยสักนิด เพราะเธอทนการฝึกทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อนขนาดนั้นไม่ไหว

นับตั้งแต่แต่งเข้าตระกูลเซี่ยเธอก็ไม่เคยเห็นพี่สะใภ้ใหญ่หยุดฝึกยุทธเลยสักวัน

โชคดีที่พวกเด็กๆ ฝึกตามตั้งแต่ยังเล็ก

สุขภาพคนรุ่นต่อไปของตระกูลเซี่ยจึงเปลี่ยนไปนับแต่นี้ นักวิชาการไม่เท่ากับอ่อนแออีกแล้ว

งานเลี้ยงฉลองครบเดือนเป็นไปอย่างครึกครื้น อันที่จริงก็แค่ญาติสนิทมากินข้าวกัน ไม่ได้มีการเชิญแขกใหญ่โตมาร่วมงาน

หลังจากแยกย้าย คุณนายใหญ่เซี่ยก็หาโอกาสดึงตัวน้องชายใหญ่ไปข้างนอก

ตี้อู่เหลียนจิงถามด้วยความแปลกใจ “พี่มีอะไรจะพูดกับผมเหรอ แถมยังให้คนในครอบครัวรู้ไม่ได้ด้วย? ลับสุดยอดขนาดนั้นเลย”

“ถ้าให้คนในครอบครัวรู้ พี่กลัวนายจะรับไม่ไหวน่ะสิ!”

ตี้อู่เหลียนจิงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พูดมาได้เลยครับ”

“อาจิง ที่ทำงานพี่มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยววัยสี่สิบคนนึง…”

“พี่ครับ ผมไม่…”

คุณนายใหญ่เซี่ยถลึงตาใส่ “ไม่เม่ยอะไร! เมื่อก่อนหลันฉือยังเด็ก นายบอกว่ากลัวลูกน้อยใจ ตอนนี้ลูกนายโตแล้ว และก็เห็นด้วยเรื่องให้นายหาคู่…ตอนนี้นายยังไม่ถึงห้าสิบ อย่างน้อยก็อยู่ไปได้อีกห้าสิบปี เสี่ยวฉืออีกไม่กี่ปีก็แต่งงานแล้ว นายไม่หาคู่สักคนพอถึงตอนนั้นก็ต้องอยู่โดดเดี่ยว แล้วฉัน พ่อแม่ เสี่ยวฉือ จะวางใจได้ยังไง…”

“ผมจะโดดเดี่ยวได้ยังไงครับ ยังมีหลันเซวียนกับพวกลูกๆ ไม่ใช่เหรอ พอผมอายุมากหน่อยก็จะกลับไปอยู่บ้านหลังเก่า”

ตี้อู่หลันเซวียนเป็นว่าที่นายใหญ่ตระกูลตี้อู่คนต่อไป ไม่มีทางไม่สนใจลุงใหญ่อย่างเขา

คุณนายใหญ่เซี่ยพูดด้วยความกลุ้มใจ “อาจิง สักวันหลันเซวียนต้องแต่งงานก็จริง…” บลาๆๆ

ตี้อู่เหลียนจิงแอบปวดหัว “พี่ครับ รอผมแก่จนเดินเหินไม่สะดวกแล้วค่อยหาคนมาปรนนิบัติก็ได้แล้ว ไม่ต้องรบกวนหลันเซวียนดูแลด้วยตัวเองหรอก…”

คุณนายใหญ่เซี่ยดีดหน้าผากตี้อู่เหลียนจิงด้วยความโมโห “ทำไมนายถึงไม่เข้าใจอย่างนี้นะ…”

“ผมเข้าใจครับ พี่ก็แค่เป็นห่วงว่าวันหน้าผมจะไม่มีคนดูแลใช่ไหมล่ะ”

“เข้าใจกับผีสิ!”

ตี้อู่เหลียนจิง “…”

พี่สาวของเขาทำไมยิ่งแก่ก็ยิ่งหัวร้อนนะ แม้แต่คำหยาบก็พูดออกมา!

พี่เขยก็ไม่รู้จักคุมบ้างเลย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด